ลิลิตพระลอ



ลิลิตพระลอ 

เป็นนิยายท้องถิ่นของไทยภาคเหนือ  เข้าใจกันว่าแต่งมาจากเรื่องจริง  
ในหลักฐานพงศาวดารกล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ.๑๖๑๖-๑๖๙๓  

๑.สันนิษฐานว่าเมืองสรองคงจะเป็นตอนเหนือของอำเภอร้องกวางจังหวัดแพร่  
ส่วนเมืองสรวงคงจะเป็นเขตอำเภอแจ้ห่ม  จังหวัดลำปาง

๒.สันนิษฐานว่า พระลอ อยู่เมืองแมนสรวง คือ เมืองหลวงพระบาง ในลาว 
พระเพื่อน พระแพง อยู่เมืองสรอง คือ เมืองพะเยา แม่น้ำกาหลง คือ แม่น้ำโขง
พระลอ (ลอ) แปลว่า งาม, ดี ยืมจากคำเขมร ว่า ลฺอ (ลฺออ) สวย งาม 
เมืองแมนสรวง ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำกาหลง คือ เมืองหลวงพระบาง 
เมืองแมน หมายถึง เมืองแถน คือ เมืองเทวดา, เมืองฟ้า, เมืองสวรรค์
พระเพื่อน พระแพง อยู่เมืองสรอง ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำกาหลง เป็นเชื้อสายท้าวฮุ่ง ท้าวเจือง แห่งล้านนา
คือ เมืองพะเยา  ดินแดนล้านนา ในไทย คำว่า สรอง แต่น่าจะมาจากคำว่า สอง
แม่น้ำกาหลง คือ แม่น้ำโขง (ลาวเรียกน้ำแม่ของ) ที่เวียดนามเรียกว่ากิวล็อง 
และจีนเรียกว่ากิวลุ่ง หมายถึง แม่น้ำที่มีนาคเก้าตัวปกปักรักษา
 

ลิลิตพระลอ  เป็นยอดวรรณคดีประเภทลิลิต  ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แต่งและแต่งเมื่อใด

๑ . สันนิษฐานว่าอยู่ ระหว่างสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ หรือสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
หลักฐานได้แก่ หนังสือจินดามณี ในรัชกาลพระนารายณ์ (โดยพระโหราธิบดี) 
ได้คัดต้นแบบโคลง๔ จากโคลงลิลิตพระลอ คือบทที่ขึ้นต้นว่า “เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย”

๒. ต้นฉบับพระลอในสมุดข่อยสมัยรัชกาลที่ ๓ เขียนด้วยลายมืออาลักษณ์ไม่พบต้นฉบับลายมือเก่ากว่านั้น 
ซึ่งเท่ากับสมัยอยุธยาไม่พบต้นฉบับพระลอจึงสันนิษฐานว่าแต่งขึ้นในสมัยรัชกาลที่๓

​​ผู้แต่ง  
อาจเป็นรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ(พ.ศ.๒๐๑๗)หรือสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(พ.ศ. ๒๒๐๕)
 
ลักษณะคำประพันธ์  
ประเภทลิลิตสุภาพซึ่งประกอบด้วยร่ายสุภาพ โคลงสองสุภาพ โคลงสามสุภาพ และโคลงสี่สุภาพสลับกันไป  

แต่งถวายพระเจ้าแผ่นดิน เพื่อให้เป็นที่สำราญพระราชหฤทัย

​เรื่องย่อ

เมืองสรวงและเมืองสรองเป็นศัตรูกัน พระลอ กษัตริย์ที่เมืองสรวงมีรูปงามยิ่งนัก 
จนเป็นที่กล่าวขานไปถึงพระเพื่อนพระแพงราชธิดาของท้าวพิชัยพิษณุกรกษัตริย์แห่งเมืองสรองดังโคลงและเพลงว่า

เสียงลือเสียงเล่าอ้าง   อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร     ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล      ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า      อย่าได้ถามเผือ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
พระพี่เลี้ยงของพระเพื่อนพระแพงได้ให้ปู่เจ้าสมิงพรายช่วยทำเสน่ห์ใช้ไก่ล่อพระลอโดยมีลักษณะตามบรรยายว่า

ทรงทรามวัยทรามแรง สร้อยแสงแดงพระพาย ขนเขียวลายระยับ ปีกสลับเบญจรงค์ 
เลื่อมลายยงหงสะบาท ขอบตาชาดพะพริ้ง สิงคลิ้งหงอนพรายพรรณ ขานขันเสียงเอาใจ 
เดือยหงอนใสสีลำยอง สองเท้าเทียมนพมาศ ปานฉลุชาดทารง
 
 คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แม้พระลอทรงเสี่ยงทายน้ำปรากฏลางร้ายก็ทรงฝืนเสด็จไป สุดท้ายได้เข้าไปในตำหนักของพระเพื่อน พระแพง   
ท้าวพิชัยพิษณุกรทรงทราบเรื่องก็ทรงพระเมตตารับสั่งจะจัดการอภิเษกพระลอกับพระเพื่อนและพระแพง    
แต่พระเจ้าย่าเลี้ยงของพระเพื่อนพระแพงยังทรงพยาบาทพระบิดาพระลอที่สังหารพระสวามี   
อ้างรับสั่งท้าวพิชัยพิษณุกรใช้ให้ทหารไปรุมจับพระลอพระเพื่อนพระแพงและพี่เลี้ยง
ในที่สุดพระลอ  พระเพื่อน  พระแพง และพี่เลี้ยงก็สิ้นชีวิตทั้งหมด   
ท้าวพิชัยพิษณุกรพิโรธพระเจ้าย่าและทหาร   รับสั่งให้ประหารชีวิตทุกคน  พระนางบุญเหลือพระชนนีของพระลอ
ทรงส่งทูตมาร่วมงานพระศพกษัตริย์ทั้งสาม ในที่สุดเมืองสรวงและเมืองสรองก็กลับมาเป็นไมตรีต่อกัน
 

ตำนานรักพระลอ ให้รสวรรณคดี ความรัก ความโศก กล้าหาญเสียสละ 
ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงผลเสียของความแค้น ความอาฆาต พยาบาท 
ตลอดจนอนุภาพแห่งความรัก 

บทเพลงในลิลิต พระลอ  ในบทชมโฉมสตรีในเรื่อง คือ พระเพื่อนพระแพง


ใช้เป็นเพลงตับ(หมายถึงเพลงสั้น ๆ ที่นำมารวมร้องและบรรเลงติดต่อกัน) 
ประกอบด้วยเพลงสำเนียงลาวที่ไพเราะ คือ 
เพลงลาวเล็กตัดสร้อย ลาวเล่นน้ำ ลาวกระตุกกี่ ลาวกระแตเล็ก ลาวดอกไม้เหนือ 
ลาวเฉียง ลาวครวญ และลาวกระแซ เพลงลาวเจริญศรี(ไทยสากล)

ที่นิยมขับร้องกันมีดังนี้ 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ครานั้นยังมีสองกัลยา               ลักษณาเลิศล้ำในต่ำใต้ 
ทรงโฉมประโลมละลานใจ        บุตรีไท้องค์วิษณุกรรม

ลาวเล็กตัดสร้อย   
  
 อายุเยาวเรศรุ่นเจริญศรี             พระเพื่อนพี่แพงน้องสองสมร
 งามทรงงามองค์อ่อนซ้อน          ดังอัปสรหยาดฟ้าลงมาเอย 

ลาวเล่นน้ำ 

แม่คุณเอ๋ย ข้อยบ่เคยพบเจ้า        สองนางลำเพาสูเจ้างามตา 
 สาวใดบ่เหมือนสองเพื่อนแพงนา  แต่ข้อยดูมาลักษณาบ่ปาน

 
ผู้รวบรวมเนื้อหาแต่งร้อยกรองบางส่วนสรุปตามเนื้อหาบางช่วงของบทประพันธ์
ใช้บทร้อยกรอง โคลงสี่สุภาพ อินทรวิเชียรฉันท์ กาพย์ยานี๑๑ กลอนสุภาพ
ดรุณีพี่น้อง                   เพื่อนแพง
ยินข่าวเจ้าสรวงแขวง          ถิ่นด้าว
สร้างเสกส่งมนตร์แปลง      ยวนยั่ว
หวังซึ่งถึงท่านท้าว   พระลอยลยาม
 
งามทรงองค์อ่อนซ้อน   กัลยา
งามเด่นเห็นโสภา        ใช่อ้าง
งามองค์ส่งนำพา           เจอพี่
งามซึ่งถึงหวังบ้าง   ชื่นด้วยสองนรี
 
ที่มีกรรมเก่าครั้ง                  ยังตาม
ครั้งเมื่อการสงคราม                 ต่อสู้
ผลย้อนส่งในยาม            เกี่ยวเนื่อง
วายซึ่งชีพชวนรู้   ล่วงด้วยปล่อยวาง
แมนสรวงนครแดน     กิระแคว้นพระลอองค์
ลือความอร่ามทรง           สุรวงศ์วิกรมครอง
งามพิศขนิษฐา                   สุวิภาสง่าสอง
เอื้อยเพื่อนพระแพงน้อง    มนปองหทัยวน

ร่ายมนต์ดลประสิทธิ์         ให้บพิตรจิตสับสน
ต้องตาระกายล                ได้ดั้นด้นจนพบกัน
เข้าครองสองกานดา            ชื่นอุราดังว่าฝัน
แต่กรรมทำกางกั้น        จนชีวันนั้นวายปราณ
อานุภาพความรัก   แจ้งประจักษ์ทักกล่าวขาน
เรื่องเด่นเป็นตำนาน      ที่ยืนนานท่านพระลอ

เป็นเรื่องราว  กล่าวขาน เนิ่นนานมา
เจ้าแดนฟ้า ท่าดินแดน เมืองแมนสรวง
นามพระลอ ลออเช่น ดุจเด่นดวง
ชนทั้งปวง   ล่วงร่ำลือ ระบือไกล
  
ได้ความยิน ถึงดินแดน แคว้นเมืองสรอง
คู่พี่น้อง   สองนารี  ศรีสมัย
พระเพื่อนแพง ได้แต่งมนตร์  เพื่อดลใจ  
ให้เอกองค์  ทรงตามไก่ เพื่อได้ความ
 
ครั้นพานพบ ครบสอง ครองคู่เข้า
แต่ความเก่า ครั้งเจ้าย่า หาหักห้าม
สั่งพลไกร ไล่รับ จับทั้งสาม
ต่อติดตาม ยามชีพวาย มลายไป 
 
อ่านลิลิต พินิจความ ตามที่มา
สอนให้เรา เข้าใจว่า พารู้ไว้
ปล่อยวางลง ปลงได้  สบายใจ
ศึกษาใฝ่ ในธรรมะ จะคุ้มครอง

 
  เครดิตภาพ ข้อมูล วีดีทัศน์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
ขอได้รับความรู้และความสำราญทางบทเพลงและบทร้อยกรองครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่