ย้อนไปเมื่อ5ปีก่อน เราจบม.6 ครูแนะแนวเรื่องการศึกษาต่อว่า นร.จะไปศึกษาต่อที่ไหน เราก็มีเป้าหมายแล้วว่าจะเรียนอะไร พอกลับมาถึงบ้านก็มาบอกพ่อกับแม่ แต่พ่อกับแม่ห้ามไม่ให้เราเรียนต่อ บอกว่าจบแค่ ม.6 ก็พอแล้ว ไปหาทำงาน เราก็เลยแย้งกลับไปว่าทำไมพี่สาวได้เรียนต่อ ส่วนเราบอกไม่ให้เรียน พ่อก็ตอบว่าส่งพี่เรียนแล้ว แม่ก็มาเสริมอีกว่าเรียนไปก็ไม่จบหรอก เดี๋ยวก็ท้อง ไม่มีเงินให้เรียน (พี่สาวเราไม่เคยมีแฟน แต่เรามีแฟนช่วงมัธยม) ตอนนั้นเรารู้สึกน้อยใจมาก นั่งร้องไห้ ในหัวคิดตลอดว่าจะทำยังไง พอจบ ม.6 เราก็ไม่ได้เรียนจริงๆ มาช่วยงานในสวนในไร่ รับจ้างทั่วไปบ้าง ตัดอ้อย เกี่ยวข้าว ถอนมัน คือทำมันทุกอย่างที่เขาพาไปทำ ร้องไห้ทุกวัน เวลาเพื่อนกลับมาจากเรียนเสาร์-อาทิตย์ เจอกันที่ตลาดเราแทบไม่อยากเจอเลย เพราะรู้สึกว่าเราเทียบกับเขาไม่ติดมองเห็นอนาคตตัวเองที่ต้องลำบากในระหว่างที่เพื่อนๆได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยอย่างสนุก แต่ตัดมาที่ตัวเองตากแดดหน้าดำ คนทำงานของจริง ทั้งที่เราอายุแค่18 ปี แต่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบคนทำงานแลกเงิน ค่าจ้างตอนนั้น 180 บาท/วัน พอผ่านไป1ปี แถวบ้านมีร้านสะดวกซื้อมาเปิด รับสมัครพนักงาน เราก็ไปสมัคร พ่อแม่ค้าน แต่เราบอกว่าก็อยู่บ้านเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนจากรับจ้างรายวันเป็นรายเดือน เราก็ทำไปได้1ปี เริ่มแอบเก็บเงินตั้งแต่เดือนแรกของการทำงาน เริ่มมีเงินเก็บนิดนึง ตอนนั้นเรายังมีความหวังที่จะเรียนต่อนะ ยังไม่ท้อใจ เราจอปรึกษากับ ผจก. ว่าย้ายเราไปที่อื่นได้ไหม ที่ใกล้เมือง หรือไกลๆก็ได้ เราก็บอกเหตุผลไป เขาเข้าใจ วันที่จะย้ายเราบอกพ่อกับแม่ว่าจะไปทำงานที่อื่น แกให้ลาออกเลย ตามไปอาละวาดถึงที่ทำงาน จนเราต้องลาออก ไปอยู่บ้านได้ 3เดือน วันนั้นเรามีความคิดว่าจะหนีออกจากบ้าน พอวันถัดมาพ่อแม่ไปทำงาน เราเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เอกสาร ต่างๆ เอาไปด้วย ให้เพื่อนสนิทไปส่งเราที่บขส. ตอนนั้นทั้งร้องไห้ทั้งกลัว พอไปถึง กทม.เราโทรหาเพื่อน ขออาศัยเพื่อนอยู่ด้วย1เดือน เราเริ่มหางานทำ ได้งานร้านสะดวกซื้อเหมือนเดิม เราไม่ยอมติดต่อที่บ้าน แต่ได้ยินข่าวว่า นินทาเราว่าวิ่งตามผู้ชาย เราเริ่มทำงานได้อีก3เดือน ตั้งตัวได้หาที่พักใหม่ รบกวนเพื่อนมานาน เราก็มาสมัครเรียน ทั้งทำงานทั้งเรียนไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย เหนื่อยมาก แต่ต้องอดทน ถอยตอนนี้คือไม่ได้หล่ะ ถ้ากลับไปอยู่จุดเดิมคนเหยียบแน่ เลยกัดฟันสู้ เรียนต่อจนจบ ขนาดเรารับปริญญายังไม่บอกทางบ้านเลย แต่คิดว่าคงรู้ข่าวเพราะมีคนแถวบ้านเจอเรา มีน้องคนนึงมาร่วมแสดงความยินดี พอไม่เหงา เรียนจบเราก็มาทำงานตามสายงานที่เราเรียน การงานอยู่ในระดับดี ย้ายกลับมาอยู่บ้านแต่อยู่ในเมืองแทนไม่กลับ ตอนนี้พ่อกับแม่โทรหา อยากให้เราช่วยเรื่องเงินตลอด เพราะลูกสาวที่แกส่งเรียนตั้ง8ปี ไม่ยอมทำงาน นอนขอเงินพ่อแม่ใช้ ทั้งที่อายุจะย่าง40 หล่ะ ล่าสุดน้อง(ลูกน้า)โทรมาบอกว่าพี่สาวขโมยเงินแม่ แต่แม่ไม่ด่าสักคำ โดนไปหลายหมื่น เราก็เลยช่วยบ้างไม่ช่วยบ้าง วันนั้นเราตัดสินใจถามพ่อกับแม่ทางโทรศัพท์ ว่าทำไมตอนนั้นถึงตัดอนาคตลูกด้วยการไม่ให้เรียน แต่พอเรายืนได้ด้วยตัวเองทำไมถึงอยากให้เราช่วย แกตอบสั้นๆว่าไม่มีเงินส่งเสีย ซึ่งเราฟังแล้ว ขัดแย้งมาก ทั้งที่รู้ไม่จริง อยากจะบอกพ่อกับแม่ทุกคนที่คิดเหมือนพ่อแม่เราว่า ลำบากแค่ไหนก็ขอให้ลูกได้เรียนก่อน เพราะอนาคตเค้าอยู่ตรงนั้น ถ้าเราไม่ดิ้นรน ชีวิตเราตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง (ยอมรับว่าไม่อยากใช้ช่วยอะไรทางบ้านเลย แต่ก็อดสงสารไม่ได้) ความสำเร็จของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ตลอดไป ตอนนี้เรามีพร้อมทุกอย่างบ้าน รถ เงินทอง โดยที่ไม่เคยแบมือขอเงินพ่อแม่ตั้งแต่จบ ม.6 ถ้าเรามีลูกเราจะไม่ทำแบบนั้นกับลูกเลย
รักลูกไม่เท่ากันมีอยู่จริง คนที่เขาภูมิใจกลับเป็นภาระให้เขาตอนแก่ ส่วนคนที่เขาเลี้ยงตามมีตามเกิด กลับอยากให้เขาช่วยเหลือ