ฤกษ์งามยามดีคุณสามีได้รับวีซ่าอุปการะภรรยาวันนี้พอดี เลยจะมาแชร์ประสบการณ์และเอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นขอวีซ่าขออยู่ต่อกรณีอุปการะภรรยาไทยนะคะ จะได้ไม่ต้องไปหลายเที่ยว เสียเวลา(และอารมณ์)หลายรอบแบบเรา
จริงๆความผิดส่วนหนึ่งเป็นของเราเองด้วย เรายอมรับในจุดนั้นโดยไม่มีข้อแม้ แต่ก็มีบางจุดที่อยากให้จนท.แนะนำหรือเขียนเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมประกาศหน้าเว็ปไซต์ให้ละเอียดกว่านี้ค่ะ เพราะการไปๆกลับๆเนื่องจากเอกสารนู่นนี่ไม่ครบ สำหรับคนบ้านไกลลำบากมากจริงๆ
เริ่มจากสามีลาออกจากงาน และอยู่ระหว่างรอหางานใหม่ เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนวีซ่าจากประเภท non-B มาเป็น non-O ทีนี้เราไม่ทราบข้อมูลเลยว่าต้องทำอย่างไร ใช้เวลาติดต่อสอบถามจนท.อยู่นานมากกว่าจะได้หมายเลขโทรศัพท์ที่มีคนรับสาย ขั้นตอนคือ
1. ต้องทำเรื่องยกเลิกวีซ่า non-B ก่อน หมายความว่าทางบริษัทต้องแจ้งว่าจะให้ทำงานวันสุดท้ายเมื่อไหร่ และยื่นแจ้งยกเลิกวีซ่า non-B
ฟังดูคล้ายจะง่าย แต่ยุ่งยากพอควรค่ะ เพราะ
- ต้องให้บริษัทดำเนินการแจ้ง โดยเคยยื่นขอ non-B ที่ไหนต้องไปแจ้งยกเลิกที่นั่น เอกสารที่ต้องใช้เราทราบคร่าวๆว่ามี เอกสารรับรองจากสถานประกอบการ เอกสารการชำระภาษี ใบรับรองว่าทำงานวันสุดท้ายวันไหน ประมาณนี้ (รายละเอียดถ้ากรณีแบบเรา อาจต้องสอบถามจาก HR ของที่ทำงานนะคะ)
- ต้องดูเงื่อนเวลา เพราะหลังสิ้นสุดการทำงาน มันจะมีประทับตราว่าให้อยู่ไทยต่อได้จนถึงวันไหน ซึ่งประมาณ 1 สัปดาห์หลังวันที่ทำงานวันสุดท้าย
- เนื่องจากเงื่อนเวลาการอยู่ต่อหลังยกเลิก non-B ทำให้ต้องแพลนเวลายื่นเรื่องขอ non-O ไว้ด้วย เพราะใช้เวลามากในการพิจารณา
2. เผอิญเรามีความยุ่งยากที่เกิดจากการทำตัวเองอยู่หนึ่ง นั่นคือ ปกติการทำวีซ่า non-O ต้องฟรีซเงินไว้ในบัญชีสามีไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท ในระยะเวลา 2 เดือนเป๊ะๆ ต่ำกว่า 400,000 บาทวันใดวันหนึ่งก็ไม่ได้ เราก็ย้ำสามีตลอดเวลา เงินฟรีซไว้นะ ไม่ต้องถอนออกมาเลย เพื่อความชัวร์ ย้ำตลอด บอกตลอด แต่ใช่ค่ะ ชีวิตง่ายๆไม่เคยมี สามีทัวร์ดีเห็นเงินบาทไทยแข็ง เลยไปถอนเงินออกไปซื้อเงินตปท.ซะเยอะ กะว่าพอเงินเดือนสุดท้ายออกก็โปะยอดเงินเกินกว่า 400,000 บาทพอดี (อยากจะหยุมหัว ทั้งๆที่นัดแนะกันเรียบร้อยว่าวันไหนจะต้องไปทำ non-O) ถอนไป 1 วัน วันถัดมาเงินเดือนเข้า และอีก 3 วันถัดมาไปเดินเรื่อง non-O ความโลภทำพิษสิคะงานนี้
[CR] วีซ่าชาวต่างชาติขออยู่ต่อกรณีอุปการะภรรยาไทย (non-O VISA) ปี 2565
จริงๆความผิดส่วนหนึ่งเป็นของเราเองด้วย เรายอมรับในจุดนั้นโดยไม่มีข้อแม้ แต่ก็มีบางจุดที่อยากให้จนท.แนะนำหรือเขียนเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมประกาศหน้าเว็ปไซต์ให้ละเอียดกว่านี้ค่ะ เพราะการไปๆกลับๆเนื่องจากเอกสารนู่นนี่ไม่ครบ สำหรับคนบ้านไกลลำบากมากจริงๆ
เริ่มจากสามีลาออกจากงาน และอยู่ระหว่างรอหางานใหม่ เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนวีซ่าจากประเภท non-B มาเป็น non-O ทีนี้เราไม่ทราบข้อมูลเลยว่าต้องทำอย่างไร ใช้เวลาติดต่อสอบถามจนท.อยู่นานมากกว่าจะได้หมายเลขโทรศัพท์ที่มีคนรับสาย ขั้นตอนคือ
1. ต้องทำเรื่องยกเลิกวีซ่า non-B ก่อน หมายความว่าทางบริษัทต้องแจ้งว่าจะให้ทำงานวันสุดท้ายเมื่อไหร่ และยื่นแจ้งยกเลิกวีซ่า non-B
ฟังดูคล้ายจะง่าย แต่ยุ่งยากพอควรค่ะ เพราะ
- ต้องให้บริษัทดำเนินการแจ้ง โดยเคยยื่นขอ non-B ที่ไหนต้องไปแจ้งยกเลิกที่นั่น เอกสารที่ต้องใช้เราทราบคร่าวๆว่ามี เอกสารรับรองจากสถานประกอบการ เอกสารการชำระภาษี ใบรับรองว่าทำงานวันสุดท้ายวันไหน ประมาณนี้ (รายละเอียดถ้ากรณีแบบเรา อาจต้องสอบถามจาก HR ของที่ทำงานนะคะ)
- ต้องดูเงื่อนเวลา เพราะหลังสิ้นสุดการทำงาน มันจะมีประทับตราว่าให้อยู่ไทยต่อได้จนถึงวันไหน ซึ่งประมาณ 1 สัปดาห์หลังวันที่ทำงานวันสุดท้าย
- เนื่องจากเงื่อนเวลาการอยู่ต่อหลังยกเลิก non-B ทำให้ต้องแพลนเวลายื่นเรื่องขอ non-O ไว้ด้วย เพราะใช้เวลามากในการพิจารณา
2. เผอิญเรามีความยุ่งยากที่เกิดจากการทำตัวเองอยู่หนึ่ง นั่นคือ ปกติการทำวีซ่า non-O ต้องฟรีซเงินไว้ในบัญชีสามีไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท ในระยะเวลา 2 เดือนเป๊ะๆ ต่ำกว่า 400,000 บาทวันใดวันหนึ่งก็ไม่ได้ เราก็ย้ำสามีตลอดเวลา เงินฟรีซไว้นะ ไม่ต้องถอนออกมาเลย เพื่อความชัวร์ ย้ำตลอด บอกตลอด แต่ใช่ค่ะ ชีวิตง่ายๆไม่เคยมี สามีทัวร์ดีเห็นเงินบาทไทยแข็ง เลยไปถอนเงินออกไปซื้อเงินตปท.ซะเยอะ กะว่าพอเงินเดือนสุดท้ายออกก็โปะยอดเงินเกินกว่า 400,000 บาทพอดี (อยากจะหยุมหัว ทั้งๆที่นัดแนะกันเรียบร้อยว่าวันไหนจะต้องไปทำ non-O) ถอนไป 1 วัน วันถัดมาเงินเดือนเข้า และอีก 3 วันถัดมาไปเดินเรื่อง non-O ความโลภทำพิษสิคะงานนี้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้