จะพูดคุยกับพี่ชายยังไงให้ช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว?

กระทู้คำถาม
เราไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไง ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเกษตรกร คือทำนา แต่เป็นนาที่ปลูกข้าวเพื่อกินเอง เดิมทีมีกันอยู่ 4 คน คือ พ่อที่อายุ 65 เป็นผู้พิการขา ทำงานไม่ได้ แม่อายุ 64 ปี ปัจจุบันต้องทำไร่นา สวน คนเดียวตั้งแต่พ่อเริ่มล้มป่วย ผ่าตัดกระดูกสันหลัง เคลื่อนไหวเดินไม่สะดวก พี่ชายเราอายุ 41 ปี ก่อนหน้านั้นทำงานที่ กทม.เป็นช่างซ่อมบำรุงในโรงแรมแห่งหนึ่ง ส่วนตัวเราเองอายุ 34 ปี(เป็นผู้หญิง) ก่อนหน้านั้นเราทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตำแหน่งอินทิเรียดีไซน์ รายได้ค่อนข้างดี เราพักห้องเช่าเดียวกับพี่ชาย โดยหารค่าเช่ากัน เรา 2 พี่สองต่างก็ส่งเงินช่วยเหลือทางบ้านทุกเดือน จนเรียกได้ว่าตอนนั้น ครอบครัวเราทางบ้านไม่ขัดสนเรื่องเงิน มีเงินพอใช้ไม่ขาดมือ จนแม่เริ่มจะมีเงินเหลือเก็บออม แต่ทั้งเราเองและพี่ชายก็ไม่มีเงินพอเหลือเก็บนะคะ เงินเดือนที่ได้มาหลังจากหักแบ่งส่งให้ทางบ้านก็พอใช้แค่ประทังชีวิตให้อยู่รอดใน กทม.
     มาในปี 2019 ตั้งแต่มี Covid-19 ระบาด ก็กระทบกับงานของเรา 2 พี่น้อง ทางพี่ชายนั้นเมื่อโรงแรมมีรายได้ที่น้อยลงจากแขกที่ลดจำนวนลง ก็ส่งผลกับรายได้ของพนักงานคือได้แต่เงินเดือน เซอร์วิสชาร์ตก็น้อยลง-ไม่ได้เลยในแต่ละเดือน ส่วนตัวเราเองที่ทำงานใน จ.สมุทรสาคร เดินทางไป-กลับด้วยรถเมล์นั้นก็ค่อนข้างลำบากอยู่ทีเดียวเพราะเวลาเลิกงานมักใกล้เคียงกับเวลาเคอร์ฟิวเดินรถ ทำให้ตกรถเมล์ ต้องโดยสารแท็กซี่อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เรารู้สึกท้อกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับเงินเดือนที่ถูกปรับลดลง ประกอบกับช่วงนั้นเรารู้สึกอิ่มตัวกับตำแหน่งหน้าที่ตรงนั้น และเริ่มมีความคิดอยากมีกิจการของตัวเอง  จึงตัดสินใจลาออกจากงานกลับมาบ้านที่ต่างจังหวัด ในช่วงปี 2020 และมีรายได้จากการทำกล้าพันธุ์ไม้ขาย(ไม้ชนิดหนึ่ง เป็นไม้ต่างถิ่น ยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่นักในประเทศไทย)
     กิจการขายกล้าไม้ผ่านช่องทางออนไลน์ของเรานับว่าไปได้ดีทีเดียวในช่วงโรค Covid-19 เราสามารถช่วยเหลือการเงินในครอบครัว จวบจนภาระหนี้สินของตัวเอง(กยศ. และ หนี้บัตรเครดิต) ได้อย่างไม่ลำบากเท่าใดนัก รายได้อาจไม่แน่นอนและบางเดือนไม่เท่ากับเงินเดือนบริษัท แต่ค่าครองชีพในต่างจังหวัดนั้นต่ำกว่า และสุขภาพจิตดีกว่า เราไม่เดือดร้อนเลยเมื่อพี่ชายไม่ได้ส่งเงินให้ทางบ้านอีกเลยตั้งแต่กิจการของเรานั้นไปได้ดี แม้บางครั้งพี่ชายจะขอหยิบยืมเงินจากเราบ้างก็ตาม เพราะงานที่ทำอยู่ได้รับค่าตอบแทนเพียงครึ่งหนึ่งของเงินเดือนเท่านั้น แต่พี่ชายเราก็ยังอดทนกัดฟันทำต่อ
     จนกระทั่งเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมานี้ตั้งแต่พี่ชายเรามีแฟน ก็ส่งเงินให้ทางบ้านน้อยลงทั้งที่เงินเดือนเริ่มกลับมาปกติดังเดิมแล้ว และยังทำตัวไม่รับรู้เรื่องหนี้สินของทางบ้านต่างๆ รวมถึงเมื่อแม่พูดขอเงินในแต่ละครั้งก็ได้ยินเสียงบ่นกลับมา  ช่วงนี้เป็นช่วงที่ขาลงของเราด้วย ช่วงหน้าฝนกล้าไม้ขยายยากเพราะเราไม่มีโรงเรือนเก็บ ทำให้ไม่มีพอขาย รายได้ของเราจึงลดลงอย่างมาก เริ่มไม่พอกับรายจ่ายที่มี เราเครียดมาก เริ่มคิดและไม่เห็นด้วยในสิ่งที่พี่ชายทำ และน้อยใจด้วยที่ภาระทางการเงินของบ้านตกอยู่ที่เราฝ่ายเดียวเมื่อพี่ชายแยกตัวออกไปมีครอบครัว พ่อพูดอย่างนั้นว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเมื่อลูกผู้ชายมีเมียก็จะเหมือนออกไปเลย ...ไปมีครอบครัวของตัวเอง แต่พ่อลืมไปหรือเปล่าว่าเราเป็นผู้หญิงและยังไม่ได้แต่งงานนะ เราไม่ไหวหรอก ...ไม่น่าไหว เรารู้สึกน้อยใจกับค่านิยมแบบนี้
เราควรพูดคุยกับพี่ชายเรื่องขอให้ช่วยค่าใช้จ่ายทางบ้านยังไงดีคะ?
     กลางเดือนที่ผ่านมานี้ พี่ชายเราลาออกจากงานที่ กทม.และย้ายมาทำงานโรงแรมใน จ.ที่บ้านพี่สะใภ้ และแยกตัวออกไปอยู่กับครอบครัวพี่สะใภ้ในปัจจุบัน
  
ปล. พ่อและแม่ไม่มีรายได้อื่นเลย นอกจากเบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการของพ่อ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่