สวัสดีครับ ผมคือลูกคนกลางของบ้าน ตอนนี้ผมเป็นลูกจ้างตามสัญญาจ้างของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่หนึ่ง ผมต้องการเตรียมตัวสอบงานให้ได้งานประจำ เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายของผมเอง แต่สำคัญกว่านี้คือผมต้องการใช้ชีวิตเป็นอิสระ โดยไม่ต้องให้คนในครอบครัวตั้งแต่ พ่อ แม่ น้องสาว และพี่สาว มารับรู้เวลาว่างของผมให้ปรนนิบัติความต้องการของเขาทั้งชีวิตครับ
- ครอบครัวของผม มีวิธีการเลี้ยงดูที่ให้ท้ายความคิดของน้องสาว (อาศัยใน กทม. รอรักษาอาการ panic และการผ่าตัดอย่างไม่มีกำหนด) ทำให้ปัจจุบันน้องสาวเป็นคนที่ชอบบงการความคิดคนอื่นๆ เช่น ชอบโทรศัพท์หรือโทรไลน์ให้ซื้อของ และให้นอนเป็นเพื่อนทุกวันโดยผมต้องอยู่ในห้องเท่านั้น ผลก็คือ ทำให้ผมไม่ได้รับโอกาสงานจากที่ฝึกงานเลยครับ (เหมือนเสียหมาเลยแหละ)
- อาการป่วยของน้องสาวที่กินเวลาเป็นหลายๆปี (เพราะทราบมาว่ามีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการรักษาหลายครั้ง และมักจะสร้างภาระรักษาตัวเองจนเป็นการรบกวนเวลาชีวิตคนอื่นๆ) ทำให้พ่อและแม่ (ปัจจุบันหย่าร้างแล้ว) ต้องเสียสละตัวเอง ละทิ้งอาชีพค้าขายมาดูแลน้องคนเดียว ซื้อของเข้าห้องทุกเช้าเย็นทุกวัน ส่วนแม่ของผมก็จะเข้ามานอนเป็นกำลังใจ และให้ท้ายความคิดน้องตลอด จนผมไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้เลย
- ส่วนพี่สาวผม ไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ ลอยตัวเพราะทำงานเลิกดึกบ้าง ไปใช้ชีวิตส่วนตัวบ้าง มาดูแลน้องสาวบ้างเป็นบางครั้ง
- ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ผมในฐานะลูกชายและพี่ชาย เป็นห่วงน้องสาวเหมือนกันครับ แต่ที่ผมรับไม่ได้สุดๆ เหมือนมูฟออนเป็นวงกลม คือ การที่ให้ผมมานอนเป็นเพื่อนน้องสาว ในลักษณะการสั่งการของพ่อ และน้องสาว ส่วนผมมักจะได้ยินจากแม่ด้วยว่าให้ไปดูแลน้องบ้าง เมื่อผมปฏิเสธไม่ว่ากับพ่อ กับแม่ กับน้องสาว มักจะใช้การบังคับด้วยการอ้างบุญบาป ความกตัญญู ความใจจืดใจดำไม่รักน้องเลยหรอ เป็นต้น
- เมื่อผมเข้าไปในลูปเดิมๆ หลายๆครั้ง เริ่มรู้สึกว่าถ้าผมเข้าไปดูแลน้องตามกำหนดแผนการของทุกๆคนในครอบครัว ผมคงจะแย่มากๆถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตส่วนตัวเพื่ออนาคตตนเอง อีกอย่างคนในครอบครัวไม่มีใครจะฟังสิ่งที่ผมพูดเลยสักนิด มองผมเป็นคนคอยรับใช้ความคิดของเขาครับ
- ปัจจุบัน ผมมีแผนการที่จะใช้เวลาของผมเพื่อการพัฒนาตัวเอง หางานประจำ หาที่พักใหม่ของตัวเอง (ปัจจุบันเป็นที่อยู่ที่พี่สาวจัดให้) และเพื่อให้ตัวผมเองภาคภูมิใจที่ไม่ถูกมองว่าเป็นภาระของครอบครัว อีกอย่างอายุ 30 ปีกว่าๆ แล้ว ถ้าไม่มีเวลาส่วนตัวของตัวเองในการทำอะไรเลย แล้วคอยรับใช้ความคิดคนอื่นทั้งชีวิต สุดท้ายผมคงเหมือนตายทั้งเป็นจริงๆครับ
อยากมูฟออนออกจากวงกลมที่ครอบครัววางไว้ เพราะผมต้องการใช้ชีวิตที่ดูแลตัวเองได้ และตอนนี้ผมมีความรักที่คบกันมานานเป็นปีแล้วด้วย ก็อยากมีความมั่นใจให้ทั้งสองฝ่ายด้วยครับ อยากทราบคำแนะนำที่จะทำให้ผมมีชีวิตชีวามาขึ้นจากทุกๆคนครับ ขอบคุณครับ
ขอทราบวิธีทำให้ผมอายุ 30 ขึ้นเป็นอิสระจากครอบครัว และมีความสุขกับชีวิตที่เลือกเองได้โดยไม่พึ่งพาคนในครอบครัวอีก
- ครอบครัวของผม มีวิธีการเลี้ยงดูที่ให้ท้ายความคิดของน้องสาว (อาศัยใน กทม. รอรักษาอาการ panic และการผ่าตัดอย่างไม่มีกำหนด) ทำให้ปัจจุบันน้องสาวเป็นคนที่ชอบบงการความคิดคนอื่นๆ เช่น ชอบโทรศัพท์หรือโทรไลน์ให้ซื้อของ และให้นอนเป็นเพื่อนทุกวันโดยผมต้องอยู่ในห้องเท่านั้น ผลก็คือ ทำให้ผมไม่ได้รับโอกาสงานจากที่ฝึกงานเลยครับ (เหมือนเสียหมาเลยแหละ)
- อาการป่วยของน้องสาวที่กินเวลาเป็นหลายๆปี (เพราะทราบมาว่ามีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการรักษาหลายครั้ง และมักจะสร้างภาระรักษาตัวเองจนเป็นการรบกวนเวลาชีวิตคนอื่นๆ) ทำให้พ่อและแม่ (ปัจจุบันหย่าร้างแล้ว) ต้องเสียสละตัวเอง ละทิ้งอาชีพค้าขายมาดูแลน้องคนเดียว ซื้อของเข้าห้องทุกเช้าเย็นทุกวัน ส่วนแม่ของผมก็จะเข้ามานอนเป็นกำลังใจ และให้ท้ายความคิดน้องตลอด จนผมไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้เลย
- ส่วนพี่สาวผม ไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ ลอยตัวเพราะทำงานเลิกดึกบ้าง ไปใช้ชีวิตส่วนตัวบ้าง มาดูแลน้องสาวบ้างเป็นบางครั้ง
- ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ผมในฐานะลูกชายและพี่ชาย เป็นห่วงน้องสาวเหมือนกันครับ แต่ที่ผมรับไม่ได้สุดๆ เหมือนมูฟออนเป็นวงกลม คือ การที่ให้ผมมานอนเป็นเพื่อนน้องสาว ในลักษณะการสั่งการของพ่อ และน้องสาว ส่วนผมมักจะได้ยินจากแม่ด้วยว่าให้ไปดูแลน้องบ้าง เมื่อผมปฏิเสธไม่ว่ากับพ่อ กับแม่ กับน้องสาว มักจะใช้การบังคับด้วยการอ้างบุญบาป ความกตัญญู ความใจจืดใจดำไม่รักน้องเลยหรอ เป็นต้น
- เมื่อผมเข้าไปในลูปเดิมๆ หลายๆครั้ง เริ่มรู้สึกว่าถ้าผมเข้าไปดูแลน้องตามกำหนดแผนการของทุกๆคนในครอบครัว ผมคงจะแย่มากๆถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตส่วนตัวเพื่ออนาคตตนเอง อีกอย่างคนในครอบครัวไม่มีใครจะฟังสิ่งที่ผมพูดเลยสักนิด มองผมเป็นคนคอยรับใช้ความคิดของเขาครับ
- ปัจจุบัน ผมมีแผนการที่จะใช้เวลาของผมเพื่อการพัฒนาตัวเอง หางานประจำ หาที่พักใหม่ของตัวเอง (ปัจจุบันเป็นที่อยู่ที่พี่สาวจัดให้) และเพื่อให้ตัวผมเองภาคภูมิใจที่ไม่ถูกมองว่าเป็นภาระของครอบครัว อีกอย่างอายุ 30 ปีกว่าๆ แล้ว ถ้าไม่มีเวลาส่วนตัวของตัวเองในการทำอะไรเลย แล้วคอยรับใช้ความคิดคนอื่นทั้งชีวิต สุดท้ายผมคงเหมือนตายทั้งเป็นจริงๆครับ
อยากมูฟออนออกจากวงกลมที่ครอบครัววางไว้ เพราะผมต้องการใช้ชีวิตที่ดูแลตัวเองได้ และตอนนี้ผมมีความรักที่คบกันมานานเป็นปีแล้วด้วย ก็อยากมีความมั่นใจให้ทั้งสองฝ่ายด้วยครับ อยากทราบคำแนะนำที่จะทำให้ผมมีชีวิตชีวามาขึ้นจากทุกๆคนครับ ขอบคุณครับ