Autumn in Korea 2022
หลังจากห่างหายจากการรีวิวท่องเที่ยวมานานตั้งแต่โควิด ทริปนี้เป็นทริปแรกของเราสองคนที่ได้ออกสู่โลกกว้างอีกครั้ง
หลังจากรอเวลามานานเกือบ 3 ปี
>> เราขออธิบายรายละเอียดต่างๆ ความรู้เล็กๆน้อยๆก่อนจะไปถึงสถานที่ และแพลนเที่ยวเนอะ เผื่อเป็นความรู้สำหรับเพื่อนๆมือใหม่ ที่จะไปเกาหลี
------------------------------------------------------
>> ประเทศเกาหลีมีด้วยกัน 4 ฤดู เผื่อใครแพลนเที่ยวจะได้รู้ฤดูต่างๆ ของเกาหลีไว้ก่อน
ฤดูใบไม้ผลิ มีนา - พฤษภา
ฤดูร้อน มิถุนา - ต้นกันยา
ฤดูใบไม้ร่วง กันยา - พฤศจิกา
ฤดูหนาว ธันวา - ประมาณมีนา
-------------------------------------------------------
>> เวลาเกาหลี เร็วกว่าไทย 2 ชม. นั่งเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 5 ชม. กว่าก็จะถึงเกาหลี
>> ไฟฟ้าที่เกาหลี 220 โวลท์เหมือนกับประเทศไทย ปลั๊กไฟจะเป็นแบบปลั๊กกลม 2 ขา หรือ 3 ขา
-------------------------------------------------------
>> การเดินทางเกาหลี
รถไฟ / รถเมล์ / รถแท๊กซี่
------------------------------------------------------
>> การเดินทางจากสนามบินอินชอนเข้าเมืองยังไง
1. ใช้บริการรถไฟด่วนของสนามบิน(Airport Railroad Express หรือเรียกสั้นๆว่า AREX) แบบ non-stop
** ของเราเลือกวิธีนี้ ค่ารถไฟเข้าเมือง 9,500 วอน
2. ใช้บริการรถไฟแบบที่จอดทุกสถานีรถไฟใต้ดินที่ผ่าน(All-Stop)
3. รถลีมูซีนบัสเข้าเมืองโซล
4. แท๊กซี่
------------------------------------------------------
>> บัตร T-Money
T-Money คล้ายๆ บัตรของสิงค์โปร์ ฮองกง ไต้หวัน ที่สามารถใช้ได้ตามร้านสะดวกซื้อด้วย
ซึ่งของเราซื้อที่ตู้กดที่สนามบิน + เติมเงินที่นั่นเลย ค่าบัตร จะตกใบละ 5,000
>> แอพติดมือถือไว้ไม่เสียหาย
KakaoMetro เราเอาไว้ดูเวลาการเดินทาง เผื่อคำนวนแพลนเที่ยวต่างๆ และมันจะบอกค่อนข้างละเอียดว่าไปเปลี่ยนสายไหนยังไงบ้าง และบอกราคาให้ด้วยว่าเสียเท่าไร ส่วนใหญ่ราคาค่ารถไฟที่นี่ จะอยู่ที่ 1250 วอนต่อรอบ
Naver Map ที่เกาหลีเค้าจะใช้ google map ไม่ค่อยได้ เลยต้องใช้ Naver Map แทน
(ส่วนตัวยังเป็นคนโบราณนิดนึงยังแอบใช้ google map อยู่บ่อยครั้ง 555)
>> เตรียมเงินยังไงเท่าไรดี
อันนี้แล้วแต่คนเลยค่ะ ส่วนตัวเราเอง จะกำหนดค่าใช้จ่ายไว้คร่าวๆ เช่น ค่ากินในแต่ละวัน + ค่ารถต่างๆ
ส่วนตัวเราไปกันสองคน แลกไป คนละ 20000 บาทไทย เนื่องจากกลัวว่า ตม จะขอดูเงินน่ะ แต่ไปถึงจริงๆ ก็ใช้บัตรเครดิตรูด หรือไม่ก็ T-Money ซะหมด เพราะที่นั่นเค้ารับบัตรเครดิตเกือบทุกที่ จะมีใช้เงินสด ซื้อพวกของกินข้างทางต่างๆ ซะมากกว่า
------------------------------------------------------
>> ก่อนมาเกาหลี ต้องกรอกเอกสารอะไรบ้าง
1. ลงทะเบียน K-ETA แนะนำให้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้านานๆ เลย เพราะบางคนได้ช้าได้เร็วต่างกัน (หลังจากผ่านแล้ว K-ETA มีอายุ 2ปี นับจากผ่าน)
มีคนถามมาว่าถ้าลงแล้วไม่ผ่านล่ะทำไงได้บ้าง ลงใหม่ได้อีก 3 ครั้ง และถ้าไม่ผ่านต้องเว้น 6 เดือน แต่สามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวได้ที่สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย (เฉพาะคนที่ลงไม่ผ่านเท่านั้น) ลงผ่านเว็บด้านล่างนี้
------------------------------------------------------
2. ลงทะเบียน Q-Code ที่ เว็บไซต์ Q-CODE ลงทะเบียนก่อนบิน
(เมื่อลงเรียบร้อยแล้ว Save เก็บไว้ในมือถือ เพราะต้องใช้ตอนเข้า เกาหลี จะมีป้ายใหญ่ๆ เขียนชัดเจนให้ไปที่ช่อง Q-Code
ไม่ต้องเสียเวลามานั่งกรอกข้อมูลที่นั่น เพราะคนที่ไม่ได้กรอกไป คิวจะยาวมาก)
------------------------------------------------------
3. นอกนั่น ก็เป็นเอกสารพื้นฐานอื่นๆ ที่เราต้องเตรียม อาทิ
- เอกสาร K-ETA
- แพลนเที่ยว (ต.ย.ของเรา ก็แพลนไปคร่าวๆ เผื่อเค้าเรียกดู) แต่แพลนนี่ก็ไม่ตรงกับที่ไปทั้งหมดนะคะ ไปดูหน้างานอีกทีว่าจะไปที่ไหนบ้าง
- ใบจองที่พัก
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามีเปลี่ยนชื่อ)
- Passport เล่มเก่า (ในกรณี Passport ขาว) ของเราเนื่องจากไม่ได้เที่ยวนาน Passport เล่มเก่าหมดอายุ ก็เตรียมเล่มเก่าแนบไปด้วย
(ตอนเรายื่นให้ตม เรายื่นเล่มเก่าและเล่มใหม่เลย เค้าก็เปิดดูของเล่มเก่าด้วยแต่ไม่มีคำถามอะไรเลย)
- สำเนา Passport (เผื่อไว้กรณีเกิด Passport หายหรืออะไรก็แล้วแต่)
เอกสารทุกอย่างเรา Save ไว้ในมือถือด้วย รวมถึง Print มาด้วย
------------------------------------------------------
>> คราวนี้มาสรุปค่าใช้จ่ายต่างๆกันก่อน (จะแยกราคาต่อคนให้นะคะ ไม่รวมค่าช๊อปปิ้งต่างๆ)
ค่าลงทะเบียน K-ETA 10,000 วอน = 275 บาท (ประมาณเอานะ)
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 7210 / คน ** เนื่องจากเราแลกไมล์ไป
ค่าที่พัก 7 คืน รวมเป็นเงิน 4,814 / คน (9628.15 บาท)
ค่ากิน + ค่าเดินทางต่างๆ รวมไปถึงค่าเช่าชุดฮันบก 13,702 / คน (992,506วอน *0.0275 = 27,404 บาท)
ค่าประกันการเดินทาง เราเลือกของ MSIG ราคา 645 / คน
ค่าซิมการ์ด 930 / คน
สรุปทริป 8 วัน 7 คืน = 27,576 / คน
>> ในส่วนที่พัก ในเกาหลี เราเลือกพักที่ Hotel Aventree Jongno ดูจากโลเคชั่นมันเดินไม่ไกล จากสถานี แถวนั้นก็โอเคเลยแหละ
ราคาตกต่อคืนค่อนข้างโอเค ก็เลยเลือกที่นั่น
แถวๆ รร ก็มีของกินเล็กน้อย ร้านขายด๊อกบกกี้ ป้าแถว รร. อร่อยมาก ดีมาก ที่สำคัญถูกมากๆด้วย
------------------------------------------------------
ก่อนเดินทาง เราจะทำ Highlight สถานีต่างๆ ที่เราจะไปเที่ยวไว้ รวมถึงเขียนเลข Exit ไว้เลย
จะได้นึกภาพออก ว่าแต่ละที่ๆ เราไป มันห่างจากที่พักเรามากน้อยแค่ไหน
จะได้แพลนเที่ยวในแต่ละวันได้อย่างชัดเจนถูกต้อง
ถ้าเอกสารพร้อม K-ETA ผ่าน ตม ไม่ถามอะไร ก็ไปเที่ยวกันได้เลย
------------------------------------------------------
สถานที่แรกที่แนะนำให้มาเก็บภาพ
ค่าเสียหายชุด เช่าร้านแถวๆ หมู่บ้านบุกชอนฮันอก
ฮันบก ผู้ชาย 45000 วอน และ ชุดของผู้หญิง รวมกระเป๋าทำผม อีก 50000 วอน (4 ชม)
เพราะเราอยากไปถ่าย 2 ที่ จะได้คุ้มค่าเช่าชุดนิดนึง เหอะๆ ไหนๆ ก็เช่ามาแล้ว
หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)
การเดินทาง สถานี Anguk Exit 2
มีคนถามมาเหมือนกันว่า ทำไมไม่มีคน อันนี้คือรอเวลาอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะเราไปถึงที่นี่ ประมาณช่วง 10.00 คนยังไม่เยอะมาก
สามารถรอจังหวะที่คนไม่มีและรีบถ่ายได้จ้า
------------------------------------------------------
พระราชวังเคียงบก (Gyeongbokgung Palace
การเดินทาง สถานี Gyeongbokgung Exit 5
มุมนี้คือมุมที่แพลนไว้ก่อนจะมา ว่าต้องใส่ชุดฮันบก และถ่ายมุมนี้ให้ได้
ชอบภาพนี้มาก ถ่ายเอง ชอบเองรู้สึกคุ้มแหละ ชุดที่เช่ามาถ่าย
ตอนขึ้นรถไฟฟ้า ถามว่าอายไหม อาย แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวได้รูปไม่คุ้มกับที่เช่ามา 4 ชม. 555
เดินไปๆ มาๆ ไปทะลุมาออก
ถนนสายโรแมนติกเลียบกำแพงหิน (Deoksugung-gil / Jeongdong-gil) เลยเก็บภาพมาได้นิดนึง
ถนนที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี สวยมากจริงๆ แนะนำใครมา แวะมาเดินเล่นเพลินๆ
ฝากติดตามรีวิวใน Tiktok กันด้วยนะคะ
[CR] รีวิวเที่ยวเกาหลี Autumn in Korea 2022
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้