Day 1 Bangkok - Maldives
1. หลังจากรู้ว่าหลัง 1 เมษาจะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการเดินทางเข้าไทย เรานี่รีบหาที่เที่ยวอย่างเร่งด่วนเลยค่ะ เหี่ยวเฉามา 2 ปีกว่า
2. หลังจากหามาหลายประเทศ หวยมาออกที่ Maldives ค่ะ เพราะเงื่อนไขการเข้าประเทศไม่เยอะ ไม่ต้อง RT-PCR ไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องขอ visa คนติดแทบจะไม่มี เป็นประเทศที่ใครๆ ก็อยากไปสักครั้งนึง รวมทั้งเราด้วย
3. เงื่อนไขขากลับเข้าไทยก็ลดลงด้วยค่ะไม่ต้องทำ RT-PCR 72 ชม.ก่อนบินเข้าไทย ไม่ต้องกักตัว 10 วัน เหลือแค่กักตัวที่รร. 1 วันเพื่อรอผล RT-PCR ถ้าไม่ติดก็ออกมาได้ค่ะ หลังจากนั้น 5 วันก็ทำ atk อีกครั้งนึงค่ะ
4. นอกจากเรื่อง F ชุดว่ายน้ำและชุดเดินหาดสวยๆ แล้ว เราต้องจองรร.สำหรับกักตัวรอผล test กรอก ThaiPass ซึ่งจนท.ต้องใช้เวลา 3-7 วันในการอนุมัติค่ะ หลังจากอนุมัติเราจะได้ QR code สำหรับเอาไว้ใช้ตอนเข้าไทย
5. ที่ Maldives ก็มีเอกสารต้องกรอกค่ะ เรียกว่า “Imuga form” ต้องกรอก online ก่อนเดินทางเข้าหรือออก 48 ชม.ล่วงหน้าค่ะ กรอกก่อน 2 วันก็ต้องไปกรอกใหม่ค่ะ imuga มีอายุแค่ 48 ชม.หลังเราได้รับการอนุมัติค่ะ
6. ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ทันค่ะ กด submit ปุ๊ป ได้รับการอนุมัติปั๊บ ไม่ต้องรอ 3-7 วันค่ะ
7. ไป Maldives รอบนี้เราซื้อ package ทัวร์ไปค่ะ ไม่ได้จัดการเองเหมือนทุกครั้ง ใน package จะรวมที่พัก อาหาร 3 มื้อ และ seaplane เรียบร้อยแล้วค่ะ เหลือที่เราต้องทำคือจองตั๋วไปกลับ Bkk-Male เท่านั้นค่ะ
8. ได้ flight มาก็ส่งข้อมูลไปให้ทัวร์ ทัวร์จะส่งต่อข้อมูลของเราไปให้รร.เพื่อจอง seaplane อีกรอบค่ะ ใช้บริการทัวร์นี่ก็สะดวกนะคะ
9. สิ่งต้องห้ามสำหรับการเดินทางเข้า Maldives อย่างแรกเลยคือห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบเข้ามา เหล้า เบียร์ และสื่อลามกทุกประเภท ถ้าจะเที่ยวในเมือง Male ควรแต่งตัวให้เรียบร้อยมิดชิดค่ะ ที่นี่นับถือศาสนาอิสลามและค่อนข้างเคร่งพอสมควร
10. ไม่ต้องห่วงค่ะ พอไปถึงรร.แล้วใส่ชุดที่ F มาได้ตามสบายค่ะ เหล้า เบียร์ ที่รร.ก็มีให้พร้อม ที่สำคัญคือฟรีเพราะรวมอยู่ใน package ที่ซื้อแล้วค่ะ snack และเครื่องดื่มที่อยู่ในห้องนี่หยิบกินได้ตามสบายค่ะ บางรร.เติมให้วันละครั้ง บางรร.เติมให้วันละ 2 ครั้ง
11. ถ้าไม่อยากกลับมาตัวดำๆ แบบเราจงอย่าลืมครีมกันแดดค่ะ ขนาดทาทุกวันยังดำเลยค่ะ เตรียมยาแก้เมาเรือ ยาลดไข้ ยาแก้แพ้ ยาสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวไปให้เรียบร้อยนะคะ เพราะงวดนี้ไปเที่ยวเกาะค่ะ น่าจะหายาเฉพาะทางได้ยาก
12. ทำประกันการเดินทางไปด้วยก็ดีค่ะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุค่ารักษาอาจจะไม่เท่าไหร่แต่ค่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปรักษาน่าจะมหาศาลอยู่ค่ะ
13. สำหรับสายการบินที่ไป Maldives ช่วงนี้ Air Asia น่าจะเป็นสายการบินเดียวที่บินไป Maldives ในราคาที่ ok ค่ะ ขึ้นและลงที่ดอนเมือง นั่งยาวๆ ไป 4 ชม.นิดๆ
14. ที่ดอนเมืองมีขายอาหารและเครื่องดื่มที่ด้านนอกเท่านั้นนะคะ ร้านข้างในปิดหมดค่ะ ไม่มีอะไรขายเลย น้ำก็ไม่มีขาย แต่มีน้ำขวดเล็กๆ ไว้บริการค่ะ จนท.ตรวจคนเข้าเมืองนี่ถามเลยว่ากินข้าวเช้ามาแล้วหรือยังถ้ายังให้ออกไปกินก่อนเพราะด้านในไม่มีอะไรขาย
15. Burger King ช่วยชีวิตเพราะเปิด 24 ชม. ร้านอื่นยังไม่เปิดค่ะ อิ่มแล้วค่อยเข้าไปข้างในกันค่ะ
16. ด้านในอย่างว่าแต่ร้านอาหารเลยค่ะ ขนาด king power ยังไม่เปิดแบบ100% เลยค่ะ บางบูธปิด นี่กะมาซื้อแว่นกันแดดซะหน่อย อดค่ะ
17. พวกเครื่องสำอางค์ น้ำหอม เปิดปกติค่ะแต่อาจจะมีของให้เลือกน้อยหน่อยซึ่งก็เข้าใจค่ะ ซื้อแล้วฝากไว้ได้ค่ะไม่ต้องหิ้วไป แต่จำกัดไว้ที่คนละ 20,000 บาท
18. ตอนจ่ายตังก็ใจเย็นๆ นะคะ เนื่องจากจนท. King power ไม่ได้ขายของมานานเกือบๆ 2 ปีกว่า จนท.เลยงงๆ เรื่องเอกสารนิดหน่อยค่ะ ได้เครื่องสำอางค์ไว้โป๊ะหน้าให้ตึงๆ แจ่มๆ ละ ขึ้นเครื่องได้ค่ะ
19. หลังจากลงเครื่อง ตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า ก็มองหาป้ายรร.ที่เราจองามค่ะ ถ้าหาไม่เจอถามจนท.ของรร.อื่นได้ค่ะ เขาก็ยินช่วยเหลือค่ะ
20. เมื่อพบจนท.รร. และตรวจสอบเอกสารการจองเรียบร้อยแล้วจนท.จะพาเราไป counter ของ TMA (Tran Maldives Airway) ผู้ให้บริการ seaplane ค่ะ ไม่มีอะไรยุ่งยาก เหมือน check in สายการบินทั่วไปตามปกติค่ะ
21. จะมีที่ค้องระวังก็คือเรื่องของน้ำหนักกระเป๋าค่ะ กระเป๋าที่ load ห้ามเกิน 20 kg ส่วนกระเป๋า carry on ห้ามเกิน 7 kg ถ้าเกินก็อาจจะต้องจ่ายค่าน้ำหนักเพิ่มค่ะ
22. หลังจากได้ TMA boarding pass ขึ้นรถไป sea plane terminal ค่ะ อยู่ใกล้สนามบินเลย นั่งรถไปปะมาณ 10 นาทีค่ะ เราต้องเอา boarding pass ที่ได้ไป check in ที่ terminal อีกครั้งค่ะ
23. จะมีทั้งหมด 3 terminal ค่ะ A, B, และ C ค่ะ เราได้ terminal C และต้องไป check in ที่ terminal อีกรอบค่ะ
24. หลังจาก check in เรียบร้อยเราจะได้คูปองอาหารมาค่ะ ในคูปองจะระบุไว้ว่าเป็น 1 meal & 1 drink ตามที่เราเข้าใจคืออาหารจานนึงกับน้ำขวดนึง อาหารก็เป็นบุฟเฟต์ไปตักเอง ไม่แน่ใจว่าตักเพิ่มได้หรือเปล่านะคะ น้ำก็ไปเลือกเอาในตู้เย็นเอง
25. อาหารก็ธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป มีข้าวสวย แกงไก่แบบแห้งๆ หรือไก่ผัดอะไรสักอย่างนึงเนี่ยแหละค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน รสออกเปรี้ยวๆ ผัดผัก และสปาเกตตี้ เครื่องดื่มมีน้ำเปล่ากับ coke เลือกหยิบเองได้เลยค่ะ
26. ถ้าไม่อิ่มก็ซื้อ burger หรือ sandwich เพิ่มได้ค่ะ เราสั่ง sandwich ไข่กับน้ำเปล่าขวดใหญ่มาเพิ่มค่ะ โดน 14 usd
27. เครื่องลง 11 โมงกว่าจะได้ขึ้น seaplane ก็เกือบบ่าย 3 นั่งดู seaplane ขึ้นลงจนหายตื่นเต้นเลย
28. มีอีกาด้วยยยยยยยยย!!!!! ไม่กลัวคนซะด้วย
29. ในที่สุดก็ได้ขึ้นเครื่องซะที ตอนขึ้นลงระวังหัวโขลกกะตัวเครื่องนะคะ ทางเข้ามันเตี้ย
30. Seaplane ลำนึงนั่งได้ประมาณ 15 คนค่ะ ไม่รวมนักบิน 2 คนกะผู้ช่วยอีก 1 คนค่ะ ทั้ง 15 คนนี้อาจจะไม่ได้พักรร.เดียวกัน แล้วแต่ดวงว่าเขาจะจัดเส้นทางการบินยังไงค่ะ เราอาจจะได้นั่ง seaplane ขึ้นๆ ลง 2-3 รอบก่อนถึงรร.เราค่ะ
31. ตอนเครื่องขึ้นลงยังไม่โคลงเท่าไหร่ค่ะ แต่ตอนจอดรอผู้โดยสารขึ้นลงเนี่ยแหละค่ะ โคลงเหมือนเรือเลย ใครเมาเรือง่ายเหมือนแฟนเรากินยาแก้เมาเรือล่วงหน้ามาเลยก็ดีค่ะ
32. ของเราๆ โชคดีที่เขาจัดรร.ที่เราพักเป็นจุดหมายแรกค่ะ ได้นั่งแค่ 26 นาที
33. เสียงเครื่องดังมากค่ะและเขาไม่มีที่อุดหูให้ ถ้าใครไม่ชอบเสียงดังๆ เตรียมที่อุดหูมาได้เลยค่ะ
34. วิว Maldives จากมุมสูงค่ะ สวยมากกกกกกก!!!!!!!!
35. Seaplane ไม่ได้ไปจอดเทียบท่าหน้ารร.แบบที่เราคิดค่ะ เขาไปจอดที่โบ๊ะใกล้รร. จากนั้นก็จะมีเรือของรร.มารับเราอีกที ได้อารมณ์เหมือนเรือข้ามฝากตรงสี่พระยามาก
36. ไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋านะคะ จนท.จัดการจัดส่งให้ถึงห้องพักเลยค่ะ
37. ลืมบอกไปว่าถ้าอยากได้วิว Maldives มุมสูงแบบสวยๆ ให้นั่งหลังๆ เพราะจะถ่ายไม่ติดเครื่องยนต์ค่ะ แต่ข้อเสียคือร้อนค่ะ บนเครื่องมีพัดลม 2 เครื่องอยู่ด้านหน้าทั้งคู่ค่ะ
38. การนุ่งกางเกงขาสั้น คีบอิแตะ ขึ้นเครื่องปุ๊บ ถอดอิแตะขับเครื่องบินปั๊บ น่าจะเป็น signature ของนักบิน Seaplane ค่ะ
39. Welcome drink ค่ะ น้ำ Cinnamon หอมๆ หวานน้อยๆ กำลังพอดีๆ
40. หลังจาก check in จนท.จะพาเราเดินไปที่ห้องค่ะ
41. ระหว่างทางจนท.จะอธิบายให้เราฟังว่า package ที่เราซื้อมาว่ามีอะไรมั่งค่ะ
42. อย่างของเราซื้อแบบ all inclusive มาก็จะรวมอาหาร 3 มื้อที่ห้องอาหาร reef เป็น buffet อาหารเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ มี credit ให้ 40 usd ต่อคนเอาไว้ไปกินที่ห้องสวนบัวหรือห้อง Azzumi แต่ได้แค่มื้อเย็นนะคะ มื้อกลางวัน 2 ห้องนี้จะมีแต่ a la carte เท่านั้นค่ะ a la carte ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ
43. เท่าที่กินมาอาหารในห้อง reef ทั้ง 3 มื้ออร่อยและหลากหลายค่ะ ถ้าใครชอบอาหารอินเดียที่นี่นี่สวรรค์เลยค่ะอาหารอินเดีย นาน โรตี ปูรี อร่อยมากกกกกกกกก อาหารเอเชีย อาหารฝรั่ง สลัด prickle ของหวาน… ตักได้ เติมได้ตามใจชอบค่ะ
44. เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อวัว แกะ ปลา ไก่ หมูก็มีค่ะแต่ไม่เยอะ นอกจากนั้นยังมีอาหารตามสั่งทำสดๆ ค่ะ แต่เมนูมีไม่เยอะมากค่ะ
45. มีบาร์ 2 ที่สั่งเครื่องดื่มได้เรื่อยๆ เหล้า เบียร์ cocktail mocktail ได้หมดค่ะ ยกเว้นบางตัวที่ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ อาหารว่างในบาร์ก็ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ
แชร์ประสบการณ์ : เที่ยว Maldives
Day 1 Bangkok - Maldives
1. หลังจากรู้ว่าหลัง 1 เมษาจะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการเดินทางเข้าไทย เรานี่รีบหาที่เที่ยวอย่างเร่งด่วนเลยค่ะ เหี่ยวเฉามา 2 ปีกว่า
2. หลังจากหามาหลายประเทศ หวยมาออกที่ Maldives ค่ะ เพราะเงื่อนไขการเข้าประเทศไม่เยอะ ไม่ต้อง RT-PCR ไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องขอ visa คนติดแทบจะไม่มี เป็นประเทศที่ใครๆ ก็อยากไปสักครั้งนึง รวมทั้งเราด้วย
3. เงื่อนไขขากลับเข้าไทยก็ลดลงด้วยค่ะไม่ต้องทำ RT-PCR 72 ชม.ก่อนบินเข้าไทย ไม่ต้องกักตัว 10 วัน เหลือแค่กักตัวที่รร. 1 วันเพื่อรอผล RT-PCR ถ้าไม่ติดก็ออกมาได้ค่ะ หลังจากนั้น 5 วันก็ทำ atk อีกครั้งนึงค่ะ
4. นอกจากเรื่อง F ชุดว่ายน้ำและชุดเดินหาดสวยๆ แล้ว เราต้องจองรร.สำหรับกักตัวรอผล test กรอก ThaiPass ซึ่งจนท.ต้องใช้เวลา 3-7 วันในการอนุมัติค่ะ หลังจากอนุมัติเราจะได้ QR code สำหรับเอาไว้ใช้ตอนเข้าไทย
5. ที่ Maldives ก็มีเอกสารต้องกรอกค่ะ เรียกว่า “Imuga form” ต้องกรอก online ก่อนเดินทางเข้าหรือออก 48 ชม.ล่วงหน้าค่ะ กรอกก่อน 2 วันก็ต้องไปกรอกใหม่ค่ะ imuga มีอายุแค่ 48 ชม.หลังเราได้รับการอนุมัติค่ะ
6. ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ทันค่ะ กด submit ปุ๊ป ได้รับการอนุมัติปั๊บ ไม่ต้องรอ 3-7 วันค่ะ
7. ไป Maldives รอบนี้เราซื้อ package ทัวร์ไปค่ะ ไม่ได้จัดการเองเหมือนทุกครั้ง ใน package จะรวมที่พัก อาหาร 3 มื้อ และ seaplane เรียบร้อยแล้วค่ะ เหลือที่เราต้องทำคือจองตั๋วไปกลับ Bkk-Male เท่านั้นค่ะ
8. ได้ flight มาก็ส่งข้อมูลไปให้ทัวร์ ทัวร์จะส่งต่อข้อมูลของเราไปให้รร.เพื่อจอง seaplane อีกรอบค่ะ ใช้บริการทัวร์นี่ก็สะดวกนะคะ
9. สิ่งต้องห้ามสำหรับการเดินทางเข้า Maldives อย่างแรกเลยคือห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบเข้ามา เหล้า เบียร์ และสื่อลามกทุกประเภท ถ้าจะเที่ยวในเมือง Male ควรแต่งตัวให้เรียบร้อยมิดชิดค่ะ ที่นี่นับถือศาสนาอิสลามและค่อนข้างเคร่งพอสมควร
10. ไม่ต้องห่วงค่ะ พอไปถึงรร.แล้วใส่ชุดที่ F มาได้ตามสบายค่ะ เหล้า เบียร์ ที่รร.ก็มีให้พร้อม ที่สำคัญคือฟรีเพราะรวมอยู่ใน package ที่ซื้อแล้วค่ะ snack และเครื่องดื่มที่อยู่ในห้องนี่หยิบกินได้ตามสบายค่ะ บางรร.เติมให้วันละครั้ง บางรร.เติมให้วันละ 2 ครั้ง
11. ถ้าไม่อยากกลับมาตัวดำๆ แบบเราจงอย่าลืมครีมกันแดดค่ะ ขนาดทาทุกวันยังดำเลยค่ะ เตรียมยาแก้เมาเรือ ยาลดไข้ ยาแก้แพ้ ยาสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวไปให้เรียบร้อยนะคะ เพราะงวดนี้ไปเที่ยวเกาะค่ะ น่าจะหายาเฉพาะทางได้ยาก
12. ทำประกันการเดินทางไปด้วยก็ดีค่ะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุค่ารักษาอาจจะไม่เท่าไหร่แต่ค่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปรักษาน่าจะมหาศาลอยู่ค่ะ
13. สำหรับสายการบินที่ไป Maldives ช่วงนี้ Air Asia น่าจะเป็นสายการบินเดียวที่บินไป Maldives ในราคาที่ ok ค่ะ ขึ้นและลงที่ดอนเมือง นั่งยาวๆ ไป 4 ชม.นิดๆ
14. ที่ดอนเมืองมีขายอาหารและเครื่องดื่มที่ด้านนอกเท่านั้นนะคะ ร้านข้างในปิดหมดค่ะ ไม่มีอะไรขายเลย น้ำก็ไม่มีขาย แต่มีน้ำขวดเล็กๆ ไว้บริการค่ะ จนท.ตรวจคนเข้าเมืองนี่ถามเลยว่ากินข้าวเช้ามาแล้วหรือยังถ้ายังให้ออกไปกินก่อนเพราะด้านในไม่มีอะไรขาย
16. ด้านในอย่างว่าแต่ร้านอาหารเลยค่ะ ขนาด king power ยังไม่เปิดแบบ100% เลยค่ะ บางบูธปิด นี่กะมาซื้อแว่นกันแดดซะหน่อย อดค่ะ
17. พวกเครื่องสำอางค์ น้ำหอม เปิดปกติค่ะแต่อาจจะมีของให้เลือกน้อยหน่อยซึ่งก็เข้าใจค่ะ ซื้อแล้วฝากไว้ได้ค่ะไม่ต้องหิ้วไป แต่จำกัดไว้ที่คนละ 20,000 บาท
18. ตอนจ่ายตังก็ใจเย็นๆ นะคะ เนื่องจากจนท. King power ไม่ได้ขายของมานานเกือบๆ 2 ปีกว่า จนท.เลยงงๆ เรื่องเอกสารนิดหน่อยค่ะ ได้เครื่องสำอางค์ไว้โป๊ะหน้าให้ตึงๆ แจ่มๆ ละ ขึ้นเครื่องได้ค่ะ
19. หลังจากลงเครื่อง ตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า ก็มองหาป้ายรร.ที่เราจองามค่ะ ถ้าหาไม่เจอถามจนท.ของรร.อื่นได้ค่ะ เขาก็ยินช่วยเหลือค่ะ
20. เมื่อพบจนท.รร. และตรวจสอบเอกสารการจองเรียบร้อยแล้วจนท.จะพาเราไป counter ของ TMA (Tran Maldives Airway) ผู้ให้บริการ seaplane ค่ะ ไม่มีอะไรยุ่งยาก เหมือน check in สายการบินทั่วไปตามปกติค่ะ
21. จะมีที่ค้องระวังก็คือเรื่องของน้ำหนักกระเป๋าค่ะ กระเป๋าที่ load ห้ามเกิน 20 kg ส่วนกระเป๋า carry on ห้ามเกิน 7 kg ถ้าเกินก็อาจจะต้องจ่ายค่าน้ำหนักเพิ่มค่ะ
22. หลังจากได้ TMA boarding pass ขึ้นรถไป sea plane terminal ค่ะ อยู่ใกล้สนามบินเลย นั่งรถไปปะมาณ 10 นาทีค่ะ เราต้องเอา boarding pass ที่ได้ไป check in ที่ terminal อีกครั้งค่ะ
23. จะมีทั้งหมด 3 terminal ค่ะ A, B, และ C ค่ะ เราได้ terminal C และต้องไป check in ที่ terminal อีกรอบค่ะ
24. หลังจาก check in เรียบร้อยเราจะได้คูปองอาหารมาค่ะ ในคูปองจะระบุไว้ว่าเป็น 1 meal & 1 drink ตามที่เราเข้าใจคืออาหารจานนึงกับน้ำขวดนึง อาหารก็เป็นบุฟเฟต์ไปตักเอง ไม่แน่ใจว่าตักเพิ่มได้หรือเปล่านะคะ น้ำก็ไปเลือกเอาในตู้เย็นเอง
25. อาหารก็ธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป มีข้าวสวย แกงไก่แบบแห้งๆ หรือไก่ผัดอะไรสักอย่างนึงเนี่ยแหละค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน รสออกเปรี้ยวๆ ผัดผัก และสปาเกตตี้ เครื่องดื่มมีน้ำเปล่ากับ coke เลือกหยิบเองได้เลยค่ะ
26. ถ้าไม่อิ่มก็ซื้อ burger หรือ sandwich เพิ่มได้ค่ะ เราสั่ง sandwich ไข่กับน้ำเปล่าขวดใหญ่มาเพิ่มค่ะ โดน 14 usd
27. เครื่องลง 11 โมงกว่าจะได้ขึ้น seaplane ก็เกือบบ่าย 3 นั่งดู seaplane ขึ้นลงจนหายตื่นเต้นเลย
28. มีอีกาด้วยยยยยยยยย!!!!! ไม่กลัวคนซะด้วย
29. ในที่สุดก็ได้ขึ้นเครื่องซะที ตอนขึ้นลงระวังหัวโขลกกะตัวเครื่องนะคะ ทางเข้ามันเตี้ย
30. Seaplane ลำนึงนั่งได้ประมาณ 15 คนค่ะ ไม่รวมนักบิน 2 คนกะผู้ช่วยอีก 1 คนค่ะ ทั้ง 15 คนนี้อาจจะไม่ได้พักรร.เดียวกัน แล้วแต่ดวงว่าเขาจะจัดเส้นทางการบินยังไงค่ะ เราอาจจะได้นั่ง seaplane ขึ้นๆ ลง 2-3 รอบก่อนถึงรร.เราค่ะ
31. ตอนเครื่องขึ้นลงยังไม่โคลงเท่าไหร่ค่ะ แต่ตอนจอดรอผู้โดยสารขึ้นลงเนี่ยแหละค่ะ โคลงเหมือนเรือเลย ใครเมาเรือง่ายเหมือนแฟนเรากินยาแก้เมาเรือล่วงหน้ามาเลยก็ดีค่ะ
32. ของเราๆ โชคดีที่เขาจัดรร.ที่เราพักเป็นจุดหมายแรกค่ะ ได้นั่งแค่ 26 นาที
33. เสียงเครื่องดังมากค่ะและเขาไม่มีที่อุดหูให้ ถ้าใครไม่ชอบเสียงดังๆ เตรียมที่อุดหูมาได้เลยค่ะ
34. วิว Maldives จากมุมสูงค่ะ สวยมากกกกกกก!!!!!!!!
36. ไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋านะคะ จนท.จัดการจัดส่งให้ถึงห้องพักเลยค่ะ
37. ลืมบอกไปว่าถ้าอยากได้วิว Maldives มุมสูงแบบสวยๆ ให้นั่งหลังๆ เพราะจะถ่ายไม่ติดเครื่องยนต์ค่ะ แต่ข้อเสียคือร้อนค่ะ บนเครื่องมีพัดลม 2 เครื่องอยู่ด้านหน้าทั้งคู่ค่ะ
38. การนุ่งกางเกงขาสั้น คีบอิแตะ ขึ้นเครื่องปุ๊บ ถอดอิแตะขับเครื่องบินปั๊บ น่าจะเป็น signature ของนักบิน Seaplane ค่ะ
39. Welcome drink ค่ะ น้ำ Cinnamon หอมๆ หวานน้อยๆ กำลังพอดีๆ
40. หลังจาก check in จนท.จะพาเราเดินไปที่ห้องค่ะ
41. ระหว่างทางจนท.จะอธิบายให้เราฟังว่า package ที่เราซื้อมาว่ามีอะไรมั่งค่ะ
42. อย่างของเราซื้อแบบ all inclusive มาก็จะรวมอาหาร 3 มื้อที่ห้องอาหาร reef เป็น buffet อาหารเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ มี credit ให้ 40 usd ต่อคนเอาไว้ไปกินที่ห้องสวนบัวหรือห้อง Azzumi แต่ได้แค่มื้อเย็นนะคะ มื้อกลางวัน 2 ห้องนี้จะมีแต่ a la carte เท่านั้นค่ะ a la carte ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ
43. เท่าที่กินมาอาหารในห้อง reef ทั้ง 3 มื้ออร่อยและหลากหลายค่ะ ถ้าใครชอบอาหารอินเดียที่นี่นี่สวรรค์เลยค่ะอาหารอินเดีย นาน โรตี ปูรี อร่อยมากกกกกกกกก อาหารเอเชีย อาหารฝรั่ง สลัด prickle ของหวาน… ตักได้ เติมได้ตามใจชอบค่ะ
44. เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อวัว แกะ ปลา ไก่ หมูก็มีค่ะแต่ไม่เยอะ นอกจากนั้นยังมีอาหารตามสั่งทำสดๆ ค่ะ แต่เมนูมีไม่เยอะมากค่ะ
45. มีบาร์ 2 ที่สั่งเครื่องดื่มได้เรื่อยๆ เหล้า เบียร์ cocktail mocktail ได้หมดค่ะ ยกเว้นบางตัวที่ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ อาหารว่างในบาร์ก็ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ