อึดอัดใจที่จะต้องนั่งรถกลับกับหัวหน้าผู้ชายบ่อยๆ

สวัสดีค่ะ คือเราเพิ่งมาทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง โดยปกติแล้วเวลาเลิกงานคือ16.30 เราจะกลับหอกับรถบริษัทค่ะ แต่หลังจากนั้น1อาทิตย์ เราต้องกลับเวลา17.00 ตลอดเลยเพราะงานเยอะ ทำให้ต้องติดรถหัวหน้าผู้ชายกลับหอบ่อยมาก เราเองก็ยังไม่ค่อยสนิทกับเขาค่ะ และด้วยเรื่องความปลอดภัย เราก็เป็นห่วงตัวเอง และสายตาจากเพื่อนร่วมงานอีก

ถ้าเราไม่ไปกับหัวหน้า เราต้องเสียค่าแท็กซี่วันละประมาณ150บาทในการเดินทางกลับ แล้วที่เราทำงานล่วงเวลา ก็ไม่มีโอทีนะคะ เป็นโอเลี้ยงแทน เราไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองกลับทันรถบริษัท ถ้าจะบอกหัวหน้า มันจะน่าเกลียดไหมคะ เราเป็นเด็กใหม่ ไม่อยากให้ดูเรื่องมากในสายตาเขาด้วย แต่เราไม่โอเคที่จะต้องนั่งรถกลับกับเขาบ่อยๆค่ะ

ปล.เขาชอบทักมาคุยเรื่องส่วนตัว และบางครั้งก็ชอบพูดสองแง่สามงามค่ะ เราเลยรู้สึกอึดอัดมากๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
งานน่ะ มันทำไม่มีวันเสร็จหรอก โอทีก็ไม่มี
ทำไมคุณต้องอยู่ด้วย เก็บกระเป๋า กลับตอน 16.30 ไปเลย
งานที่เหลือค่อยมาทำต่อพรุ่งนี้ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ บริษัทไม่สิทธิ์เอาเปรียบ
ความคิดเห็นที่ 7
และบางครั้งก็ชอบพูดสองแง่สามงามค่ะ

ม.๑๖ ห้ามมิให้นายจ้าง หรือผู้ซึ่งเป็นหัวหน้างาน ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงาน กระทำการล่วงเกิน คุกคาม หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อลูกจ้าง เช่น
“ล่วงเกิน”-แสดงอาการเกินสมควรต่อผู้อื่น โดยล่วงจารีตประเพณี หรือจรรยามารยาท ด้วยการลวนลาม ดูหมิ่น สบประมาท เป็นต้น
“ลวนลาม”-ล่วงเกินในลักษณะชู้สาว ด้วยการพูด หรือกระทำการ เกินสมควร เช่น การพูดจาลวนลาม แทะโลม หรือล่วงเกินด้วยการจับมือถือแขน
“ดูหมิ่น”-แสดงกิริยาท่าทาง พูดจา หรือเขียนหนังสือเป็นเชิงดูถูกว่ามีฐานะต่ำต้อย หรือไม่ดี ไม่เก่งจริง เสียดสี
“คุกคาม”-แสดงอำนาจด้วยกิริยาหรือวาจาให้หวาดกลัว ทำให้กลัว
“รำคาญ” หมายถือระคายเคือง เบื่อ ทำให้เดือดร้อน เบื่อหน่าย อาจจะเป็นการกระทำต่อร่างกายโดยตรง หรือการกระทำที่มีผลต่อจิตใจก็ได้

ตัวอย่างฎีกาเกี่ยวกับการล่วงเกินทางเพศโดยผู้บังคับบัญชา
คำพิพากษาฎีกาที่ 11610/2554
          จำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจาก โจทก์ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง สามารถให้คุณให้โทษต่อพนักงาน ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ คุกคามทางเพศต่อลูกจ้างหญิงหลายครั้งหลายหน ด้วยการพูดจาเกี้ยวพาราสี ใช้ถ้อยคำลามกอนาจาร ทาบทามชักชวนพนักงานหญิงผู้ใต้บังคับบัญชาให้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับตน เป็นการประพฤติผิดศีลธรรม และจารีตประเพณีอันดีงามของสังคม   
       ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องเพศ การกระทำของโจทก์ มีผลทำให้พนักงานหญิงมีความรู้สึกอับอาย หวาดกลัว ไม่กล้าเข้าไปในห้องทำงานของโจทก์ หรือไม่ต้องการอยู่ทำงานในช่วงเย็น จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

คำพิพากษาฎีกาที่ 11610/2554
คำพิพากษาฎีกาที่ 3560/2556
คำพิพากษาฎีกาที่ 1059/2560
ฯลฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่