แคปซูลเวลา 212 ปี จากเหมืองแร่โคบอลต์สีน้ำเงิน

.

นักสำรวจถ้ำค้นการขุดเหมืองสมัยศตวรรษที่ 19
ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เหมือนแคปซูลเวลา
การสำรวจเหมืองโคบอลต์อายุหลายศตวรรษ
ซึ่งสำรวจใหม่อีกครั้งโดยชมรมสำรวจถ้ำ
 
Jamie Lund นักโบราณคดี 
และ Ed Coghlan หัวหน้าชมรมสำรวจถ้ำ 
ได้สำรวจเหมืองใต้ Alderley Edge 
ทั้งคู่สวมหมวกแข็งพร้อมไฟ
และสายรัดนิรภัยและเงยหน้าขึ้นมอง
ได้ค้นพบ รองเท้าหนังเก่า ท่อใต้ดิน
จารึกลึกลับที่เขียนด้วยเขม่าเทียน
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งประดิษฐ์
ที่กลุ่มนักสำรวจค้นพบในเหมือง Cobalt Blue
อายุหลายศตวรรษในเมือง Cheshire อังกฤษ

เหมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้เมือง Manchester 
ในหมู่บ้าน Alderley Edge ซึ่งครั้งหนึ่ง
เคยเป็นแหล่งแร่โคบอลต์น้ำเงิน
ซึ่งเป็นธาตุเม็ดสีน้ำเงินเจิดจ้าที่ขุดได้
มักใช้ฝังอยู่บนเครื่องปั้นดินเผาและแก้ว
การขุดโคบอลต์เป็นการค้าขายที่ร่ำรวย
สำหรับอังกฤษในศตวรรษที่ 19
แต่ผลจากการนำเข้าจากประเทศอื่น ๆ
ที่มีราคาถูกกว่าโคบอลต์ของอังกฤษ
ดังนั้นเหมืองแห่งนี้ซึ่งเจ้าของคือ
Sir John Thomas Stanley
ในต้นปี 1800 จึงถูกทิ้งร้างราวปี 1810
 
.
.

 
ตั้งแต่ปี 1970
สมาชิกของ Derbyshire Caving Club 
ได้สำรวจเหมือง Alderley Edge
โดยขอเช่าสิทธิ์การเข้าเหมืองแร่
จาก National Trust ซึ่งเป็นองค์กรการกุศล
ด้านการอนุรักษ์ในสหราชอาณาจักร

กลุ่มสำรวจถ้ำต้องสะดุดใจกับ
ของใช้ส่วนตัวบางอย่างที่ทิ้งไว้
ในส่วนที่ยังไม่ได้สำรวจของเหมือง
การค้นพบนี้เหมือนกับการเปิดแคปซูลเวลา

ซากรองเท้าที่พบในเหมืองเก่า
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ 
เป็นรองเท้าข้างเดียวสีดำและอยู่ในสภาพ
ที่ค่อนข้างดีแม้ว่าจะดูว่ามีคนใส่แล้วก็ตาม
.
.


Ed Coghlan สมาชิกคนหนึ่งของ 
Derbyshire Caving Club 
กล่าวในรายงาน National Trust ว่า
“ การค้นหาเหมืองในสภาพที่เก่าแก่
พร้อมกับสิ่งของส่วนตัวและจารึก
ข้าวของเหล่านี้หาได้ยากมาก

มันเปิดหน้าต่างในอดีตที่น่าสนใจ
และจนถึงวันสุดท้ายที่คนงานเหมือง
หยุดกิจกรรมของพวกคนงาน "
(งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา)

นอกจากรองเท้าและท่อต่าง ๆ แล้ว
นักสำรวจถ้ำยังพบชามฝังอยู่ในกำแพง
ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของคนงานเหมือง
ที่เชื่อโชคลางขอบคุณเหมืองสำหรับแร่ดี ๆ ที่ได้

การค้นพบที่หายากอย่างหนึ่งคือ
เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องกว้าน
ซึ่งใช้สำหรับยกและเคลื่อนย้ายวัสดุหนัก
ความจริงที่ว่าคนงานเหมืองทิ้ง
เครื่องมือชิ้นสำคัญไว้เบื้องหลัง
ทำให้ Ed Coghlan สงสัยว่า
คนงานเหมืองได้รับการบอกกล่าว
โดยไม่มีคำเตือนให้รวบรวมเครื่องมือ
และให้ขนออกไปจากพื้นที่ให้หมด

การค้นพบที่ลึกลับอย่างหนึ่งคือ
การจารึกอักษรย่อ WS เขียนไว้ด้านล่าง
โดยมีวันที่ 20 สิงหาคม 1810
การวิจัยของเราจนถึงขณะนี้
ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคือใคร
หรือเป็นเพียงถ้อยคำของคนที่อยากจะพูดว่า
ผมอยู่ที่นี่
หรือจากการมาเยี่ยมของผู้จัดการเหมือง
หรือเจ้าของเหมืองแร่ดังกล่าวนี้
หรืออาจเป็นการบ่งชี้วันสุดท้าย
ที่เหมืองแห่งนี้ก่อนถูกปิด/เลิกกิจการ
นักสำรวจพบคำและตัวเลขอื่น ๆ 
ที่ขีดบนผนังของเหมืองแห่งนี้

" เราพบอักษรย่อและตัวเลขพื้นฐานอื่น ๆ
ในสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็น เปล หรือพื้นที่พักผ่อน
ราวกับว่ามีคนกำลังเรียนรู้และฝึกฝน
การเขียนตัวหนังสือของพวกเขา ”
Ed Coghlan กล่าว
.
.

ตอนนี้สามารถเยี่ยมชมเหมืองโคบอลด์
ผ่านอุปกรณ์สื่อสารภายในบ้านผู้ชม
เพราะเพื่อให้การค้นพบครั้งประวัติศาสตร์
สามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้มากขึ้น
Derbyshire Caving Club และ National Trust
ได้ร่วมมือกับ Christians Survey and Inspection Solutions
ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยี
ในการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ
เสมือนจริงของอาคารและพื้นที่ใต้ดิน
ในเหมือง Alderley Edge 

ทีมงานใช้เครื่องสแกนเลเซอร์ 
ยิงแสงเลเซอร์ไปรอบ ๆ สิ่งแวดล้อม
ลำแสงเลเซอร์เหล่านั้นจะสะท้อนกลับ
เข้ามาในเครื่องสแกน ซึ่งจะคำนวณ
ระยะทางที่ลำแสงเลเซอร์แต่ละลำเคลื่อนที่ไป
จุดที่สแกน 201 พื้นที่ มากกว่า 9.6 ล้านจุดในแต่ละแห่ง
การทำเช่นนี้หลายร้อยครั้งรอบ ๆ พื้นที่
จะสร้างภาพ 3 มิติเสมือนจริง
ทีมงานยังใช้ยานพาหนะควบคุมได้
จากระยะไกลสำหรับส่วนใต้น้ำของเหมือง
ตลอดจนเทคนิคการถ่ายภาพ 3 มิติอื่น ๆ

" วัตถุที่พบในเหมืองแร่ได้รับการถ่ายภาพ
และจัดหมวดหมู่และทิ้งไว้ในที่ที่พบ
เพื่อคงสภาพใต้ดินที่เก็บรักษาไว้ 
การทิ้งร้างเหมืองไว้ เป็นเสมือนแคปซูลเวลา
ปกป้องสถานที่แห่งนี้ไว้
และเป็นที่ครั้งหนึ่งจะเป็นกิจกรรม
สำหรับคนรุ่นอนาคตที่จะสำรวจและเพลิดเพลินกับที่นี่ "
Jamie Lund นักโบราณคดีจาก National Trust กล่าว

เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/3cqmQ2x
https://bit.ly/3zeTvBm
.

---

.