เราควรทำยังไงดีคะ ผู้ใหญ่มองว่าเราเป็นคนเรียกร้องความสนใจทั้งๆที่หมอก็บอกว่ามีแนวโน้มจะเป็นซึมเศร้า

สวัสดีค่ะเราอายุ15ปีเรามีอาการเป็นซึมเศร้ามาจะเข้าเดือนที่7แล้วค่ะ ย้อนความก่อนว่าเราเป็นคนคิดเยอะมากๆจากที่ตอนเด็กๆเราไม่เคยเป็นแบบนี้ เราเรียนข้ามปีมาปีนึงดังนั้นปีนี้เราเลยอยู่ม.4แล้วค่ะ เรามีปัญหากับที่บ้านเรื่องนี้มาก็นานพอควรค่ะเริ่มเเรกเรามีอาการคิดเยอะมากแต่ก็ไม่ำด้ขนาดนั้นในช่วงเมื่อ4-5เดือนก่อน เราเป็นคนไม่ชอบอะไรที่เสียงดังหรือขึ้นเสียงใส่เรามักจะตกใจเรื่องพวกนี้บ่อยๆจนตอนนึงเราทะเลาะกับพ่อ แล้วปกติเวลาคุณพ่อเราโมโหหรืออะไรจะชอบขึ้นเสียงใส่อยู่แล้วแต่ในทุกครั้งจะไม่ใช่เราที่จะโดนขึ้นเสียงใส่ แต่ว่าตอนนั้นเราทะเลาะกันหนักมากเรากลัวมากเพราะเรามีปัญหากับคุณพ่อในเรื่องเรียนพิเศษใกล้สอบเข้า ในช่วงเศรษฐกิจนี้บ้านเราติดลบก็เยอะอยู่ต้องหมุนเงินในทุกๆเดือนแต่ช่วงที่เราใกล้สอบเข้าย้ายรร.ใหม่จากหญิงล้วนประจำจังหวัดไปสหะประจำจังหวัดเพราะโควต้าอีกรร.มันเยอะกว่าเราอ่านหนังสือเยอะๆมากเลยตอนนั้นกลัวตัวเองจะสอบไม่ได้เลยกดดันตัวเองมาก แล้วพอมาขอเรียนพิเศษอะไรอย่างนี้บวกกับปัญหาการเงินอีก คุณพ่อเราเลยต้องเจียดเงินค่าใช้จ่ายมาจ่ายเป็นค่าเรียนพิเศษให้ แต่ตอนนั้นที่เรามีปัญหาคือคุณพ่อเราเขาถามว่าเริ่มเรียนเมื่อไหร่แล้วเราตอบไผว่าไม่รู้เพราะพี่แอดมินบอกว่าจะขอเชคตารางก่อนเดี๋ยวจะส่งให้อีกทีตอนบ่ายโมง แต่คุณพ่อมาถามเราตอนช่วงสิบเอ็ดโมง พอเราตอบว่าไม่รู้คุณพ่อเขาเลยหงุดหงิดแล้วก็ลากบ่นเรายาวว่าไม่รับผิดชอบงานตัวเองแบบนู้นแบบนี้ว่าไปว่ามาจนพาลไปเรื่องอื่น ตอนนั้นเราจำได้ว่าเราสวนกลับคุณพ่อไปทั้งๆที่ปกติไม่เคยทำทีนี้คุณพ่อก็ยิ่งอารมณ์เสียใส่ตะคอกใส่เราตอนนั้นเราร้องไห้หนักมากในใจคือไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดคือแต่สวนกลับคำไปนิดเดียวกลายเป็นตัวเองผิดไปแล้วหรอ อารมณ์เสียใจ+ความกดดันของตัวเองในช่วงสอบทำให้เรากรีดข้อมือมันคือการทำร้ายตัวเองครั้งเเรกของเราเลยหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เราไม่กล้าคุยกับพ่ออีก

แต่ก่อนหน้าที่เราจะทะเลาะกับพ่อเราเคยป่วยจนเข้ารพ.แต่คุณหมอก็วินิจฉัยว่าเรามีความเครียดสะสมเหมือนเราเครียดมากๆจนสมองเข้าใจว่าเราป่วยจนสั่งการให้ร่างกายมันป่วยตามที่คิด คุณหมอเลยแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์  และพอเราไปพบจิตแพทย์คุณหมอบอกเราเองเลยว่า "หนูรู้ตัวมั้ยว่าหนูหน่ะเป็นซึมเศร้านะ" ตอนนั้นในใจเราคือซวยแล้วไงเพราะ mindset ของที่บ้านเรายังเข้าใจว่าโรคซึมเศร้า=โรคเรียกร้องความสนใจ เราเลยบอกคุณหมอไปว่าอย่าเพิ่งบอกครอบครัวหนูได้มั้ยเพราะหนูไม่รู้ว่าถ้าออกจากห้องนี้ไปแล้วคุณหมอบอกครอบครัวหนูว่าหนูเป็นซึมเศร้าเขาจะปฎิบัติกับหนูยังไงจะหาว่าหนูเรียกร้องความสนใจหรือเปล่า คุณหมอเลยบอกว่าโอเคคุณหมอจะยังไม่บอกทั้งหมดแต่ยังไงก็จะต้องบอกว่าหนูหน่ะเป็นซึมเศร้า คุณหมอเรียกครอบครัวของเราไปคุยแล้วบอกกับครอบครัวเราว่าเราเข้าข่ายเป็นซึมเศร้าก็เลยจัดยามาให้เป็นยาต้านซึมเศร้ากับยานอนหลับ 

หลังจากนั้นย้อนไปตรงที่เราเตรียมสอบเข้าผลสอบเข้าของเราคือไม่ติดได้ไปติดโรงเรียนเล็กๆแทนตอนนั้นเป็นช่วงที่หลังจากหาหมอมาแล้ว เรารับผลของตัวเองไม่ได้เลยเราอ่านหนังสือแทบตายแต่เราไม่ติด ตอนนั้นเรากลัวสายตาของญาติๆมากๆเลย เราจะกลายเป็นแกะดำขแงบ้านหรือเปล่าที่สอบรร.ดังๆไม่ติด เราโง่ที่สุดในบ้านหรือเปล่าตอนนั้นคิดมากไปหมดแล้วคุณพ่อเราจะว่ายังไงเขาเสียตังขนาดนั้นเเล้วเราเลยกรีดข้อมือตัวเองอีกรอบ ปรากฏว่าคุณพ่อเราสงบอารมณ์ตัวเองมาหาเราแล้วบอกว่าไม่ติดก็ไม่เป็นไร (ที่คุณพ่อสงบได้เพราะณแม่เตือนสติมา)

แต่ถึงอย่างงั้นเราก็ยังรับกับตัวเองไม่ได้อยู่ดี เรามีความคิดแค่อยากหายไปอย่างเดียวเวลาเครียดหรืออะไรคิดสั้นตลอดว่าถ้าหายไปก็ไม่องเหนื่อยอยากย้อนเวลากละบไปถ้าสอบติดคงไม่เป็นแบบนี้ แต่เราก็ไม่ได้แสดงอาการแบบนั้นออกไปต่อหน้าพ่อแม่จนยาเราหมดแล้วพ่อแม้ห็นว่าเราดูปกติดีเลยไม่ได้พาไปหาหมออีก เราก็เลยต้องพึ่งตัวเองจนตอนนึงที่เราหลุดเรานั่งทำการบ้านอยู่ดีๆจู่ฟิ
ลเราก็ดิ่งดิ่งแบบมากๆเรานึกถึงเรื่องร้ายตลอดไม่รู้จะรับมือยังไงเลยเลือกกรีดข้อมืออีกรอบ พอพ่อแม่รํเรื่องนี้และช่วงที่เขากำลังเครียดเรื่องเงินคุณพ่อเราเลยพูดจาแซะเราอีกแล้วว่า "หนูจะไปหาหมอก็ได้นะอยากเป็นอยู่แล้วนี่โรคนี้อะ" หลังจากนั้นคือฟิลเราขาดเลยเราร้องไห้ไม่หยุดทั้งวันเขาพูดเหมือนเรา wannabe ที่จะเป็นมากอ่ะแล้วก็เอาเราไปเปรียบเทียบกับเด็กจีนที่บ้านไม่มีอะไรเลยเขายังไม่เป็นแบบเราเลยตอนนั้นฟิลเราดิ่งยิ่งกว่าเดิมจากเเผลเก่าที่ยังไม่ทันหายสนิทเราก็เริ่มแผลใหม่อีก พอไปคุยกับคุณอาคุณอาก็บอกว่าเราเรียกร้องความสนใจแล้วหยิบยกเรื่องการเงินมาพูดตอนนี้เราสงสัยมากว่าเราควรทำยังไงต่อดีคือเราเริ่มสับสนแล้วว่าเราเป็นซึมเศร้าจริงๆใช่มั้ยหรือเราแค่เรียกร้องความสนใจอย่างที่คนในครองครัวพูดมา

ปล.อาการของเราตอนนี้อเรากลัวสายตาของทุกคนมากเรากลัวว่าถ้าเราทำอะไรผิดเขาจะมองเรายังได้ ขนาดคนแค่เดินมองหน้าเราเรายังกลัวเลยว่าเขามองเราทำไม แล้วก็เรายังจมอยู่กับอดีตตลอดจนถึงตอนนี้ว่าทำไมเราไม่สอบให้ติดทุกอย่างมันจะได้ไม่เป็นแบบนี้เราไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เลย เวลาเครียดหรืออะไรเราก็จะนึกถึงเรื่องอดีตโดยอัตโนมัตแล้วก็ทำร้ยตัวเองซ้ำๆบางครั้งก็กินยาคลามกล้ามเนื้อหมดแผงหวังตายจริงๆแต่มันดันคลื่นไส้แล้วอ้วกออกมาอย่างเดียว แล้วก็เราก็ยังไม่กล้าคุยกับคุณพ่อเพราะกลัวเจิคำพูดแซะเราแล้วก็การขึ้นเสียงใส่รวมถึงคุณพ่อบางทีเราอยู่ใกล้ๆเล่นกับแมวแล้วแมวมันร้องก็ชอบพูดลอยๆออกมาว่ารำคาญหว่ะ ประมาณนี้ค่ะพี่ๆผู้ที่อ่านช่วยแนะนำแนวทางทีค่ะ

1.หนูสับสนกับตัวเองมากๆเลยว่าหนูเป็นซึมเศร้าอย่างที่คุณหมอบอกหรือหรือแค่เรียกร้องความสนใจอย่างที่คนในครอบครัวบอก

2.หนูควรทำยังไงกับคนในครอบครัวดีคะ ทุกคนคิดว่าเรียกร้องความสนใจหมดเลย

3.แล้วเรื่องคุณพ่อหนูควรจัดการยังไงดีคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่