JJNY : โทนี่เชื่อ ทหารดีๆอยากให้ปฏิรูปกองทัพ│โทนี่เศร้า ค่าแรงไทย│“สนามบินเบตง”ส่อปิดชั่วคราว│จับตาวันนี้ นัดชี้ชะตา 8ปี

โทนี่ เชื่อ ทหารดีๆ อยากให้ปฏิรูปกองทัพ ลั่น เลิกได้แล้วระบบทาส 'เกณฑ์ทหาร' รับอาสาสมัครดีกว่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3561226
 
 
โทนี่ เชื่อ ทหารดีๆ อยากให้ปฏิรูปกองทัพ ลั่น เลิกได้แล้วระบบทาส ‘เกณฑ์ทหาร’  รับอาสาสมัครดีกว่า
 
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 กันยายน เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ นโยบายเกษตร-Soft Power ของเพื่อไทย ทำอย่างไรให้ปังเหมือนไทยรักไทย
 
โดยช่วงหนึ่ง นายทักษิณ กล่าวถึงกรณีการปฏิรูปกองทัพว่า เป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น ต้องเร่งปฏิรูป เพราะวันนี้มีทั้งเพิ่มคน เพิ่มเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง เพิ่มอาวุธ ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะไปรบกับใคร แค่ปฏิวัติใช้รถถังเน่าๆ 3 คันก็เพียงพอแล้ว วันนี้ต้องรบทางซอฟต์เพาเวอร์ คือ การทำอย่างไรให้ประเทศมีประชาธิปไตย ทำตามหลักนิติธรรมสากล และทำให้คนตามรับวัฒนธรรม และมาใช้บริการที่เกิดจากสกิลหรือเกิดจากทักษะของเรา
 
“เชื่อว่าทหารดีๆ อยากให้ทำเพราะเขาไม่เห็นแก่ตัว เพราะอยากให้บ้านเมืองไปต่อได้ เพราะปัจจุบันเรามีเงินน้อย ลำพังหนี้อย่างเดียวก็เยอะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนี้รัฐบาล หนี้ประชาชน และหนี้ภาคธุรกิจ” นายทักษิณกล่าว และว่า
 
“อยากยกเลิกการเกณฑ์ทหารมาก เพราะไม่มีความจำเป็นเลย วันนี้ระบบทาสต้องยกเลิก เปิดให้มีทหารเกณฑ์แบบอาสาสมัครดีกว่า และให้ค่าตอบแทนเหมือนค่าแรงขั้นต่ำ ไม่ใช่ให้เป็นเบี้ยเลี้ยงแล้วปล่อยกลับบ้าน และกลายเป็นรายได้ของนายทหาร ทุกหน่วยงานถ้ารักชาติจริงต้องคิดถึงความเป็นจริงว่า งบประมาณเราตึงมาก ต้องช่วยกันปรับและตัดอะไรที่ไม่มีความจำเป็น”
 

 
โทนี่ เศร้า ค่าแรงไทยต่ำกว่า ‘เกาหลี-ไต้หวัน’ 5 เท่า ลั่น วันละ 800 บ.เท่านั้น ปชช.ถึงรอด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3561171

โทนี่ เศร้า ค่าแรงไทยต่ำกว่า ‘เกาหลี-ไต้หวัน’ 5 เท่า ลั่น วันละ 800 บ.เท่านั้น ปชช.ถึงรอด
 
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 กันยายน เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ นโยบายเกษตร-Soft Power ของเพื่อไทย ทำอย่างไรให้ปังเหมือนไทยรักไทย
 
โดยช่วงหนึ่ง นายทักษิณ กล่าวว่า ครอบครัวคนไทยหากพัฒนาให้เก่ง มีความรู้ความสามารถ จะทำให้มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น เพราะปัจจุบันค่าแรงขึ้นต่ำของไทยเฉลี่ยนอยู่ที่ ชั่วโมงละ 41 บาท  ขณะที่ ค่าแรงขั้นต่ำออสเตรเลีย ชั่วโมงละ 493 บาท ขณะที่ อังกฤษชั่วโมงละ 424 บาท สวีเดนชั่วโมงละ 418 บาท เยอรมันชั่วโมงละ 374 บาท ญี่ปุ่น ชั่วโมงละ 302 บาท สหรัฐอเมริกา ชั่วโมงละ 240 บาท เกาหลีใต้ ชั่วโมงละ 256 บาท ไต้หวัน ชั่วโมงละ 224 บาท
 
“แรงของไทยแตกต่างจากเกาหลีใต้และไต้หวันถึง 5 เท่า สรุปแล้วประเทศอื่นๆ กินข้าว กินขนมปัง เรากินแกลบรึอย่างไร วันนี้เราไม่สามารถสร้างรายได้เพื่อให้คนไทยพอกินพอใช้ และการไม่พอกินพอใช้ ทำให้เกิดหนี้ ดังนั้น เราต้องเร่งพัฒนาประเทศ เพราะค่าใช้จ่ายในปัจจุบันวิ่งแซงหน้ารายได้ไปมากแล้ว ยิ่งดูยิ่งรู้สึกเศร้า ซึ่งถ้าจะให้คนไทยอยู่ได้แบบไม่อดมื้อกินมื้อ ค่าแรงขั้นต่ำต้องอยู่ที่ประมาณวันละ 800 บาท ทำได้โดยรัฐบาลต้องสร้างเศรษฐกิจ และรายได้ให้เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่รัฐบาล แต่ขึ้นอยู่กับเอกชนที่ต้องอาศัยปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ดี” นายทักษิณ กล่าวและว่า
 
“เราไม่เห็นความสำคัญศักยภาพของคนไทย จึงเลี้ยงเขาแบคนจนๆ ปล่อยเขาเป็นภาระ แต่ความจริงเขสเป็นพลังของตัวเขาเองได้”


 
“สนามบินเบตง” ส่อปิดชั่วคราว นกแอร์ถอดใจ-ทัวร์เลิกเหมาตั๋ว
https://www.prachachat.net/tourism/news-1047691

เส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-เบตงส่อสะดุด วงในเผย “นกแอร์” ไปต่อไม่ไหว บริษัททัวร์ถอดใจ เลิกเหมาที่นั่งหลังหมดโครงการทัวร์เที่ยวไทยสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ชี้ค่าตั๋วแพงเกินรับไหว หวนขายทัวร์บินลงหาดใหญ่เหมือนเดิม ลุ้น ทย. ลงทุนเฟส 2 ต่อรันเวย์รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่
 
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงมากว่าหลังสิ้นสุดโครงการทัวร์เที่ยวไทยและเราเที่ยวด้วยกัน ในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 นี้ สนามบินเบตง จังหวัดยะลา อาจจะมีความจำเป็นต้องปิดให้บริการชั่วคราว หลังจากที่ปิดชั่วคราวไปครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่เปิดสนามบินในช่วงแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากสายการบินนกแอร์ไม่สามารถแบกรับต้นทุนการให้บริการต่อไปได้
 
ประกอบกับ 3 บริษัททัวร์รายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัท ซี.ซี.ที. กรุ๊ป จำกัด, บริษัท แตงโมทัวร์ จำกัด และสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) ที่ได้ร่วมเซ็นบันทึกข้อตกลง (MOU) เหมาที่นั่งจำนวน 60 ที่นั่งกับสายการบินนกแอร์ ก็เตรียมยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวเมื่อจบแคมเปญ “#เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์” เฟส 2 ในสิ้นเดือนตุลาคมนี้เช่นกัน
 
ชี้ “ราคาสูง” ทำตลาดยาก
 
แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุของการยุติแผนการบินสู่เบตง ของสายการบินนกแอร์และยกเลิกข้อตกลงเหมาที่นั่งของกลุ่มบริษัททัวร์ครั้งนี้ เป็นผลจากราคาตั๋วโดยสารเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-เบตง สูงมาก เฉลี่ยไป-กลับ ประมาณ 7,000 บาท ทำให้บริษัททัวร์ไม่สามารถทำต้นทุนแพ็กเกจทัวร์ในราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้
 
“เฟสแรก ในช่วง 3 เดือน (ปลายเดือน เม.ย.-ก.ค.) ที่นกแอร์ทำการบิน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนงบประมาณบางส่วนผ่านแคมเปญ #เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์ ส่วนเฟส 2 ช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. เป็นช่วงต่อโครงการทัวร์เที่ยวไทย รัฐบาลสนับสนุนการเที่ยวผ่านทัวร์สูงสุด 5,000 บาท ทำให้บริษัททัวร์ยังสามารถทำตลาดได้” แหล่งข่าวกล่าวและว่า
 
ทันทีที่สิ้นสุดโครงการนี้ลง บริษัททัวร์จะไม่สามารถทำตลาดในราคาปัจจุบันที่ขายอยู่ 13,000-14,000 บาท ได้ ซึ่งประเด็นปัญหาราคาตั๋วโดยสารที่แพงมากนี้ ที่ผ่านมาผู้บริหารนกแอร์และตัวแทนบริษัททัวร์มีการเจรจากันหลายครั้งแล้ว แต่นกแอร์ยังยืนยันราคาขายตั๋วไป-กลับ 7,000 บาท ขณะที่บริษัททัวร์รับได้ที่ราคา 5,000 บาท จึงทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถเดินต่อไปได้
 
บริษัททัวร์ถอดใจเลิกเหมาที่นั่ง
 
นายธนพล ชีวรัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แตงโมทัวร์ จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับบริษัทค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะยุติการเหมาที่นั่งนกแอร์เส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-เบตง แค่สิ้นเดือน ต.ค.นี้ หลังจบแคมเปญ #เบตง หรอยแรว แหล่งใต้ สไตล์เบตง เฟส 2 และสิ้นสุดโครงการทัวร์เที่ยวไทย เนื่องจากต้นทุนราคาตั๋วเครื่องบินสูงมาก โดยช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมาทำตลาดได้เพราะรัฐบาลและ ททท.สนับสนุน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงขายแพ็กเกจทัวร์เที่ยวเบตงต่อเนื่อง โดยทำโปรแกรมทัวร์เดินทางผ่านสนามบินหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และต่อรถตู้เข้าเบตง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่บริษัทขายอยู่แล้ว
 
“ในภาพรวมตอนนี้หลาย ๆ ประเทศเปิดแล้ว โดยเฉพาะประเทศในอาเซียนที่ขายแพ็กเกจทัวร์อยู่ในระดับ 10,000 บาทต้น ๆ ทำให้คนเลือกไปเที่ยวต่างประเทศดีกว่า จึงมองว่าราคาตั๋วที่สายการบินให้มานั้น ทุกฝ่ายไปต่อยาก และสายการบินก็น่าจะไปต่อยากเช่นกัน หากสายการบินสามารถลดราคาตั๋วลงมาตามที่เคยคุยกันก่อนหน้านี้ บริษัทอาจเปลี่ยนใจและเดินหน้าต่อ แต่ต้องได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้
 
เช่นเดียวกับ นายวิชิต ประกอบโกศล เจ้าของบริษัท ซี.ซี.ที. กรุ๊ป จำกัด ที่กล่าวในเรื่องนี้ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาและนัดเจรจากับสายการบินนกแอร์อีกครั้ง คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า เพื่อหาข้อสรุปอย่างเป็นทางการภายในเดือน ก.ย.นี้
 
“หากนกแอร์ยังยืนราคาตั๋วไว้ที่ 7,000 บาท เราก็ยืนยันว่าทำตลาดไม่ได้แน่นอน ตอนนี้ก็รอดูทีท่าของสายการบิน และ ททท. ว่าจะให้การสนับสนุนต่อไปอีกหรือไม่ อย่างไร หากไม่มีงบฯมาช่วยซับซิไดซ์บางส่วนจากรัฐบาล บริษัททัวร์ก็ไม่กล้าเหมาที่นั่งสายการบินต่อ แต่หากมีงบฯซับซิไดซ์หรือสายการบินยอมลดราคาลงก็อาจจะเดินต่อ แต่ขณะนี้ทุกฝ่ายยังมองไม่เห็นความชัดเจนว่าหลัง ต.ค.นี้จะเดินต่อหรือจะพอแค่นี้”
 
นายวิชิตกล่าวอีกว่า สำหรับแพ็กเกจท่องเที่ยวเบตงช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จมาก มีเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งเฟส 1 และเฟส 2 หากต้องยุติก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะปัจจุบันเส้นทางเบตงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในกลุ่มคนไทย
 
“เบตง” โอดเสียโอกาสยกระดับเมือง
 
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า เมืองเบตงรับรู้ประเด็นปัญหานี้มาต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดสนามบิน เบตงเป็นเมืองเล็ก มีประชากรเพียง 60,000 กว่าคน การเปิดให้บริการสนามบินจำเป็นต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นหลัก การเปิดสนามบินช่วงแรกจึงต้องร่วมมือกับบริษัททัวร์ และให้บริษัททัวร์เหมาที่นั่งสายการบินในสัดส่วน 75% เพื่อช่วยให้สายการบินสามารถให้บริการได้ ประกอบกับ ททท.เข้ามาช่วยสนับสนุนในเฟสแรก และมีโครงการทัวร์เที่ยวไทยเข้ามาสนับสนุนในเฟส 2 ทำให้บริษัททัวร์สามารถทำตลาดได้ จากความไม่ชัดเจนนี้ทำให้ปัจจุบันบริษัททัวร์ยุติการขายแพ็กเกจบินตรงกรุงเทพฯ-เบตง ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565 ไปแล้ว
 
หากนกแอร์ต้องยุติการบิน และสนามบินเบตงอาจต้องปิดให้บริการชั่วคราวอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เนื่องจากการท่องเที่ยวเบตงกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนไทย ที่สำคัญ เมืองเบตงจะได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินแน่นอน นอกจากจะกระทบภาคการท่องเที่ยวแล้วยังทำให้เมืองขาดโอกาสที่จะยกระดับและพัฒนาตามแผนที่วางไว้
ลุ้นกรมท่าอากาศยานลงทุนขยายรันเวย์
 
นายสกุลกล่าวต่อไปอีกว่า ทางออกของปัญหาดังกล่าวขณะนี้มีอยู่ทางเดียวคือ สายการบินต้องทำราคาตั๋วโดยสารให้ถูกลง เพื่อให้บริษัททัวร์สามารถทำตลาดต่อไปได้ ขณะเดียวกันก็อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลและขับเคลื่อน โดยเฉพาะการพิจารณาลงทุนเพิ่มเพื่อขยายรันเวย์ให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้
 
สอดรับกับ นายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สมาคมและกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีการประชุมร่วมกันและหารือกับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ผู้บริหารสนามบินเบตงถึงปัญหานี้มาเป็นระยะ ๆ ล่าสุดได้รับข้อมูลว่าหากนกแอร์ต้องหยุดบินเชิงพาณิชย์ สนามบินมีแผนจะให้บริการในรูปแบบเช่าเหมาลำ และที่ผ่านมาสนามบินเบตงมีแผนลงทุนต่อในเฟส 2 อีกประมาณ 1,800 ล้านบาท เพื่อขยายรันเวย์เป็น 2,500 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ โดยแผนทั้งหมดผ่านการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว แต่ต้องรอเวลาอีก 7 ปี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่