แนวคิดของสถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์ - Lunar Gateway
โดยโครงการนี้จะเป็นครั้งแรกที่มนุษย์พยายามตั้งสถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์แบบถาวร
แม้ว่าสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS - International Space Station) ที่โคจรอยู่รอบโลกที่ระดับความสูง 400 กม.ในปัจจุบัน เป็นโครงการก่อสร้างข้ามชาติที่มีโครงสร้างเดียวที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นในอวกาศ โดยความร่วมมือกันจากหลายๆ ชาติบนโลกของเรา (เสร็จสมบูรณ์ระหว่างปี 1998 - 2011) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ NASA ได้เคยวางแผนการณ์ไว้ว่าในปี 2024 จะยุติการใช้งานสถานีอวกาศแห่งนี้ ทั้งในด้านการทดลองและการทำวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว NASA มาได้ออกมาประกาศใหม่ว่าจะขยายเวลาการใช้งานสถานีอวกาศนานาชาติ ออกไปจนถึงปี 2030 และจะเปลี่ยนการใช้งานให้เป็นสถานที่สำหรับการท่องเที่ยวอวกาศแทน
สำหรับก้าวต่อไปในการสำรวจอวกาศของ NASA คือ การสร้างสถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์ (Lunar Gateway) เพื่อใช้เป็นฐานและจุดแวะของนักบินอวกาศที่จะเดินทางไปดาวดวงจันทร์และดาวอังคารในอนาคต ด้วยความร่วมมือจากประเทศต่างๆ ในการก่อสร้างสถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์จะทำโดยการนำโมดูลต่าง ๆ มาเชื่อมต่อกันคล้ายสถานีอวกาศนานาชาติ แต่มีขนาดเล็กกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง
หากมองย้อยกลับไป NASA ต้องการสถานีอวกาศบนดวงจันทร์มานานหลายทศวรรษแล้ว และแนวคิดของ Gateway มีมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2010 เป็นอย่างน้อย โดยในปี 2012 NASA ได้พูดคุยถึงแนวคิดเรื่องสถานีดวงจันทร์ที่อยู่ด้านไกลของดวงจันทร์ที่ต่อมาเรียกว่า Deep Space Habitat จนกระทั่งประมาณปี 2014 และ 2015 NASA เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับ "cislunar habitats" (อาณาบริเวณรอบวงโคจรของดวงจันทร์ครอบคลุมถึงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกหลายดวง) เพื่อส่งมนุษย์ออกไปในอวกาศในภารกิจที่ยาวนานขึ้น
สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เป็นความพยายามทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Lunar Gateway นั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงการ Artemis แนวคิดคือการสร้างขึ้นในวงโคจรของดวงจันทร์ซึ่งจะใช้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกกับดวงจันทร์เพื่อเป็นด่านหน้า และให้การสนับสนุนที่สำคัญสำหรับการลงพื้นผิวดวงจันทร์ในระยะยาวของมนุษย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา โมดูลต่างๆจะผลิตโดยหน่วยงานด้านอวกาศของแต่ละประเทศ (สหรัฐอเมริกากับ 10 ประเทศในยุโรป แคนาดา และญี่ปุ่น) รวมทั้งบริษัทเอกชน เช่น SpaceX และ Northrop Grumman นอกจากการจัดหาแพลตฟอร์มสำหรับการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ในห้วงอวกาศแล้ว Gateway ยังเสนอการเข้าถึงดวงจันทร์ในระยะยาว และยังช่วยในภารกิจของดาวอังคารได้ด้วย
นอกจากนี้ Gateway ยังสามารถสนับสนุนภารกิจอวกาศแบบมีลูกเรือและไร้คนขับที่จะไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ โดยภารกิจที่มีลูกเรือ นักบินอวกาศจะบินไปที่ Gateway ก่อนโดยใช้ยานอวกาศของ NASA Orion จากนั้นพวกเขาจะใช้เครื่องลงจอดของมนุษย์เพื่อส่งนักบินอวกาศไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ ในขั้นตอนนี้ NASA ได้เลือก SpaceX Starship เพื่อทำหน้าที่เป็นยานลงจอดของมนุษย์ (แนวคิดนี้ยังไม่ผ่านการทดสอบ)
ตามข้อมูลที่ระบุไว้ Gateway ยังทำหน้าที่เป็นสนามบินให้ยานอวกาศที่มุ่งหน้าไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ของดาวอังคารสามารถเติมเชื้อเพลิงหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน เติมอาหารและออกซิเจนได้ ทำให้นักบินอวกาศสามารถเดินทางไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ได้หลายครั้ง และสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ทั่วดวงจันทร์ ที่สำคัญคือ หน่วยงานต้องการใช้ Gateway เป็นเวทีวิทยาศาสตร์เพื่อมองย้อนกลับไปที่โลก สังเกตดวงอาทิตย์ และรับมุมมองที่ไม่มีสิ่งกีดขวางของจักรวาลอันกว้างใหญ่ ในการศึกษาธรณีวิทยาของโลก ดวงจันทร์ และดาวอังคาร ซึ่งเป็นวัตถุดาวเคราะห์ทั้งสามที่เรารู้จักมากที่สุด กับลักษณะที่พวกมันมีความคล้ายคลึงและแตกต่างกัน การเรียนรู้ที่สำคัญยังเกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์และระบบดาวเคราะห์ด้วย
โมดูลต่าง ๆ ของ Lunar Gateway
ในขณะที่ ชื่อของ Gateway ได้เปลี่ยนไปหลายครั้งเช่น ในบทความที่ตีพิมพ์บนเว็บไซต์ของ NASA ในปี 2017 มีการกล่าวถึงสถานีอวกาศบนดวงจันทร์ครั้งแรกในชื่อ Deep Space Gateway สำหรับภารกิจการกลับสู่ดวงจันทร์ ในปี 2018 สถานีอวกาศได้เปลี่ยนชื่อเป็น Lunar Orbital Platform-Gateway (LOP-G) และในงบประมาณปี 2019 ที่ NASA เสนอจนทุกวันนี้ มักใช้คำง่ายๆ ว่า "Gateway"
โดยพื้นฐานแล้ว Gateway เป็นยานอวกาศขนาดเล็กที่จะโคจรรอบดวงจันทร์ มีไว้สำหรับภารกิจของนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์และต่อด้วยดาวอังคาร
จะทำหน้าที่เป็นสำนักงานชั่วคราวและที่พักสำหรับนักบินอวกาศ บนยานอวกาศจะมีที่อยู่อาศัย ห้องปฏิบัติการสำหรับวิทยาศาสตร์และการวิจัย และท่าเทียบสำหรับการไปเยี่ยมชม ซึ่งนักบินอวกาศจะใช้ Gateway อย่างน้อยแค่ปีละครั้ง และไม่อยู่ตลอดปีเหมือนบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)
สำหรับขนาดเมื่อเทียบกับ ISS แล้ว Gateway จะมีขนาดเล็กกว่ามาก เช่นในขณะที่ ISS มีขนาดประมาณบ้านหกห้องนอน Gateway จะมีขนาดเท่าห้องอพาร์ตเมนต์เท่านั้น ดังนั้น เมื่อเทียบท่าที่ Gateway นักบินอวกาศจะสามารถอยู่ที่นั่นได้ครั้งละสามเดือน เพื่อทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์และเพื่อเดินทางไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ต่อไป หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน "สถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์" ที่อาจดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ ตอนนี้กำลังจะเข้าใกล้ความเป็นจริงแล้ว
ล่าสุดเมื่อปลายเดือน ม.ค.2022 องค์การอวกาศอิสราเอล (ISA) เปิดเผยว่าอิสราเอลได้ลงนามข้อตกลง Artemis Accords และเข้าร่วมโครงการArtemis ที่นำโดยสหรัฐฯ เพื่อส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ในปี 2025 จนถึงการมุ่งสู่ดาวอังคารในอนาคตอันใกล้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ NASA ได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้าง Gateway ให้แล้วเสร็จในปี 2026 ในขณะที่งานบนยานอวกาศกำลังดำเนินการอยู่ และภายในปี 2022 นี้ NASA วางแผนที่จะเตรียมพลังงานและแรงขับสำหรับยานอวกาศ ซึ่งจะเปิดตัวด้วยจรวดเชิงพาณิชย์ที่พันธมิตรจัดหาให้
"เส้นทางสู่พื้นผิวดวงจันทร์" ของ NASA ที่สร้างจากภารกิจก่อนหน้านี้ของ Lunar Reconnaissance Orbiter และ ISS เพื่อกำหนดเวทีสำหรับ
SpaceX Lunar Starship
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
การสร้างสถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์ (Lunar Gateway) ของ NASA
ตามข้อมูลที่ระบุไว้ Gateway ยังทำหน้าที่เป็นสนามบินให้ยานอวกาศที่มุ่งหน้าไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ของดาวอังคารสามารถเติมเชื้อเพลิงหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน เติมอาหารและออกซิเจนได้ ทำให้นักบินอวกาศสามารถเดินทางไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ได้หลายครั้ง และสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ทั่วดวงจันทร์ ที่สำคัญคือ หน่วยงานต้องการใช้ Gateway เป็นเวทีวิทยาศาสตร์เพื่อมองย้อนกลับไปที่โลก สังเกตดวงอาทิตย์ และรับมุมมองที่ไม่มีสิ่งกีดขวางของจักรวาลอันกว้างใหญ่ ในการศึกษาธรณีวิทยาของโลก ดวงจันทร์ และดาวอังคาร ซึ่งเป็นวัตถุดาวเคราะห์ทั้งสามที่เรารู้จักมากที่สุด กับลักษณะที่พวกมันมีความคล้ายคลึงและแตกต่างกัน การเรียนรู้ที่สำคัญยังเกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์และระบบดาวเคราะห์ด้วย
โดยพื้นฐานแล้ว Gateway เป็นยานอวกาศขนาดเล็กที่จะโคจรรอบดวงจันทร์ มีไว้สำหรับภารกิจของนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์และต่อด้วยดาวอังคาร
จะทำหน้าที่เป็นสำนักงานชั่วคราวและที่พักสำหรับนักบินอวกาศ บนยานอวกาศจะมีที่อยู่อาศัย ห้องปฏิบัติการสำหรับวิทยาศาสตร์และการวิจัย และท่าเทียบสำหรับการไปเยี่ยมชม ซึ่งนักบินอวกาศจะใช้ Gateway อย่างน้อยแค่ปีละครั้ง และไม่อยู่ตลอดปีเหมือนบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)
สำหรับขนาดเมื่อเทียบกับ ISS แล้ว Gateway จะมีขนาดเล็กกว่ามาก เช่นในขณะที่ ISS มีขนาดประมาณบ้านหกห้องนอน Gateway จะมีขนาดเท่าห้องอพาร์ตเมนต์เท่านั้น ดังนั้น เมื่อเทียบท่าที่ Gateway นักบินอวกาศจะสามารถอยู่ที่นั่นได้ครั้งละสามเดือน เพื่อทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์และเพื่อเดินทางไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ต่อไป หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน "สถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์" ที่อาจดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ ตอนนี้กำลังจะเข้าใกล้ความเป็นจริงแล้ว
ล่าสุดเมื่อปลายเดือน ม.ค.2022 องค์การอวกาศอิสราเอล (ISA) เปิดเผยว่าอิสราเอลได้ลงนามข้อตกลง Artemis Accords และเข้าร่วมโครงการArtemis ที่นำโดยสหรัฐฯ เพื่อส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ในปี 2025 จนถึงการมุ่งสู่ดาวอังคารในอนาคตอันใกล้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ NASA ได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้าง Gateway ให้แล้วเสร็จในปี 2026 ในขณะที่งานบนยานอวกาศกำลังดำเนินการอยู่ และภายในปี 2022 นี้ NASA วางแผนที่จะเตรียมพลังงานและแรงขับสำหรับยานอวกาศ ซึ่งจะเปิดตัวด้วยจรวดเชิงพาณิชย์ที่พันธมิตรจัดหาให้