ความฝันที่กลายเป็นจริง เรื่องของรุ่นน้องนะครับ?

เป็นเรื่องจริงของน้องเราเอง คือเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รุ่นน้องเราเขาอยากเปลี่ยนงาน ปกตินางทำงานด้านศาสนาแต่ที่นี้งานไม่ค่อยมีวันหยุดเลย นางเลยสอบไปรับราชการที่ใหม่ เพราะนางคิดว่าคงได้หยุดแหละ เพราะนางทำงานที่ไม่ได้หยุดเลิกดึกๆมา 2 ปีกว่าๆแล้ว ก่อนไปนางก็ฝันถึง 2 วันติด วันแรกนางฝันว่านางเดินทางไปถิ่นอีสานใต้ ถนนที่มีป่ามีภูเขา มืดมิดสุดๆ แล้วนางไปกับใครที่นางก็ไม่รู้จัก 4-5 คน เป็นรถแครี่บอย ที่นี้ในฝันรถเสียระหว่างทาง ต้องพักกลางทาง ในบ้านที่มีแต่ภูติผี จะหนีก็หนีไม่ได้ เลยท่องคาถาไปเรื่อยๆ จนหลุดมาได้ แต่พอขึ้นรถมันก็ตามมา แล้วก็วนลูปมารถเสีย จนตื่น พอตื่นนางก็เห็นนกตัวใหญ่สีดำ เกาะหน้าต่าง นางก็ตกใจ แต่นางก็คิดว่าแค่ฝัน วันต่อมานางก็ฝันอีก ฝันว่าอยู่ในเมืองที่หมอก และมืดมิด ไม่มีผู้คน ไม่มีแสงไฟ นางได้พักในห้องพักที่เก่าที่แคบ ที่อับ และถูกไล่ล่าจากภูติผี นางว่าในฝันคุยกับใคร เขาก็ไม่ตอบเหมือนไม่ใช่คน นางอยากกลับบ้านก็กลับไม่ได้อีก ออกไปไหนก็เจอแต่ผี นางก็เดินเคว้งคว้างไม่มีที่สิ้นสุดไม่รู้จักใครไง นางก็ท่องคาถาสวดมนต์แต่ก็ไม่ตื่นสักที จนร้องไห้ พอตื่นมา ไปทำงาน นางก็เห็นแมวดำในที่ทำงาน คือนางก็ปรึกษารุ่นพี่ ในที่ทำงาน ร่วมถึงเรา แต่นางก็เลือกที่จะไปทำงานตรงนั้น อีสานใต้ ทุกคนก็เตือนแล้วว่าฝันขนาดนี้อย่าไปเถอะ แต่แล้วนางก็ดื้อ พอไปถึงไม่มีที่พัก ต้องไปพักโรงแรมที่ลักษณะเหมือนในฝันเป๊ะถึง 12 วัน ทำงานด้านศาสนา บริการประชาชน ไม่ติดโควิดสักครั้ง ไปที่นั้นติดเลย มีเรื่องวุ่นวายเข้ามา คือตัวน้องนางมีเซ้นส์ในระดับนึงมาตลอด คือเพื่อนหรือพี่อย่างเราก็จะรู้ดีว่านางมีเซ้นส์สามารถรับรู้เหตุการ์ณล่วงหน้าได้ แต่ทีนี้พอไปทำงานตรงนั้นเซ้นส์หาย กลายเป็นคนธรรมดา ปัญหาเข้ามา มีรายละเอียดที่ค่อนข้างเยอะอยู่ รู้แต่ร้องไห้ทุกวัน และล่าสุดนางไปสัมนา ต่างจังหวัด นางผ่านสถานที่ที่เหมือนกับฝัน นางก็ตกใจแหละ ทุกวันนี้ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปทุกวัน
       น้องเราฝากมาเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ครับ ถ้าฝันขนาดนี้ อย่าดื้อที่จะไปเลยครับ คือเป็นช่วงเบญจเพสของนางด้วยแหละ แต่นางก็ยังบอกเสมอว่า หนูเคยทำงานด้านศาสนา พิธีกรรมบวงสรวง ยังไงหนูก็รอด เอาจริงๆรุ่นพี่หลายๆคน เพื่อนหลายคนก็ห่วงนะ  เพราะสุขภาพกายและใจนางย่ำแย่มาก แต่ทำได้เพียงเป็นกำลังใจ และช่วยเหลือในสิ่งที่พอทำได้