ตั้งเป้าให้มีทรัพย์สิน มากกว่า หนี้สินจำนวนนึงแล้วจะเกษียณ...เพราะชีวิตจะเอาอะไรมากมาย... แต่แม่เจ้า..คิดอีกทีไม่ได้แล้ว.. ตอนนี้เงินเฟ้อบานแห้ว.. ลงทุนหุ้นอะไรก็ไม่เป็น.. เน้นทำธุรกิจ ตอนนี้คงต้องกัดฟันทำต่อไป... หมด passion ไม่ได้
ตอนนี้เป็นโอกาสทองที่สุดในรอบ 20 ปี ที่ต้องมารับช่วงธุรกิจที่เคยล้มละลาย.. บอกก่อนว่ามาจากติดลบ..มีแต่หนี้. ตอนนั้นมีเงินสดแค่ 1 ล้าน หนี้ 40 ล้าน... ยอดขายทั้งปี ตอนนั้นเป็นแค่ 3% ของตอนนี้... พลังชีวิต หายไปเยอะเท่าไหร่แล้ว...กว่าจะใช้หนี้ กว่าจะดิ้นรน กว่าจะหนีกับดักมาได้
2 ปีมานี้ มั่วนิ่ม รับผลจากมาตราการรัฐเกี่ยวกับ soft loan ทุกโครงการปิดความเสี่ยง ใช้เวลาลากมาจนสุดท้ายระดมกู้เปลี่ยนหนี้ระยะสั้นเป็นระยะยาวได้หมดเพิ่งจะเดือนนี้เอง...พร้อมลงทุนขยายกิจการ ยอดโตไปจากก่อนโควิต 60% แล้ว... ตอนนี้ OD ยังเหลืออีกเพียบแทบไม่ได้ใช้เลย.
ก่อนสงครามเริ่มตุนวัตถุดิบเพราะกลัวจีนล๊อคดาวน์ พอมีสงครามเลยตุนต่ออีก ซื้อมากองเอาไว้ก่อน สร้างความมั่นคงในห่วงโซ่การผลิต...มาตอนนี้สิ่งที่กลัวกำลังเกิดขึ้นเพราะ Shanghai ล๊อคดาวน์กันครึ่งเมือง... ต้องจุดธูป ขออีกซัก 4-6 อาทิตย์เพราะยังตุนไม่ถึงที่ตั้งใจไว้
สงครามไม่ยุติ ของแค่แพงขึ้น ยังซื้อได้... แต่ถ้าจีนทยอยล๊อคดาวน์ งานนี้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ คราวนี้จอดไม่ใช่เฉพาะเรา แต่เป็นทั้งโลก... ดังนั้นต้องเผาเงินซื้อมาตุนเพิ่มเข้าไปอีก... หวังว่าของที่ทะยอยสั่งจะมาได้ครบ และต้องสั่งตุนเพิ่มเข้าไปอีก... ไม่งั้นมีสิทธิจอด... ยอมเสี่ยงที่วัตถุดิบที่สั่งมาแล้วจะอยู่ดอย ดีกว่าไม่มีของในกำมือ...
จังหวะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ 10 ปีจะมีครั้งนึง... รอดไปได้ก็รุ่ง.. ใครไม่ผ่านก็จอด
ปล. เห็นข่าว การยึกยักไม่ให้ปรับราคาปุ๋ย หรือให้ปรับได้เคสบายเคส แล้วหงุดหงิด เฮ้ยยยย คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ทำเกษตรกรรม... มันต้องระดมซื้อมาตุนกันแบบระห่ำมากกว่า.. ซื้อมันทุกราคา ทุกช่องทาง... ให้เค้าปรับราคายากส์ แถมตอนนี้ยังยึกยักแทนที่จะระดมตุนก่อนหน้า.. ปีการผลิตที่จะมาถึงนี้ พูดได้เลยไม่ทันแล้ว... เอาเหอะสไตล์ใคร สไตล์มัน.....
ทุกอย่างที่คิดว่าพอ ไม่พอแล้วในสถานการณ์แบบนี้ และใครที่วางแผนเกษียณด้วยเงินเท่านั้น เท่านี้ เตรียมคิดใหม่ได้เลย... ว่ามันไม่พออย่างที่คิดแล้ว
เป้าหมายที่ยังพอไม่ได้ ในสภาพนี้
ตอนนี้เป็นโอกาสทองที่สุดในรอบ 20 ปี ที่ต้องมารับช่วงธุรกิจที่เคยล้มละลาย.. บอกก่อนว่ามาจากติดลบ..มีแต่หนี้. ตอนนั้นมีเงินสดแค่ 1 ล้าน หนี้ 40 ล้าน... ยอดขายทั้งปี ตอนนั้นเป็นแค่ 3% ของตอนนี้... พลังชีวิต หายไปเยอะเท่าไหร่แล้ว...กว่าจะใช้หนี้ กว่าจะดิ้นรน กว่าจะหนีกับดักมาได้
2 ปีมานี้ มั่วนิ่ม รับผลจากมาตราการรัฐเกี่ยวกับ soft loan ทุกโครงการปิดความเสี่ยง ใช้เวลาลากมาจนสุดท้ายระดมกู้เปลี่ยนหนี้ระยะสั้นเป็นระยะยาวได้หมดเพิ่งจะเดือนนี้เอง...พร้อมลงทุนขยายกิจการ ยอดโตไปจากก่อนโควิต 60% แล้ว... ตอนนี้ OD ยังเหลืออีกเพียบแทบไม่ได้ใช้เลย.
ก่อนสงครามเริ่มตุนวัตถุดิบเพราะกลัวจีนล๊อคดาวน์ พอมีสงครามเลยตุนต่ออีก ซื้อมากองเอาไว้ก่อน สร้างความมั่นคงในห่วงโซ่การผลิต...มาตอนนี้สิ่งที่กลัวกำลังเกิดขึ้นเพราะ Shanghai ล๊อคดาวน์กันครึ่งเมือง... ต้องจุดธูป ขออีกซัก 4-6 อาทิตย์เพราะยังตุนไม่ถึงที่ตั้งใจไว้
สงครามไม่ยุติ ของแค่แพงขึ้น ยังซื้อได้... แต่ถ้าจีนทยอยล๊อคดาวน์ งานนี้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ คราวนี้จอดไม่ใช่เฉพาะเรา แต่เป็นทั้งโลก... ดังนั้นต้องเผาเงินซื้อมาตุนเพิ่มเข้าไปอีก... หวังว่าของที่ทะยอยสั่งจะมาได้ครบ และต้องสั่งตุนเพิ่มเข้าไปอีก... ไม่งั้นมีสิทธิจอด... ยอมเสี่ยงที่วัตถุดิบที่สั่งมาแล้วจะอยู่ดอย ดีกว่าไม่มีของในกำมือ...
จังหวะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ 10 ปีจะมีครั้งนึง... รอดไปได้ก็รุ่ง.. ใครไม่ผ่านก็จอด
ปล. เห็นข่าว การยึกยักไม่ให้ปรับราคาปุ๋ย หรือให้ปรับได้เคสบายเคส แล้วหงุดหงิด เฮ้ยยยย คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ทำเกษตรกรรม... มันต้องระดมซื้อมาตุนกันแบบระห่ำมากกว่า.. ซื้อมันทุกราคา ทุกช่องทาง... ให้เค้าปรับราคายากส์ แถมตอนนี้ยังยึกยักแทนที่จะระดมตุนก่อนหน้า.. ปีการผลิตที่จะมาถึงนี้ พูดได้เลยไม่ทันแล้ว... เอาเหอะสไตล์ใคร สไตล์มัน.....
ทุกอย่างที่คิดว่าพอ ไม่พอแล้วในสถานการณ์แบบนี้ และใครที่วางแผนเกษียณด้วยเงินเท่านั้น เท่านี้ เตรียมคิดใหม่ได้เลย... ว่ามันไม่พออย่างที่คิดแล้ว