กกพ.ส่งสัญญาณจ่อขึ้นค่าไฟ 40 สต./หน่วย คาดแพงยาวถึงปี 66
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/296577
เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พูดชัดเจน ค่าไฟฟ้าในงวดสุดท้ายของปีนี้ ขึ้นขั้นต่ำ 40 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ เหตุต้นทุน ทั้ง ค่าก๊าซฯ และน้ำมันแพง
โดยนาย
คมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.กล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษ ไขข้อข้องใจ รับมือค่าไฟครึ่งปีหลัง ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
โดยระบุชัดเจนว่า แนวโน้มการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที งวดสุดท้ายของปีนี้ คือ งวดเดือนกันยายน ถึง ธันวาคม มีโอกาสปรับสูงกว่าประมาณการณ์เดิม ที่คาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 40 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เข้ามาผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากเดิมคาดว่าจะใช้ 30% หลังต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้น
ขณะที่กำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยลดลง ประกอบกับการรับก๊าซฯจากเมียนมามีแนวโน้มลดลง อีกทั้งอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลงแตะ 35 บาท จากเดิมประมาณการอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์ ดังนั้น เมื่อคำนวนต้นทุนต่างๆ แล้ว ค่าเอฟที อาจจะสูงขึ้น แต่จะปรับขึ้นไม่ถึง 5 บาทต่อหน่วย และการปรับขึ้นในรอบนี้ ยังไม่รวมกับภาระที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แบกรับไว้ ที่ปัจจุบันอยู่ที่กว่า 80,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวมในส่วนนี้ จะส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่แท้จริงปรับขึ้นอีกกว่า 1 บาทต่อหน่วย และคาดว่า การปรับขึ้นค่าไฟ ยังจะต้องต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากต้นทุนราคาเชื้อเพลิงยังผันผวน
ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ :
https://youtu.be/e-j-qXW5b0s
“ชัชชาติ” คุยหอการค้าตั้งคกก.ร่วมดูกระตุ้นศก.
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_358809/
หอการค้า ถก ผู้ว่ากทม.พร้อมทำงานร่วมกันช่วยปชช. พร้อมตั้งคกก.ร่วมหอการค้ากทม. ช่วยกันพัฒนาสร้างรายได้ชุมชนรับมือภาระค่าครองชีพสูง
นาย
สนั่น อังอุบลกุล ประทานกรรมการหอการค้าไทยและสภาขอการค้าแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับนาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โดยได้ยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ และภาคเอกชนพร้อมที่จะทำงานในการพัฒนาร่วมกัน โดยทางหอการค้าไทยเน้นย้ำภาระกิจในการยกระดับขีดความสามารถของภาคเอกชนในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ ดูแลภาคเกษตร อาหาร การท่องเที่ยวและบริการ
ในขณะที่นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ระบุว่า ทั้งกรุงเทพฯและหอการค้าไทยมีความเห็นร่วมกันที่จะให้ตั้งคณะกรรมการร่วมหอการค้าไทย-กทม.ทำงานร่วมกัน หาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
และภายใน 1 เดือนนับจากนี้จะต้องเห็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม เช่น การจัดพื้นที่ถนนคนเดิน ตลาดนัด เขตละ 1 แห่ง ให้ผู้ค้าสตรีตฟู้ดมีพื้นที่ค้าขายฟรี ลดภาระค่าเช่า บรรเทาต้นทุนที่สูงขึ้นในขณะนี้จากราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งล่าสุดแต่ละเขตได้ทยอยหาพื้นที่ที่เหมาะสม โครงการครัวกลาง เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยตามชุมชน เช่น
ชุมชน คลองเตย , การฟื้นโครงการฝึกอาชีพ , โครงการครูภาษาจีนโรงเรียน 437 แห่งในสังกัดกทม.รองรับการเปิดประเทศ , การพัฒนา E-Government และ จัดทำ Open Data เพื่อให้ภาครัฐและเอกชน ได้ดึงข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันได้อย่างสะดวกมากขึ้น
“เพื่อไทย” บุกศรีสะเกษ เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แทนงูเห่าย้ายซบพรรคอื่น แกนนำมั่นใจได้ยกจังหวัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3406425
“เพื่อไทย” บุกศรีสะเกษ เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แทนงูเห่าย้ายซบพรรคอื่น แกนนำมั่นใจได้ยกจังหวัด
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 มิถุนายน) ครอบครัวเพื่อไทย (พท.) ได้จัดกิจกรรมลงพื้นที่จ.ศรีสะเกษ ภายใต้ชื่อ “
ไล่หนู ตีงูเห่า” โดยจะเป็นรูปแบบการเดินสายพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนใน 3 เวที ใน 3 พื้นที่ คือ อ.อุทุมพรพิสัย อ.ราษีไศล และ อ.ขุนหาญ ซึ่งในจุดแรกที่อ.อุทุมพรพิสัย จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคทั้ง 9 เขต แต่ที่น่าจับตาคือ เป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพื้นที่ของส.ส.ของพรรค พท.ที่เป็นงูเห่าโหวตสวนมติพรรค ในการลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยพื้นที่เขตอ.อุทุมพรพิสัย จะส่งนาย
ประวิทย์ จารุรัชกุล หรือ
ผู้ใหญ่เฮง เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.
ขณะที่พื้นที่อ.ราษีไศล ที่เป็นพื้นที่ของนาง
ผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค พท.ซึ่งเป็นหนึ่งในงูเห่าโหวตสวนมติพรรค และเตรียมย้ายไปอยู่พรรค ภท. โดยพรรคจะส่งนาง
นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.ราษีไศล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงแทน
เช่นเดียวกับพื้นที่อ.ขุนหาญ จะส่งนาย
อมรเทพ สมหมาย อดีตส.ส.ศรีสะเกษ หลายสมัย แทนนาย
ธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ รวมทั้งพื้นที่อ.กันทรลักษณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่นพ.
จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค พท. ที่จะส่งนพ.
ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ลงแทน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานอีกว่า แกนนำพรรค พท.ต่างมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งยกจังหวัด เพราะว่าที่ผู้สมัครส.ส.ลงพื้นที่พบประชาชนมาโดยตลอด และมีคุณสมบัติครบตามที่พรรค พท.ต้องการ
"มหาเศรษฐี" 1.5 หมื่นราย จ่ออพยพพ้นรัสเซีย
https://www.bangkokbiznews.com/world/1010644
“กลาโหมอังกฤษ” เผยมหาเศรษฐี 15,000 ราย เตรียมอพยพ และโอนถ่ายเงินออกจากรัสเซีย คาดจะทำเศรษฐกิจประเทศเสียหายหนักขึ้น
กระทรวงกลาโหมของอังกฤษเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (17 มิ.ย.) บ่งชี้ว่า เศรษฐีชาวรัสเซียจำนวนมากถึง 15,000 คน พยายามหาทางอพยพออกจากรัสเซีย โดยการอพยพอย่างต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจ และอภิสิทธิ์ชนมีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของรัสเซียมากขึ้นในระยะยาว หลังจากต้องเผชิญกับภาวะสงคราม
“การยื่นขออพยพย้ายถิ่นฐานแสดงให้เห็นว่า เศรษฐีชาวรัสเซียประมาณ 15,000 รายพยายามอพยพออกจากประเทศ” กระทรวงกลาโหมของอังกฤษ ระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สำหรับสงครามในยูเครนนั้น รัสเซียหวังรุกคืบด้วยการพยายามโอบล้อมเมืองซีวีโรโดเนสต์จากชายฝั่งตอนใต้
อย่างไรก็ตาม ด้านเจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า กองกำลังทหารของยูเครนสามารถต้านทานการโจมตีด้วยระเบิดครั้งใหญ่ของรัสเซียในเมืองซีวีโรโดเนสต์ โดยระบุว่า เป็นความคืบหน้าครั้งใหม่ในการรับมือกับข้าศึกในพื้นที่ตอนใต้ อีกด้วย
JJNY : 5in1 จ่อขึ้นค่าไฟ│“ชัชชาติ”คุยหอการค้า│“พท.”บุกศรีสะเกษ│"มหาเศรษฐี"จ่ออพยพพ้นรัสเซีย│รัสเซียถูกปรับ1.02ล.ยูโร
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/296577
เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พูดชัดเจน ค่าไฟฟ้าในงวดสุดท้ายของปีนี้ ขึ้นขั้นต่ำ 40 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ เหตุต้นทุน ทั้ง ค่าก๊าซฯ และน้ำมันแพง
โดยนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.กล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษ ไขข้อข้องใจ รับมือค่าไฟครึ่งปีหลัง ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
โดยระบุชัดเจนว่า แนวโน้มการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที งวดสุดท้ายของปีนี้ คือ งวดเดือนกันยายน ถึง ธันวาคม มีโอกาสปรับสูงกว่าประมาณการณ์เดิม ที่คาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 40 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เข้ามาผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากเดิมคาดว่าจะใช้ 30% หลังต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้น
ขณะที่กำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยลดลง ประกอบกับการรับก๊าซฯจากเมียนมามีแนวโน้มลดลง อีกทั้งอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลงแตะ 35 บาท จากเดิมประมาณการอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์ ดังนั้น เมื่อคำนวนต้นทุนต่างๆ แล้ว ค่าเอฟที อาจจะสูงขึ้น แต่จะปรับขึ้นไม่ถึง 5 บาทต่อหน่วย และการปรับขึ้นในรอบนี้ ยังไม่รวมกับภาระที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แบกรับไว้ ที่ปัจจุบันอยู่ที่กว่า 80,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวมในส่วนนี้ จะส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่แท้จริงปรับขึ้นอีกกว่า 1 บาทต่อหน่วย และคาดว่า การปรับขึ้นค่าไฟ ยังจะต้องต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากต้นทุนราคาเชื้อเพลิงยังผันผวน
ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/e-j-qXW5b0s
“ชัชชาติ” คุยหอการค้าตั้งคกก.ร่วมดูกระตุ้นศก.
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_358809/
หอการค้า ถก ผู้ว่ากทม.พร้อมทำงานร่วมกันช่วยปชช. พร้อมตั้งคกก.ร่วมหอการค้ากทม. ช่วยกันพัฒนาสร้างรายได้ชุมชนรับมือภาระค่าครองชีพสูง
นายสนั่น อังอุบลกุล ประทานกรรมการหอการค้าไทยและสภาขอการค้าแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โดยได้ยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ และภาคเอกชนพร้อมที่จะทำงานในการพัฒนาร่วมกัน โดยทางหอการค้าไทยเน้นย้ำภาระกิจในการยกระดับขีดความสามารถของภาคเอกชนในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ ดูแลภาคเกษตร อาหาร การท่องเที่ยวและบริการ
ในขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ระบุว่า ทั้งกรุงเทพฯและหอการค้าไทยมีความเห็นร่วมกันที่จะให้ตั้งคณะกรรมการร่วมหอการค้าไทย-กทม.ทำงานร่วมกัน หาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
และภายใน 1 เดือนนับจากนี้จะต้องเห็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม เช่น การจัดพื้นที่ถนนคนเดิน ตลาดนัด เขตละ 1 แห่ง ให้ผู้ค้าสตรีตฟู้ดมีพื้นที่ค้าขายฟรี ลดภาระค่าเช่า บรรเทาต้นทุนที่สูงขึ้นในขณะนี้จากราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งล่าสุดแต่ละเขตได้ทยอยหาพื้นที่ที่เหมาะสม โครงการครัวกลาง เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยตามชุมชน เช่น
ชุมชน คลองเตย , การฟื้นโครงการฝึกอาชีพ , โครงการครูภาษาจีนโรงเรียน 437 แห่งในสังกัดกทม.รองรับการเปิดประเทศ , การพัฒนา E-Government และ จัดทำ Open Data เพื่อให้ภาครัฐและเอกชน ได้ดึงข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันได้อย่างสะดวกมากขึ้น
“เพื่อไทย” บุกศรีสะเกษ เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แทนงูเห่าย้ายซบพรรคอื่น แกนนำมั่นใจได้ยกจังหวัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3406425
“เพื่อไทย” บุกศรีสะเกษ เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แทนงูเห่าย้ายซบพรรคอื่น แกนนำมั่นใจได้ยกจังหวัด
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 มิถุนายน) ครอบครัวเพื่อไทย (พท.) ได้จัดกิจกรรมลงพื้นที่จ.ศรีสะเกษ ภายใต้ชื่อ “ไล่หนู ตีงูเห่า” โดยจะเป็นรูปแบบการเดินสายพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนใน 3 เวที ใน 3 พื้นที่ คือ อ.อุทุมพรพิสัย อ.ราษีไศล และ อ.ขุนหาญ ซึ่งในจุดแรกที่อ.อุทุมพรพิสัย จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคทั้ง 9 เขต แต่ที่น่าจับตาคือ เป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพื้นที่ของส.ส.ของพรรค พท.ที่เป็นงูเห่าโหวตสวนมติพรรค ในการลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยพื้นที่เขตอ.อุทุมพรพิสัย จะส่งนายประวิทย์ จารุรัชกุล หรือ ผู้ใหญ่เฮง เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.
ขณะที่พื้นที่อ.ราษีไศล ที่เป็นพื้นที่ของนางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค พท.ซึ่งเป็นหนึ่งในงูเห่าโหวตสวนมติพรรค และเตรียมย้ายไปอยู่พรรค ภท. โดยพรรคจะส่งนางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.ราษีไศล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงแทน
เช่นเดียวกับพื้นที่อ.ขุนหาญ จะส่งนายอมรเทพ สมหมาย อดีตส.ส.ศรีสะเกษ หลายสมัย แทนนายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ รวมทั้งพื้นที่อ.กันทรลักษณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค พท. ที่จะส่งนพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ลงแทน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานอีกว่า แกนนำพรรค พท.ต่างมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งยกจังหวัด เพราะว่าที่ผู้สมัครส.ส.ลงพื้นที่พบประชาชนมาโดยตลอด และมีคุณสมบัติครบตามที่พรรค พท.ต้องการ
"มหาเศรษฐี" 1.5 หมื่นราย จ่ออพยพพ้นรัสเซีย
https://www.bangkokbiznews.com/world/1010644
“กลาโหมอังกฤษ” เผยมหาเศรษฐี 15,000 ราย เตรียมอพยพ และโอนถ่ายเงินออกจากรัสเซีย คาดจะทำเศรษฐกิจประเทศเสียหายหนักขึ้น
กระทรวงกลาโหมของอังกฤษเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (17 มิ.ย.) บ่งชี้ว่า เศรษฐีชาวรัสเซียจำนวนมากถึง 15,000 คน พยายามหาทางอพยพออกจากรัสเซีย โดยการอพยพอย่างต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจ และอภิสิทธิ์ชนมีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของรัสเซียมากขึ้นในระยะยาว หลังจากต้องเผชิญกับภาวะสงคราม
“การยื่นขออพยพย้ายถิ่นฐานแสดงให้เห็นว่า เศรษฐีชาวรัสเซียประมาณ 15,000 รายพยายามอพยพออกจากประเทศ” กระทรวงกลาโหมของอังกฤษ ระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สำหรับสงครามในยูเครนนั้น รัสเซียหวังรุกคืบด้วยการพยายามโอบล้อมเมืองซีวีโรโดเนสต์จากชายฝั่งตอนใต้
อย่างไรก็ตาม ด้านเจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า กองกำลังทหารของยูเครนสามารถต้านทานการโจมตีด้วยระเบิดครั้งใหญ่ของรัสเซียในเมืองซีวีโรโดเนสต์ โดยระบุว่า เป็นความคืบหน้าครั้งใหม่ในการรับมือกับข้าศึกในพื้นที่ตอนใต้ อีกด้วย