ผู้ว่าชัชชาติโดนธรรมชาติรับน้อง?

สังเกต ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนสิงหาคมนั้น ประเทศไทยไม่ค่อยเจอน้ำท่วมจากฝนตกเลย และอีกอย่าง ไม่มีพายุหมุนเขตร้อนเข้าประเทศไทยเลย มีแต่เฉียดเท่านั้น ก็คือพายุโซนร้อนหมาอ๊อน แต่พายุหมาอ๊อนก็ไม่ได้ให้น้ำแก่ไทยขนาดนั้น แถมตกแค่ภาคเหนือ อีสานเท่านั้น

พอขึ้นเดือนกันยายน ประเทศไทยมีฝนตกมากขึ้นมาทันที เพราะอะไร?? เพราะลมหนาวจากจีนเริ่มไล่ร่องมรสุมลงมาภาคกลางมากขึ้น และด้วยความที่ไม่มีพายุมาใกล้ประเทศไทย ก็ทำให้ร่องมรสุมคงที่ ไม่ได้บิดเบี้ยว โย้เย้ไปไหนเลย มาถึงตอนนี้ลมหนาวจากจีนก็เริ่มไล่รุกลงมา ร่องมรสุมก็เข้าภาคกลางมากขึ้น ทำให้ภาคกลางฝนตกแล้ว ฝนตกเล่า โดยเฉพาะกรุงเทพ ซึ่งอยู่ติดทะเล และได้รับอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้แบบเต็ม ๆ ฝนก็ตกแช่อยู่แบบนั้น แช่แล้วแช่อีก บางวันน้ำฝนมากถึง 170 มิลลิเมตร!!!!! พระเจ้า ภาคเหนือยังไม่เคยถึงเลย มากสุดก็ 90 ต้น ๆ เท่านั้น

ด้วยเหตุผลทางธรรมชาติ กรุงเทพปีนี้ฝนตกเยอะมากถึงมากที่สุดจริง ๆ 


คาดหมายลักษณะอากาศปรับปรุงล่าสุด



 กรมอุตุบอกว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ฝนจะใกล้เคียงค่าปกติ แต่เดือนตุลาคมจะมากกว่าค่าปกติ 20%
ขนาดเดือนกันยายนใกล้เคียงค่าปกติ ยังท่วมซะวอดวาย แล้วเดือนหน้าล่ะ??


การคาดหมายจากกรมอุตุบอกว่า กรุงเทพจะมีฝนมากกว่าค่าปกติช่วงเดือนหน้า

จากการคาดหมายเดือนตุลาคมนั้น ภาคเหนือกับอีสานอากาศจะเริ่มเย็นลงฝนจะลดลง แต่ลมหนาวจะดันร่องมรสุมให้ต่ำลงมาเช่นกัน กรุงเทพก็จะเจอฝนตกต่อไปอีกเกือบเดือนกว่า ๆ 



ปัจจัยทางธรรมชาตินั้น มันชัดเจน ว่าปีนี้ฝนมันเยอะกว่าปกติจริง และชัชชาติก็ซวย (ใช้คำนี้เลย) ที่มารับตำแหน่งในปีนี้ ที่ฝนมันเยอะแสนเยอะนี้พอดี เพราะงั้นจะโทษว่าผู้ว่าห่วย?? ผมว่าก็ยังพูดไม่ได้เต็มปาก เพราะฝนมันเยอะมากจริง ๆ ข้อมูล หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มีมาสนับสนุน


แล้วเหตุผลทางด้านการเมืองล่ะ?? ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรนะ เพราะบ้านผมไม่ได้อยู่กรุงเทพ แต่กรุงเทพควรจะโคกับกรมอุตุในการติดต่อขอข้อมูล หรือให้คาดหมายอากาศให้ เพื่อวางแผนล่วงหน้า (เช่น ลอกคลอง สำรวจทางน้ำ) 


ทั้งนี้ก็เป็นกำลังให้ผู้ว่าคนใหม่ เอาชนะธรรมชาติและสภาพแวดล้อมของกรุงเทพไปให้ได้ครับ 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่