[CR] กักตัวกับรัฐบาลเกาหลีใต้ ช่วงโควิด 2022

สวัสดีครับ พบกันอีกครั้ง วันนี้ผมจะมารีวิว โดยแบ่งเป็น 3 Chapters
Chapter 1 : ตั้งแต่ check in ที่ไทย จนถึง ตม. สุดโหด
Chapter 2 : เดินทางไปสถานที่กักตัว
Chapter 3 : อาหารช่วงกักตัวกับรัฐบาลเกาหลี

 
Chapter 1 : ตั้งแต่ check in ที่ไทย จนถึง ตม. สุดโหด

การบินไปเกาหลี จะต้องใช้เอกสาร ดังนี้
1. Passport
2. Visa Grant Notice
3. RT-PCR (ต้องดูประกาศว่า ช่วงเวลาที่เราเดินทาง ผลPCR ที่เกาหลีต้องการต้องมีอายุกี่ชั่วโมง นับจาก Arrival time)
4. Fit to fly (ไม่แน่ใจว่าจำเป็นไหม แต่สามารถทำได้พร้อมกับการตรวจ RT-PCR)
5. International Vaccine Certification (ขอจาก แอพหมอพร้อม แต่ก็ไม่ได้ใช้นะ ไม่มีใครขอดู)
6. ตั๋วเครื่องบิน
 
คำแนะนำ : ไป check in ก่อน 3 ชั่วโมง เพราะปัจจุบัน ทางสนามบินใช้เวลาตรวจสอบเอกสารค่อนข้างนาน ควรเผื่อเวลาตรงนี้ด้วย และ Gate ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ไกลมาก (เราโดน Final callมาแล้ว จนต้องวิ่ง)
***ก่อนบิน ให้ทำการนัดเวลากับคนเกาหลีให้แน่ชัด ว่าจะบินไปถึงเวลาใด เพราะ ตม. จะทำการโทรหา เพื่อยืนยันการเข้าเมืองของเรา หากคนเกาหลีไม่รับโทรศัพท์ จะไม่สามารถเข้าเมืองได้***
 
เมื่อขึ้นเครื่องเรียบร้อย ปัจจุบันมีการเว้นระยะห่างของผู้โดยสาร ทำให้เครื่องบินไม่อึดอัด นั่งสบายๆ ระยะเวลาการบินส่วนใหญ่ ประมาณ 5 ชั่วโมง และเมื่อใกล้จะถึงเกาหลี cabin crew จะมาแจกเอกสาร 4 ใบ ให้กรอกให้เรียบร้อย 
จากนั้นเมื่อลงเครื่อง จะเจอทั้งหมด 7 ด่าน ถึงจะได้ออกจากสนามบิน
1. ต่อแถวเพื่อ ตรวจสอบผล RT-PCR และเอกสารที่ได้รับบนเครื่องบิน ว่ากรอกครบแล้วหรือยัง ถ้ายัง ให้กรอกให้ครบ ระหว่าวงต่อแถว จะมีป้ายไวนิลสำหรับดาวน์โหลด application การกักตัวอยู่ ให้ทำการดาวน์โหลดไว้ได้เลย สามารถใช้ wifi สนามบินได้
2. ยื่นผล PCR, Passport, Visa พูดคุยเล็กน้อย โดยด่านนี้จะทำการเก็บผล PCR เราเอาไว้ และติด sticker ว่าผ่าน ที่ Passport เรา
3.  เป็นโต๊ะนั่ง จะมีเจ้าหน้าที่ ช่วยเรากรอกข้อมูลใน application กักตัว และโทรหาเบอร์คนเกาหลี เพื่อยืนยันการเข้าเมืองของเรา
4. ตม. ตรวจพาสปอร์ต วีซ่า ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายรูป เขียนเอกสารยินยอมการกักตัว (ตม. ไม่โหดเลย อาจเป็นเพราะช่วงนี้ไม่มีวีซ่าท่องเที่ยว และการขอวีซ่าตั้งแต่ต้นทางที่ไทย ทำยากมากๆ มาถึงจุดนี้เลยไม่ตึงเครียดอะไร) 
5. เข้าไปในห้อง มีเจ้าหน้าที่ ดำเนินเรื่องการการกักตัวของเรา จะมีการถ่ายรูปและพิมพ์ลายนิ้วมืออีกครั้ง (จนท. ห้องนี้ใจดีมาก และพูดภาษาอังกฤษฟังง่ายที่สุด) จากนั้นเดินไปรับกระเป๋าจากสายพาน แล้วจึงออกมาที่อาคารผู้โดยสาร แต่จะมีเสาแบ่งโซนไว้เพื่อรอการพาไปกักตัว
6. รอ… ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ จากนั้น จนท. จะเขียนอะไรสักอย่าง หลังจากนั้นให้เรานั่งรอ ประมาณ 10 นาที
7. เดินไป รอ... อีกที่หนึ่ง จุดนี้คือรอนานมาก 1.30-2 ชั่วโมงได้ จุดนี้เราสามารถขอเจ้าหน้าที่ให้พาไปซื้อซิมโทรศัพท์มือถือได้ โดยจนท. จะเดินไปกับเราด้วย ต่อมาก็รอ.. รอจนตำรวจและรถของโรงแรมจะมารับ โดยผู้ที่มาวีซ่าระยะสั้น โดยไม่มีบ้านพักหรือทะเบียนสมรส จะต้องกักตัวกับรัฐบาลเท่านั้น และการกักตัวกับรัฐบาล จะไม่สามารถเลือกโรงแรม เมื่อรถของโรงแรมมารับ ถึงเวลาได้ออกมาสู้โลกข้างนอก
 


Chapter 2 : เดินทางไปสถานที่กักตัว 
 
เมื่อเราออกจากสนามบินมาได้ 
ตำรวจจะพาเราไปขึ้นรถของโรงแรม ระยะเวลาการเดินทางไม่เกิน 10 นาที (แล้วแต่โรงแรม) เมื่อถึงโรงแรม จะต้องทำการลงทะเบียน ทำความเข้าใจกฎระเบียบการกักตัว และได้รับถุงพลาสติกสีส้มสำหรับทิ้งขยะระหว่างกักตัวกับปรอทวัดไข้ เพื่อทำการบันทึกลงในแอพในช่วงกักตัว ต้องวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน 2 เวลา เช้าและเย็น จากนั้นกรอกเอกสาร จ่ายเงิน (ค่ากักตัว 1,200,000krw แต่ละที่อาจจะไม่เท่ากัน สามารถใช้บัตรเครดิตได้ ) และตรวจ PCR อีกครั้ง ก่อนขึ้นห้องพัก จากนี้เราจะต้องอยู่ห้องพักโดยห้ามออกไปไหนทั้งสิ้นเป็นเวลา 10 วัน…
 
กฎหลักๆ ของการกักตัว คือ
1.     ห้ามออกไปไหน
2.     ห้ามสูบบุหรี่ในห้องพัก (ห้องไม่มีระเบียงครับ หมายความว่าอดสูบบุหรี่แน่ๆ)
3.     ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอร์ฮอลทุกชนิด
4.     ห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
 
ทางโรงแรมที่ผมมากักตัว จะมีตารางเวลามาให้ ว่าอาหารแต่ละมื้อ จะนำมาให้กี่โมง โดยเอกสารทุกอย่างมี 2 ภาษาคือ เกาหลี และ อังกฤษ
 
นี่คือภาพรวมห้องพักกักตัวของผมนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


 
Chapter 3 : อาหารช่วงกักตัวกับรัฐบาลเกาหลี

ผ่านมาแล้วทั้งหมด 10 วัน ตั้งแต่ผมมาถึงเกาหลี ( 7 ม.ค. 2022 ) วันนี้ผมได้ออกจากการกักตัวมาแล้วครับ ( 17 ม.ค. 2022 )
จะรีวิวให้เพื่อนๆดู อาหารทุกมื้อ ในแต่ละวันที่ผมได้รับระหว่างการกักตัวประเทศเกาหลีใต้ 2565
 
อาหารส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ คาร์โบไฮเดรต ไขมันและเครื่องเคียง.. ขาดบางอย่างที่สำคัญไปใช่ไหมครับ... โปรตีนไงครับ 
ผมขอแนะนำให้นำอาหารกลุ่มโปรตีนติดไปด้วยตั้งแต่ที่ไทย เช่น ทูน่ากระป๋อง เวย์โปรตีน และน้ำพริกต่างๆ ที่เก็บง่ายกลิ่นไม่แรง 
สำหรับคนติดรสจัดแบบผม แนะนำ น้ำพริกตาแดง น้ำพริกแมงดา น้ำพริกนรก 
โดยเกือบทุกมื้อ จะมี
- ข้าว 1 กล่อง 
- กับข้าว 1 กล่อง (จะเป็นพวกผัด ซุป ซะส่วนใหญ่) 
- เครื่องเคียง 1 กล่อง 
- ซุปถ้วย (ให้เราเติมน้ำร้อนเอาเอง)
- น้ำเปล่า 1 ขวดเล็ก
 
ปล. หลังจากได้รับโปรตีนไม่เพียงพอไป 2 วัน ผมตัดสินใจโทรไปหา Room service เพื่อต่อรอง
ขอสั่งอาหารจากข้างนอก : ไม่ได้
สั่งทูน่ากระป๋อง : ไม่ได้
ขอไข่ต้มจากโรงแรม : ไม่ได้
ขอนม uht : ไม่มีให้
ครับ no choice จริงๆครับ ณ จุดนี้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทาน เวย์ที่เตรียมมาด้วยไป
 
กลับมาที่หน้าตาอาหารแต่ละมือกันครับ เชิญรับชมได้เลย

ปล. หลังจากรับชมเสร็จ หากท่านใดมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ลองถามกันมาได้
ถ้าผมรู้หรือพอที่จะหาคำตอบได้ ยินดีช่วยเต็มที่ครับ
ขอให้ทุกท่านสุภาพแข็งแรง ปลอดภัยและหากท่านใดกำลังขอวีซ่า ขอให้ได้สมใจหวัง สวัสดีครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   กักตัวเกาหลี, บินไปเกาหลี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่