
ซินจ่าว 「請早」ทักทายแบบนี้คงเดาไม่ยากว่าเรากำลังเดินทางไปที่ประเทศเวียดนาม เราขึ้นเหนือไปซาปาและฮานอย เพื่อไม่ให้ Blogs ยาวจนเกินไป ขอเล่าแค่การเดินทางในซาปาก่อน ส่วนการเดินทางในฮานอยจะมาเล่าใน Blogs ถัดไปครับ
ซาปาเป็นเมืองขนาดเล็กๆตั้งอยู่ในจังหวัดหล่าวกาย(Lao Cai) ใกล้ชายแดนที่ติดกับประเทศจีน เนื่องด้วยภูมิประเทศที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาทำให้อากาศเย็นสบาย ซาปาจึงกลายเป็นเมืองพักตากอากาศตั้งแต่สมัยอานานิคมของฝรั่งเศสเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เราวางแผนเที่ยวที่ซาปา 2 วัน 1 คืน ซึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ที่เราตั้งตารอมากๆ คือ การเดินชมนาขั้นบันไดและการขึ้นไปพิชิตยอดเขาฟานซิปันด้วย... Cable car 555
Day1
> เดินชมนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านเลาไช (lao Chai) และหมู่บ้านต่าวาน (Tavan)
> เดินชมวิวรอบทะเลสาปซาปา (Sapa Lake)
> ถ่ายรูปกับแลนด์มารค์ของซาปา Sun plaza, โบสถ์หิน (The Ancient Stone Church)
Day2
> เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาฟานซิปัน
> จิบกาแฟและชมวิวที่ Viettrekking Sapa
> ชมวิวมุมสูงของเมืองซาปาที่ภูเขาฮัมรอง (Hamrong mountain)

เมืองซาปายังไม่มีสนามบิน ดังนั้นการเดินทางจากไทยต้องบินไปที่เมืองฮานอยก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อไปยังซาปาซึ่งมีให้เลือกทั้งรถไฟและรถบัสครับ
รถไฟ: ใช้เวลา 7-9 ชม รถไฟจะจอดที่สถานีหล่าวกาย(ห่างจากซาปา 40 กม) ต้องนั่งรถบัสต่ออีก 1 ชม
รถบัสนอน: ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง รถบัสจะไปถึงที่ตัวเมืองซาปาเลย

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
> ตั๋วเครื่องบิน: ขาไปเลือกไฟลทเย็น ถึงแล้วไปซาปาเลย ขากลับเลือกไฟล์ทดึก จะได้มีเวลาเที่ยวทั้งวัน
> ที่พัก: เลือกทำเลที่ใกล้สถานที่เที่ยวกับร้านอาหารครับ ปล. โรงแรมบางแห่งไม่รับบัตรเครดิตนะครับ
> เงิน: เวียดนามใช้เงินสกุลดอง (VND) เรทเงิน = 0.0015 (คิดง่ายๆ 10K = 15 บาท)
> ซิมการ์ด: ซื้อ sim2fly จากไทยไปครับ สัญญาณดีแต่มีบางจุดที่ขาดๆหายๆบ้าง

การติดต่อเอเจนซี่เรื่องรถสำหรับเดินทางไปสถานที่ต่างๆ แนะนำว่าควรเลือกเอเจนซี่ที่ดูน่าเชื่อถือ...ของถูกและดีหายาก 😁 เราจองของ Huongtour ราคาดีและไว้ใจได้ครับ เอเจนซี่จะส่งรายละเอียดการจองให้ทางอีเมลล์และเก็บเงินวันสุดท้ายเพื่อให้เรามั่นใจว่าเค้าไม่เท ❤
รายการที่จองและราคาตามใน voucher ครับ

เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว...ในที่สุดก็ถึงวันเดินทาง เป็นครั้งแรกกับการนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงเพื่อไปยังสนามบินดอนเมือง อาจจะใช้เวลาเดินทางนานหน่อยแต่ประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะเลยครับ

นั่งรถไฟฟ้า S.R.T มาลงที่สถานีดอนเมือง เดินออกที่ทางออก 6 จะมีทางเดินเชื่อมเข้าสู่สนามบินดอนเมือง

Check in ล่วงหน้ามาแล้ว มาถึงก็แค่โหลดกระเป๋า พนักงานจะสอบถามเรื่องการฉีดวัคซีน ไม่ได้ขอตรวจเอกสารอะไร
อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุพาสปอร์ต ต้องเกิน 6 เดือนนะครับ

เราเลือกไฟล์ทเย็นเพราะจะได้ไม่ต้องลางานอีกวัน 555 ถึงฮานอยช่วงค่ำแล้วนั่งรถบัสนอนไปซาปาเลย ประหยัดเวลาและค่าโรงแรมคืนแรกด้วย

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย (Noi Bai international airport)

หลังรับกระเป๋าเรียบร้อยก็มารอรถบัสที่จองไว้ ก่อนขึ้นรถแนะนำให้กินข้าว ล้างหน้า แปรงฟันให้เรียบร้อย พร้อมขึ้นไปนอนบนรถเลย...รถมาถึงสนามบิน 22.30 ตามจุดนัดพบที่เอเจนซี่ไลน์แจ้ง

เป็นครั้งแรกกับรถบัสตู้นอน เปิดประสบการณ์มาก 555 พนักงานจะแจกถุงพลาสติกให้ใส่รองเท้าก่อนขึ้นรถ...บรรยากาศข้างในเหมือนยานอวกาศเลย

ตู้นอนถือว่าดีเลยครับ...ติดแค่ที่นอนสั้นไปหน่อย คนสูง 180 cm แบบเราต้องนอนแนวทแยงมุมแทน 555 ระหว่างทางจะแวะจอดให้เข้าห้องน้ำ 2 รอบ...ตอนลงไปเข้าห้องน้ำเตรียมเงินไปจ่ายค่าเข้าห้องน้ำด้วย

รถบัสถึงซาปา 03.40 แต่รถก็จอดให้นอนต่อได้ถึงเช้าครับ เราลงจากรถบัส 06.00 แล้วหารถต่อไปที่ รร กดเรียก grab ไม่ได้เลย คุณพี่ taxi ที่จอดรอก็ฟันราคา 3 เท่า !!! ต่อรองจบที่ 70K ถึงจะยังแพงแต่ก็ต้องยอมเพราะสัมภาระเยอะ 😫

มาถึงที่โรงแรม 06.30 ขอทางโรงแรม early check in (จ่ายเพิ่ม 200K ) จะได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกไปเที่ยว

เราพักที่ Sapa Paramount Hotel ทำเลดีใกล้ตึก Sun plaza และใกล้แหล่งของกิน แค่เดินลงบันไดหน้าโรงแรมก็เจอร้านอาหารและร้านกาแฟเลย

พยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้ฝนตก แต่พอมาถึงฟ้าเปิด แสงสวย บรรยากาศดีสุดๆ เลยมาเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศทะเลสาบตอนเช้า
ในวันที่ไม่มีหมอก เป็นอะไรที่สวยมากๆ

ฟ้าเปิดมาก จนมองเห็นยอดเขาฟานซิปันที่อยู่ข้างหน้าเลย แอบคิดในใจว่าอยากขึ้นวันนี้เลย 555

เดินมาถึงตรงนี้คือตายไปเลย เห็นโค้งทะเลสาบที่ฉากหลังเป็นยอดเขาฟานซิปัน

อากาศตอนเช้าเย็นสบายมาก มาเดินสำรวจมุมสวยๆไว้ก่อน ช่วงเย็นจะมาถ่ายมุมที่เล็งไว้

เดินย้อนกลับมาที่ Sapa center บริเวณนี้เป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ รอบๆจะเป็นสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คของซาปา

ตึก Sun plaza มุมยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูป นอกจากเป็นศูนย์การค้าแล้วยังเป็นสถานีรถไฟที่วิ่งเลียบเขาไปยังสถานีกระเช้าด้วย

ถนนที่อยู่ด้านข้างตึก Sun plaza มองเห็นยอดเขาฟานซิปันด้วย

อีกฝั่งก็จะเป็นที่ตั้งของโบสถ์หินโบราณ (Notre Dame Cathedral) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของซาปา

ถึงเวลาอาหารเช้ากันแล้ว มื้อแรกคือเฝอ (Pho) ซดน้ำซุปร้อนตอนอากาศเย็นๆ คือที่สุด เฝอไก่ (Pho Ga) ราคา 40k
เฝอเนื้อ (Pho Bo) ราคา 50k ร้านอยู่บริเวณ Sapa park ครับ

ต่อด้วยกาแฟที่ร้าน Cong Caphe แฟรนไชส์กาแฟสุดฮิตของเวียดนามครับ


การตกแต่งในร้านเป็นธีมทหารเวียดกง คุมโทนด้วยสีเขียว

เมนูแนะนำคือ Coconut coffee กาแฟดำราดบนมะพร้าวปั่น แก้วเล็กราคา 49K แก้วใหญ่ราคา 59K

หลังกินกาแฟเสร็จก็กลับโรงแรม เพราะเรามีนัดกับไกด์ท้องถิ่นเพื่อไปเดิน Trekking ชมนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านชาวม้ง ( 25 USD/คน = รวมค่ารถไป-กลับ ค่าไกด์ท้องถิ่น ค่าเข้าชมหมู่บ้าน และอาหารกลางวันครับ)
SAPA-ซาปา: อ้อมกอดแห่งขุนเขาและสายหมอก
Day1
> เดินชมนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านเลาไช (lao Chai) และหมู่บ้านต่าวาน (Tavan)
> เดินชมวิวรอบทะเลสาปซาปา (Sapa Lake)
> ถ่ายรูปกับแลนด์มารค์ของซาปา Sun plaza, โบสถ์หิน (The Ancient Stone Church)
Day2
> เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาฟานซิปัน
> จิบกาแฟและชมวิวที่ Viettrekking Sapa
> ชมวิวมุมสูงของเมืองซาปาที่ภูเขาฮัมรอง (Hamrong mountain)
รถไฟ: ใช้เวลา 7-9 ชม รถไฟจะจอดที่สถานีหล่าวกาย(ห่างจากซาปา 40 กม) ต้องนั่งรถบัสต่ออีก 1 ชม
รถบัสนอน: ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง รถบัสจะไปถึงที่ตัวเมืองซาปาเลย
> ตั๋วเครื่องบิน: ขาไปเลือกไฟลทเย็น ถึงแล้วไปซาปาเลย ขากลับเลือกไฟล์ทดึก จะได้มีเวลาเที่ยวทั้งวัน
> ที่พัก: เลือกทำเลที่ใกล้สถานที่เที่ยวกับร้านอาหารครับ ปล. โรงแรมบางแห่งไม่รับบัตรเครดิตนะครับ
> เงิน: เวียดนามใช้เงินสกุลดอง (VND) เรทเงิน = 0.0015 (คิดง่ายๆ 10K = 15 บาท)
> ซิมการ์ด: ซื้อ sim2fly จากไทยไปครับ สัญญาณดีแต่มีบางจุดที่ขาดๆหายๆบ้าง
รายการที่จองและราคาตามใน voucher ครับ
อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุพาสปอร์ต ต้องเกิน 6 เดือนนะครับ
ในวันที่ไม่มีหมอก เป็นอะไรที่สวยมากๆ
เฝอเนื้อ (Pho Bo) ราคา 50k ร้านอยู่บริเวณ Sapa park ครับ