สำหรับไวน์ 3 ตัวที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นดื่มไวน์ ได้แก่
👉 Prosecco เป็นไวน์แบบ sparkling wine มีรสผลไม้ชัดเจน และมีความหวานเล็กน้อย พร้อมกับรสชาติที่สดชื่นขององุ่นเขียว และองุ่น ไม่มีแทนนิน และมีความเป็นกรดต่ำ
👉 Chardonnay Chardonnay เป็นชื่อองุ่นขาว โดยไวน์ที่ทำจากองุ่น Chardonnay จะมีรสแอปเปิ้ล และลูกแพร์ พร้อมกับกลิ่นเนย ขนมปังปิ้ง และต้นโอ๊ก มีรสฝาด ไม่ค่อยออกหวานเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังมีกลิ่นผลไม้ ไม่มีแทนนิน เพราะว่าเป็นไวน์ขาว
👉 Pinot Noir Pinot Noir เป็นไวน์แดง ที่ได้รับความนิยม มีรสชาติเบา มีแทนนินต่ำ พร้อมกับรสชาติของเบอร์รี่ และเชอร์รี่ จะมีรสชาติออกฝาด ไม่ได้หวานมากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบไวน์ขาว แต่อยากลองดื่มไวน์แดง

1. จิบไวน์ : ไวน์จะดีที่สุด เมื่อจิบ และลิ้มรส เมื่อเทียบกับการกลืนลงไป จิบไวน์ปริมาณน้อยถึงปานกลาง และอมไว้ตรงกลางลิ้นก่อนกลืน วิธีนี้ จะช่วยให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่ซับซ้อนของไวน์
โดยทั่วไป ไวน์แดง จะมีรสชาติที่เข้มข้น และดีกว่ามาก เมื่อจิบ และลิ้มรส สามารถเสิร์ฟไวน์แดง พร้อมอาหารเย็น หรือของหวาน หรือจะดื่มเพียว ๆ ได้ ดื่มไวน์ช้า ๆ เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำกับรสชาติของไวน์อย่างแท้จริง หมุนแก้วไวน์ก่อนจิบทุกครั้ง จะช่วยให้ไวน์สัมผัสกับอากาศได้มากขึ้น
สามารถจิบไวน์ขาวเพียว ๆ ได้ และก็ยังเข้ากันได้ดี กับมื้ออาหาร และของหวานที่หลากหลาย ไวน์ขาว มักให้ความสดชื่นมากกว่าไวน์แดง ดังนั้น จึงสมดุลกับรสชาติที่หลากหลาย จิบไวน์ทีละน้อย และปล่อยให้รสชาติของไวน์สัมผัสกับปุ่มรับรส ก่อนที่จะกลืนลงไป

2. เสิร์ฟไวน์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม : ต้องเสิร์ฟไวน์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รสชาติไวน์ที่ดีที่สุด ควรเสิร์ฟไวน์แดงใกล้อุณหภูมิห้องมากกว่า ในขณะที่ไวน์ขาว จะรสชาติดีกว่า เมื่อแช่เย็น

3. เลือกใช้แก้วไวน์ที่เหมาะสม : อย่าลืมเลือกใช้แก้วที่เหมาะสมกับไวน์ เพื่ออรรถรสในการดื่มด้วย โดย แก้วไวน์ขาว มักมีขนาดเล็กกว่าแก้วไวน์แดง ส่วน แก้วไวน์แดง มักมีขนาดใหญ่กว่าแก้วไวน์ขาว

4. การเสิร์ฟไวน์ : ไวน์แดง และไวน์ขาว เสิร์ฟแตกต่างกันเล็กน้อย อย่าลืมเทไวน์ลงในแก้วในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ประสบการณ์การดื่มไวน์ที่ดีที่สุด

- จับบริเวณที่กานแก้ว โดยใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลางบีบบริเวณที่ก้านแก้วไวน์ แล้วยกขึ้นมาดื่ม 
- หยิบแก้วไวน์ที่บริเวณก้านแก้วด้วยนิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้ 
- ใช้นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้จับที่ก้านแก้ว ส่วนนิ้วกลาง ใช้รองบริเวณฐานแก้วด้านล่าง
- ใช้นิ้วโป้งจับที่ฐานแก้ว ส่วนนิ้วที่เหลือ ให้ทำการโค้งงอเล็กน้อย เพื่อใช้รองบริเวณฐานด้านล่าง
- ห้ามจับที่ตัวแก้วโดยตรงเป็นอันขาด เพราะอุณภูมิจากฝ่ามือ จะทำให้ไวน์เสียรสชาติ

1. อุณหภูมิ ในการเก็บรักษาไวน์อุณหภูมิทั่วไปที่แนะนำจะอยู่ที่ประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมจะทำให้ไวน์แสดงรสชาติเฉพาะตัวของมันออกมาได้ดี ซึ่งแต่ละไวน์ มีอุณหภูมิที่แตกต่างกันออกไป เช่น ไวน์แดง อุณหภูมิจะอยู่ที่ 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนไวน์ขาว จะอยู่ที่ประมาณ 7-10 องศาเซลเซียส การเก็บรักษาไวน์ในตู้แช่ไวน์ โดยเฉพาะ จึงจะช่วยให้ไวน์ได้รับอุณหภูมิที่เหมาะสม ได้ความเย็นที่สม่ำเสมอ และไม่ควรแช่ไวน์ในตู้เย็นธรรมดาทั่ว ๆ ไป

2. แสง ไวน์กับแสง UV เพราะตัวแสง จะไปเร่งกระบวกการบ่มไวน์ ทำให้รสชาติไวน์อาจจะเปลี่ยนไป ห้องสำหรับเก็บไวน์ จึงไม่ควรมีแสงสว่างมากเกินไป

3. ความชื้น เป็นสิ่งที่ต้องระวัง หากว่าความชื้นน้อยกว่า 50% ทำให้จุกคอร์กที่ปิดไวน์แห้ง และแตกได้ เปิดโอกาสให้อากาศเข้าไปในไวน์ได้นั่นเอง

4. การสั่นสะเทือน มีผลต่อไวน์ เพราะจะทำให้เกิดอุณหภูมิที่สูงขึ้น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ก็จะไปทำปฏิกิริยาทำให้ไวน์สูญเสียรสชาติไปได้ ไม่มีกลิ่นหอม หรืออาจจะทำให้ไวน์เสียเร็วยิ่งขึ้นด้วย