สงสัยว่าเราเติบโตมาในสังคมที่ไม่ได้สอนให้ใช้ความคิดรึเปล่า แต่เป็นสังคมที่ทำตามๆกันมา ถ้าผิดแปลกออกไป หรือตั้งคำถาม คือความไม่ปกติ เช่น พ่อแม่คือที่สุด ต้องสปอยไม่ยั้ง ถามมีคำถามข้อสงสัย
เรากับที่บ้านมีความคิดที่แตกต่างกันมากๆ และทะเลาะกันบ่อยๆ คือทุกอย่างที่เราพยายามทำดี บอกด้วยเหตุผล เป็นไปว่าทำให้ผิดหวัง เพราะเราไม่ได้ “ปฏิบัติแบบไทยๆ” แม่บอกว่า “ไม่น่าเกิดมาเป็นคนไทย” ปัญหาหลักๆคือเราเป็นคนชอบพูดกันด้วยเหตุผล เวลาแก้ปัญหาอะไรเรามันจะแจกแจงปัญหา ทางเลือก ผลดีผลเสียของทางเลือก เพื่อมาพิจารณาร่วมกัน แต่แม่เราเป็นคนที่ไม่สามารถรับฟังตรงนี้ได้ เขาคือจะออกแนวแม่แตงโม คนโบราณ ต้องการหวานหู ต้องการฟังสิ่งที่อยากฟัง ถ้าบอกว่าแม่เลือก A จะไม่ได้ B นะ จะไม่แฮปปี้ มันต้องได้ทั้ง A & B ส่วนเขาจะลือกอะไร มันขึ้นกับความเมตตาของเขา คือเขาสมควรได้ทั้งหมด ถ้าเขาเลือกแค่ 1 อย่างคือเขามีเมตตากับเรา รักลูกไม่อยากให้ลูกเสียเงินมาก (ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่แนวคิดต่าง) คำพูดพ่อแม่คือสูงสุด (แต่เขาไม่ฟังพ่อเขา เราก็ไม่ฟังเขา แต่เขาคาดหวังให้เราฟังเขา) นี่มัน queen logic ชัดๆ
- เรากำลังจะกลับไทย เลยจะแวะญี่ปุ่น แม่ขอตามมาด้วย ทำให้การเที่ยวแบบรถไฟฟ้ามันไม่โอเคแล้ว เราเลยคิดว่าจะเช่ารถขับ ก็คิดว่าไม่น่าไหว เพราะหิมะและขับพวงมาลัยคนละด้าน เลยคิดว่าจะจ้างคนขับพร้อมรถ ก็ไปดูมามันวันละ 20,000 บาท 5 วัน ค่ารถอย่างเดียวก็ 1 แสน เราก็เอาไปบอกแม่ แม่บอกถ้าจะไปก็ได้ แต่ขอดูทัวร์เผื่อก่อน ถูกกว่าเยอะ เราเลยไปคุยกับสามี ว่าเราจ่ายได้มั้ย สามีก็ถามทำไมต้อง private tour ขนาดนั้น เอางี้ขอจ่ายค่ารถ 1/2 นึง (50,000 บาท) แต่ยังจ่ายค่าโรงแรมค่ากิน เท่ากับว่าเราจ่าย 50,000 (รถ 1/2 นึง) + 75,000 (ค่าเครื่องพวกเรา) + 50,000 (รร) + 50,000 (ค่ากิน และเข้าชม) แค่ทริปญี่ปุ่น ก็ 2 แสนกว่าแล้ว 4 คน ไหนจะต้องจ่ายตอนอยู่ไทยอีก รีสอร์ท เครื่อง เราคิดว่าว่าไทยญี่ปุ่นรอบนี้ ไม่ต่ำกว่า 4 แสนแน่นอน
ในความคิดของเราคืออยากสปอยแม่ คิดว่าแม่จะดีใจ ปรากฏโดนด่ากระจาย เพราะเราขอหารค่ารถ เขาโมโหตรงที่ว่า ทำไมเราต้องมาคิดเรื่องเงินกับพ่อแม่ ทั้งๆที่เขาให้เราไม่อั้น ตอนที่เขาเลี้ยงเรา เขาเลี้ยงเรามาอย่างดีและเราว่าคิดแบบนี้ ไม่เคยตอบแทนบุญคุณ และลามไปว่าสามีเราซื้อกีต้าตัวละแสนได้ แต่จ่ายค่ารถเที่ยวให้พ่อแม่ภรรยา 1 แสนไม่ได้
- มาเรื่องบ้าน ลูกเพื่อนเป็นหมอซื้อบ้านเดี่ยวให้ แม่เขาไม่ต้องอยู่ทาวโฮม ก็มาตัดพ้อกับเรามาลูกชั้นมันไม่คอยนึก ไม่เคยจะตอบแทนบุญคุณ เราก็งงว่าแม่เราอยูาบ้านเดี่ยวสิบกว่าล้านอยู่แล้ว มันไม่เหมือนคนที่เขาอยู่ทาวโฮมมั้ย แต่เราก็เห็นด้วยว่าควรซื้อบ้านใหม่ ที่มี universal design เราเลยบอกว่าก็ขายบ้านปัจจุบัน และเราช่วยผ่อนเดือนละแสน แบะพ่อเราก็ยังทำงานอยู่ เราน่าจะพอซื้อบ้านตามโครงการใหม่ๆที่ขาย 15-20 ล้าน ได้ไม่ลำบาก แต่เราต้องช่วยค่าใช้จ่ายครอบครัวที่ US น้อยลง เราต้องไปคุยกับสามีก่อน แต่เราคิดว่าเขาโอเค คือคิดว่าน่าจะดีใจ ปรากฏว่ากรี๊ดแตกอีกแล้ว ถามว่า “นี่ชั้น เลี้ยงแกมาให้มันฟรีๆ ใช่มั้ย ไม่ได้อะไรสักอย่าง ค่าบ้านแกก็ต้องออก มันคิดช่วยอะไรบ้าง” คือเรางงมาก มันเกี่ยวอะไรกับสามีเรา? สามีเราก็บอกว่าถ้าแม่เราอยู่ในสลัม เขาก็จะช่วย แต่นี่แม่เราอยู่บ้านหรู ที่กำลังจะหรูขึ้นไปอีก ทำไมเขาต้องช่วย แม่เราก็บอกว่าเราผิดที่ไม่สอนสามีเรื่องการกตัญญู ตอบแทน
- เราคุยกับสามีว่าหรือปัญหาอยู่ที่ว่าแม่ไม่ได้สินสอด แต่แม่ก็ไม่เคยเรียกร้องหนิ หรือจริงๆแล้วอยากแบบว่าลูกเสนอให้แต่ไม่เอา สามีก็ถามว่าปกติสินสอดคือเท่าไหร่ เราบอก 1 ล้านมั้ง สามีก็บอกว่ากลับไทยไปเราก็ไปให้ได้ ถ้ามันจะจบความดราม่า เราเลยเปิดวิดีโอ ปอ หมอบกราบมอบพวงมาลัยให้แม่แตงโม ให้สามีดู ให้ทราบว่านี่คือวิถีไทย คิดซะว่าเล่น roleplay พอบอกแม่ไปว่าจะให้สามีเราคลานมาหมอบสินสอด เทรนมาแล้ว แม่กรี๊ดระเบิดเลย บอกไม่ได้อยากได้เงิน (แต่เห็นพูดเรื่องเงินตลอด?) บอกว่าเอาเงินมาฟาดหัวชั้นไม่ได้
- คือบอกว่าไม่ชอบสามีเรา สามีเรามันก็ขี้เกียจจะบินมาไทย เราเลยบอกว่างั้นไม่ต้องมาไทย เอาค่าเครื่องบินมาเป็นเงินสดไปสปอนแม่แทน วินวินทั้งคู่ วามีปฏิเสธ บอกอยากมาสวัสดีแม่ เราก็เห็นว่าเออ มันก็ดีนะ เลยไปเล่าให้แม่ฟัง นึกว่าแม่จะดีใจ สามีเราอยากมาเจอ ปรากฏว่าโกรธหนักมาก กรี๊ดอีกแล้ว คิดว่าเอาเงินฟาดหัว ไม่เคารพ อิหยังวะ ก็บอกไม่อยากเจอ แต่อยากให้ตอบแทน เอาเงินมากให้กินขนมก็ดีแล้ว และจบปิดที่ว่าเราไม่มีความเป็นคนไทย กตัญญู คือจะเอาอะไร ถามว่าต้องการอะไร ก็ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน เรารู้สึกเหมือนคุยกับเด็กที่กรี๊ดๆ แต่พัฒนาการด้านอารมณ์ยังไม่พัฒนา ไม่สามารถบอกความต้องการตัวเองได้ เราไม่สามารถเข้าใจเขาได้ อะไรที่เราคิดว่าดี พยายามทำดี เขาแปรความเป็นด้านลบหมดเลย จนเรารู้สึกว่าความสัมพันธ์พวกเรา toxic มากเลย มันไม่ใช่แค่เขาทำร้ายเรา เราก็ทำร้ายเขาเหมือนกัน (ถึงได้กรี๊ดขนาดนั้น) เรารู้สึกว่าถ้าเป็นแฟน ผัวเมีย ที่อยู่กันแล้วทรมานกัน เข้ากันไม่ได้ คงเลิกหรือหย่ากันไปแล้ว แต่พอเป็นคนในครอบครัวกลับต้องทนทรมานกัน ใจนึงเราก็อยากตัดขาดกับเขาไปเลย บางทีก็คิดว่านี่อาจจะดีกว่า ไม่งั้นก็อยู่ในความสัมพันธ์แบบไม่มี opinion ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เอ่ย จะไปเที่ยวหรอ จัดการเอาเลย ผิดพลาดมาจะได้ไม่มาโทษกัน ต้องการเงินหรอ ส่ง bill มาเลย บอกว่าจ่ายไม่อั้น เราไม่ต้องเสนอว่าจะออกอะไรยังไง เขาไม่กล้าส่งบิลมาหลายแสนหรอก เสียศักดิ์ศรี
การรับมือกับแม่เราทำให้เราเหมือนเป็นซึมเศร้า เพราะเรารู้สึก worthless มาก เพราะเขาจะด่าเราตลอดว่าเลว เนรคุณ กรี๊ดใส่เรา คือด้านความคิดเราก็ประคองตัวเองได้ เพราะเรารู้ว่าเราไม่ได้ worthless เพราะเรามีการงานที่ดี มีครอบครัวที่ดี ได้ทุกอย่างที่อยากได้ เราสนับสนุนนักเรียนเราให้เขาก้าวไปข้างหน้า เราพยายามคิดที่จะดูแลครอบครัวเราหลายๆแบบ ซึ่งมันไม่สนองความต้องการเขา เราเข้าใจว่าการให้ที่ไม่ถูกจุด มันไม่เติมเต็ม ประกอบกับการสื่อสารที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน และความคิดของคน progressive กับ conservative สามีเราบอกว่ามันเหมือนกับการคุยกับคนคลั่งศาสนา เขาจะไม่มีวันเข้าใจได้เลย ถ้าพยายามอธิบาย วิธีที่ดีคือไม่ต้องอธิบาย ยิ่งอธิบายยิ่งสร้างความเกลียดชัง
วิถีไทย กับการใช้เหตุผล ของคนในครอบครัว
เรากับที่บ้านมีความคิดที่แตกต่างกันมากๆ และทะเลาะกันบ่อยๆ คือทุกอย่างที่เราพยายามทำดี บอกด้วยเหตุผล เป็นไปว่าทำให้ผิดหวัง เพราะเราไม่ได้ “ปฏิบัติแบบไทยๆ” แม่บอกว่า “ไม่น่าเกิดมาเป็นคนไทย” ปัญหาหลักๆคือเราเป็นคนชอบพูดกันด้วยเหตุผล เวลาแก้ปัญหาอะไรเรามันจะแจกแจงปัญหา ทางเลือก ผลดีผลเสียของทางเลือก เพื่อมาพิจารณาร่วมกัน แต่แม่เราเป็นคนที่ไม่สามารถรับฟังตรงนี้ได้ เขาคือจะออกแนวแม่แตงโม คนโบราณ ต้องการหวานหู ต้องการฟังสิ่งที่อยากฟัง ถ้าบอกว่าแม่เลือก A จะไม่ได้ B นะ จะไม่แฮปปี้ มันต้องได้ทั้ง A & B ส่วนเขาจะลือกอะไร มันขึ้นกับความเมตตาของเขา คือเขาสมควรได้ทั้งหมด ถ้าเขาเลือกแค่ 1 อย่างคือเขามีเมตตากับเรา รักลูกไม่อยากให้ลูกเสียเงินมาก (ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่แนวคิดต่าง) คำพูดพ่อแม่คือสูงสุด (แต่เขาไม่ฟังพ่อเขา เราก็ไม่ฟังเขา แต่เขาคาดหวังให้เราฟังเขา) นี่มัน queen logic ชัดๆ
- เรากำลังจะกลับไทย เลยจะแวะญี่ปุ่น แม่ขอตามมาด้วย ทำให้การเที่ยวแบบรถไฟฟ้ามันไม่โอเคแล้ว เราเลยคิดว่าจะเช่ารถขับ ก็คิดว่าไม่น่าไหว เพราะหิมะและขับพวงมาลัยคนละด้าน เลยคิดว่าจะจ้างคนขับพร้อมรถ ก็ไปดูมามันวันละ 20,000 บาท 5 วัน ค่ารถอย่างเดียวก็ 1 แสน เราก็เอาไปบอกแม่ แม่บอกถ้าจะไปก็ได้ แต่ขอดูทัวร์เผื่อก่อน ถูกกว่าเยอะ เราเลยไปคุยกับสามี ว่าเราจ่ายได้มั้ย สามีก็ถามทำไมต้อง private tour ขนาดนั้น เอางี้ขอจ่ายค่ารถ 1/2 นึง (50,000 บาท) แต่ยังจ่ายค่าโรงแรมค่ากิน เท่ากับว่าเราจ่าย 50,000 (รถ 1/2 นึง) + 75,000 (ค่าเครื่องพวกเรา) + 50,000 (รร) + 50,000 (ค่ากิน และเข้าชม) แค่ทริปญี่ปุ่น ก็ 2 แสนกว่าแล้ว 4 คน ไหนจะต้องจ่ายตอนอยู่ไทยอีก รีสอร์ท เครื่อง เราคิดว่าว่าไทยญี่ปุ่นรอบนี้ ไม่ต่ำกว่า 4 แสนแน่นอน
ในความคิดของเราคืออยากสปอยแม่ คิดว่าแม่จะดีใจ ปรากฏโดนด่ากระจาย เพราะเราขอหารค่ารถ เขาโมโหตรงที่ว่า ทำไมเราต้องมาคิดเรื่องเงินกับพ่อแม่ ทั้งๆที่เขาให้เราไม่อั้น ตอนที่เขาเลี้ยงเรา เขาเลี้ยงเรามาอย่างดีและเราว่าคิดแบบนี้ ไม่เคยตอบแทนบุญคุณ และลามไปว่าสามีเราซื้อกีต้าตัวละแสนได้ แต่จ่ายค่ารถเที่ยวให้พ่อแม่ภรรยา 1 แสนไม่ได้
- มาเรื่องบ้าน ลูกเพื่อนเป็นหมอซื้อบ้านเดี่ยวให้ แม่เขาไม่ต้องอยู่ทาวโฮม ก็มาตัดพ้อกับเรามาลูกชั้นมันไม่คอยนึก ไม่เคยจะตอบแทนบุญคุณ เราก็งงว่าแม่เราอยูาบ้านเดี่ยวสิบกว่าล้านอยู่แล้ว มันไม่เหมือนคนที่เขาอยู่ทาวโฮมมั้ย แต่เราก็เห็นด้วยว่าควรซื้อบ้านใหม่ ที่มี universal design เราเลยบอกว่าก็ขายบ้านปัจจุบัน และเราช่วยผ่อนเดือนละแสน แบะพ่อเราก็ยังทำงานอยู่ เราน่าจะพอซื้อบ้านตามโครงการใหม่ๆที่ขาย 15-20 ล้าน ได้ไม่ลำบาก แต่เราต้องช่วยค่าใช้จ่ายครอบครัวที่ US น้อยลง เราต้องไปคุยกับสามีก่อน แต่เราคิดว่าเขาโอเค คือคิดว่าน่าจะดีใจ ปรากฏว่ากรี๊ดแตกอีกแล้ว ถามว่า “นี่ชั้น เลี้ยงแกมาให้มันฟรีๆ ใช่มั้ย ไม่ได้อะไรสักอย่าง ค่าบ้านแกก็ต้องออก มันคิดช่วยอะไรบ้าง” คือเรางงมาก มันเกี่ยวอะไรกับสามีเรา? สามีเราก็บอกว่าถ้าแม่เราอยู่ในสลัม เขาก็จะช่วย แต่นี่แม่เราอยู่บ้านหรู ที่กำลังจะหรูขึ้นไปอีก ทำไมเขาต้องช่วย แม่เราก็บอกว่าเราผิดที่ไม่สอนสามีเรื่องการกตัญญู ตอบแทน
- เราคุยกับสามีว่าหรือปัญหาอยู่ที่ว่าแม่ไม่ได้สินสอด แต่แม่ก็ไม่เคยเรียกร้องหนิ หรือจริงๆแล้วอยากแบบว่าลูกเสนอให้แต่ไม่เอา สามีก็ถามว่าปกติสินสอดคือเท่าไหร่ เราบอก 1 ล้านมั้ง สามีก็บอกว่ากลับไทยไปเราก็ไปให้ได้ ถ้ามันจะจบความดราม่า เราเลยเปิดวิดีโอ ปอ หมอบกราบมอบพวงมาลัยให้แม่แตงโม ให้สามีดู ให้ทราบว่านี่คือวิถีไทย คิดซะว่าเล่น roleplay พอบอกแม่ไปว่าจะให้สามีเราคลานมาหมอบสินสอด เทรนมาแล้ว แม่กรี๊ดระเบิดเลย บอกไม่ได้อยากได้เงิน (แต่เห็นพูดเรื่องเงินตลอด?) บอกว่าเอาเงินมาฟาดหัวชั้นไม่ได้
- คือบอกว่าไม่ชอบสามีเรา สามีเรามันก็ขี้เกียจจะบินมาไทย เราเลยบอกว่างั้นไม่ต้องมาไทย เอาค่าเครื่องบินมาเป็นเงินสดไปสปอนแม่แทน วินวินทั้งคู่ วามีปฏิเสธ บอกอยากมาสวัสดีแม่ เราก็เห็นว่าเออ มันก็ดีนะ เลยไปเล่าให้แม่ฟัง นึกว่าแม่จะดีใจ สามีเราอยากมาเจอ ปรากฏว่าโกรธหนักมาก กรี๊ดอีกแล้ว คิดว่าเอาเงินฟาดหัว ไม่เคารพ อิหยังวะ ก็บอกไม่อยากเจอ แต่อยากให้ตอบแทน เอาเงินมากให้กินขนมก็ดีแล้ว และจบปิดที่ว่าเราไม่มีความเป็นคนไทย กตัญญู คือจะเอาอะไร ถามว่าต้องการอะไร ก็ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน เรารู้สึกเหมือนคุยกับเด็กที่กรี๊ดๆ แต่พัฒนาการด้านอารมณ์ยังไม่พัฒนา ไม่สามารถบอกความต้องการตัวเองได้ เราไม่สามารถเข้าใจเขาได้ อะไรที่เราคิดว่าดี พยายามทำดี เขาแปรความเป็นด้านลบหมดเลย จนเรารู้สึกว่าความสัมพันธ์พวกเรา toxic มากเลย มันไม่ใช่แค่เขาทำร้ายเรา เราก็ทำร้ายเขาเหมือนกัน (ถึงได้กรี๊ดขนาดนั้น) เรารู้สึกว่าถ้าเป็นแฟน ผัวเมีย ที่อยู่กันแล้วทรมานกัน เข้ากันไม่ได้ คงเลิกหรือหย่ากันไปแล้ว แต่พอเป็นคนในครอบครัวกลับต้องทนทรมานกัน ใจนึงเราก็อยากตัดขาดกับเขาไปเลย บางทีก็คิดว่านี่อาจจะดีกว่า ไม่งั้นก็อยู่ในความสัมพันธ์แบบไม่มี opinion ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เอ่ย จะไปเที่ยวหรอ จัดการเอาเลย ผิดพลาดมาจะได้ไม่มาโทษกัน ต้องการเงินหรอ ส่ง bill มาเลย บอกว่าจ่ายไม่อั้น เราไม่ต้องเสนอว่าจะออกอะไรยังไง เขาไม่กล้าส่งบิลมาหลายแสนหรอก เสียศักดิ์ศรี
การรับมือกับแม่เราทำให้เราเหมือนเป็นซึมเศร้า เพราะเรารู้สึก worthless มาก เพราะเขาจะด่าเราตลอดว่าเลว เนรคุณ กรี๊ดใส่เรา คือด้านความคิดเราก็ประคองตัวเองได้ เพราะเรารู้ว่าเราไม่ได้ worthless เพราะเรามีการงานที่ดี มีครอบครัวที่ดี ได้ทุกอย่างที่อยากได้ เราสนับสนุนนักเรียนเราให้เขาก้าวไปข้างหน้า เราพยายามคิดที่จะดูแลครอบครัวเราหลายๆแบบ ซึ่งมันไม่สนองความต้องการเขา เราเข้าใจว่าการให้ที่ไม่ถูกจุด มันไม่เติมเต็ม ประกอบกับการสื่อสารที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน และความคิดของคน progressive กับ conservative สามีเราบอกว่ามันเหมือนกับการคุยกับคนคลั่งศาสนา เขาจะไม่มีวันเข้าใจได้เลย ถ้าพยายามอธิบาย วิธีที่ดีคือไม่ต้องอธิบาย ยิ่งอธิบายยิ่งสร้างความเกลียดชัง