พระศิลาทวารวดีที่นครปฐม

พระพุทธนรเชษฐ์ เศวตอัศมมัยมุนี ศรีทวารวดี ปูชนียบพิตร
หรือ หลวงพ่อขาว ที่ชาวนครปฐมเรียก คือ พระศิลาขาว สมัยทวารวดี ซึ่งเดิมเคยประดิษฐาน ณ โบราณสถานพระเมรุ จ.นครปฐม ๔ องค์ ในสมัยอยุธยามีการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปัจจุบัน ทั้ง ๔ องค์ ประดิษฐานอยู่ในที่ต่าง ๆ คือ หลวงพ่อขาว ประดิษฐาน ณ ลานชั้นลด ด้านทิศใต้ขององค์พระปฐมเจดีย์ (ด้านสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม) (ภาพที่ ๑,๒) หลวงพ่อประธานพร ประดิษฐานเป็นประธาน ณ พระอุโบสถ พระปฐมเจดีย์ บริเวณลานชั้นลด ด้านทิศตะวันออก (ภาพที่ ๓) อีก ๒ องค์ อยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ ๑ องค์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา พระนครศรีอยุธยาอีก ๑ องค์ (ภาพที่ ๔)


ภาพที่ ๑ (ซ้าย) พระพุทธนรเชษฐ์ เศวตอัศมมัยมุนี ศรีทวารวดี ปูชนียบพิตร ขณะช่างประกอบองค์และประดิษฐาน
ณ ลานชั้นลดทิศใต้ พระปฐมเจดีย์ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๑๐ ภาพที่ ๒ (ขวา) ภาพจากหนังสือที่ระลึกงานนมัสการประจำปี ๒๕๒๘


ภาพที่ ๓ หลวงพ่อประทานพร เป็นปางทรงแสดงธรรม (วิตรรกมุทรา) ในพระอิริยาบถประทับนั่งบนบัลลังก์
ประดิษฐานเป็นประธาน ณ พระอุโบสถ พระปฐมเจดีย์ บริเวณลานชั้นลด ด้านทิศตะวันออก
ประวัติพระศิลาขาว
ความจาก "เล่าเรื่องไปชะวาครั้งที่ ๓" เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗ พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กล่าวว่า

“เมื่อดูพระพุทธรูปที่เมนดุ๊ต คิดเห็นข้อสำคัญในเรื่องโบราณคดีขึ้นข้อหนึ่ง น่าจะจดลงไว้ตรงนี้ด้วย คือพระพุทธรูปห้อยพระบาททำด้วยศิลาขนาดนี้ไม่ปรากฏว่ามีในเมืองพะม่า มอญ เขมรเลย ในชะวาก็มีแต่องค์เดียว แต่ไปมีในประเทศสยามถึง ๔ องค์ ตรวจได้หลักฐานว่าเดิมมีพระเจดีย์โบราณองค์หนึ่งในตำบลพระปฐมเจดีย์ (อยู่ในบริเวณสวนนันทอุทยาน* ของสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ) ชาวบ้านเรียกกันมาแต่ก่อนว่า “พระเมรุ” ** องค์พระเจดีย์เดิมรูปร่างจะเป็นอย่างไรรู้ไม่ได้ ด้วยหักพังเสียหมดแล้ว รู้ได้แต่ว่ามีพระพุทธรูปศิลาเช่นว่า ตั้งไว้ที่มุขพระเจดีย์นั้นด้านละองค์ องค์ ๑ เมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาย้ายเอาไปไว้ที่วัดมหาธาตุในพระนคร ***

ภาพที่ ๔ พระศิลาขาว ๔ องค์ ประดิษฐานอยู่ในที่ต่าง ๆ  บนซ้าย ประดิษฐานเป็นประธาน ณ พระอุโบสถ พระปฐมเจดีย์
บนขวา ประดิษฐาน ณ ลานชั้นลด ด้านทิศใต้พระปฐมเจดีย์ ล่างซ้าย ประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา พระนครศรีอยุธยา
ล่างขวา ประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ

ครั้นถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ ๓ พระยาชัยวิชิต (เผือก) เชิญมาไว้ที่วัดหน้าพระเมรุจนบัดนี้ เมื่อข้าพเจ้าเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ขุดพบศิลาทับหลังเรือนแก้ว **** ที่ “พระเมรุ” จึงรู้ว่าพระพุทธรูปองค์ วัดหน้าพระเมรุ ***** นั้นเดิมอยู่ที่พระปฐมเจดีย์ (ภาพที่ ๕)
ภาพที่ ๕ พระศิลาเขียว ประดิษฐาน ณ วัดหน้าพระเมรุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

อีกองค์หนึ่งเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ขุดพบที่ “พระเมรุ” เหมือนกัน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ตั้งเป็นพระประธาน ****** อยู่ที่ในพระอุโบสถพระปฐมเจดีย์จนบัดนี้ อีก ๒ องค์ก็ขุดพบที่ “พระเมรุ” ในสมัยเมื่อข้าพเจ้าจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานที่พระปฐมเจดีย์ แต่เหลืออยู่เป็นชิ้นๆ ไม่บริบูรณ์ ยังรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานพระปฐมเจดีย์จนบัดนี้ น่าสันนิษฐานว่าพระพุทธรูปทั้ง ๕ องค์นั้นจะสร้างในสมัยเดียวกันเมื่อราว พ.ศ.๑๔๐๐ ตามแบบครั้งราชวงศ์คุปตะครองมัชฌิมประเทศ และการถือพระพุทธสาสนาจะเป็นอย่างมหายานด้วยกัน ทั้งที่ในชะวาและประเทศสยามนี้”
.
หมายเหตุ
>> ความจากพระนิพนธ์ คงการสะกดคำ ตามต้นฉบับ
>> *สวนนันทอุทยาน หรือ ชื่อที่รู้จักในหมู่ชาวนครปฐม คือ บริเวณตั้งเซียฮวด ซึ่งมีชุมชนสวนอนันอยู่ในบริเวณใกล้เคียง สวนนันทอุทยานตั้งอยู่ในบริเวณโบราณสถานพระเมรุ ซึ่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงสร้างวังที่ประทับ คือ พระตำหนักนันทอุทยาน มีบริเวณซึ่งกว้างขวางถึง ๒๑ ไร่เศษ พื้นที่ครอบคลุมถนนเลี่ยงเมืองเพชรเกษมปัจจุบัน รวมทั้งอาคารริมถนนบางส่วน โฉนดที่ดินแปลงนี้ระบุนามเจ้าพระยาท่านหนึ่งเป็นผู้รับโอนมรดก และมีผู้รับซื้อต่อมาโดยได้แบ่งแยกขายที่ดินแปลงนี้ ยกเว้นบริเวณอาคารโบราณสถานซึ่งขึ้นทะเบียน พระตำหนักนันทอุทยานนี้สร้างด้วยไม้เป็นเรือนไทย สมัยรัชกาลที่ ๙ ได้ย้ายไปตั้งที่หลังพระที่นั่งอุดรในพระราชวังดุสิต บางข้อมูลระบุว่าอยู่ริมอ่างหยก ใกล้กับบริเวณเมืองจำลองดุสิตธานี
>> **พระเมรุ จ.นครปฐม โบราณสถานแห่งนี้ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ยังเป็นเนินดิน ต่อมาสำนักฝรั่งเศสแห่งปลายบุรพทิศ (EFEO) ร่วมกับกรมศิลปากรเข้ามาขุดแต่งจึงทราบว่าเป็นโบราณสถานที่ถูกปกคลุมด้วยดิน ลักษณะเช่นเดียวกับ โบราณสถานพระงาม ซึ่งตั้งอยู่ในวัดพระงาม จ.นครปฐม ที่แต่เดิมชาวบ้านมักเข้าใจและเรียกว่า เขาพระงาม
>> ***พระนคร หมายถึง พระนครศรีอยุธยา
>> ****ศิลาทับหลังเรือนแก้ว ปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ (อยู่ด้านล่างทางทิศใต้ ส่วนด้านบนทิศตะวันออกเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัด)
>> *****วัดหน้าพระเมรุ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระศิลาเขียวองค์เดียว มีการสันนิษฐานว่าเดิมอาจเป็นองค์ประธานของโบราณสถานพระเมรุ ที่ จังหวัดนครปฐม

>> *****พระประธาน ในพระอุโบสถ จากหนังสือ เรื่อง “หลวงปู่บุญ (พระพุทธวิถีนายก วัดกลางบางแก้ว) เล่ม ๒ : การสร้างเครื่องรางของขลังและพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ” โดย สุธน ศรีหิรัญ ได้กล่าวถึงประวัติการพบพระศิลาขาว องค์ประธานในพระอุโบสถพระปฐมเจดีย์โดยหลวงปู่บุญ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นสามเณรบุญ วัย ๑๘ ปี เมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๙
.
.
.
นฤมล บุญญานิตย์
๑๘ เมษายน ๒๕๖๘
.
#นครปฐม
#พระศิลาขาว
#วัดพระปฐมเจดีย์
#วัดพระเมรุ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่