ก่อนที่จะคบกันแฟนเป็นคนกินเหล้าเบียร์ค่ะ ไม่ได้กินจนติดแต่ก็กินเรื่อย ๆ เพราะพ่อเขาจะกินทุกเสาร์-อาทิตย์ แต่เราไม่ชอบคนกินเหล้าเบียร์ อาจจะเพราะที่บ้านไม่มีคนกินเหล้าเบียร์เลย เว้นแต่พี่เขย แล้วพี่เขยเวลาเมาเขาชอบมีเรื่อง โมโหร้าย ทะเลาะกับพี่สาวเราแล้วเอาปืนมาขู่กันบ่อย ๆ ไล่ฟันกันต่อหน้าเราก็เคยมาแล้ว ภาพจำเลยยิ่งไม่ค่อยดี แล้วเราไม่ชอบกลิ่นเบียร์ แบบไม่ชอบเลย เราเวียนหัว
ตอนคบกันปีแรก ๆ เลยมีข้อแลกเปลี่ยนกัน เราขอเขาหยุดกินเหล้าเบียร์ เขาเลยขอให้เราหยุดทำร้ายตัวเองเวลาเครียด เราและเขารักษาสัญญามาได้ตลอดจน 2-3 ปีที่บ้านมาเรียนจบแล้วกลับมาอยู่บ้านตัวเองเราเจอเรื่องเครียดหลายอย่างจนมีอาการเครียดแล้วทำร้ายตัวเองอีกครั้งและถี่กว่าเมื่อก่อน บวกกับแฟนเจอหัวหน้างานคนใหม่ที่สนิทกัน เข้าขากันได้ดี แฟนพาเราไปเปิดตัวกับที่ทำงานเขามากขึ้นเลยทำให้รู้ว่าสังคมเขา ไม่มีใครไม่กินเหล้า หลายคนพยายามชวนเขา แต่เขาเกรงใจเรา จนเรารู้สึกผิด เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาเคยกินแต่พอคบกับเราเหมือนเราไปปิดกั้นความสุขเขา พ่อเขาก็บอกว่าเขากลัวเมีย เพื่อนก็ชอบแซว เลยยิ่งกดดัน แล้วเรารักษาสัญญาที่ให้เขาไม่ได้ เหมือนเอาเปรียบเขา คิดว่าถ้าหากเขาได้กินคงมีความสุขกว่านี้ เพราะหลายครั้งเขาก็ดูอยากกินแต่เกรงใจเรา
จนเราตัดสินใจให้เขากินได้ ทั้งที่ใจก็ยังไม่โอเค เราเคยพยายามทำความเข้าใจคนกินเหล้าด้วยการลงเรียนคลาสไวน์และเครื่องดื่ม ไปอยู่สังคมกินเหล้า ไปร้านเหล้า แต่ทำยังไงเราก็ไม่ชอบสังคม รสชาติของวงเหล้า เราอยากเป็นคนที่เข้าใจเขา แต่เราเข้าไม่ถึง พอเราบอกให้เขากินได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามมาเข้าใกล้ แล้วจะแยกย้ายกันกลับบ้านทันทีจากปกติคือจะอยู่ด้วยกันหลังไปกินข้าวสักพักก่อนแยกย้ายกลับบ้าน
สรุปคือทั้งอาทิตย์นั้นเขากินเหล้าเบียร์ทุกวัน เราเลยยิ่งรู้สึกแย่ว่าที่ผ่านมาเราพรากความสุขตรงนี้จากเขาไป จากปกติที่ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเพราะเขางานยุ่งมาก นาน ๆ จะมีเวลาอยู่ด้วยกันสักทีมันก็เริ่มห่างกัน เราเลยรู้ว่าเราไม่โอเคเลยที่เขากลับไปกิน แต่ก็ไม่อยากขัดขวางความสุขเขา เราร้องไห้ทั้งคืนภาพในหัวมีแต่ว่าไม่อยากให้เขาอยู่กับเราที่เอาแต่คิดอะไรในแง่ลบ ปากบอกได้แต่ในใจกลับไม่ จากปกติเราไม่ชอบออกจากบ้าน ไม่ไปไหนคนเดียว ไม่ชอบกินข้าวคนเดียวเพราะเราเคยมีเขาทุกช่วงเวลา วันนึงเราเลยตัดสินใจทำอะไรโดยไม่มีเข้าอยู่ ไปขับรถคนเดียว กินข้าวคนเดียว ยืนเหม่อริมเขื่อนคนเดียวมันเคว้งไปหมด ร้องไห้เป็นวัน ๆ จนตัดสินใจระบายกับเขา เขาก็บอกนะคะว่าถ้าเราไม่โอเคเขาจะไม่กิน
เราก็พยายามบอกว่าเราแค่ไม่ชิน เลยบอกให้เขากินได้แต่เพลาลงหน่อยได้ไหม ให้กินอาทิตย์แรกก็กินมันทุกวันเลย เราตั้งรับไม่ทันเพราะนอกจากต้องตั้งรับที่เขากินเหล้าแล้วต้องตั้งรับช่วงเวลาที่มีให้กันน้อยลงไปอีก แล้วสังคมวงเหล้าของเขาตอนนี้มันมีทั้งเรื่องชู้สาว กัญชา บุหรี่ เหล้า การพนัน สาวเชียร์เบียร์และคนที่นอกใจแฟน เราไม่โอเคกับการที่เขาอยู่สังคมแบบนี้ ไม่ได้จะบอกว่าคนที่มีรสนิยมการชอบอะไรแบบนี้ผิดนะคะ แต่เรามีภาพจำกับอะไรแบบนี้หลายเรื่อง เราไม่มีพ่อก็เพราะของพวกนั้น เราเกือบไม่ได้เกิดมาเพราะของแบบนั้น แม่กับพี่เราเกือบตายต้องทุกข์ทรมานจนถึงทุกวันนี้เพราะของแบบนั้น บ้านเรามีหนี้สินก็เพราะของแบบนั้น เรากลัวทุกอย่าง จนเหมือนเอาสิ่งที่ไม่ชอบไปยัดเยียดให้เขาไม่ชอบด้วย เราไม่อยากงี่เง่า อยากให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ แต่เราไม่ชอบตัวเองที่ต้องมาร้องไห้แล้วฝืนยิ้มว่าโอเค เราเห็นเขาพูดเชิงสนับสนุนคนที่นอกใจแฟนแล้วเรากลัวว่าสักวันจะเป็นคู่เรา
ไม่อยากงี่เง่า ไม่อยากผิดคำพูด แค่เขาเลือกกินเหล้าเบียร์มากกว่าการมีเวลาอยู่กับเราก็รู้สึกแย่มากพอแล้วค่ะ ถ้าเทียบกันสังคมเราตอนนี้แคบกว่าแฟนมากเลย เพราะคนรอบตัวเราส่วนใหญ่กินเหล้า มันเลยทำให้ไม่ว่าจะทำอะไรจะนึกถึงเขาช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่พยายามหาเวลาอยู่ด้วยกัน เพราะคบกันมา 7 ปี เขาทำงานจนแทบไม่ได้เจอกันเลย เราเลิกงานก็ต้องมารอเจอเขาทุกวัน ขับรถกลับบ้านคนเดียวมืด ๆด้วยใจห่อเหี่ยวตลอด มันไม่ได้กลับบ้านอย่างมีความสุขเหมือนก่อนหน้านั้นที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกันนานกว่านี้ เราคงชินกับการอยู่กับแฟนมากเกินไป จนตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ชินทั้งที่เราอนุญาตเขาเอง ไม่รู้จะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีค่ะ รักเขา ไม่อยากห้ามเขา อยากให้ความสุขกับเขา แต่มันกลายเป็นทำร้ายเราเองค่ะ
ขอเสริมนะคะ เราเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่กินโซดา ไม่กินน้ำอัดลม ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ชอบสังคมวงเหล้า การพนัน สิ่งเสพติด ไม่ชอบการนอกใจ เลยพยายามทำความเข้าใจและเอาตัวเองไปอยู่ในสังคมแบบนั้นแล้วเราไม่ไหวค่ะ รู้สึกว่าตัวเองฝืนและเวลาอยู่กับเหล้านาน ๆ เราเวียนหัวค่ะ ถ้าหากข้อความข้างต้นทำให้ใครไม่พอใจต้องขอโทษด้วยนะคะ สังคมเราค่อนข้างเก็บตัว อยู่แต่บ้าน อ่านนิยาย ดูอนิเมะ เข้าสังคมไม่เก่ง เพื่อนน้อย ชีวิตค่อนข้างน่าเบื่อเลยอาจจะมีความคิดเห็นแก่ตัวไปบ้างต้องขออภัยด้วยค่ะ
ไม่ชินและไม่ชอบที่แฟนกลับมากินเหล้า ควรจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีคะ
ตอนคบกันปีแรก ๆ เลยมีข้อแลกเปลี่ยนกัน เราขอเขาหยุดกินเหล้าเบียร์ เขาเลยขอให้เราหยุดทำร้ายตัวเองเวลาเครียด เราและเขารักษาสัญญามาได้ตลอดจน 2-3 ปีที่บ้านมาเรียนจบแล้วกลับมาอยู่บ้านตัวเองเราเจอเรื่องเครียดหลายอย่างจนมีอาการเครียดแล้วทำร้ายตัวเองอีกครั้งและถี่กว่าเมื่อก่อน บวกกับแฟนเจอหัวหน้างานคนใหม่ที่สนิทกัน เข้าขากันได้ดี แฟนพาเราไปเปิดตัวกับที่ทำงานเขามากขึ้นเลยทำให้รู้ว่าสังคมเขา ไม่มีใครไม่กินเหล้า หลายคนพยายามชวนเขา แต่เขาเกรงใจเรา จนเรารู้สึกผิด เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาเคยกินแต่พอคบกับเราเหมือนเราไปปิดกั้นความสุขเขา พ่อเขาก็บอกว่าเขากลัวเมีย เพื่อนก็ชอบแซว เลยยิ่งกดดัน แล้วเรารักษาสัญญาที่ให้เขาไม่ได้ เหมือนเอาเปรียบเขา คิดว่าถ้าหากเขาได้กินคงมีความสุขกว่านี้ เพราะหลายครั้งเขาก็ดูอยากกินแต่เกรงใจเรา
จนเราตัดสินใจให้เขากินได้ ทั้งที่ใจก็ยังไม่โอเค เราเคยพยายามทำความเข้าใจคนกินเหล้าด้วยการลงเรียนคลาสไวน์และเครื่องดื่ม ไปอยู่สังคมกินเหล้า ไปร้านเหล้า แต่ทำยังไงเราก็ไม่ชอบสังคม รสชาติของวงเหล้า เราอยากเป็นคนที่เข้าใจเขา แต่เราเข้าไม่ถึง พอเราบอกให้เขากินได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามมาเข้าใกล้ แล้วจะแยกย้ายกันกลับบ้านทันทีจากปกติคือจะอยู่ด้วยกันหลังไปกินข้าวสักพักก่อนแยกย้ายกลับบ้าน
สรุปคือทั้งอาทิตย์นั้นเขากินเหล้าเบียร์ทุกวัน เราเลยยิ่งรู้สึกแย่ว่าที่ผ่านมาเราพรากความสุขตรงนี้จากเขาไป จากปกติที่ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเพราะเขางานยุ่งมาก นาน ๆ จะมีเวลาอยู่ด้วยกันสักทีมันก็เริ่มห่างกัน เราเลยรู้ว่าเราไม่โอเคเลยที่เขากลับไปกิน แต่ก็ไม่อยากขัดขวางความสุขเขา เราร้องไห้ทั้งคืนภาพในหัวมีแต่ว่าไม่อยากให้เขาอยู่กับเราที่เอาแต่คิดอะไรในแง่ลบ ปากบอกได้แต่ในใจกลับไม่ จากปกติเราไม่ชอบออกจากบ้าน ไม่ไปไหนคนเดียว ไม่ชอบกินข้าวคนเดียวเพราะเราเคยมีเขาทุกช่วงเวลา วันนึงเราเลยตัดสินใจทำอะไรโดยไม่มีเข้าอยู่ ไปขับรถคนเดียว กินข้าวคนเดียว ยืนเหม่อริมเขื่อนคนเดียวมันเคว้งไปหมด ร้องไห้เป็นวัน ๆ จนตัดสินใจระบายกับเขา เขาก็บอกนะคะว่าถ้าเราไม่โอเคเขาจะไม่กิน
เราก็พยายามบอกว่าเราแค่ไม่ชิน เลยบอกให้เขากินได้แต่เพลาลงหน่อยได้ไหม ให้กินอาทิตย์แรกก็กินมันทุกวันเลย เราตั้งรับไม่ทันเพราะนอกจากต้องตั้งรับที่เขากินเหล้าแล้วต้องตั้งรับช่วงเวลาที่มีให้กันน้อยลงไปอีก แล้วสังคมวงเหล้าของเขาตอนนี้มันมีทั้งเรื่องชู้สาว กัญชา บุหรี่ เหล้า การพนัน สาวเชียร์เบียร์และคนที่นอกใจแฟน เราไม่โอเคกับการที่เขาอยู่สังคมแบบนี้ ไม่ได้จะบอกว่าคนที่มีรสนิยมการชอบอะไรแบบนี้ผิดนะคะ แต่เรามีภาพจำกับอะไรแบบนี้หลายเรื่อง เราไม่มีพ่อก็เพราะของพวกนั้น เราเกือบไม่ได้เกิดมาเพราะของแบบนั้น แม่กับพี่เราเกือบตายต้องทุกข์ทรมานจนถึงทุกวันนี้เพราะของแบบนั้น บ้านเรามีหนี้สินก็เพราะของแบบนั้น เรากลัวทุกอย่าง จนเหมือนเอาสิ่งที่ไม่ชอบไปยัดเยียดให้เขาไม่ชอบด้วย เราไม่อยากงี่เง่า อยากให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ แต่เราไม่ชอบตัวเองที่ต้องมาร้องไห้แล้วฝืนยิ้มว่าโอเค เราเห็นเขาพูดเชิงสนับสนุนคนที่นอกใจแฟนแล้วเรากลัวว่าสักวันจะเป็นคู่เรา
ไม่อยากงี่เง่า ไม่อยากผิดคำพูด แค่เขาเลือกกินเหล้าเบียร์มากกว่าการมีเวลาอยู่กับเราก็รู้สึกแย่มากพอแล้วค่ะ ถ้าเทียบกันสังคมเราตอนนี้แคบกว่าแฟนมากเลย เพราะคนรอบตัวเราส่วนใหญ่กินเหล้า มันเลยทำให้ไม่ว่าจะทำอะไรจะนึกถึงเขาช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่พยายามหาเวลาอยู่ด้วยกัน เพราะคบกันมา 7 ปี เขาทำงานจนแทบไม่ได้เจอกันเลย เราเลิกงานก็ต้องมารอเจอเขาทุกวัน ขับรถกลับบ้านคนเดียวมืด ๆด้วยใจห่อเหี่ยวตลอด มันไม่ได้กลับบ้านอย่างมีความสุขเหมือนก่อนหน้านั้นที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกันนานกว่านี้ เราคงชินกับการอยู่กับแฟนมากเกินไป จนตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ชินทั้งที่เราอนุญาตเขาเอง ไม่รู้จะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีค่ะ รักเขา ไม่อยากห้ามเขา อยากให้ความสุขกับเขา แต่มันกลายเป็นทำร้ายเราเองค่ะ
ขอเสริมนะคะ เราเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่กินโซดา ไม่กินน้ำอัดลม ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ชอบสังคมวงเหล้า การพนัน สิ่งเสพติด ไม่ชอบการนอกใจ เลยพยายามทำความเข้าใจและเอาตัวเองไปอยู่ในสังคมแบบนั้นแล้วเราไม่ไหวค่ะ รู้สึกว่าตัวเองฝืนและเวลาอยู่กับเหล้านาน ๆ เราเวียนหัวค่ะ ถ้าหากข้อความข้างต้นทำให้ใครไม่พอใจต้องขอโทษด้วยนะคะ สังคมเราค่อนข้างเก็บตัว อยู่แต่บ้าน อ่านนิยาย ดูอนิเมะ เข้าสังคมไม่เก่ง เพื่อนน้อย ชีวิตค่อนข้างน่าเบื่อเลยอาจจะมีความคิดเห็นแก่ตัวไปบ้างต้องขออภัยด้วยค่ะ