11 โมง ตร.สั่งสื่อถอยจากแนวกั้น ม็อบยัน รอตัวแทนสถานทูต ชาวบ้านเป็นลม จนท.รับตัวปฐมพยาบาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_3681237
 
 
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า กลุ่มราษฎรและเครือข่าย ในนาม ราษฎรหยุด APEC 2022
 
เวลาราว 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้เวลายุติการชุมนุม ภายในเวลา 11.00 น.
 
บรรยากาศเวลา 10.50 น. นายจำนงค์ กล่าวว่า เราจะเอารถแอบด้านซ้าย และตั้งเวทีรอสถานทูตที่จะมาร่วมสังเกตการณ์ เมื่อเขาไม่ต้องการให้เห็นภาพประชาชนมาเรีย
 
“ขอให้สื่อมวลชนประสานสถานทูตที่มาประชุมที่ประเทศไทยได้เห็นว่านี่คือการประชุมระดับโลกแต่ด้วยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่สามารถใช้สิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยในการแสดงออกของพี่น้องประชาชน เราก็จะเชิญตัวแทนสถานทูตมาพบปะกับพี่น้องที่นี่และรอว่าเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติการอย่างไรต่อไปกับพี่น้องเราจะปักหลักที่นี่” นายจำนงค์กล่าว
 
ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ชาวบ้านที่มาชุมนุมเกิดเป็นลม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประกาศให้เจ้าหน้าที่เข้าไปรับในพื้นที่ฝั่งผู้ชุมนุมโดยจะนำส่งไปปฐมพยาบาลต่อไป
 
เวลา 11.00 น. ตำรวจประกาศให้สื่อมวลชนออกจากแนวกั้น
 
เวลา 11.17 น. ผู้ชุมนุม 2 รายแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยการแขวนคอกับโครงไม้ที่ทำขึ้น พร้อมถือป้าย Blood sugar และ อุตสาหกรรมเป็นพิษ
 
เวลา 11.23 น. สื่อต่างชาติเข้าถ่ายภาพการชุมนุมและแนวกั้นของตำรวจ
 

---

เจรจาไร้ผล! ม็อบเจอ "คฝ." รุกไล่ "แกนนำ" โวยใช้กระสุนยาง-แก๊สน้ำตากับ ปชช.จี้หยุดจับกุม
https://siamrath.co.th/n/400474
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น ในการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรหยุดเอเปค  2022 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) บริเวณถนนดินสอ ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังจากการเจรจาขอเปิดพื้นที่เพื่อเคลื่อนขบวนไปยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไม่เป็นผล
  
ทางกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามนำเชือกสลิงไปคล้องกับรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วดึงออกจากพื้นที่เพื่อเปิดทาง แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอม พร้อมประกาศว่า พื้นที่ถนนราชดำเนิน เป็นพื้นที่ควบคุมในช่วงการประชุมเอเปค หากใครฝ่าฝืนจะมีการจับกุม พร้อมกับมีการจับกุมผู้ชุมนุมบางส่วนที่ฝ่าฝืนด้วย จนเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นช่วงหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้รุกผลักดันกลับมาจนมีการปะทะกัน จนชุลมุนอยู่ประมาณ 10 นาที เหตุการณ์ถึงคลี่คลายลง
  
ขณะที่ทางแกนนำ อย่าง น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ ได้ขึ้นประกาศบนรถขยายเสียง ขอให้เจ้าหน้าที่หยุดจับกุมผู้ชุมนุมที่มีเพียงมือเปล่า และขอให้เปิดทางเพื่อเคลื่อนขบวนไปยังจุดหมาย ขณะเดียวกันยังได้ชูชิ้นส่วนของกระสุนยาง และแก๊สน้ำตา โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่มีการใช้แก๊สน้ำตา กับกระสุนยางกับผู้ชุมนุมที่มาชุมนุมด้วยเจตนาบริสุทธิ์
  
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ได้กระจายเข้าตรึงกำลังบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอย่างแน่นหนา พร้อมประกาศยืนยันว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ควบคุม หากฝ่าฝืนเข้ามาจะถือว่าผิดกฎหมาย จะต้องทำการจับกุม ทำให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องปักหลักอยู่บนบริเวณถนนดินสอ

---

 
‘ตรีชฎา’ เย้ย ‘ทิพานัน’ รับความจริงให้ได้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เพิ่งเข้าวงการการเมือง ยังชนะใจกว่า ‘ประยุทธ์’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3681182
 
‘ตรีชฎา’ เย้ย ‘ทิพานัน’ รับความจริงให้ได้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เพิ่งเข้าวงการการเมือง ยังชนะใจกว่า ‘ประยุทธ์’ สอน ทำตัวมีประโยชน์บ้าง
 
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พรรค พท.หวั่นไหว และหวาดกลัวกับความสำเร็จของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการจัดการประชุมเอเปค ว่า อยากให้ น.ส.ทิพานัน นำพาตัวเองออกมาจากฝันและรับความจริงให้ได้ว่า หลังเป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นเป็นอย่างไร
 
จากผลโพลหลายสำนักพบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แม้เพิ่งเข้าสู่การเมืองไม่นาน ยังเอาชนะใจประชาชนได้ทุกภูมิภาคของประเทศ คะแนนความเป็นผู้นำแซง พล.อ.ประยุทธ์ แบบไม่เห็นฝุ่น เพราะพี่น้องประชาชนสิ้นหวังแล้ว อยากได้ผู้นำคนใหม่ที่นำพาความหวังมาสู่ประเทศไทย อยากหลุดพ้นจากวงจรแห่งความตกต่ำนี้เต็มที่แล้ว
 
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า ส่วนที่ น.ส.ทิพานัน ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มาจากเผด็จการ แต่มาจากการเลือกตั้งที่มีกติกาเดียวกันกับพรรค พท.ในการเลือกตั้งปี 2562 นั้น ในคราวนั้น น.ส.ทิพานัน ลงสมัคร ส.ส.แต่สุดท้ายประชาชนไม่ได้เลือกเข้ามา คงยังไม่เข้าใจว่าการมีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างสง่างามเป็นอย่างไร และอาจจะยังไม่รู้ชัดแจ้งว่าแท้จริงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ทำการยึดอำนาจมาจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี 2557
 
ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาจากการเลือกของพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร การเข้ามาเป็นผู้นำประเทศจากเสียงบริสุทธิ์ของประชาชน กับผู้นำซึ่งมีที่มาจากปลายกระบอกปืน แบบไหนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสง่างามมากกว่ากัน
 
“นอกจากนี้ ในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นรัฐบาล แต่ภายใต้กติกาที่บิดเบี้ยวนั้น กลับให้อำนาจ ส.ว.ที่มาจากการสรรหาโดยหัวหน้าคณะรัฐประหาร สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ แม้แต่สมาชิกของพรรคพลังประชารัฐที่น.ส.ทิพานันสังกัดอยู่ยังออกมายอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับดีไซน์มาเพื่อพวกเรา การเข้าสู่อำนาจจากกติกาที่ไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องที่ไร้ศักดิ์ศรี น่าละอายและขายหน้าไปทั่วโลกใช่หรือไม่” น.ส.ตรีชฎา กล่าว

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า สิ่งที่ น.ส.ทิพานัน ระบุว่าพรรค พท.ยังคงภาคภูมิใจกับเศษซากปรักหักพังของประเทศที่ต้องสูญเสียไปกับการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายนั้น สงสัยว่าตอนนี้ น.ส.ทิพานัน ยังรู้สึกสมประดีอยู่หรือไม่ ว่าใครที่สร้างเศษซากปรักหักพังกันแน่ ตอนนี้หนี้สาธารณะพุ่งชนเพดานที่ 10 ล้านล้านบาท คนจนพุ่งทะลุ 20 ล้านคนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ความเหลื่อมในไทยสูงสุด ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นปี 2564 ของไทยแย่ที่สุดนับตั้งแต่จัดอันดับมา
 
หนี้ครัวเรือนพุ่งทะลุเกือบชนเพดาน เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษา คนตกงานมากที่สุด ทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างของซากปรักหักพังของแท้ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งไว้ให้ประชาชนต้องจดจำ ส่วนผลงานที่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศจดจำนายทักษิณ มีทั้งนโยบายพักหนี้เกษตรกร โอทอป กองทุนหมู่บ้าน การดำเนินการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ บทบาทของผู้นำที่ทั่วโลกยกย่องยอมรับและโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคที่รัฐบาล นายทักษิณเป็นผู้ริเริ่มจนทั่วโลกชื่นชม แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังนำไปกล่าวโชว์ว่าเป็นผลงานในเวทียูเอ็น
 
“เคยเตือน น.ส.ทิพานัน หลายครั้งว่า การทำงานทุกวันนี้กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ก็ควรคิดละอายเสียบ้างว่า จะทำงานให้ประชาชนหรือเป็นโฆษกส่วนตัวให้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งไม่รู้ว่า น.ส.ทิพานัน จะมีอนาคตทางการเมืองอย่างไร จะยังอยู่พรรคพลังประชารัฐ หรือรวมไทยสร้างชาติ แต่วันนี้นอกจากจะออกข่าวตามโพยแบบเด็กจำไม มีชุดความคิดแบบเดิมๆ