JJNY : "พท."แนะ"ภท."เปิดใจกว้าง│ภท.เหน็บอ้างยางราคาสูง 3โลร้อยเงียบ│เตือนศก.โลกถดถอยปี 66│‘ททบ.5’โปรโมตท่องเที่ยวพม่า

"เพื่อไทย" แนะ "ภูมิใจไทย" เปิดใจกว้าง อย่าทำเป็นเด็ก ยันถ้าผ่านร่างพรบ.กัญชาฯ คนล้นคุก เสพยาเต็มเมืองแน่
https://siamrath.co.th/n/383099
 
 
“เพื่อไทย” แจงหลังถูก “ภูมิใจไทย” ดราม่าถูกถอนร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ยัน ไม่เห็นด้วยใช้เชิงสันทนาการ ชี้กลัดกระดุมผิดตั้งแต่แรกปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ทำควบคุมยาก แนะ ภท.เปิดใจกว้างฟังคนอื่น อย่าทำเหมือนเด็ก 
 
วันที่ 16 ก.ย.65 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงจุดยืนพรรคเพื่อไทยต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่ถูกถอนออกไปปรับปรุงแก้ไข ว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ใช่กัญชาเพื่อสันทนาการ จุดยืนของเราต้องเป็นกัญชาทางการแพทย์มาตลอด พรรคเพื่อไทยเฝ้ามองมาตลอดว่า ถ้ารัฐบาลทำในกรอบทางการแพทย์จะสนับสนุน แต่ถ้าเกินจากกรอบนี้เราไม่สนับสนุน ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 62 รัฐบาลมีเวลาในการวางแผน และจัดระเบียบเรื่องการควบคุม ซึ่งรัฐบาล และพรรคภูมิใจไทย ควรเสนอกฎหมายควบคุมก่อน แล้วจึงออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อปลดล็อกกัญชา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.64 ขณะที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุม นี่คือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
 
นอกจากนี้ ยังพบว่าในประกาศกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่กัญชาทางการแพทย์อย่างเดียว แต่เป็นกัญชาทางสันทนาการ เรายิ่งมีความเป็นห่วง เพราะไม่มีข้อใดที่ห้ามเสพ ห้ามพี้ รวมถึงรมว.สาธารณสุข ยังเชิญชวนให้พี้ได้ พรรคเพื่อไทยท้วงติงมาตลอดว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุขเลยเถิดเกินไป แต่ที่พรรคเพื่อไทยให้โอกาสรัฐบาลเสนอร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้ามาในสภาฯ เพื่อที่จะควบคุมการใช้เราจึงยกมือรับหลักการให้วาระแรก โดยตั้งความหวังว่าในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) จะไปแก้ไขปรับปรุงให้มีการควบคุมที่ดี โดยเฉพาะสิ่งที่สังคมกังวล ซึ่งเราคาดหวังว่า แต่สุดท้ายพบว่าไม่มีการควบคุมการนำไปใช้ในทางที่ผิดเลย และยังพบว่า ในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ส่งเสริมให้ใช้ในทางสันทนาการด้วย
 
ดังนั้น เมื่อเข้าสู่สภาฯอีกครั้ง มีความเป็นห่วงจากทุกองค์กรที่ได้ส่งข้อมูลให้ส.ส.ช่วยยับยั้งร่างกฎหมายฉบับนี้ พรรคเพื่อไทยต้องฟังเสียงทุกฝ่าย ประกอบกับที่เราติดตามมาตลอด เห็นตรงกันว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้น่าผิดหวังอย่างมาก ซึ่งเกินหลักการที่ให้ไว้ และมีการเพิ่มมาตราจำนวนมาก โดยเป็นการเพิ่มเพื่อส่งเสริมให้ใช้กัญชาทางสันทนาการ 
 
“ไม่ได้มีเพียงพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงมติให้ถอนร่างออกไปก่อน ในพรรครัฐบาลเองก็มี หากพรรคภูมิใจไทยไปตรวจสอบดูจะเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นตรงกันกับพรรคเพื่อไทย จะมาบอกฝ่ายค้านเตะถ่วงคงไม่ใช่ เพราะรัฐบาลก็ขัดขวางกันเอง ส่วนจะมีพรรคฝ่ายค้านไปลงมติเห็นด้วย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ค้าน แต่ให้พิจารณาไปก่อนแล้วค่อยคว่ำ
 
จึงฝากให้สังคมพิจารณาว่าไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย แต่มีพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐด้วย พรรคภูมิใจไทยต้องเปิดใจกว้างฟังประชาชน องค์การทางสังคม สภาฯ และพรรคร่วมรัฐบาลด้วย แต่นี่ไม่ฟังใครเลย ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่ฟังขนาดนี้เพื่ออะไร และพอร่างถูกถอนออกไป ก็มีดราม่าว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ขัดขวางหากเกิดปัญหาต้องรับผิดชอบ การพูดแบบนี้เหมือนเป็นเด็ก” นายสุทิน กล่าว
 
นายสุทิน กล่าวต่อว่า วันนี้ถ้ายังออกกฎหมายฉบับนี้คนจะล้นคุก คนจะเสพยาเต็มบ้านเต็มเมือง อาชญากรรมจะเกิดขึ้นจนคุกไม่มีที่ขัง แต่ถ้าให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดก็ไม่ต้องตกใจ เพราะไม่มีการตามจับย้อนหลังอยู่แล้ว วันนี้ที่เป็นแบบนี้เพราะรัฐบาลกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ที่ประกาศให้กัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยเป็นคนตามแก้ให้ไม่ใช่ขัดขวาง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย แต่พรรครัฐบาลด้วย รวมถึงองค์กรทางการแพทย์ ซึ่งมีแต่พรรครัฐบาลบางพรรคที่ไม่ฟังทุกฝ่ายเลย
 
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่าคนของพรรคเพื่อไทยไปทำธุรกิจกัญชา ว่า เราไม่ได้ไปดูเรื่องการลงทุน เพราะเป็นธุรกิจของเขาเราไม่เกี่ยว ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่เคยตกใจกับนโยบายของพรรคไหนเลย ไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง แต่เราจะทำอย่างไรที่จะปกป้องสังคมส่วนรวมได้ ดังนั้น ก่อนจะโทษใครต้องมองตัวเองก่อน ไม่ต้องไปโยนให้พรรคอื่น
 


ภท.ลุกกลางสภา เหน็บบางพรรค อ้างผลงาน ตอนยางราคาสูง ทีเหลือ 3 โลร้อย เงียบกริบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3565893

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดย นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย (ภท.)  หารือ ว่า รัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ แก้ปัญหาราคายาง มา 3 ปีครึ่ง โดยใช้เงินอัดฉีดนโยบายราคายางไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท แต่แก้ไขไม่ตรงจุด ไม่ยั่งยืน เพราะตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรชาวสวนยางทุกไตรมาส เรื่องราคายางตกต่ำ ซึ่งปัจจุบันราคายางพาราดีอาร์ซี 30% ราคากิโลกรัมละ 43 บาท
 
นายณัฏฐ์ชนนกล่าวต่อว่า ดังนั้น รัฐบาลต้องออกนโยบายที่ยั่งยืน และกระทรวงพาณิชย์ต้องเปิดตลาดใหม่ ทำหน้าที่เซลส์แมนขายยาง ขณะที่กระทรวงเกษตรฯ ต้องควบคุมกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ปลายน้ำ จนถึงการส่งออก อย่าโทษการยางแห่งประเทศไทยที่เป็นรัฐวิสาหกิจตัวเล็ก และทำงานประจำ ไม่ใช่ผู้กำหนดนโยบายแก้ปัญหาราคายางทั้งระบบ
 
“การแก้ปัญหาราคายางอย่าใช้แค่ยาพาราเซตามอล เพราะแก้ไม่ตรงจุดแค่บรรเทาอาการ แก้ปัญหาระยะยาวไม่ได้ ตอนราคายางพาราขยับไปกิโลกรัมละ 60-70 บาท ทุกพรรคต่างแสดงว่าเป็นฝีมือของพรรคตนเอง ตอนนี้ราคายางตก 3 โล 100 ทุกพรรคเงียบ แล้วไปโทษพรรคการเมืองอื่น นักการเมืองต้องรับผิด รับชอบไปพร้อมกัน แล้วออกมาช่วยเหลือชาวสวนยาง” นายณัฏฐ์ชนนกล่าว
 


เตือนเศรษฐกิจโลกถดถอยปี 66 หลังแบงก์ชาติทั่วโลกแห่ขึ้นดอกเบี้ย
https://www.thansettakij.com/world/540546

เวิลด์แบงก์เตือนเศรษฐกิจโลกจะถดถอยในปีหน้า (2566) สาเหตุเนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกพร้อมใจกันขยับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
  
ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ออกรายงานเตือนว่า เศรษฐกิจโลก กำลังเข้าใกล้ภาวะถดถอย (recession) แล้ว เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกกำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาพร้อม ๆกัน เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นมาก
 
รายงานของธนาคารโลกเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา จีน และยูโรโซนได้ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง และเศรษฐกิจโลกอาจจะต้องเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้า (2566)
 
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ธนาคารกลางต่างๆจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2% เพื่อสกัดเงินเฟ้อให้อ่อนตัวลง นอกเหนือจากที่ปรับขึ้นแล้ว 2% ก่อนหน้านี้

ซึ่งการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นดังกล่าวท่ามกลางภาวะตึงตัวในตลาดการเงิน จะฉุดให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลกลดลงสู่ระดับ 0.5% ในปี 2566 ขณะที่รายได้ต่อหัวจะหดตัวลง 0.4% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าเกณฑ์การเกิดภาวะถดถอยทางเทคนิค
ธนาคารโลกยังเตือนว่า เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว “หนักที่สุด” หลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยนับตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมา และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้ดิ่งลงหนักกว่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอยก่อนหน้านี้
 
สำหรับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนั้น สื่อต่างประเทศรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (ธนาคารกลางสหรัฐ) หรือ FOMC ที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย.นั้น มีการให้น้ำหนักมากขึ้นว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 1.00% เนื่องจากตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อล่าสุดในเดือนส.ค. พุ่งสูงเกินคาด (8.3%)
 
และหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยในอัตราสูงที่สุดของเฟดในปีนี้
 
อ่านเพิ่มเติม : ช็อกเงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง "โนมูระ" ฟันธงเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง 1.00% สัปดาห์หน้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่