[SR] รีวิว SUBARU XV 2.0 I-P EYESIGHT ขับ 4 ช่วงล่างเด่น นุ่มกว่าเดิม ความปลอดภัยเต็มขึ้น !

กระทู้รีวิว

 
SUBARU นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนนั้นน่าจะรู้จักกันดีในแบรนด์ที่ทำระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในทุกคันของค่ายตัวเอง ยกเว้นตัวสปอร์ตที่เป็นขับหลัง และเป็นค่ายรถยนต์ที่โดดเด่นในเรื่องนี้อย่างมาก ระบบช่วงล่าง และ ขับเคลื่อนค่ายนี้หลายๆคนได้ลองก็น่าจะติดใจกัน สำหรับ SUBARU เองในไทยก็มียอดขายได้เรื่อยๆ รวมถึงก็ยังคงลุยตลาดอย่างต่อเนื่องจะเน้นไปทางรถ SUV มากกว่าทั้ง FORESTER – XV – OUTBACK และยังเอาตัวสปอร์ต BRZ ของค่ายมาขายในไทยด้วยนะ และ ในรุ่น XV จริงๆนั้นถือว่าประสบความสำเร็จมากๆในเจนที่แล้ว เป็นรถยนต์ SUV ขนาดเล็ก ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำราคาได้ดีและดีไซน์ที่มีความดุดัน สายลุย จึงไม่แปลกที่จะเห็นบนถนน เยอะมากๆ และในรุ่นนี้เป็นการต่อยอด XV ให้ออฟชัน และ สเปกแน่นขึ้นในรุ่น MinorChange เพิ่มระบบใหม่ๆเข้ามาทั้ง EYESIGHT และ กล้องรอบคันต่างๆให้มาครบไม่ต้อง GT และ  X-Mode ที่หลากหลายขึ้นรวมถึงการปรับค่าช่วงล่างให้นุ่มขึ้น และ หน้าตาเล็กๆน้อยทั้งด้านหน้าและด้านหลังไฟท้าย รวมถึง Memmory Seat นั้นเองทำให้อาจจะเข้าไปสู้กับรถยนต์ ตลาดได้สบายขึ้นและการขับขี่ช่วงล่างที่โดดเด่นแบบไม่มีตัวไหนสู้ได้กับราคาประมาณ ล้านต้นๆ
 

 

 

 
SUBARU XV EYESIGHT ตัวนี้จะยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน  BOXER DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร  156 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด  196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive ก็ยังคงใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาเช่นเดิมสำหรับค่ายนี้ ส่วนออฟชันอื่นๆก็ยังคงให้มาครบครับ ทั้ง ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED พร้อมระบบปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ และ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ รวมถึง ปรับตามวงเลี้ยวได้ด้วย ส่วนทางด้านภายในก็มีทั้ง หน้าจอ ขนาด 8.0 นิ้ว ระบบสัมผัส Touchscreen รองรับ Android Auto – Apple Carplay รวมถึง จอ MID ตรงกลาง และ บนหน้าปัดสำหรับแสดงข้อมูลตัวรถ และ การใช้งานทั้งหมด อีกทั้งยังใส่ใช้งาน X-Mode เข้ามาให้ที่ปรับได้ 2 โหมดมากกว่าเดิม พร้อมกับ Paddle Shift นั้นเอง เรียกได้ว่าระบบ X-Mode เนี่ยแหละทำให้การลุยมันโดดเด่นกว่าคู่แข่งทันที และ ระบบช่วงล่าง ตัวรถที่สร้างบนพื้นฐาน SGP ที่เป็น Platform ใหม่ทั้งหมดของตัวรถ รวมถึงในอนาคตของค่ายนี้ ทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และขับขี่ดีมากขึ้น การกระจายน้ำหนักหน้าหลังดีขึ้นด้วย ทำงานคู่กับระบบขับ 4 แบบ สมมาตรบอกเลยว่าลงตัวมากๆคันนึง และ ช่วงล่างมีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้นุ่มขึ้น และ ดีไซน์รอบๆคันเปลี่ยนใหม่เล็กน้อย ไฟท้ายแบบรมดำ และ กันชนหน้ากระจังหน้าแบบใหม่ และออฟชันที่น่าสนใจคือเพิ่มระบบช่วยเหลือการขับขี่ Eyesight ทั้ง ระบบรักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้า Adaptive Cruise Control และ ระบบเตือนการชนพร้อมเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision Braking ระบบเตือนรถออกนอกเลน Lane Departure Warning ระบบเตือนขณะขับรถส่าย Lane Sway Warning ระบบเตือนเมื่อรถข้างหน้าเคลื่อนที่ Lead Vehicle Start Alert รวมถึงออฟชันความสบาย หน่วยความจำบริเวณเบาะไฟฟ้าฝั่งคนขับ เพิ่มระบบล็อกประตูอัตโนมัติ ทั้งหมดทำให้มันลงตัวขึ้นโดยที่ไม่ต้องเล่นรุ่น GT แบบตัวก่อนๆแล้วนั้นเองครับ
 
SUBARU XV 2.0 I-P EYESIGHT : 1,299,000 ล้านบาท 
 

 
EXTERIOR
 
งานออกแบบภายนอกนั้นจริงๆ SUBARU เองก็ถือว่าเป็นค่ายที่อาจจะออกแบบรถไม่ได้มีความล้ำหวือหวามากนัก แต่ก็ยังคงมีความอนุรักษ์นิยมชัดอยู่เหมือนกัน ซึ่งในรุ่นปรับหน้าตาใหม่ Minorchange นั้นได้เปลี่ยนหลายๆจุดทั้งหมดเหมือนกัน ทั้งรูปทรงกระจังหน้า หรือ  กันชนหน้า มีส่วนสีดำใหญ่ขึ้นมามากกว่าเดิม แลกมากับความโค้งมน ทันสมัยและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นแต่ทั้งเรื่องของขนาด หรือ การยกสูงของตัวรถต่างๆนั้นต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีเช่นเดิม การลุย การคล่องตัวต่างๆนั้นยังคงเป็นจุดเด่นของรถยนต์ขนาดนี้ และเป็นตัวเดียวในบรรดาคู่แข่งที่ ขับ 4 และ สามารถลุยได้จริงๆถือว่าดีครับ และได้ลายล้อใหม่รวมถึงในด้านท้ายก็ปรับเล็กๆน้อยเมื่อมองเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ตัวรถเองยาว  4.4 เมตร และ กว้าง 1.8 เมตร และ ฐานล้อยาว 2.6 เมตร รวมถึงความสูงใต้ท้อง 22 เซนติเมตร
 

 

 

 
จะเห็นการ Minorchange ครั้งนี้เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเน้นไปที่ กระจังหน้า กันชนทั้งหน้า รวมถึงไฟท้ายแบบรมดำ อาจจะไม่ได้เปลี่ยนชัดเจนอะไรมากถ้าไม่ได้มองสังเกตดีๆครับ ในด้านหลังเราจะได้รูปทรงอะไรที่เหมือนเดิมแต่ไฟท้ายรมดำสวย ดุดันมากกว่าเดิม รวมถึงด้านข้างเองก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนักยกเว้นล้อลายใหม่และยังคงได้มือจับประตูสีเงิน และ ราวหลังคาเช่นเดิมตามสไตล์  SUBARU  แต่เมื่อมองด้านหน้าส่วนที่แตกต่างกันจริงๆคือกันชนหน้าแบบใหม่ เส้นสายสีดำกินพื้นที่ขึ้นมากกว่าเดิม และ กันชนหน้าแบบใหม่ ถือว่าดูสปอร์ตมากกว่าเดิมเล็กน้อยครับ ซึ่งภายนอกจะมองยากมากๆถ้าไม่ได้เห็นล้อ หรือ กันชนหน้า แต่ออฟชันการใช้งานคือจุดเปลี่ยนหลักๆ
 

 

 
ในด้านหน้าเราจะเห็นว่าเส้นสายดุดันเอาเรื่องเลยบนกระโปรงหน้า เล่นกับแสงสีได้สวยงามมีความสันคมแบบรุ่นก่อนเข้ามาชัดเจน แต่เสริมด้วยไฟหน้าแบบเพรียวมากขึ้น และกระจังหน้าที่กระชับมากกว่าเดิม กว้างยาวมากขึ้นทำให้ตัวรถดูเตี้ยแบนกว่าเดิม แม้ความสูงจะเท่าเดิมครับจุดนี้ถือว่าดีให้กันชนล่างนั้นดูเป็นสีดำทั้งหมด และ กระจังหน้ามีลูกเล่นมากกว่าเดิม ส่วนในด้านท้ายนั้นยังคงสวยงามเสริมกันชนล่างเข้ามาสปอยเลอร์หลังสีดำทำให้ลงตัวขึ้น จริงๆด้านท้ายรถนั้นออกแบบดีในหลายๆรุ่นนะ ไฟท้ายแบบใหม่ทรงเดิม แต่รมดำเข้ามา และกันชนล่าง มีสีดำขนาดใหญ่เป็นการตกแต่งมาตรฐานพร้อมกับ ไฟตัดหมอกด้านหลังในฝั่งขวาล่างครับ ส่วนอีกข้างก็เป็นไฟทับทิมปกติ แต่ด้านท้ายการที่เสริมสีดำเข้ามาเยอะทำให้ตัวรถดูไม่อ้วนมากเกินไปอันนี้ถือว่าออกแบบได้ดีนะ แม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก
 

 

 

 
รายละเอียดกระจังหน้าเปลี่ยนแปลงใหม่หมดจากตาข่ายแบบเดิมเป็นตัว U ใหญ่ซ้อนกันดูดีเทลดีขึ้น และมีการเล่นสีเทาเข้มเสริมโครเมียมเล็กๆครับ จริงๆเมื่อมองแต่ละส่วนๆตัวรถดูสวยนะ ทั้งกระจังหน้าทรงเอกลักษณ์ พร้อมกับ ตราดาวลูกไก่ ถือว่าสวยและเป็นกระจังหน้าที่ดีกว่ารุ่นพี่เค้าซะอีกอันนี้ถือว่าดีและเมื่อมองลงมาตรงไฟตัดหมอกก็ทำได้สวย ชายล่างเป็นลิ้นหน้าแบบสปอร์ตแต่ก็ไม่ทำให้ตัวรถเตี้ยเกินไปครับยังคงลุยได้สบายๆ ส่งผลให้รีดอากาศได้ดีด้วย และ กระจกมองข้างนั้นจะเห็นกล้องรอบคันมาให้ใต้กระจกมองข้างครับทำให้ มองซ้ายขวาได้ และมีกล้องรอบคันและ งานออกแบบยังคงเป็น 2 สีทำให้ไม่ได้ดูหนาเกินไปครับ เป็นการออกแบบแบบยื่นจากประตูเหมือนเดิม และประตูหน้ายังคงมีเส้นแบ่งเช่นเดิม จริงๆในหลายๆส่วนมันยังคงเป็นการออกแบบที่คุ้นตาครับจากรุ่นก่อนทั้งหมด
 

 

 

 
แน่นอนว่าตัวล้อได้ลายใหม่ในขนาด 17 นิ้วดุดันสวยขึ้น พร้อมกับล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/60 R17 ลวดลายถือว่าสวยมากและดูลงตัวมากกว่ารุ่น GT ซะอีกนะซึ่งส่วนตัวผมว่ามันดุดันและลุยเข้ากับตัวรถได้ดีมากไฟท้ายนั้นรูปทรงดูเรียวยาวลงตัว ไฟเบรก LED ตรงโซนสีขาวข้างใน รุ่นนี้มีรมดำเข้ามาให้ แต่ทั้งนี้ ไฟถอย ไฟหรี่ หรือ ไฟเลี้ยวยังคงเป็นหลอดไส้ชัดๆ อันนี้น่าเสียดายมากๆ น่าจะเป็น LED แบบใหม่ทั้งหมดหรือเป็นไฟเส้นได้แล้วนะ แต่ถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อน MinorChange เองนั้นสเปกไม่มีเปลี่ยนแปลงรวมถึงงานออกแบบทั้งหมด ไฟหน้านั้นรูปทรงสปอร์ตมากกว่าเดิม เพรียวบางมากขึ้นพร้อมกับไฟหน้าสีขาว LED Projector ที่รองรับการปรับสูงต่ำ อัตโนมัติ และ เลี้ยวตามพวงมาลัย พร้อมกับไฟสูงต่ำปกติ และไฟเลี้ยวแบบหลอดไส้ พร้อมกับไฟ DRL LED ใส่เข้ามาให้เป็นเส้นสายสวยงามรวมถึงใส่ที่ล้างไฟหน้าเข้ามาให้เหมือนเดิมแม้จะเป็นรุ่นที่ขายในไทยก็ตามครับจุดนี้
 

 
INTERIOR
 
ภายในเองถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อนปรับออฟชันแน่นอนว่างานออกแบบการจัดวางยังคงไม่ต่างจากเดิม มีหน้าจอตัวบน การปรับแอร์พวกนี้ตำแหน่งที่เเราคุ้นเคยกันดี รองรับ Apple Android ได้สบาย และในรุ่น XV จะมีการตกแต่งเดินด้านสีส้มเข้ามาซึ่งรอบนี้ได้หนังผสมกับผ้ารูปทรงเท่ๆมาใช้งาน และการตกแต่งเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามประตูถ้ามองเทียบกับรุ่น GT ก่อนหน้านี้นั้นเองครับ บรรยากาศภายในห้องโดยสารนั้นโปร่งโล่งอย่างมาก ทั้งมุมมองของผู้ขับขี่รถหรือนั่งหลังก็ตามด้วยกระจกที่สูงกว้างมากและขอบประตูที่ต่ำทำให้เราเห็นทุกอย่างจริงๆ ข้อดีคือทัศนวิสัยดีมากๆในการขับขี่ มองต่างๆนั้นทำได้ดีเลยแหละ รวมถึงขอบประตูก็มองได้ชัดเจน แต่ก็จะทำให้คนข้างนอกมองเข้ามาได้ง่าย แสงแดดเข้ามาได้เยอะมากกว่าทั่วไปนั้นเอง แต่ถ้าถามความเห็นหลายๆท่านที่นั่งต้องบอกเลยว่า มุมมองแบบนี้ส่งผลดีมากกว่านั่งสบาย ไม่อึดอัด ดูโปร่งโล่งคนนั่งจะชอบมากๆ ในการออกแบบที่โปร่งแบบนี้ และ มุมมอง มุมบอดอะไรพวกนี้ก็จะลดน้อยลงไปได้เยอะพอสมควรเลยครับ จริงๆทั้ง FORESTER XV นั้นจะให้อารมณ์เดียวกันจริงๆเลยนะ
 

 

 

 
การออกแบบคอนโซลกลางเมื่อมาดูชัดๆจะเห็นว่าออกแบบมาสมมาตร ซ้ายขวาได้ดี และตำแหน่งหน้าจออยู่ในระยะที่ใช้งานสัมผัสได้ กดใช้งานได้รวมถึงมองได้ไม่ต่ำหรือสูงมากเกินไป มีจอแสดงข้อมูลต่างๆส่วนบนสุดเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ในการแสดงสถานะการขับขี่ และ ที่ชอบคือการใส่ใจเวลาเปิดไฟ ไฟเลี้ยว เบรก พวกนี้จะติดในกราฟิกทั้งหมดเลยครับ รวมถึงเวลาเข้า X MODE จะปรับให้เห็นองศาเวลาขับลุย หรือ ระดับน้ำของตัวรถว่าเอียงแค่ไหน จอหลักตรงกลางนั้นรองรับ Android Auto – Apple Carplay ทั้งหมด สัมผัสเต็มรูปแบบ ขนาด 8.0 นิ้ว ใช้งานได้ดี รองรับกล้อง 360 องศาได้ มีเมนูภาษาไทย และสัมผัสใช้งานได้ดีไม่หน่วงหรือเอ๋ออะไรครับ ตรงนี้ค่อนข้างโอเคเลย ทางด้านพวงมาลัยนั้นจะเป็นตัวเดียวกับ เลยนั้นเองรูปทรงอะไรเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงปุ่มต่างๆในการควบคุมถือว่าจัดเต็มทั้งการควบคุมเครื่องเสียงต่างๆ การตั้งค่าระบบ Cruise Control การตั้งค่าหน้าจอหลัก หน้าจอเรือนไมล์ทั้งหมด และ ใช้งานอาจจะปรับตัวกันนิดนึงนะ รูปทรงของพวงมาลัยอะไรนั้นจับได้ถนัดกำลังดีและใช้งานโอเคอย่างมากไม่มีปัญหาอะไร เซ็ตพวงมาลัย คมขับขี่ค่อนข้างไว้ใจได้ไม่เบาไม่หนักถือว่าเป็นพวงมาลัยที่เซ็ตมาแบบลงตัวไม่ต้องไปทำอะไรกับมันอีกแล้ว
 

 
ชื่อสินค้า:   SUBARU XV 2.0 I-P EYESIGHT
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่