แชร์ประสบการณ์ : เที่ยวพระนคร + กูฏีจีน


วันที่ 1

1. สงการณ์ หยุดยาวๆ ไม่ได้ไปเที่ยวตจว...... กลัวรถติดแบบกระดิกไม่ได้เลยเที่ยวมันในกรุงเทพฯ เนี่ยแหละค่ะ 

2. เอาจริงๆ ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ มีหลายย่านค่ะ ไม่รู้จะเริ่มเที่ยงตรงไหนก่อน เราเลยเริ่มจากวัดพระแก้วและรอบๆ ก่อนเลยค่ะ ง่ายดี

3. กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จอดรถหน้าร้านกาแฟเลยค่ะ รองท้องเบาๆ ก่อนค่ะ Craftsman Bam Rung Mueng


 4. มาแรกๆ จะงงๆ หน่อยว่าทางเข้ามันอยู่ตรงไหน  เพราะด้านนอกเป็นตึกเก่ามาก น่าจะเป็นร้อยปีนะคะ ไม่รู้จะเข้าตรงไหนดี ประตูกระจกหรือประตูไม้ดี?? คือมันดูทึบๆ ไม่น่าใช่ทางเข้าทั้งคู่เลย 

5. ทางเข้าคือประตูไม้ที่มีป้ายร้านติดอยู่ค่ะ ตอนเราไปเราก็งง เข้าทางไหนหว่าาา ทำร้านได้ลึกลับมากค่ะ

6. ด้านในก็บ่งบอกถึงความเป็นตึกเก่าจริงๆ ด้วย เก่าแบบมีเสน่ห์ค่ะ 




7. มีสั่งชอคเย็นกับ yuzi soda และชอคทาร์ตกับ walnut pie ค่ะ

8. พายกับทาร์ตอร่อย ชอคเย็นเข้มข้น yuzu ก็เปรี้ยวซ่าสดชื่นดีค่ะ  ความหวานอยู่ในระดับที่หวานแค่ให้รู้ว่ากำลังกินเค้กหรือดื่มอะไรอยู่ ไม่ได้หวานจนกลบรสชาติอื่นหมดค่ะ



9. กินเสร็จก็เดินเรียบกระทรวงกลาโหมไปวัดพระแก้วค่ะ

10. เดินไปเรื่อยๆ หันไปเห็นศาลหลักเมืองค่ะ แวะก่อนที่แรกเลย อันนี้ไม่เคยเข้ามาข้างในเลยค่ะ เคยแต่นั่งรถผ่าน


11. ทำไมเสาหลักเมืองถึงมี 2 เสาอ่ะ?????? งง ปกติต้องเสาเดียวไม่ใช่เหรอ????

12. เสาที่มียอดเป็นรูปดอกบัวตูมเป็นเสาองค์แรกที่ตั้งขึ้นเมื่อ 21 เม.ย. 2325 ค่ะ (ร.1) 

13. เสาก็ทรุดโทรมตามกาลเวลาค่ะ ร.4 จึงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเสาหลักเมืองต้นใหม่แทนต้นเดิมค่ะ คือเสาองค์ที่เตี้ยกว่าค่ะ



14. นอกจากนี้ที่ศาลหลักเมืองยังเป็นที่ประดิษฐานเทพรักษ์คุ้มครองพระนครทั้ง 5 องค์ค่ะ

15. ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะว่าเทพารักษ์คุ้มครองพระนครมี 5 องค์ เข้าใจมาตลอดว่ามี 2 องค์คือพระเสื้อเมืองกับพระทรงเมือง

16. อีก 3 องค์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักได้แก่ พระกาฬไชยศรี  เจ้าเจตคุปต์ เจ้าหอกลอง

17. เทพารักษ์ทั้ง 5 องค์ทำงานกันเป็นทีมค่ะ คุ้มครองกันคนละด้าน แบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบค่ะ

18. พระเสื้อเมืองจะคุ้มครองแนวบู๊ค่ะ คอยป้องกันไม่ให้ศัตรูมารุกราน พระทรงเมืองจะคุ้มครองแบบบุ๊น ดูแลทุกข์สุขของประชาชนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขค่ะ

19. พระกาฬไชยศรีและเจ้าเจตคุปต์ทั้ง 2 องค์นี้เป็นบริวารของพระยายมค่ะ พระกาฬไชยศรีมีหน้าที่นำวิญญาณคนบาปไปยมโลก เจ้าเจตคุปต์มีหน้าท่ีจดความชั่วที่เราทำไปส่งให้พระยายมค่ะ

20. เจ้าหอกลองมีหน้าที่ดูแลคุ้มครองเรื่องทั่วๆ ไปที่เทพารักษ์อีก 4 องค์ไม่ได้ดูแลค่ะ เช่น เรื่องเวลา ไฟไหม้ น้ำไม่ไหล ไฟดับ.... งานคุ้มครองที่เข้าข่ายงานคุ้มครองแบบ admin จะเป็นหน้าที่ของเจ้าพ่อหอกลองค่ะ

21. ขนาดเทพารักษ์ยังทำงานเป็นทีมเลย..............  



22. จากศาลหลักเมืองไปต่อกันที่วัดพระแก้วค่ะ ต้องเข้าทางฝั่งสนามหลวงนะคะ จุดคัดกรองจะอยู่บนฝั่งสนามหลวงค่ะ

23. ถนนหน้าวัดพระแก้วฝั่งสนามหลวงปิดเพราะกำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ ถนนหน้าพระลานปิดทั้งเส้น ส่วนถนนหน้าพระธาตุปิดยาวไปจนถึงธรรมศาสตร์ค่ะ

24. ถ้ามาเที่ยวอาจจะต้องไปจอดรถที่อื่นแล้วค่อยเดินหรือนั่งตุ๊กตุ๊กมาค่ะ

25. ตึกแดงๆ ยาวๆ ที่เห็นในรูปเป็นตึกจัดแสดงถาวรวัตถุซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างในจัดแสดงอะไรบ้างค่ะ แต่จดอยู่ใน list ที่ต้องไปแล้วค่ะ

26. ทางเข้าวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังยังคงต้องเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีนะคะ เพียงแต่ต้องผ่ายจุดคัดกรองบนสนามหลวงก่อนค่ะ



27. แน่นอนว่าคนไทยเข้าชมฟรีค่ะ ต่างชาติมีค่าเข้าชม 500 บาท (วัดพระแก้ว + พระบรมมหาราชวัง + พิพิธภัณฑ์ผ้า) มี audio guide ให้เช่าในราคา 200 บาทด้วยค่ะ

28. ข้อควรระวัง 1 เรื่องคือเรื่องการแต่งกายค่ะ ควรแต่งกายให้สุภาพ  ไม่ควรใส่อะไรที่สั้นๆ รัดๆ บางๆ ขาดๆ หรือกุดๆ ค่ะ



29. ถ้าเผลอใส่มาเราเดาว่าข้างในน่าจะมีผ้าถุงหรือผ้าคลุมให้ยืมค่ะ

30. สำหรับเรื่องถ่ายรูป ด้านนอกถ่ายได้หมดค่ะ ส่วนด้านในถ่ายได้เป็นจุดๆ ค่ะ จุดที่ถ่ายไม่ได้จะมีป้ายบอกค่ะ

31. บัตรสำหรับนทท.ต่างชาติอยู่ด้านในแถวๆ ทางเช้าวัดพระแก้วนะคะ ซึ่งจุดนี้มีห้องน้ำไว้ให้บริการค่ะ เข้าให้เรียบร้อยก่อนนะคะ ด้านในไม่มีห้องน้ำค่ะ



32. พอเข้ามาด้านในปุ๊บก็จะเจอกับรูปปั้นฤาษีค่ะ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการแพทย์แผนโบราณค่ะ 

33. ด้านหน้าฤาษีมีหินดำๆ คล้ายๆ ฟักวางอยู่ ????? ทำไมถึงต้องสลักหินรูปฟักมาวางไว้หน้าฤาษีอ่ะ???? ตอนเราไปเราก็สงสัยอยู่

34. จริงๆ แล้วเป็นแท่นวางหินบดยาค่ะ สมัยก่อนเขาจะเอาสมุนไหรมาบดกันที่นี่เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้รักษาได้ผลมากขึ้นค่ะ



35. แนะนำว่าให้ตรงไปพระอุโบสถที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตก่อนเลยค่ะเพราะยิ่งสายคนยิ่งเยอะค่ะ

36. เราเคยมาวัดพระแก้ว 2 ครั้งค่ะ  ครั้งแรกมากับที่บ้านตอนฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี ครั้งที่ 2 ที่โรงเรียนพามาน่าจะช่วงป.4 มั้งคะ

37. ครั้งแรกจำได้แค่ว่าเหนื่อย ร้อน อยากกลับบ้าน....... ครั้งที่ 2 ก็โอเคเพราะไม่ต้องเรียนแต่ต้องทำรายงานส่งเนี่ยดิ......... เลยทำให้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ

38. ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ค่ะ รู้สึกอ๊ายอาย.... ยังไงไม่รู้แหะ  อยู่ใกล้ๆ แต่ไม่เคยไป....... 

39. งวดนี้เดินๆ ดูๆ ไปวัดพระแก้วนี่ก็สวยดี น่ามาเที่ยวเหมือนกันนะเนี่ย


40. พระอุโบสถและพระแก้วมรกตค่ะ

41. ด้านในพระอุโบสถห้ามถ่ายภาพนะคะ แต่สามารถถ่ายจากด้านนอกเข้าไปได้ค่ะ




42. หลังจากกราบพระแก้วเสร็จ แนะนำให้ลองดูภาพจิตรกรรมฝาผนังด้านในค่ะ สวนมาก เรานี่แหงนดูจนปวดคอเลย


 
43. ถ้าอยากจะจุดธูปเทียนบูชาพระแก้วสามารถทำได้ด้านหน้าพระอุโบสถค่ะ



44. จากพระอุโบสถไปต่อกันที่ปราาทพระเทพบิดรค่ะ

45. ด้านในมีพระบรมรูปหล่อของร.1 ถึง ร.5

46. ปกติปีนึงเปิดให้เข้าแค่ 7 วันค่ะ คือ 6, 13-15 เมษา 5 พค 23 ตค และ 5 ธค แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจนะคะว่าเปิดหรือเปล่าเพราะเรื่องโควิทค่ะ




47. รอบๆ ปราสาทพระเทพบิดรค่ะ


48. มีพระบุษบกที่บรรจุสัญลักษณ์ประจำรัชกาล อย่างในรูปจะเป็นบุษบกองค์ที่มีลักษณ์ของร.4 (พระมหาพิชัยมงกุฏ) และของร.1-3 (อุณาโลม ครุฑยุดนาคปราสาท)
 
49. พระบุษบกมีทั้งหมด 4 องค์ค่ะ ด้านบนพระบุษบกจะบรรจุสัญลักษณ์ประจำรัชกาล องค์นึงจะบรรจุสัญลักษณ์ของร.5 (พระเกี้ยว) และองค์สุดท้ายจะบรรจุสัญลักษณ์ของรัชกาลที่ 6-9 ค่ะ (พระวชิระ พระแสงศร พระโพธิสัตว์ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์) ค่ะ



50. มีนครวัดจำลอง มีหอพระมณฑปซึ่งเป็นที่เก็บพระไตรปิฏกฉบับทองใหญ่ค่ะ



51. หอพระมณฑปจะอยู่ระหว่างปราสาทพระเทพบิดรกับพระศรีรัตนเจดีย์ค่ะ 




52. สำหรับตัวปราสาทพระเทพบิดร ด้านข้างของซุ้มประตูหรือหน้าต่างจะมีตราประจำรัชกาลที่ 1-5 ติดไว้ค่ะ

53. เพดานของซุ้มประตูทางเข้ามีดาวอยู่ 8 ดวงเรียงรายล้อมรอบดาวดวงใหญ่  ดาวแต่ละดวงถอดแบบมาจากเครื่องราชฯ ค่ะ 



54. ถ้าสังเกตดีๆ บนหน้าบันด้านบนก็มีค่ะ เป็นพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 1-4 ค่ะ



55. ถัดมาเป็นพระศรีรัตนเจดีย์ค่ะ ด้านในพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุค่ะ

56. เจดีย์ทองทั้งองค์ค่ะ เวลาใครพูดถึงวัดพระแก้ว ภาพพระแก้วมรกตและพระเจดีย์สีทององค์นี้จะป๊อปอัพขึ้นมาในหัวเราทันทีค่ะ


57. ยักษ์วัดพระแก้วค่ะ ยืนเฝ้าประตูอยู่ แต่ทำไมยักษ์วัดพระแก้วที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูถึงยืนหันหน้าเข้ามาในวัด????
 
58. เท่าที่หาได้จากเนตนะคะ ที่ต้องหันหน้าเขาวัดเพราะจริงๆ แล้วยักษ์วัดพระแก้วไม่ได้มีหน้าที่เฝ้าประตูค่ะแต่ต้องเฝ้ารักษาพระแก้วมรกตค่ะ เลยไม่สามารถละสายตาจากพระแก้วมรกตได้ค่ะ

59. ตำนานมีอยู่ว่าพระนาคเสนะเถระต้องการสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คนรุ่นหลังทราบว่าเคยมีพระพุทธเจ้าอยู่ที่ชมพูทวีปค่ะ



60. เมื่อพระอินทร์ทราบเรื่อง พระอินทร์จึงสั่งให้พระวิษณุไปขอแก้วมณีสีขาวจากพวกยักษ์ แต่ยักษ์ปฏิเสธค่ะ ที่ให้ไม่ได้เพราะแก้วมณีสีขาวไม่ใช่ของพวกยักษ์ พระจักรพรรดิราชมาฝากไว้ เมื่อพระวิษณุขอไม่สำเร็จพระอินทร์เลยต้องออกโรงเองค่ะ พวกยักษ์เลยให้แก้วมณีสีเขียวที่มีชื่อว่าแก้วอมรโกฏมาแทน เมื่อได้แก้วอมรโกฏมา พระวิษณุจึงได้ลงมือแกะสลักออกมาเป็นพระแก้วมรกตค่ะ

61. ในเมื่อพวกยักษ์เคยเฝ้าแก้วอมรโกฏ ดังนั้นหลังจากสร้างพระแก้วมรกตเสร็จพวกยักษ์กุณภัณฑ์จึงสมควรเป็นผู้เฝ้ารักษาพระแก้วมรกตค่ะ

62. ด้วยเหตุนี้ในวัดพระแก้วเลยมีตัวแทนยักษ์ทั้งหมด 6 คู่ยืนหันหน้าเข้าหาพระอุโบสถเพื่อเฝ้ารักษาพระแก้วมรกตค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่