ไล่โค้ช โทษผู้เล่น เน้นเปลี่ยนแปลงเฉพาะหน้า?: มองลูกยางไทยผ่านมุมมองของ Fabio Menta และโค้ชอ๊อด

การเข้าร่วมการแข่งขันในระดับโลกของทีมวอลเลย์บอลสาวไทย มีทั้งที่ชนะและแพ้ (ซึ่งเป็นปกติวิสัยของกีฬาทุกชนิด) แต่เมื่อทีมแพ้ก็มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปจนถึงบริภาษรุนแรงทั้งต่อตัวนักกีฬาและโค้ช หนักไปจนถึงการไล่โค้ช (ส่วนตัวเห็นด้วยกับแฟนวอลเลย์บอลหลายคนในหลายประเด็นเช่นการหมุนเวียนตัวผู้เล่น และการแก้เกมระหว่างการแข่งขันที่ดูเหมือนจะมีปัญหา แต่โดยส่วนตัวไม่ทราบว่าที่โค้ชตัดสินใจเช่นนั้นเบื้องลึกจะมีสาเหตุหรือข้อจำกัดอะไรยังไง ซึ่งเราเป็นคนนอกไม่มีทางรู้) แต่ที่น่าเศร้าใจคือมีแฟนวอลเลย์บอลบางคนถึงกับขนาดพูดว่า “ที่มาถึงจุดนี้ได้เพราะตัวนักกีฬาเองไม่ใช่เพราะโค้ช” “นักกีฬาเราสู้ชาติอื่นได้ที่สู้ไม่ได้เพราะโค้ชไม่เก่ง” เรียกว่าไม่ให้เครดิตกับโค้ชไทยและระบบการฝึกและเตรียมนักกีฬาเลยแม้แต่น้อย หากแต่เชื่อว่านักกีฬา Born to be ซุปเปอร์เพลเยอร์ เรามีหน้าที่ค้นหาคนอย่าง Egonu มาเข้าทีมและเลือกโค้ชเก่งมาคุมทีมจบ ซึ่งอาจจะไม่จริง

หลังจบการแข่งขัน VNL ก็เป็นที่กล่าวขวัญถึงทีมแชมเปี้ยนอย่างอิตาลี ที่มี Ace อย่าง Egonu ซึ่ง Fabio Menta โค้ชชาวอิตาเลียนที่เคยคุมทีมสโมสรในฟิลิปปินส์ ได้ออกมาวิพากษ์ทีมวอลเลย์บอลของประเทศนี้อย่างดุเดือดเผ็ดร้อน (จะนำทัศนะบางส่วนมากล่าวในที่นี้) Menta กล่าวว่า อิตาลีชนะไม่ใช่เพราะมี Egonu เหมือนที่แฟนวอลเลย์บอลทั่วโลกพูด แต่อิตาลีชนะเพราะพวกเค้าสร้าง Egonu. Egonu ในวัย 12 ปีที่ไม่แม้แต่จะสนใจวอลเลย์บอลแถมยังเป็นเด็กขาโก่งอีกด้วย แต่โค้ชของทางสมาพันธ์เห็นถึงศักยภาพจึงไปเกลี้ยกล่อมให้เข้ามาอยู่ในโปรแกรมทีมชาติ พวกเค้าทำงานอย่างหนักในการแก้ไขสรีระรวมถึงฝึกอบรมเชิงเทคนิค จนสามารถสร้าง Egonu อย่างทุกวันนี้ขึ้นมาได้ ในอิตาลี จีน อเมริกา บราซิลหรือญี่ปุ่น มีการค้นหาและฝึกผู้เล่นตั้งแต่ยังเป็นเด็กซึ่งต้องใช้ความพยายามของทั้งโค้ชและสตาฟที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกิจกรรมของสโมสรในช่วงต้น ซึ่งมีส่วนในการปั้นผู้เล่นสู่ทีมชาติ เราควรให้เครดิตกลุ่มคนเหล่านี้ในฐานะนักวิธีวิทยา (methodologist) ซึ่งโค้ชระดับตำนานเช่น โค้ช Antonio Perdomo ก็ล้วนใช้เส้นทางเหล่านี้ในการปลุกปั้นผู้เล่นและทีมจนสามารถชนะโอลิมปิกและชิงแชมป์โลกมาแล้ว Menta บอกว่ามันเป็นงานที่ยากที่สุดที่ต้องลงมือทำงานปั้น ตั้งแต่ชุด U12, 14, 16, 18… จนไปถึงสร้างทีมจูเนียร์ Menta วิพากษ์แรง!ว่าในขณะที่ “คนโง่และโอหัง” (ignorance mixed to arrogance) กลับไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะเรื่องชีวะกลศาสตร์ แต่สิ่งที่ชาวฟิลิปปินส์ทุกวันนี้ทำคือพูดถึงแต่เรื่องตัวนักกีฬากับโค้ช ผมได้ยินมาตลอดว่า”ใช้เซ็นเตอร์คนนี้สิไม่ใช่คนนั้น ฉันชอบคนนี้ไม่ชอบคนนั้น” “ผมได้ยินว่าครั้งนี้เราจะใช้ผู้เล่นจากลีกมหาลัยและเราจะได้เหรียญแน่นอน” รวมทั้งไปสรรหาโค้ชผู้ชายที่เข้ามาคุมทีมหญิงและพยามให้พวกเธอเล่นเหมือนผู้ชายและหลังๆมานี้ก็ให้เล่นเหมือนชาวบราซิล ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเค้าควรจะเล่นแบบญี่ปุ่น ภายใต้วัฒนธรรมและเงื่อนไขแบบนี้มันยากที่จะประสบความสำเร็จ ในขณะที่เวลาล่วงเลยไป ประเทศไทยได้สร้าง Monsters และเวียดนามได้ส่งสาววัย 17 (จั่น ถิ ทันห์ ถวี) เข้าร่วมในทีมชาติและต่อมาถวีเป็นกัปตันในวัยทีม 22 ปี ไม่ว่าจะสรรหานักกีฬาที่คุณชอบหรือไม่ชอบไปลงเล่นในคอร์ทแต่ถ้าไม่ปรับปรุงระบบและสร้างนักกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อยก็อย่าหวังว่าจะชนะ

นี่คือสิ่งที่ไทยกำลังทำมาโดยตลอด โดยเป็นการพัฒนาวอลเลย์บอลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งโค้ชอ๊อดได้ให้สัมภาษณ์ล่าสุดถึงการเตรียมทีมตั้งแต่ u12, 14, 16… (ในขณะที่มาดามกิ๊ฟก็มีโครงการที่จะแสวงหาช้างเผือกในต่างจังหวัด) โดยรุ่นอายุ 12 และ 14 ปีจะเป็นการเตรียมความพร้อมและเมื่อเข้าสู่รุ่นอายุ 16 ปีจะเริ่มเข้าสู่ทีมเยาวชนหรือทีมชาติ เช่นบุ๋มบิ๋มซึ่งติดทีมชาติตั้งแต่เป็นเด็กหญิงและทีมชุดปัจจุบันก็ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 2014 (ซึ่งโค้ชด่วนก็เป็นหนึ่งในสตาฟมาตั้งแต่ต้น) ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของโค้ช สตาฟและทีมงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีส่วนในการค้นหาและสร้างนักกีฬาขึ้นมา อย่างที่ Fabio menta บอกว่าอิตาลีไม่ได้ชนะเพราะมี Egonu แต่เพราะอิตาลีสร้าง Egonu ขึ้นมา จะไม่มี Egonu ถ้าไม่มีโค้ชและทีมงานของทางสมาพันธ์ รวมถึงระบบการพัฒนาและฝึกฝนนักกีฬา

ส่วนตัวคิดว่าการติชมวิจารณ์นั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้และควรกระทำด้วย แต่ควรเป็นไปด้วยความเข้าใจและปราศจากอคติ และส่วนตัวก็คิดว่าการเปลี่ยนตัวหัวหน้าผู้ฝึกสอนไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร และถ้าเปลี่ยนแล้วดีขึ้นจริงๆก็อยากให้เปลี่ยน (แต่ใครจะเป็นคนรับประกันว่าถ้ามีการเปลี่ยนจริงขึ้นมาจะดีขึ้นไม่แย่ลง?) แต่การถึงกับ ด่าว่าเหน็บแนมอย่างเสียๆหายๆ ไม่ให้เกียรติ หรือไม่แม้แต่จะให้เครดิตใดๆกับโค้ชและทีมงานเลย (อย่าลืมว่าแม้แต่โค้ชอ๊อดก็เคยถูกแฟนบางส่วนไล่มาแล้ว) ทั้งๆที่ก็มีผลงานและทำงานเบื้องหลังมาอย่างยาวนานที่เราอาจไม่รู้ จนสามารถสร้างนักกีฬาและทีมไทยในทุกวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สมควรและไม่ยุติธรรมกับบุคคลเหล่านี้เลย

(ในส่วนของ biomechanics สั้นๆคือ การแก้ไขข้อจำกัดของนักกีฬา และใช้ข้อได้เปรียบให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ให้สามารถใช้ศักยภาพได้ดีขึ้นเช่น Egonu ที่ขาโก่ง ส่วนนักกีฬาไทยและเอเชียมีข้อจำกัดเรื่องสรีระและความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ การใช้หลักชีวะกลศาสตร์จะช่วยยกระดับศักยภาพได้ในระดับหนึ่งแต่เราต้องเข้าใจว่ายังไงก็ตามมันก็จะยังมีข้อจำกัดจะเอาไปเทียบกับ Caucasiod หรือ Nigroid ไม่ได้เว้นแต่บุคคลที่มีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นเช่น Zhu ting ซึ่งมีโครงสร้างร่างกาย และความแข็งแกร่งที่ไม่ใช่ลักษณะเฉพาะของชาวเอเชียโดยทั่วไป ในขณะที่ชาวเอเชียก็อาจมีข้อได้เปรียบเช่นความคล่องตัวซึ่งก็จะมีผลต่อรูปแบบและสไตล์การเล่นด้วย ดังนั้นโค้ชอ้อดจึงบอกว่า มันเป็นเรื่องยากที่เราจะหาผู้เรียนที่มีความสูง 190 ถึง 2 เมตร แต่เรารู้ว่าเราจะใช้ผู้เรียนที่มีรูปร่างแบบนี้ให้ได้เปรียบอย่างไร นั่นคือการพัฒนาความเร็ว ความคล่องตัว และความหลากหลาย และในอนาคตก็ต้องพยามหานักกีฬาที่มีรูปร่างสูง และวางแผนพัฒนาตั้งแต่ระดับรากหญ้าตั้งแต่ u12,… คนเราทุกคนมีความคาดหวังแต่บางทีเราก็ต้องสร้างดุลย์ระหว่างความคาดหวังของเรากับความเป็นไปได้/ความเป็นจริง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่