อั้นไม่ไหว แห่ขึ้นราคาสินค้าระลอกใหญ่ แม่บ้านอ่วม
https://www.thansettakij.com/business/525855
สุดอั้น สินค้าแห่ขึ้นราคาทั้งของกิน ของใช้ ร้านค้าส่งบ่นอุบ น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่ ซอส ปลากระป๋อง กระทบชาวบ้าน ร้านค้ากราวรูด
แม้กรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ จะออกมายืนยันว่า ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าของกินของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร อาหารแห้ง ยันน้ำอัดลม แต่ก็พบว่ามีสินค้าทยอยปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โซดา เครื่องดื่มชูกำลัง สแน็ค นมพร้อมดื่ม
ล่าสุดพบว่ามีสินค้าอีกจำนวนมากที่ปรับราคาขึ้นในรอบส่งใหม่ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด
ร้านค้าส่งรายใหญ่ ย่านมีนบุรี กล่าวว่า สินค้ารอบนี้มีการปรับขึ้นหลายรายการ ทั้งของกินและของใช้ โดยเฉพาะในกลุ่มของใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ครีมอาบน้ำ สบู่ก้อน ซอสปรุงรส น้ำผลไม้ น้ำจิ้มไก่ ปลากระป๋อง รวมไปถึงขนมขบเคี้ยวต่างๆ พบว่า
• น้ำยาปรับผ้านุ่มขนาด 550-600 มล. ปรับราคา 2-3 บาท จากปกติ 15-18 บาทเป็น 18-20 บาท
• กระดาษชำระ (แพค 6 ม้วน) จากราคา 69 บาท เป็น 72 บาท
• ซอสหอยนางรม ขวดใหญ่ (800 กรัม) จากปกติ 37 บาท ปรับเป็น 42 บาท
• น้ำยาล้างจาน ชนิดเติม จาก 38 บาท ปรับขึ้นเป็น 40 บาท
• ปลากระป๋อง ปรับขึ้นจาก 10 บาท เป็น 12-14 บาท
• นมถั่วเหลืองขวด ปรับราคาขึ้นจาก 12 บาทเป็น 15 บาท
• สบู่ก้อน ปรับราคาขึ้นจาก 10-15 บาทเป็น 12-15 บาท
• แชมพู-ครีมนวด ยังไม่มีการปรับราคาขึ้น
• น้ำผลไม้แพค 4 ปรับราคาขึ้นจาก 36 บาทเป็น 42 บาท
ขณะที่น้ำมันปาล์ม ยังไม่มีการปรับราคาขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ปรับราคาขึ้นเป็น 70 บาทต่อขวด ทำให้มีราคาเท่ากับน้ำมันถั่วเหลือง แต่จำกัดการซื้อ 3 ขวด/ครอบครัว
“ของกิน ของใช้เป็นสิ่งจำเป็น แม้จะขึ้นราคา แต่ก็ยังต้องใช้ บางคนอาจจะใช้ลดลง เพราะต้องการประหยัด สมัยก่อน 100 บาทซื้อได้หลายอย่าง แต่ปัจจุบันซื้อได้อย่าง สองอย่างก็หมด ที่ร้านมีลูกค้าทั้งชาวบ้านทั่วไป และร้านค้า อาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งหากราคาสินค้ายังเพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่า ราคาอาหารต่างๆ ก็จะสูงตามไปอีก เพราะขณะนี้ทุกอย่างก็ขึ้นราคากันหมดแล้ว”
พ่อค้าแม่ค้าโอดน้ำมันปาล์มราคาพุ่ง กระทบคนขายของทอด วอนรัฐปรับเหลือกิโลกรัมละ 55 บาท
https://ch3plus.com/news/economy/morning/292278
น้ำมันปาล์มแพงทั้งแผ่นดิน พ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายของทอด โอดราคาน้ำมันแพงขึ้นกระทบต้นทุนการผลิต ต้องทนแบกรับภาระอย่างหนัก ต้องปรับลดปริมาณแต่ยังไม่เพิ่มราคา แม้มีบ้างที่ลูกค้าไม่เข้าใจและไม่ซื้อสินค้า แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจและรับได้ วอนรัฐบาลช่วยปรับลดราคาน้ำมัน ต้องไม่เกินกิโลกรัมละ 55 บาท พ่อค้าแม่ค้าแผงลอยที่หาเช้ากินค่ำยังพอรับได้
วันนี้ 22 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดคนเดินเซ็นเตอร์พ้อยท์ ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมการจำหน่ายอาหารสำหรับประชาชน พนักงาน โรงงาน ต่าง ๆ ในเขตตัวเมืองตรัง ที่ช่วงเย็นหลังเลิกงานต่างก็มาฝากท้องที่นี่ เพราะมีอาหารที่หลากหลายจำหน่าย ซึ่งที่จุดนี้จะมีอาหารที่ถือว่าเป็นอาหารหลักชอบกินกันทุกวัย เช่น ไก่ทอด ลูกชิ้น เป็นต้น
จากการสำรวจและสอบถามพบว่าพ่อค้า แม่ค้า ที่จำหน่ายอาหารที่ต้องใช้น้ำมัน ของทอดต่าง ๆ ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น จะเพิ่มราคาสินค้าก็ไม่ได้ จะลดปริมาณสินค้าก็ไม่ได้ เพราะกลัวเสียลูกค้า ต้องทนแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้ไม่ได้ปรับขึ้นราคาแต่เพียงน้ำมัน แต่วัตถุดิบทุกอย่างปรับขึ้นทั้งหมด
นา
ยปริญญา ฉิมมุสิก เจ้าของร้านหงส์ฟ้าไก่ทอดครัวของคนตรัง กล่าวว่า น้ำมันขึ้นทางร้านได้รับผลกระทบมาก เพราะราคาน้ำมันทะลุไปกิโลกรัมละ 67 บาท แล้ว เมื่อก่อนนี้ใช้น้ำมันอยู่ที่กิโลกรัมละ 28-34 บาท ซึ่งในแต่ละวันทางร้านต้องใช้น้ำมันสำหรับทอด 15 กิโลกรัม ซึ่งทำให้กำไรลดลงจำนวนมาก แม้ว่าราคามันเพิ่มขึ้นแต่สินค้าที่ขายในร้านไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีประชาชนรายได้น้อย หากทางร้านปรับขึ้นราคาของก็ขายไม่ได้ แม้ว่าได้กำไรน้อยตนเองก็จำเป็นต้องขายเพราะต้องรักษาลูกค้าเอาไว้ ก็ต้องรอให้น้ำมันถูกลงทางร้านถึงจะได้กำไร อยากฝากถึงรัฐบาลให้ปรับลดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 55 บาท ตนว่ากำลังดีพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยที่หาเช้ากินค่ำยังพอรับได้
ในขณะที่ นางสาว
ดารุณี พลวัฒน์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านพี่แจ๋วทอดมันกุ้ง ที่ทางร้านจำหน่ายอาหารประเภทของทอด เช่น ทอดมันกุ้ง ไส้กรอก ลูกชิ้น ชนิดต่าง ๆ ไข่ปลาทอด ทอดมันปลา กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ราคาวัตถุดิบปรับราคาแพงขึ้นทุกอย่าง พอมาน้ำมันปรับแพงขึ้นอีก ก็ต้องปรับราคาขึ้นตาม ซึ่งทางร้านใช้น้ำมันอย่างดีในการทอดเพราะสามารถช่วยให้เวลาทอดน้ำมันไม่ดำ และทำให้อาหารมีความอร่อย ทางร้านใช้น้ำมันในการทอดแต่ละวัน 10 กว่าถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม แต่เมื่อน้ำมันปรับราคาขึ้นอย่างนี้ทางร้านก็ต้องสู้เพราะเป็นอาชีพที่เลี้ยงปากท้อง ส่วนราคาสินค้าที่ขายยังราคาเดิม แต่มีการลดปริมาณสินค้าลง ซึ่งตอนนี้ซื้อน้ำมันมาใช้กิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งเมื่อปรับราคา ปรับปริมาณลูกค้าบางรายก็รับไม่ได้ แต่บางรายก็รับได้
'พิเชษฐ' ยัน กลุ่ม16 ดินเนอร์ พท. ถกซักฟอก 'โจ้' เชื่อ 'ธรรมนัส' ไม่เบี้ยว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7063767
‘พิเชษฐ’ ยัน กลุ่ม16 ดินเนอร์เพื่อไทย ถกประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปูดมีเรื่องทุจริตใหม่ ‘โจ้’ เชื่อ ‘ธรรมนัส’ ร่วมวงไม่เบี้ยว
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2565 นาย
พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม16 กล่าวว่า ในวันที่ 23 พ.ค.เวลา 18.00 น.
ส.ส. กลุ่ม16 อาทิ นาย
พีรวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม, นาย
สุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่, นาย
มนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ นัดรับประทานอาหารเย็นกับนาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ร้าน The conner ซอยสุขุมวิท 26
เพื่อหารือถึงปัญหาการทุจริตในโครงรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำในภาคตะวันออก รวมถึงเรื่องปัญหาค่าไฟฟ้าแพงที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับการแก้ไขจากกระทรวงพลังงาน ประเด็นเหล่านี้เตรียมนำไปขยายผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ขณะที่นาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มาหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นัดรับประทานอาหารเย็นกับส.ส.กลุ่ม16 ในวันที่ 23 พ.ค. เพื่อหารือถึงปัญหาการทำงานต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาทุจริตที่มีอยู่หลายเรื่อง โดยจะแลกเปลี่ยนความเห็นกัน เพื่อนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนเรื่องที่จะหารือกัน อาทิ ความไม่โปร่งใสโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี และยังมีการทุจริตเรื่องใหม่จะนำมาพูดคุยในวงวันที่ 23 พ.ค.ด้วย
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นในวันดังกล่าวด้วย หลังจากที่ได้รับคำตกลงกันไว้แต่แรก แม้ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาปฏิเสธ ว่า
ร.อ.
ธรรมนัส จะไม่มาร่วมรับประทานอาหารกับตน
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนยังไม่ได้รับคำยืนยันอีกครั้งจาก ร.อ.
ธรรมนัสว่า จะมาร่วมวงด้วย แต่เชื่อว่าร.อ.
ธรรมนัสเป็นผู้ใหญ่ เมื่อตกปากรับคำแต่แรกไว้แล้ว คงไม่ผิดนัด เพราะเป็นการมากินข้าวพูดคุยเรื่องปัญหาของบ้านเมือง
‘โรม’ เผย ‘ก้าวไกล’ ล็อกเป้าชำแหละ ‘กลาโหม’ จัดงบไม่แคร์ปากท้อง ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3359369
‘โรม’ เผย ‘ก้าวไกล’ ล็อกเป้าชำแหละ ‘กลาโหม’ จัดงบไม่แคร์ปากท้อง ปชช.
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่าขณะนี้พรรค ก.ก.กำลังเตรียมการอย่างเข้มข้น และรับรองได้ว่าการอภิปรายคราวนี้จะเข้มข้นเช่นกัน โดยเราจะเสนอว่างบประมาณที่ควรจะเป็นเป็นอย่างไร และจะชี้ให้เห็นว่า 1.อะไรคือตัวขัดขวางที่ทำให้การใช้งบประมาณไม่เกิดประโยชน์ หรือไม่ตรงจุดที่เป็นปัญหา และ 2.ทางออกและการใช้งบประมาณอย่างที่ควรจะเป็น เพื่อที่จะพาประเทศนี้ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
เมื่อถามว่าจากการพิจารณางบประมาณของแต่ละกระทรวง กระทรวงใดมีปัญหามากที่สุด นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ความจริงพบว่ามีหลายกระทรวงที่มีปัญหา เพราะการทำงบประมาณปีนี้ไม่ได้มีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก สำหรับกระทรวงที่มีปัญหาอย่างชัดเจนคือ กระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกตั้งคำถามว่าใช้งบประมาณอย่างเหมาะสมหรือไม่กับสถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้อง ส่วนจะมีข้อมูลอะไรใหม่หรือไม่ให้รอฟังการอภิปรายของนาย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ก.ก. ซึ่งกำลังขุดคุ้ยข้อมูลอยู่
JJNY : 5in1 แห่ขึ้นราคาสินค้า│โอดน้ำมันปาล์มราคาพุ่ง│ยันกลุ่ม16ดินเนอร์พท.│‘ก้าวไกล’ล็อกเป้า‘กลาโหม’│ยูเครนย้ำต้องเจรจา
https://www.thansettakij.com/business/525855
สุดอั้น สินค้าแห่ขึ้นราคาทั้งของกิน ของใช้ ร้านค้าส่งบ่นอุบ น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่ ซอส ปลากระป๋อง กระทบชาวบ้าน ร้านค้ากราวรูด
แม้กรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ จะออกมายืนยันว่า ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าของกินของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร อาหารแห้ง ยันน้ำอัดลม แต่ก็พบว่ามีสินค้าทยอยปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โซดา เครื่องดื่มชูกำลัง สแน็ค นมพร้อมดื่ม
ล่าสุดพบว่ามีสินค้าอีกจำนวนมากที่ปรับราคาขึ้นในรอบส่งใหม่ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด
ร้านค้าส่งรายใหญ่ ย่านมีนบุรี กล่าวว่า สินค้ารอบนี้มีการปรับขึ้นหลายรายการ ทั้งของกินและของใช้ โดยเฉพาะในกลุ่มของใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ครีมอาบน้ำ สบู่ก้อน ซอสปรุงรส น้ำผลไม้ น้ำจิ้มไก่ ปลากระป๋อง รวมไปถึงขนมขบเคี้ยวต่างๆ พบว่า
• น้ำยาปรับผ้านุ่มขนาด 550-600 มล. ปรับราคา 2-3 บาท จากปกติ 15-18 บาทเป็น 18-20 บาท
• กระดาษชำระ (แพค 6 ม้วน) จากราคา 69 บาท เป็น 72 บาท
• ซอสหอยนางรม ขวดใหญ่ (800 กรัม) จากปกติ 37 บาท ปรับเป็น 42 บาท
• น้ำยาล้างจาน ชนิดเติม จาก 38 บาท ปรับขึ้นเป็น 40 บาท
• ปลากระป๋อง ปรับขึ้นจาก 10 บาท เป็น 12-14 บาท
• นมถั่วเหลืองขวด ปรับราคาขึ้นจาก 12 บาทเป็น 15 บาท
• สบู่ก้อน ปรับราคาขึ้นจาก 10-15 บาทเป็น 12-15 บาท
• แชมพู-ครีมนวด ยังไม่มีการปรับราคาขึ้น
• น้ำผลไม้แพค 4 ปรับราคาขึ้นจาก 36 บาทเป็น 42 บาท
ขณะที่น้ำมันปาล์ม ยังไม่มีการปรับราคาขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ปรับราคาขึ้นเป็น 70 บาทต่อขวด ทำให้มีราคาเท่ากับน้ำมันถั่วเหลือง แต่จำกัดการซื้อ 3 ขวด/ครอบครัว
“ของกิน ของใช้เป็นสิ่งจำเป็น แม้จะขึ้นราคา แต่ก็ยังต้องใช้ บางคนอาจจะใช้ลดลง เพราะต้องการประหยัด สมัยก่อน 100 บาทซื้อได้หลายอย่าง แต่ปัจจุบันซื้อได้อย่าง สองอย่างก็หมด ที่ร้านมีลูกค้าทั้งชาวบ้านทั่วไป และร้านค้า อาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งหากราคาสินค้ายังเพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่า ราคาอาหารต่างๆ ก็จะสูงตามไปอีก เพราะขณะนี้ทุกอย่างก็ขึ้นราคากันหมดแล้ว”
พ่อค้าแม่ค้าโอดน้ำมันปาล์มราคาพุ่ง กระทบคนขายของทอด วอนรัฐปรับเหลือกิโลกรัมละ 55 บาท
https://ch3plus.com/news/economy/morning/292278
น้ำมันปาล์มแพงทั้งแผ่นดิน พ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายของทอด โอดราคาน้ำมันแพงขึ้นกระทบต้นทุนการผลิต ต้องทนแบกรับภาระอย่างหนัก ต้องปรับลดปริมาณแต่ยังไม่เพิ่มราคา แม้มีบ้างที่ลูกค้าไม่เข้าใจและไม่ซื้อสินค้า แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจและรับได้ วอนรัฐบาลช่วยปรับลดราคาน้ำมัน ต้องไม่เกินกิโลกรัมละ 55 บาท พ่อค้าแม่ค้าแผงลอยที่หาเช้ากินค่ำยังพอรับได้
วันนี้ 22 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดคนเดินเซ็นเตอร์พ้อยท์ ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมการจำหน่ายอาหารสำหรับประชาชน พนักงาน โรงงาน ต่าง ๆ ในเขตตัวเมืองตรัง ที่ช่วงเย็นหลังเลิกงานต่างก็มาฝากท้องที่นี่ เพราะมีอาหารที่หลากหลายจำหน่าย ซึ่งที่จุดนี้จะมีอาหารที่ถือว่าเป็นอาหารหลักชอบกินกันทุกวัย เช่น ไก่ทอด ลูกชิ้น เป็นต้น
จากการสำรวจและสอบถามพบว่าพ่อค้า แม่ค้า ที่จำหน่ายอาหารที่ต้องใช้น้ำมัน ของทอดต่าง ๆ ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น จะเพิ่มราคาสินค้าก็ไม่ได้ จะลดปริมาณสินค้าก็ไม่ได้ เพราะกลัวเสียลูกค้า ต้องทนแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้ไม่ได้ปรับขึ้นราคาแต่เพียงน้ำมัน แต่วัตถุดิบทุกอย่างปรับขึ้นทั้งหมด
นายปริญญา ฉิมมุสิก เจ้าของร้านหงส์ฟ้าไก่ทอดครัวของคนตรัง กล่าวว่า น้ำมันขึ้นทางร้านได้รับผลกระทบมาก เพราะราคาน้ำมันทะลุไปกิโลกรัมละ 67 บาท แล้ว เมื่อก่อนนี้ใช้น้ำมันอยู่ที่กิโลกรัมละ 28-34 บาท ซึ่งในแต่ละวันทางร้านต้องใช้น้ำมันสำหรับทอด 15 กิโลกรัม ซึ่งทำให้กำไรลดลงจำนวนมาก แม้ว่าราคามันเพิ่มขึ้นแต่สินค้าที่ขายในร้านไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีประชาชนรายได้น้อย หากทางร้านปรับขึ้นราคาของก็ขายไม่ได้ แม้ว่าได้กำไรน้อยตนเองก็จำเป็นต้องขายเพราะต้องรักษาลูกค้าเอาไว้ ก็ต้องรอให้น้ำมันถูกลงทางร้านถึงจะได้กำไร อยากฝากถึงรัฐบาลให้ปรับลดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 55 บาท ตนว่ากำลังดีพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยที่หาเช้ากินค่ำยังพอรับได้
ในขณะที่ นางสาวดารุณี พลวัฒน์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านพี่แจ๋วทอดมันกุ้ง ที่ทางร้านจำหน่ายอาหารประเภทของทอด เช่น ทอดมันกุ้ง ไส้กรอก ลูกชิ้น ชนิดต่าง ๆ ไข่ปลาทอด ทอดมันปลา กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ราคาวัตถุดิบปรับราคาแพงขึ้นทุกอย่าง พอมาน้ำมันปรับแพงขึ้นอีก ก็ต้องปรับราคาขึ้นตาม ซึ่งทางร้านใช้น้ำมันอย่างดีในการทอดเพราะสามารถช่วยให้เวลาทอดน้ำมันไม่ดำ และทำให้อาหารมีความอร่อย ทางร้านใช้น้ำมันในการทอดแต่ละวัน 10 กว่าถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม แต่เมื่อน้ำมันปรับราคาขึ้นอย่างนี้ทางร้านก็ต้องสู้เพราะเป็นอาชีพที่เลี้ยงปากท้อง ส่วนราคาสินค้าที่ขายยังราคาเดิม แต่มีการลดปริมาณสินค้าลง ซึ่งตอนนี้ซื้อน้ำมันมาใช้กิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งเมื่อปรับราคา ปรับปริมาณลูกค้าบางรายก็รับไม่ได้ แต่บางรายก็รับได้
'พิเชษฐ' ยัน กลุ่ม16 ดินเนอร์ พท. ถกซักฟอก 'โจ้' เชื่อ 'ธรรมนัส' ไม่เบี้ยว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7063767
‘พิเชษฐ’ ยัน กลุ่ม16 ดินเนอร์เพื่อไทย ถกประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปูดมีเรื่องทุจริตใหม่ ‘โจ้’ เชื่อ ‘ธรรมนัส’ ร่วมวงไม่เบี้ยว
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2565 นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม16 กล่าวว่า ในวันที่ 23 พ.ค.เวลา 18.00 น.
ส.ส. กลุ่ม16 อาทิ นายพีรวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม, นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ นัดรับประทานอาหารเย็นกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ร้าน The conner ซอยสุขุมวิท 26
เพื่อหารือถึงปัญหาการทุจริตในโครงรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำในภาคตะวันออก รวมถึงเรื่องปัญหาค่าไฟฟ้าแพงที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับการแก้ไขจากกระทรวงพลังงาน ประเด็นเหล่านี้เตรียมนำไปขยายผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ขณะที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มาหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นัดรับประทานอาหารเย็นกับส.ส.กลุ่ม16 ในวันที่ 23 พ.ค. เพื่อหารือถึงปัญหาการทำงานต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาทุจริตที่มีอยู่หลายเรื่อง โดยจะแลกเปลี่ยนความเห็นกัน เพื่อนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนเรื่องที่จะหารือกัน อาทิ ความไม่โปร่งใสโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี และยังมีการทุจริตเรื่องใหม่จะนำมาพูดคุยในวงวันที่ 23 พ.ค.ด้วย
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นในวันดังกล่าวด้วย หลังจากที่ได้รับคำตกลงกันไว้แต่แรก แม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาปฏิเสธ ว่า
ร.อ.ธรรมนัส จะไม่มาร่วมรับประทานอาหารกับตน
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนยังไม่ได้รับคำยืนยันอีกครั้งจาก ร.อ.ธรรมนัสว่า จะมาร่วมวงด้วย แต่เชื่อว่าร.อ.ธรรมนัสเป็นผู้ใหญ่ เมื่อตกปากรับคำแต่แรกไว้แล้ว คงไม่ผิดนัด เพราะเป็นการมากินข้าวพูดคุยเรื่องปัญหาของบ้านเมือง
‘โรม’ เผย ‘ก้าวไกล’ ล็อกเป้าชำแหละ ‘กลาโหม’ จัดงบไม่แคร์ปากท้อง ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3359369
‘โรม’ เผย ‘ก้าวไกล’ ล็อกเป้าชำแหละ ‘กลาโหม’ จัดงบไม่แคร์ปากท้อง ปชช.
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่าขณะนี้พรรค ก.ก.กำลังเตรียมการอย่างเข้มข้น และรับรองได้ว่าการอภิปรายคราวนี้จะเข้มข้นเช่นกัน โดยเราจะเสนอว่างบประมาณที่ควรจะเป็นเป็นอย่างไร และจะชี้ให้เห็นว่า 1.อะไรคือตัวขัดขวางที่ทำให้การใช้งบประมาณไม่เกิดประโยชน์ หรือไม่ตรงจุดที่เป็นปัญหา และ 2.ทางออกและการใช้งบประมาณอย่างที่ควรจะเป็น เพื่อที่จะพาประเทศนี้ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
เมื่อถามว่าจากการพิจารณางบประมาณของแต่ละกระทรวง กระทรวงใดมีปัญหามากที่สุด นายรังสิมันต์กล่าวว่า ความจริงพบว่ามีหลายกระทรวงที่มีปัญหา เพราะการทำงบประมาณปีนี้ไม่ได้มีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก สำหรับกระทรวงที่มีปัญหาอย่างชัดเจนคือ กระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกตั้งคำถามว่าใช้งบประมาณอย่างเหมาะสมหรือไม่กับสถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้อง ส่วนจะมีข้อมูลอะไรใหม่หรือไม่ให้รอฟังการอภิปรายของนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ก.ก. ซึ่งกำลังขุดคุ้ยข้อมูลอยู่