เคลียร์ปมพรรคจิ๋วตีจาก “ธรรมนัส” ต่อสาย “พิเชษฐ” สยบสื่อ อยู่ช่วยงานรัฐบาลต่อ พูดติดตลก คนเลี้ยงลิง ต้องให้กล้วยตลอด

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ประกาศแยกตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยกล่าวติดตลกว่า “ผมเป็นคนเลี้ยงลิง เลยต้องเอากล้วยให้ลิงกินตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้เชื่อว่ากินจนอิ่มแล้วน่าจะพอได้แล้ว พร้อมหัวเราะ”
อย่างไรก็ตามตนเขื่อว่าปัญหาดังกล่าวนั้นไม่ต้องเคลียร์ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อาจจะเข้าใจผิด เพราะทางฝั่งนายพิเชษฐ ได้พูดคุยกับตนแล้วโดยที่ระบุว่าไม่ได้สัมภาษณ์ว่าจะแยกออกจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อไปเป็นฝ่ายค้าน แต่เพียงมองว่าการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ เลยจะขอแยกออกมาทำงาน โดยยืนยันว่ายังช่วยงานให้กับทางรัฐบาลอยู่ แล้วก็เชื่อมั่นว่าเสียงของรัฐบาลยังดีอยู่ ไม่ได้อยู่ในสภาวะเสียงปริ่มน้ำตามที่หลายฝ่ายกังวล ซึ่งยอมรับว่าตนได้รับหน้าที่ให้ไปเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ได้ข้อยุติหากเกิดปัญหา อย่างไรก็ตามมั่นใจว่ารัฐบาลนี้อยู่ยาว ไม่ต้องเป็นห่วง
ซึ่งหลังจากให้สัมภาษณ์ ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้ต่อสายตรงโทรไปหานายพิเชษฐ เมื่อวางสายแล้ว ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้ออกมาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี โดยที่นายพิเชษฐ ยืนยันกับตนว่า ไม่ได้ออกไปจากพรรคร่วมรัฐบาล
https://www.springnews.co.th/politics/542844
เรื่องคำเปรียบเทียบในภาษาไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก
เช่น ว่าเด็กซนอย่างกับลิง
ก็หาใช่ว่าเด็กเป็นลิงไม่ เด็กก็คือเด็ก จะเป็นลิงไปได้อย่างไร
และก็ไม่ใช่คำดูถูกอะไร ก็เปรียบเทียบให้เห็นว่า มีกิริยาไม่อยู่นิ่งนี่เอง
ที่ผู้กองเปรียบว่าตัวเองเลี้ยงลิง ก็ไม่ได้หมายความว่าพรรคเล็กเป็นลิง
แต่เปรียบเทียบกับการที่ต้องพูดจาพาทีกันให้เข้าใจบ่อยๆ เพราะมีความอ่อนไหวไม่นิ่ง
อะไรนิดหน่อยก็จะแยกวง ต้องให้คำปรึกษาหารือ ชี้แนะเป็นประจำ
ผู้กองทำแบบนี้ก็เปรียบเทียบได้ว่าเลี้ยงลิง เพราะท่านมีหน้าที่ประสานงานกับพรรคเล็ก
ไม่ได้หมายความว่า...คนของพรรคเล็กเป็นลิง
เหมือนคำเปรียบเปรยว่า ฤาษีเลี้ยงลิง หรือ จับปูใส่กระด้ง ก็เช่นกัน คือดูแลคนที่ไม่อยู่นิ่งนั่นเอง

มีคนยกนิทานอุปมาจีนโบราณมาเล่าให้ฟังเรื่อง “คำเปรียบเทียบ” เรื่องนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือ “ซัวย่วน” สรุปความย่อๆ ดังนี้
ครั้งหนึ่ง กษัตริย์เหลียวหวังโปรดให้ฮุ่นจือมหาดเล็กเข้าเฝ้า และตรัสว่า “มีคนมาฟ้องว่า ท่านฮุนจื่อ ไม่ชอบพูดตรงๆ ชอบใช้คำเปรียบเทียบเสมอ เวลาอธิบายอะไรก็ไม่ชัดแจ้ง” และตรัสว่า “ต่อไปนี้จะพูดอะไรให้พูดตรงๆ ไม่ต้องเปรียบเทียบได้ไหม”
แทนที่ฮุนจื่อจะทูลว่า ได้ หรือ ไม่ได้ แต่ฮุนจื่อทูลว่า “สมมุติว่ามีคนคนหนึ่งไม่รู้จักเครื่องยิงกระสุน และถามพระองค์ว่ามันคืออะไร พระองค์ก็คงจะตอบเขาว่าเครื่องยิงกระสุนรูปร่างเหมือนเครื่องยิงกระสุน ชายคนนั้นจะเข้าใจหรือไม่พระเจ้าข้า”
กษัตริย์เหลียวหวังตรัสตอบว่า “คงจะไม่เข้าใจ แล้วจะทำอย่างไรล่ะ” กษัตริย์เหลียวหวังตรัสถามฮุนจื่อ
ฮุนจื่อทูลว่า “พระองค์ต้องบอกเขาว่า เครื่องยิงกระสุนนั้นมีรูปร่างคล้ายกับเกาทัณฑ์ เปรียบเทียบเช่นนี้เขาก็จะเข้าใจ” กษัตริย์เหลี่ยวหวังทรงตรัสว่า “ถูกต้องแล้ว”

เว่ย จินจือ (ม.ป.ป.)นิทานอุปมาอุปไมยจีน.สำนักพิมพ์ยินหยาง.
พฤติกรรมของมนุษย์กับลิงมีอะไรเหมือนกันมากกว่าที่คิด
ผู้กองธรรมนัสท่านไม่ได้พูดตรงๆ ท่านพูดเปรียบเทียบให้คนมีปัญญาฟังจะเข้าใจดีค่ะ
💛💛มาลาริน/เฮ้อออ!! ต้องให้ชี้แนะอีกค่ะ เลี้ยงลิงก็ต้องให้อาหาร...ผู้กองธรรมนัสพูดเปรียบเทียบให้คนมีปัญญาฟัง
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ประกาศแยกตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยกล่าวติดตลกว่า “ผมเป็นคนเลี้ยงลิง เลยต้องเอากล้วยให้ลิงกินตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้เชื่อว่ากินจนอิ่มแล้วน่าจะพอได้แล้ว พร้อมหัวเราะ”
อย่างไรก็ตามตนเขื่อว่าปัญหาดังกล่าวนั้นไม่ต้องเคลียร์ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อาจจะเข้าใจผิด เพราะทางฝั่งนายพิเชษฐ ได้พูดคุยกับตนแล้วโดยที่ระบุว่าไม่ได้สัมภาษณ์ว่าจะแยกออกจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อไปเป็นฝ่ายค้าน แต่เพียงมองว่าการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ เลยจะขอแยกออกมาทำงาน โดยยืนยันว่ายังช่วยงานให้กับทางรัฐบาลอยู่ แล้วก็เชื่อมั่นว่าเสียงของรัฐบาลยังดีอยู่ ไม่ได้อยู่ในสภาวะเสียงปริ่มน้ำตามที่หลายฝ่ายกังวล ซึ่งยอมรับว่าตนได้รับหน้าที่ให้ไปเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ได้ข้อยุติหากเกิดปัญหา อย่างไรก็ตามมั่นใจว่ารัฐบาลนี้อยู่ยาว ไม่ต้องเป็นห่วง
ซึ่งหลังจากให้สัมภาษณ์ ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้ต่อสายตรงโทรไปหานายพิเชษฐ เมื่อวางสายแล้ว ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้ออกมาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี โดยที่นายพิเชษฐ ยืนยันกับตนว่า ไม่ได้ออกไปจากพรรคร่วมรัฐบาล
https://www.springnews.co.th/politics/542844
เรื่องคำเปรียบเทียบในภาษาไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก
เช่น ว่าเด็กซนอย่างกับลิง
ก็หาใช่ว่าเด็กเป็นลิงไม่ เด็กก็คือเด็ก จะเป็นลิงไปได้อย่างไร
และก็ไม่ใช่คำดูถูกอะไร ก็เปรียบเทียบให้เห็นว่า มีกิริยาไม่อยู่นิ่งนี่เอง
ที่ผู้กองเปรียบว่าตัวเองเลี้ยงลิง ก็ไม่ได้หมายความว่าพรรคเล็กเป็นลิง
แต่เปรียบเทียบกับการที่ต้องพูดจาพาทีกันให้เข้าใจบ่อยๆ เพราะมีความอ่อนไหวไม่นิ่ง
อะไรนิดหน่อยก็จะแยกวง ต้องให้คำปรึกษาหารือ ชี้แนะเป็นประจำ
ผู้กองทำแบบนี้ก็เปรียบเทียบได้ว่าเลี้ยงลิง เพราะท่านมีหน้าที่ประสานงานกับพรรคเล็ก
ไม่ได้หมายความว่า...คนของพรรคเล็กเป็นลิง
เหมือนคำเปรียบเปรยว่า ฤาษีเลี้ยงลิง หรือ จับปูใส่กระด้ง ก็เช่นกัน คือดูแลคนที่ไม่อยู่นิ่งนั่นเอง
มีคนยกนิทานอุปมาจีนโบราณมาเล่าให้ฟังเรื่อง “คำเปรียบเทียบ” เรื่องนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือ “ซัวย่วน” สรุปความย่อๆ ดังนี้
ครั้งหนึ่ง กษัตริย์เหลียวหวังโปรดให้ฮุ่นจือมหาดเล็กเข้าเฝ้า และตรัสว่า “มีคนมาฟ้องว่า ท่านฮุนจื่อ ไม่ชอบพูดตรงๆ ชอบใช้คำเปรียบเทียบเสมอ เวลาอธิบายอะไรก็ไม่ชัดแจ้ง” และตรัสว่า “ต่อไปนี้จะพูดอะไรให้พูดตรงๆ ไม่ต้องเปรียบเทียบได้ไหม”
แทนที่ฮุนจื่อจะทูลว่า ได้ หรือ ไม่ได้ แต่ฮุนจื่อทูลว่า “สมมุติว่ามีคนคนหนึ่งไม่รู้จักเครื่องยิงกระสุน และถามพระองค์ว่ามันคืออะไร พระองค์ก็คงจะตอบเขาว่าเครื่องยิงกระสุนรูปร่างเหมือนเครื่องยิงกระสุน ชายคนนั้นจะเข้าใจหรือไม่พระเจ้าข้า”
กษัตริย์เหลียวหวังตรัสตอบว่า “คงจะไม่เข้าใจ แล้วจะทำอย่างไรล่ะ” กษัตริย์เหลียวหวังตรัสถามฮุนจื่อ
ฮุนจื่อทูลว่า “พระองค์ต้องบอกเขาว่า เครื่องยิงกระสุนนั้นมีรูปร่างคล้ายกับเกาทัณฑ์ เปรียบเทียบเช่นนี้เขาก็จะเข้าใจ” กษัตริย์เหลี่ยวหวังทรงตรัสว่า “ถูกต้องแล้ว”
เว่ย จินจือ (ม.ป.ป.)นิทานอุปมาอุปไมยจีน.สำนักพิมพ์ยินหยาง.
พฤติกรรมของมนุษย์กับลิงมีอะไรเหมือนกันมากกว่าที่คิด
ผู้กองธรรมนัสท่านไม่ได้พูดตรงๆ ท่านพูดเปรียบเทียบให้คนมีปัญญาฟังจะเข้าใจดีค่ะ