
https://www.bangkokbiznews.com/social/1006268



https://www.bangkokbiznews.com/news/1006306

พัฒนาต่อยอด! องค์การอนามัยโลกชื่นชมระบบจัดการโควิด-19 ในประเทศไทย

องค์การอนามัยโลก"ชื่นชมระบบจัดการโควิด-19 ในประเทศไทย พร้อมจะนำไปพัฒนาเป็นรูปแบบที่เป็นสากลและใช้กับบริหารสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก ด้านรองนายกรัฐมนตรี"อนุทิน"เชิญผู้อำนวยการใหญ่ WHO ร่วมการประชุม APEC High Level Meeting on Health ที่ประเทศไทย 22-26 ส.ค. พร้อมเปิดสำนักเลขาธิการ ศูนย์ ACPHEED อย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) สมัยที่ 75 นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมคณะ ได้มีโอกาสพบเพื่อหารือกับ นาย Tedros Adhanom Ghrebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงความร่วมในโครงการต่างๆ ระหว่างประเทศไทยกับ WHO

ในการพบหารือ นาย Tedros และ ดร.Poonam Khetrapal Singh ผู้อำนวยการ WHO ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวชื่นชมไทยในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง WHO และจะนำรูปแบบ รวมถึงระบบการบริหารจัดการของประเทศไทย ไปเป็นแบบอย่างที่จะสร้างให้เป็นมาตรฐานสากล และใช้ในการบริหารสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก
"ผู้บริหาร WHO ชื่นชมความสำเร็จในการจัดการโควิด19 ของประเทศไทย การฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชากรมากกว่า 70% ตามเป้าหมายของ WHO ซึ่งปัจจุบันไทยฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ครอบคลุม 81.4% เข็มที่2 จำนวน 75.3% ของประชากรทั้งประเทศ และขอบคุณที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการเพื่อการพัฒนาต่างๆ ของ WHO อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ WHO Biohub ซึ่งเป็นคลังสำหรับเก็บเชื้อเพื่อวิจัย และการแบ่งปันเชื้อ อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาและวิจัยวัคซีนสำหรับป้องกันโรคอุบัติใหม่ต่างๆ" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในโอกาสนี้ นายอนุทิน ได้เชิญนาย Tedros เข้าร่วมการประชุม APEC High Level Meeting on Health and the Economy ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 26 ส.ค.2565 ที่กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสที่ปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค โดยการประชุมครั้งนี้จะมีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสามาชิกเอเปคเข้าร่วมหารือกันภายใต้หัวข้อ เปิดกว้างเพื่อความร่วมมือ เชื่อมต่อกับโลก สร้างสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์การประชุมดังกล่าว ประเทศไทยจะเปิดสำนักงานเลขาธิการ ศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) รองนายกรัฐมนตรีจึงเชิญผู้อำนวยการใหญ่ WHO ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ได้ขอบคุณที่ WHO เลือกประเทศไทยเพื่อเป็นประเทศนำรองในการดำเนินกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า จากการรับมือการระบาดใหญ่ของโรคโควิด19 (UHPR) โดยผลการดำเนินโครงการไทยสามารถบริหารจัดการการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งประเทศไทยพร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์กับประเทศต่างๆ ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก นาย Tedros ได้รับการเลือกตั้งจากประเทศสมาชิก WHO 194 ประเทศให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ WHO เป็นสมัยที่ 2 โดยในวาระแรกได้เริ่มดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2560 และจะครบวาระสิ้นเดือน มิ.ย.2565 นี้
https://www.naewna.com/local/655905

.....ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
สถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่องผู้รักษาตัวอยู่ มีจำนวนต่ำกว่าหลักห้าหมื่นคนแล้ว
ไทยได้รับคำชมความสำเร็จของไทยจากWHO หลายครั้งที่รับมือโควิดได้ดี ทั้งยังแบ่งปันความรู้ให้ประเทศต่างๆ

....💕✌️💕✌️
🇹🇭มาลาริน💚25พ.ค.ไทยไม่ติดTop10โลก/ป่วยใหม่5,013คน หายป่วย5,591คน ตาย33คน รักษาอยู่47,268คน/WHOชื่นชมจัดการโควิดของไทย
https://www.bangkokbiznews.com/social/1006268
https://www.bangkokbiznews.com/news/1006306
องค์การอนามัยโลก"ชื่นชมระบบจัดการโควิด-19 ในประเทศไทย พร้อมจะนำไปพัฒนาเป็นรูปแบบที่เป็นสากลและใช้กับบริหารสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก ด้านรองนายกรัฐมนตรี"อนุทิน"เชิญผู้อำนวยการใหญ่ WHO ร่วมการประชุม APEC High Level Meeting on Health ที่ประเทศไทย 22-26 ส.ค. พร้อมเปิดสำนักเลขาธิการ ศูนย์ ACPHEED อย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) สมัยที่ 75 นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมคณะ ได้มีโอกาสพบเพื่อหารือกับ นาย Tedros Adhanom Ghrebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงความร่วมในโครงการต่างๆ ระหว่างประเทศไทยกับ WHO
ในการพบหารือ นาย Tedros และ ดร.Poonam Khetrapal Singh ผู้อำนวยการ WHO ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวชื่นชมไทยในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง WHO และจะนำรูปแบบ รวมถึงระบบการบริหารจัดการของประเทศไทย ไปเป็นแบบอย่างที่จะสร้างให้เป็นมาตรฐานสากล และใช้ในการบริหารสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก
"ผู้บริหาร WHO ชื่นชมความสำเร็จในการจัดการโควิด19 ของประเทศไทย การฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชากรมากกว่า 70% ตามเป้าหมายของ WHO ซึ่งปัจจุบันไทยฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ครอบคลุม 81.4% เข็มที่2 จำนวน 75.3% ของประชากรทั้งประเทศ และขอบคุณที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการเพื่อการพัฒนาต่างๆ ของ WHO อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ WHO Biohub ซึ่งเป็นคลังสำหรับเก็บเชื้อเพื่อวิจัย และการแบ่งปันเชื้อ อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาและวิจัยวัคซีนสำหรับป้องกันโรคอุบัติใหม่ต่างๆ" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในโอกาสนี้ นายอนุทิน ได้เชิญนาย Tedros เข้าร่วมการประชุม APEC High Level Meeting on Health and the Economy ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 26 ส.ค.2565 ที่กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสที่ปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค โดยการประชุมครั้งนี้จะมีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสามาชิกเอเปคเข้าร่วมหารือกันภายใต้หัวข้อ เปิดกว้างเพื่อความร่วมมือ เชื่อมต่อกับโลก สร้างสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์การประชุมดังกล่าว ประเทศไทยจะเปิดสำนักงานเลขาธิการ ศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) รองนายกรัฐมนตรีจึงเชิญผู้อำนวยการใหญ่ WHO ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ได้ขอบคุณที่ WHO เลือกประเทศไทยเพื่อเป็นประเทศนำรองในการดำเนินกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า จากการรับมือการระบาดใหญ่ของโรคโควิด19 (UHPR) โดยผลการดำเนินโครงการไทยสามารถบริหารจัดการการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งประเทศไทยพร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์กับประเทศต่างๆ ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก นาย Tedros ได้รับการเลือกตั้งจากประเทศสมาชิก WHO 194 ประเทศให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ WHO เป็นสมัยที่ 2 โดยในวาระแรกได้เริ่มดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2560 และจะครบวาระสิ้นเดือน มิ.ย.2565 นี้
https://www.naewna.com/local/655905
สถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่องผู้รักษาตัวอยู่ มีจำนวนต่ำกว่าหลักห้าหมื่นคนแล้ว
ไทยได้รับคำชมความสำเร็จของไทยจากWHO หลายครั้งที่รับมือโควิดได้ดี ทั้งยังแบ่งปันความรู้ให้ประเทศต่างๆ