กระทู้นี้เราก็จะมาบอกเล่า นิมิต ที่เราให้ในความฝันเราเหมือนกระทู้ ภาค 8 แต่จะเป็นความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นอีก บุคคลที่เราจะบอกเล่าถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเราในอดีต สำหรับในกระทู้นี้คือ ญาติพี่น้อง คนในครอบครัวของเราเอง
ญาติเราคนนั้นคือ ป้าและพี่สาวเรา ที่เราเคยบอกเล่าในกระทู้ก่อนหน้านี้และในกระทู้ ข้อคิดหลักธรรมของเราไปแล้ว เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับบุคคลดังกล่าว ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
บุคคลทั้งคู่เป็นทั้งผู้มีพระคุณของเรา เพราะพวกเขาให้ความช่วยเหลือเราในเรื่องการงาน แต่พวกเขาก็ใช้การติดหนี้บุญคุณนั้นของเรา เอารัดเอาเปรียบ เบียดบัง เบียดเบียน เราและครอบครัวเราในเรื่องเงินทอง อย่างไม่มีความละอายในการกระทำของตน
แม้แต่เงินที่เราส่งไปให้ย่าเราที่เป็นแม่แท้ๆของป้าเราผ่านทางพวกเขา ก็ไม่เว้นที่จะเบียดบังเพื่อที่จะเอามาใช้เอง เอาไปให้คนอื่นหยิบยืม ไม่ยอมเอาเงินเราตรงนั้นไปให้ย่า เพราะความที่เราไว้ใจ รักและเคารพพวกเขาเหมือนแม่เราแท้ๆเหมือนพี่สาวแท้ๆ เพราะพวกเราโตมาด้วยกัน
ทำให้เราไม่รู้ว่าพวกเขาทำเช่นนั้นมานานเท่าไหร่แล้ว และเราก็ไม่เคยถามย่าเราเลยเรื่องเงินที่เราส่งให้ท่าน ว่าท่านได้รับหรือไม่ จนกระทั่งเราเปลี่ยนวิธีส่งเงิน เราจึงได้รู้ว่า พวกเขาไม่ได้ถอนเงินไปให้ย่า เราจึงเริ่มถามย่า และได้รู้ความจริง
หลังจากนั้นเราก็พยายามป้องกันไม่ให้พวกเขาได้มีโอกาสมาทำเช่นนั้นกับเรา กับครอบครัวเราอีก แต่มันก็ไม่เคยเป็นผล พวกเขายังหาช่องทาง หาสารพัดวิธีที่จะเบียดบัง เบียดเบียนเรื่องเงินทองจากเราและครอบครัวเราได้อยู่ตลอด ไม่ว่าเราจะพยายามป้องกันอย่างดีขนาดไหนแล้วก็ตาม
เราจึงคิดว่า ในอดีตเราคงไปเอาของเขามามาก มาปัจจุบันนี้เขาจึงมาทวงคืน พวกเขายังคงสร้างความเดือดร้อน ว่าร้ายใส่ความเราสารพัด ให้ญาติๆคนอื่นๆเกลียดชังเรา แต่เราไม่สนใจ และไม่เคยไปแก้ตัวให้ใครฟัง
หลังจากนั้นเราก็คิดหาวิธีที่จะให้พวกเขาหยุดทำเช่นนั้นกับเรา ในเมื่อพวกเขาโกรธ เกลียด เราแต่เพราะเราไม่รู้ว่าในอดีตเราไปทำอะไรให้เขา แต่เราพอจะรู้สึกได้ว่า สิ่งที่เราทำในอดีตน่าจะหนักหนาพอควร พวกเขาจึงไม่ยอมลด ละ แม้ว่าเราจะนิ่งเฉย ไม่เคยโต้ตอบเลยก็ตาม
ในเมื่อเราคิดว่า เราเคยทำผิดกับพวกเขา เราก็แค่ยอมรับผิด และกล่าวขอโทษ เราจึงลงทุนไปซื้อดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับขอขมา และไปกราบขอขมา ขออโหสิกรรมจากพวกเขา และขอให้พวกเขาอโหสิกรรมให้เรา
หลังจากนั้นมาความสัมพันธ์ของเรากับพวกเขาก็ดีขึ้นทันตาเห็น เรื่องอะไรที่พวกเขาเคยกล่าวใส่ร้ายเรา ก็มีญาติๆมาถามความจริงกับเราถึงสาเหตุและที่มาที่ไปมากขึ้น เราก็เล่าไปตามความจริง ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง
ญาติๆเราจึงถามเราว่า ตอนที่มีปัญหากันทำไมเราไม่พูด ไม่แก้ตัวอะไรสักคำ ทำไมปล่อยให้ฝ่ายป้ากับพี่สาวเราว่าร้ายเราอย่างเดียว เราก็บอกว่า ตอนนั้นไม่มีใครถามอะไรเราเลย มีแต่ด่าเรา โกรธเรากันทั้งนั้น และเราก็รู้ตัวเองว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้คิดเหมือนที่ป้ากับพี่สาวเรามาพูด เราจึงไม่มีอะไรแก้ตัว
เราเลือกที่จะนิ่งเฉย เพราะเราไม่อยากทำกรรมเพิ่ม ชดใช้ให้เขาให้หมด แล้วให้มันจบที่เรา จะได้ไม่ต้องเกิดมาพบ มาเจอกันอีก แต่ถามว่าการที่พวกเขาทำแบบนั้นกับเรา เราโกรธไหม? เราก็โกรธ เกลียดไหม? เราก็เกลียด แต่เราข่มได้ เราฝืนได้
หลังจากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ พวกเขาก็ยังคงพยายามทำเช่นนั้นอยู่เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนคือ เราไม่ได้เป็นทุกข์จากการกระทำของพวกเขาอีกแล้ว เพราะเรายอมรับความจริงได้
และวันนึงเราก็ได้รู้การกระทำของตัวเองในอดีตจาก นิมิต ที่เราเห็นในความฝันที่เราคิดว่ามันเป็นที่มาที่ไป ให้พวกเขามาทำเช่นนั้นกับเรา คืนนึง เราฝันไปว่าเราไปทำบัญชีฉ้อโกงเงินเขามา แล้วเขาจับได้ เขาตามฆ่าเรา ส่งคนมาเยอะแยะมากมาย เราก็หนีหัวซุกหัวซุนเหมือนในหนังไม่มีผิด
แต่ไม่ว่าจะหนีไปที่ไหน พวกเขาก็ตามเจอตลอด ไล่ฆ่าฟันทำร้ายเรา แต่เราก็สู้กลับ ฆ่าเรียบไม่เหลือ โหดสุดๆ หนีขึ้นรถ หนีขึ้นเขา หนีลงน้ำ จนสุดท้ายต้องดำน้ำหนีเกือบจะรอดแล้ว
แต่เราได้ยินเสียงแม่ เรียกเราบอกให้เรากลับขึ้นไปเพราะปลอดภัยแล้ว เราจึงโผล่ออกไปแล้วเราก็ถูกจับได้ แล้วก็ตื่นขึ้นมา
คนสุดท้ายที่เราฆ่า เราจำได้ติดตา เราใช้กรรไกรคีบหมาก ที่คนแก่ๆชอบใช้กัน ตีหัวเขา ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า หัวบุบ หัวยุบ หัวเบี้ยว ไม่มีที่ดีเลย แล้วเขาก็จ้องเราตาเขม็งก่อนจะตายไป
และคนที่ช่วยเหลือเราตลอด พาเราหนีและหนีไปกับเราในฝัน เขาน่าจะเป็นคู่เราในอดีต และเป็นย่าเราในปัจจุบันค่ะ แม่เราที่เรียกเราในฝัน ก็เป็นแม่เราในปัจจุบันค่ะ แม่กับเราในปัจจุบันจะไม่ถูกกันเลย ไม่ว่าเราจะทำดี จะช่วยเหลือแกมากมายยังไง และตอนเป็นเด็กเราก็โกรธเกลียดแกมาก เพราะญาติๆที่ไม่ชอบเราจะมาคอยเป่าหูเรา สอนให้เราเกลียดแม่ตัวเองเพราะแกทิ้งเราไปให้อยู่กับย่า
กว่าเราจะปรับทัศนคติเรื่องแม่ได้ เราก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชีวิตตอนนี้ ขนาดได้ไปปฎิบัติธรรมแล้ว เราก็ยังมีความโกรธความเกลียดแกอยู่ เล่นเอาเราโดนนรกกินหัวไปเกือบครึ่งชีวิต เรายังไม่รู้เลยว่าถ้าเราไม่ได้ไปปฎิบัติธรรมได้ไปกรรมฐาน ชีวิตเราตอนนี้จะเป็นยังไง
แต่ก็เหมือนเรายังมีบุญอยู่บ้าง ที่ทำให้เราระลึกได้ ปรับได้ เปลี่ยนได้ และสามารถยอมรับความจริงในเรื่องนี้ได้ นิมิต ในฝันคราวนี้ที่เราเห็น มันแสดงให้เราเห็นว่าทำไม เรากับแม่เราถึงได้ไม่ถูกกันเลยในปัจจุบัน
ถ้าเราคิดว่า นิมิต ที่เราเห็นในฝันเป็นเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเราก็มีความคิดเห็นเช่นเดิม คือ มันสมเหตุสมผล และสมควรแล้วที่เราต้องมาเจอความสัมพันธ์เช่นนี้กับบุคคลดังกล่าวในปัจจุบัน ทั้งป้าและพี่สาวเรา ย่าเรา และแม่เราเอง
เห็นนิมิต เห็นอดีต เห็นอนาคต เห็นกฎแห่งกรรม ภาค 9
ญาติเราคนนั้นคือ ป้าและพี่สาวเรา ที่เราเคยบอกเล่าในกระทู้ก่อนหน้านี้และในกระทู้ ข้อคิดหลักธรรมของเราไปแล้ว เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับบุคคลดังกล่าว ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
บุคคลทั้งคู่เป็นทั้งผู้มีพระคุณของเรา เพราะพวกเขาให้ความช่วยเหลือเราในเรื่องการงาน แต่พวกเขาก็ใช้การติดหนี้บุญคุณนั้นของเรา เอารัดเอาเปรียบ เบียดบัง เบียดเบียน เราและครอบครัวเราในเรื่องเงินทอง อย่างไม่มีความละอายในการกระทำของตน
แม้แต่เงินที่เราส่งไปให้ย่าเราที่เป็นแม่แท้ๆของป้าเราผ่านทางพวกเขา ก็ไม่เว้นที่จะเบียดบังเพื่อที่จะเอามาใช้เอง เอาไปให้คนอื่นหยิบยืม ไม่ยอมเอาเงินเราตรงนั้นไปให้ย่า เพราะความที่เราไว้ใจ รักและเคารพพวกเขาเหมือนแม่เราแท้ๆเหมือนพี่สาวแท้ๆ เพราะพวกเราโตมาด้วยกัน
ทำให้เราไม่รู้ว่าพวกเขาทำเช่นนั้นมานานเท่าไหร่แล้ว และเราก็ไม่เคยถามย่าเราเลยเรื่องเงินที่เราส่งให้ท่าน ว่าท่านได้รับหรือไม่ จนกระทั่งเราเปลี่ยนวิธีส่งเงิน เราจึงได้รู้ว่า พวกเขาไม่ได้ถอนเงินไปให้ย่า เราจึงเริ่มถามย่า และได้รู้ความจริง
หลังจากนั้นเราก็พยายามป้องกันไม่ให้พวกเขาได้มีโอกาสมาทำเช่นนั้นกับเรา กับครอบครัวเราอีก แต่มันก็ไม่เคยเป็นผล พวกเขายังหาช่องทาง หาสารพัดวิธีที่จะเบียดบัง เบียดเบียนเรื่องเงินทองจากเราและครอบครัวเราได้อยู่ตลอด ไม่ว่าเราจะพยายามป้องกันอย่างดีขนาดไหนแล้วก็ตาม
เราจึงคิดว่า ในอดีตเราคงไปเอาของเขามามาก มาปัจจุบันนี้เขาจึงมาทวงคืน พวกเขายังคงสร้างความเดือดร้อน ว่าร้ายใส่ความเราสารพัด ให้ญาติๆคนอื่นๆเกลียดชังเรา แต่เราไม่สนใจ และไม่เคยไปแก้ตัวให้ใครฟัง
หลังจากนั้นเราก็คิดหาวิธีที่จะให้พวกเขาหยุดทำเช่นนั้นกับเรา ในเมื่อพวกเขาโกรธ เกลียด เราแต่เพราะเราไม่รู้ว่าในอดีตเราไปทำอะไรให้เขา แต่เราพอจะรู้สึกได้ว่า สิ่งที่เราทำในอดีตน่าจะหนักหนาพอควร พวกเขาจึงไม่ยอมลด ละ แม้ว่าเราจะนิ่งเฉย ไม่เคยโต้ตอบเลยก็ตาม
ในเมื่อเราคิดว่า เราเคยทำผิดกับพวกเขา เราก็แค่ยอมรับผิด และกล่าวขอโทษ เราจึงลงทุนไปซื้อดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับขอขมา และไปกราบขอขมา ขออโหสิกรรมจากพวกเขา และขอให้พวกเขาอโหสิกรรมให้เรา
หลังจากนั้นมาความสัมพันธ์ของเรากับพวกเขาก็ดีขึ้นทันตาเห็น เรื่องอะไรที่พวกเขาเคยกล่าวใส่ร้ายเรา ก็มีญาติๆมาถามความจริงกับเราถึงสาเหตุและที่มาที่ไปมากขึ้น เราก็เล่าไปตามความจริง ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง
ญาติๆเราจึงถามเราว่า ตอนที่มีปัญหากันทำไมเราไม่พูด ไม่แก้ตัวอะไรสักคำ ทำไมปล่อยให้ฝ่ายป้ากับพี่สาวเราว่าร้ายเราอย่างเดียว เราก็บอกว่า ตอนนั้นไม่มีใครถามอะไรเราเลย มีแต่ด่าเรา โกรธเรากันทั้งนั้น และเราก็รู้ตัวเองว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้คิดเหมือนที่ป้ากับพี่สาวเรามาพูด เราจึงไม่มีอะไรแก้ตัว
เราเลือกที่จะนิ่งเฉย เพราะเราไม่อยากทำกรรมเพิ่ม ชดใช้ให้เขาให้หมด แล้วให้มันจบที่เรา จะได้ไม่ต้องเกิดมาพบ มาเจอกันอีก แต่ถามว่าการที่พวกเขาทำแบบนั้นกับเรา เราโกรธไหม? เราก็โกรธ เกลียดไหม? เราก็เกลียด แต่เราข่มได้ เราฝืนได้
หลังจากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ พวกเขาก็ยังคงพยายามทำเช่นนั้นอยู่เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนคือ เราไม่ได้เป็นทุกข์จากการกระทำของพวกเขาอีกแล้ว เพราะเรายอมรับความจริงได้
และวันนึงเราก็ได้รู้การกระทำของตัวเองในอดีตจาก นิมิต ที่เราเห็นในความฝันที่เราคิดว่ามันเป็นที่มาที่ไป ให้พวกเขามาทำเช่นนั้นกับเรา คืนนึง เราฝันไปว่าเราไปทำบัญชีฉ้อโกงเงินเขามา แล้วเขาจับได้ เขาตามฆ่าเรา ส่งคนมาเยอะแยะมากมาย เราก็หนีหัวซุกหัวซุนเหมือนในหนังไม่มีผิด
แต่ไม่ว่าจะหนีไปที่ไหน พวกเขาก็ตามเจอตลอด ไล่ฆ่าฟันทำร้ายเรา แต่เราก็สู้กลับ ฆ่าเรียบไม่เหลือ โหดสุดๆ หนีขึ้นรถ หนีขึ้นเขา หนีลงน้ำ จนสุดท้ายต้องดำน้ำหนีเกือบจะรอดแล้ว
แต่เราได้ยินเสียงแม่ เรียกเราบอกให้เรากลับขึ้นไปเพราะปลอดภัยแล้ว เราจึงโผล่ออกไปแล้วเราก็ถูกจับได้ แล้วก็ตื่นขึ้นมา
คนสุดท้ายที่เราฆ่า เราจำได้ติดตา เราใช้กรรไกรคีบหมาก ที่คนแก่ๆชอบใช้กัน ตีหัวเขา ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า หัวบุบ หัวยุบ หัวเบี้ยว ไม่มีที่ดีเลย แล้วเขาก็จ้องเราตาเขม็งก่อนจะตายไป
และคนที่ช่วยเหลือเราตลอด พาเราหนีและหนีไปกับเราในฝัน เขาน่าจะเป็นคู่เราในอดีต และเป็นย่าเราในปัจจุบันค่ะ แม่เราที่เรียกเราในฝัน ก็เป็นแม่เราในปัจจุบันค่ะ แม่กับเราในปัจจุบันจะไม่ถูกกันเลย ไม่ว่าเราจะทำดี จะช่วยเหลือแกมากมายยังไง และตอนเป็นเด็กเราก็โกรธเกลียดแกมาก เพราะญาติๆที่ไม่ชอบเราจะมาคอยเป่าหูเรา สอนให้เราเกลียดแม่ตัวเองเพราะแกทิ้งเราไปให้อยู่กับย่า
กว่าเราจะปรับทัศนคติเรื่องแม่ได้ เราก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชีวิตตอนนี้ ขนาดได้ไปปฎิบัติธรรมแล้ว เราก็ยังมีความโกรธความเกลียดแกอยู่ เล่นเอาเราโดนนรกกินหัวไปเกือบครึ่งชีวิต เรายังไม่รู้เลยว่าถ้าเราไม่ได้ไปปฎิบัติธรรมได้ไปกรรมฐาน ชีวิตเราตอนนี้จะเป็นยังไง
แต่ก็เหมือนเรายังมีบุญอยู่บ้าง ที่ทำให้เราระลึกได้ ปรับได้ เปลี่ยนได้ และสามารถยอมรับความจริงในเรื่องนี้ได้ นิมิต ในฝันคราวนี้ที่เราเห็น มันแสดงให้เราเห็นว่าทำไม เรากับแม่เราถึงได้ไม่ถูกกันเลยในปัจจุบัน
ถ้าเราคิดว่า นิมิต ที่เราเห็นในฝันเป็นเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเราก็มีความคิดเห็นเช่นเดิม คือ มันสมเหตุสมผล และสมควรแล้วที่เราต้องมาเจอความสัมพันธ์เช่นนี้กับบุคคลดังกล่าวในปัจจุบัน ทั้งป้าและพี่สาวเรา ย่าเรา และแม่เราเอง