สำหรับคนที่ลงทุนระยะยาว นี่คือโอกาสซื้อแห่งปี เหตุผลที่สำคัญมี 3 ข้อ

1 รายย่อยมักขาดทุนเสมอ ตอนนี้ ถามว่าคุณมีหุ้นในพอร์ตกี่% มีใครยังตอบ 100% ไหม เงินสดล่ะกี่% ขายขาดทุนไปบ้างยังตั้งแต่ต้นปี หรือว่าดอยสูงไหมมองไปไหนมีแต่ข่าวร้ายไหม กลัว Fed ไหม กลัวเงินเฟ้อไหม กลัวเทคนิคอล กลัว กลัว กลัวไปหมด สาบแช่งกันหมดแล้วไหม ด่าการลงทุนทั้งแนว VI ทั้งแนวเทคนิคว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์กันแล้วใช่ไหม
เวลาได้กลิ่นความกลัว กองทุนถนัดนักล่ะ ประหนึ่งราวกับฝูงไฮยีน่าได้กลิ่นความกลัวของลูกกวาง

2 FED RATE HIKES ในเดือนพฤษภาคมนี้ น่าจะประกาศแถวๆวันที่ 4-5 ตามคาด 90% เดาว่า 50 points ถ้าออกมาตามนี้จริง ตลาดหุ้นจะตอบรับในเชิงบวกช่วงสั้นๆ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทั้งๆที่ขึ้นถึง 0.5 มากกว่าประชุมเดือนมีนาคมเสียอีก
ต้องทำความเข้าใจก่อน ว่าตลาดหุ้นคือตลาดแห่งความคาดหวัง หากเป็นไปตามคาด ตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวกน้อยๆ หากดีกว่าคาด ตลาดหุ้นจะ rally แรง หากต่ำกว่าคาด ตลาดถึงจะตอบรับเชิงลบ ล่าสุดความเห็นของบรรดาสมาชิก ออกมาว่า ขึ้น 0.5 มากกว่า 90% ถ้าเป็นไปตามนี้จริงเราจะเห็น rally น้อยๆก่อน ประจวบกับ S&P อยู่แถวๆ low เท่ากับปลาย กุมภา และเมื่อคืนทำไส้สวยงามแล้ว Double bottom เป็นท่าเด้งที่สวยงามท่านึงที่กองทุนใช้ประจำ
แถมให้อีกข้อ ตามสถิติ fed rate hikes ในอดีต หุ้นไม่ได้ลงนะครับ ขึ้นสวนเสียด้วย ตรงกันข้าม หุ้นจะลงจริงๆ หลังจาก fed เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากขึ้นจริงจังต่างหาก

3 เงินเฟ้อ ตลาดหุ้นมักขึ้นหลังจากเงินเฟ้อ peak อ้างอิงจาก Larry Williams ตำนานมีชีวิต กล่าวว่า inflation cycle forecast เงินเฟ้อน่าจะ peak ในกลางปีนี้ และนี่คือจุดเริ่มของการขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้น

ก็ลงทุนกันต่อไป อย่าหนีออกจากตลาดหุ้นเสียล่ะ
ปีนี้ ผมเดาว่าตลาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีอีกปีครับ