ปมเริ่มมาจากผมเอง ก่อนมาคบเขา ผมโสดมาเป็นเวลานาน กดตามไอดอล ดารา ผู้หญิง ชอบขอไลน์ผู้หญิงในผับ และไม่ได้คุยสร้างความสัมพันธ์เลย
แต่ในที่ทำงานผมวางตัวไม่สนใจผู้หญิงคนไหน แฟนผมชอบผม จีบผมจากบุคคลิกที่เขาคิดว่าผมไม่ได้เจ้าชู้ไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรแบบนั้นเลย
ผมก็ชอบเขา จึงคบกัน ไม่ถึงสองเดือนเขาตั้งท้อง และได้แต่งงานกัน
แต่พอหลังแต่งงาน มีโอกาสที่เขาเปิดดูแชทผม เห็นแชทในอดีตของผม ผมคุยกับผู้หญิงหลายๆ คนในอดีตดูกระดี๊กระด๊า เทียบกับที่ผมคุยกับเขาแบบเรียบเฉย จึงน้อยใจ บอกว่าเลือกคนผิด หลังจากคบกันมีแชทที่ผมคุยกับผู้หญิงเรื่องงานก็ตีความว่าผมนอกใจ อะไรอะไรก็มองเป็นมุมลบไว้ก่อน ดาราผู้หญิงที่ผมกดติดตามแล้วขึ้นมาในหน้าฟีด ถ้าเขาเห็น ก็กระตุ้นให้เขาโกรธ แล้วก็ดึงเรื่องสารพัดมาด่าผมแบบควบคุมตัวเองไม่ได้
รวมไปถึงหลายๆ เรื่องที่เขาน้อยใจที่ผมเคยพูดผิดนิดเดียวก็ตีความในมุมที่ว่าผมไม่รักเขา ผมช่วยเหลือคนอื่นที่เป็นผู้ชาย เขารู้เขาก็น้อยใจ ชอบเอาคนอื่นที่ผมช่วยไปเทียบกับเขาว่าผมไม่ให้ความสำคัญกับเขา แต่ไปให้ความสำคัญกับคนอื่น แล้วก็จำฝังแน่น สะสมมาเรื่อยๆ
ผมนอนกับเขา มีลูกเล็กนอนรวมด้วย เวลามีลูกอยู่ใกล้ๆ ผมก็จะไม่ค่อยนึกถึงเรื่อง sex แทบไม่เป็นฝ่ายรุก สังเกตความต้องการฝ่ายเขา มีสองสามครั้งที่เขาเป็นฝ่ายรุก และผมเผลอหาว แต่ในมุมผมคือไม่เกี่ยว แม้ผมจะหาวแต่ก็มีอารมณ์ทางเพศมีความสามารถปกติ แต่การเผลอหาวของผมมันไปกระตุ้นอะไรบางอย่าง ทำให้อารมณ์ของเขาพลิกขั้ว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขุดเรื่องต่างๆ มาด่าทอผม ไม่ได้นอนกัน
พอมีลูก เขาก็กังวลกับโควิดมากๆ ความระมัดระวังของผมต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับมาตรฐานเขา
ตอนผมขับรถ เขานั่งด้วย ผมก็มีผิดพลาดบ้าง เช่นลืมเปิดไฟเลี้ยวบางครั้ง หรือเริ่มขับเร็ว ซึ่งในมุมผมคิดว่าปกติ แต่เขาก็จะจำและมองเป็นเรื่องใหญ่ หยิบเรื่องพวกนี้มาชวนทะเลาะ
ผมเข้าใจเรื่องมุมมองที่ต่างกัน อะไรที่คิดไม่ตรงกันผมก็จะโน้มน้าว โดยยึดความพอใจเขาเป็นหลัก แต่สิ่งที่เขาคิดคือผมเถียงเขา
ตอนนี้คือ ผมจนปัญญา ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น ทำได้เพียงรับฟัง และเป็นฝ่ายผิด เป็นฝ่ายยอมเสมอ
ยกเว้นที่เขาบอกมาว่าผมไม่รักเขา ผมก็จะเถียงว่า ในมุมผม ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะรัก
ผมก็ไม่อยากให้เขาคิดว่า ที่ผมเคยทำทุกสิ่งทุกอย่างไปมันไร้ค่า ไม่ได้แสดงว่าผมรักเขาเลย
อยากถามท่านผู้รู้ว่า นี่เป็นอาการป่วยของแฟนผมไหมครับ หรือปกติ (ซึ่งแฟนผมเข้าใจแบบนั้นว่าตัวเองไม่ได้ป่วย แต่ผมเองที่ผิด ที่ทำให้เขารู้สึกแย่) หรือเป็นแค่โรควิตกกังวล หรือเป็นซึมเศร้า หรือไบโพล่าด้วย
เขาคิดว่าเขาไม่ได้ป่วย เขาบอกว่า เขาเคยเป็นซึมเศร้านานแล้ว ตอนนั้นคือรู้สึกอยากตายจมดิ่งมากกว่านี้ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยากตายและสาเหตุมาจากผม ไม่ได้มาจากเขาป่วย
ผมจะเกริ่นเพื่อชวนเขาไปหาหมอด้วยกัน เพราะผมก็เครียด ก็เคยเกริ่นมา 2 ครั้ง ก็เป็นการกระตุ้นจากอารมณ์ดีๆ เปลี่ยนกลายเป็นโมโห
ผมจนปัญญาแล้วจริงๆ ครับ
ถ้าไปหาหมอไม่ได้ ผมก็
ลองสั่งชาคาโมมาย กับ วิตามิน NAT B มา กินด้วยกันทุกวันก่อนนอน ประมาณสัปดาห์นึงได้แล้ว ยังไม่เห็นผล
ก็เคยคิดอะไรที่น่ากลัวอย่างการไปซื้อยาแก้ซึมเศร้ามาแอบให้แฟนกินเหมือนกัน แต่ไม่กล้าทำจริงๆ หรอกครับ กลัวอันตราย
ใครมีเทคนิค วิธีพูด หรือกลเม็ดอะไร ที่พาแฟนไปหาหมอได้ ช่วยแนะนำด้วยครับ
เคยชวนแฟนที่เป็นซึมเศร้าหรืออาจเป็นแค่วิตกกังวลจะไปหาหมอ แค่ผมเกริ่นเขาก็ไม่พอใจมากแล้ว จนไม่ได้ไปสักที มีวิธีแก้อย่างไร
แต่ในที่ทำงานผมวางตัวไม่สนใจผู้หญิงคนไหน แฟนผมชอบผม จีบผมจากบุคคลิกที่เขาคิดว่าผมไม่ได้เจ้าชู้ไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรแบบนั้นเลย
ผมก็ชอบเขา จึงคบกัน ไม่ถึงสองเดือนเขาตั้งท้อง และได้แต่งงานกัน
แต่พอหลังแต่งงาน มีโอกาสที่เขาเปิดดูแชทผม เห็นแชทในอดีตของผม ผมคุยกับผู้หญิงหลายๆ คนในอดีตดูกระดี๊กระด๊า เทียบกับที่ผมคุยกับเขาแบบเรียบเฉย จึงน้อยใจ บอกว่าเลือกคนผิด หลังจากคบกันมีแชทที่ผมคุยกับผู้หญิงเรื่องงานก็ตีความว่าผมนอกใจ อะไรอะไรก็มองเป็นมุมลบไว้ก่อน ดาราผู้หญิงที่ผมกดติดตามแล้วขึ้นมาในหน้าฟีด ถ้าเขาเห็น ก็กระตุ้นให้เขาโกรธ แล้วก็ดึงเรื่องสารพัดมาด่าผมแบบควบคุมตัวเองไม่ได้
รวมไปถึงหลายๆ เรื่องที่เขาน้อยใจที่ผมเคยพูดผิดนิดเดียวก็ตีความในมุมที่ว่าผมไม่รักเขา ผมช่วยเหลือคนอื่นที่เป็นผู้ชาย เขารู้เขาก็น้อยใจ ชอบเอาคนอื่นที่ผมช่วยไปเทียบกับเขาว่าผมไม่ให้ความสำคัญกับเขา แต่ไปให้ความสำคัญกับคนอื่น แล้วก็จำฝังแน่น สะสมมาเรื่อยๆ
ผมนอนกับเขา มีลูกเล็กนอนรวมด้วย เวลามีลูกอยู่ใกล้ๆ ผมก็จะไม่ค่อยนึกถึงเรื่อง sex แทบไม่เป็นฝ่ายรุก สังเกตความต้องการฝ่ายเขา มีสองสามครั้งที่เขาเป็นฝ่ายรุก และผมเผลอหาว แต่ในมุมผมคือไม่เกี่ยว แม้ผมจะหาวแต่ก็มีอารมณ์ทางเพศมีความสามารถปกติ แต่การเผลอหาวของผมมันไปกระตุ้นอะไรบางอย่าง ทำให้อารมณ์ของเขาพลิกขั้ว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขุดเรื่องต่างๆ มาด่าทอผม ไม่ได้นอนกัน
พอมีลูก เขาก็กังวลกับโควิดมากๆ ความระมัดระวังของผมต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับมาตรฐานเขา
ตอนผมขับรถ เขานั่งด้วย ผมก็มีผิดพลาดบ้าง เช่นลืมเปิดไฟเลี้ยวบางครั้ง หรือเริ่มขับเร็ว ซึ่งในมุมผมคิดว่าปกติ แต่เขาก็จะจำและมองเป็นเรื่องใหญ่ หยิบเรื่องพวกนี้มาชวนทะเลาะ
ผมเข้าใจเรื่องมุมมองที่ต่างกัน อะไรที่คิดไม่ตรงกันผมก็จะโน้มน้าว โดยยึดความพอใจเขาเป็นหลัก แต่สิ่งที่เขาคิดคือผมเถียงเขา
ตอนนี้คือ ผมจนปัญญา ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น ทำได้เพียงรับฟัง และเป็นฝ่ายผิด เป็นฝ่ายยอมเสมอ
ยกเว้นที่เขาบอกมาว่าผมไม่รักเขา ผมก็จะเถียงว่า ในมุมผม ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะรัก
ผมก็ไม่อยากให้เขาคิดว่า ที่ผมเคยทำทุกสิ่งทุกอย่างไปมันไร้ค่า ไม่ได้แสดงว่าผมรักเขาเลย
อยากถามท่านผู้รู้ว่า นี่เป็นอาการป่วยของแฟนผมไหมครับ หรือปกติ (ซึ่งแฟนผมเข้าใจแบบนั้นว่าตัวเองไม่ได้ป่วย แต่ผมเองที่ผิด ที่ทำให้เขารู้สึกแย่) หรือเป็นแค่โรควิตกกังวล หรือเป็นซึมเศร้า หรือไบโพล่าด้วย
เขาคิดว่าเขาไม่ได้ป่วย เขาบอกว่า เขาเคยเป็นซึมเศร้านานแล้ว ตอนนั้นคือรู้สึกอยากตายจมดิ่งมากกว่านี้ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยากตายและสาเหตุมาจากผม ไม่ได้มาจากเขาป่วย
ผมจะเกริ่นเพื่อชวนเขาไปหาหมอด้วยกัน เพราะผมก็เครียด ก็เคยเกริ่นมา 2 ครั้ง ก็เป็นการกระตุ้นจากอารมณ์ดีๆ เปลี่ยนกลายเป็นโมโห
ผมจนปัญญาแล้วจริงๆ ครับ
ถ้าไปหาหมอไม่ได้ ผมก็
ลองสั่งชาคาโมมาย กับ วิตามิน NAT B มา กินด้วยกันทุกวันก่อนนอน ประมาณสัปดาห์นึงได้แล้ว ยังไม่เห็นผล
ก็เคยคิดอะไรที่น่ากลัวอย่างการไปซื้อยาแก้ซึมเศร้ามาแอบให้แฟนกินเหมือนกัน แต่ไม่กล้าทำจริงๆ หรอกครับ กลัวอันตราย
ใครมีเทคนิค วิธีพูด หรือกลเม็ดอะไร ที่พาแฟนไปหาหมอได้ ช่วยแนะนำด้วยครับ