JJNY : วินจยย.ชำแหละค่าน้ำมัน│ผู้ค้าตลาดนัดหวั่นขึ้นค่าไฟ│พท.แจงไม่ส่งชิงผู้ว่าฯกทม.│“ก้าวไกล”จี้หยุดเดินหน้ากม.คุม NGO

วินจยย.ชำแหละค่าน้ำมันฉะรัฐจ่ายให้ไม่ถึง 10 บาท/วัน
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_310835/
 
 
วินจยย.ชำแหละค่าน้ำมันฉะรัฐจ่ายให้ไม่ถึง 10 บาท/วัน
 
จัดให้ตามคำเรียกร้องกับแพคเกจช่วยค่าครองชีพยุคของแพง ที่ “นายกฯลุงตู่” ประกาศเอง 10 มาตรการ ทั้งเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน รวมถึงกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอย อีกทั้งยังจัดเต็มคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV, ลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม และที่ขาดไม่ได้นั่นคือ การตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565
 
ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อสกัดการปรับขึ้นค่าโดยสาร รัฐบาลช่วยจ่ายให้เป็นค่าน้ำมันเดือนละ 250 บาทให้กับผู้ขับที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 157,000 คน
 
ทั้งนี้สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ได้พูดคุยกับ “นายเฉลิม ช่างทองมะดัน” นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย เพื่อสะท้อนความเดือดร้อนน้ำมันแพงโยงใยถึงเงินช่วยเหลือของรัฐบาลที่ให้เดือนละ 250 บาท ซึ่ง “นายเฉลิม” บอกว่า เงินช่วยเหลือดังกล่าวไม่พอ เพราะแต่ละวัน มอเตอร์ไซต์รับจ้างจะจ่ายค่าน้ำมันโดยเฉลี่ย 150 บาท ซึ่งเงินที่รัฐบาลจะให้เดือนละ 250 บาท เท่ากับว่า รัฐบาลช่วยออกค่าน้ำมันวันละไม่ถึง 10 บาท
 
“นายเฉลิม” กล่าวอีกว่า มาตรการทั้ง 10 ข้อที่นายกรัฐมนตรีแถลงออกมานั้น ก็เพื่อสร้างภาพว่าได้ช่วยแล้ว เป็นการลดความร้อนแรงของสถานการณ์น้ำมันแพง ที่ทุกคนบ่นกันทุกวัน 
 
และนี่ก็เป็นอีก 1 ความเห็นต่อมาตรการช่วยค่าครองชีพยุคของแพงในแบบฉบับ”นายกฯลุงตู่” ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า ในห้วงที่จังหวะน้ำมันแพง ค่าครองชีพสูงจะมีอะไรออกมาเพิ่มอีกหรือไม่
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 


ผู้ค้าตลาดนัดหวั่นรัฐขึ้นค่าไฟดัน 'ต้นทุน' พุ่ง
https://www.nationtv.tv/news/378867588

จากที่รัฐจะมีการปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่เป็น 4 บาทต่อหน่วย เริ่มต้นตั้งแต่การเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2565 นี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของเจ้าของตลาดหรือผู้ดูแลตลาดนัด เพื่อรับทราบเสียงสะท้อนจากผู้ใช้กระแสไฟฟ้า

นายกู้เกียรติ ทาทอง อายุ 66 ปี ผู้จัดการตลาดนัดเสริมสุข ซึ่งเป็นตลาดนัดเอกชน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า ตลาดนัดเปิดจำหน่ายสินค้าสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันเสาร์ – วันพุธ และวันจันทร์ หรือเดือนละ 12 นัด ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการตลาดนัดเองต้องรับภาระที่หนักมากอยู่แล้วจากสถานการณ์โควิด เพราะต้องปฏิบัติตามมาตรการเข้มของสาะรณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ภายในตลาดนัด เช่น การซื้อชุดตรวจ ATK สำหรับตรวจพ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาจำหน่ายในตลาดนัด เป็นระยะๆตามห้วงเวลาที่สาธารณสุขกำหนด , การทำรั้วเหล็ก เพื่อล้อมตลาดให้มีเส้นทางเข้าออกจำกัด สะดวกในการตรวจคัดกรองเชื้อประชาชนที่มาซื้อสินค้าในตลาดประมาณ 3 – 4 แสนบาท, การจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ อสม.ที่มาทำหน้าที่ตรวจคัดกรองบริเวณปากทางเข้าทุกนัด จำนวน 4 คน เป็นเงินนัดละ 1,200 บาท ไม่รวมค่าเจลล้างมือ อุปกรณ์ตรวจคัดกรอง ,ค่าน้ำยาทำความสะอาดฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ หลังวันนัดทุกนัด รวม 12 ครั้งต่อเดือน , ค่ากระแสไฟกลางอาคาร, ค่าน้ำที่บริการฟรี แต่ขณะเดียวกันในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาต้องปิดตลาดไปหลายครั้ง และเมื่อกลับมาเปิดตลาด ก็ต้องลดค่าเช่าแผงให้พ่อค้าแม่ค้า

เพราะทุกคนก็เดือดร้อนค้าขายไม่ได้ ทั้งนี้ สำหรับค่าเช่าต่อแผงรวมค่าไฟ ซึ่งบางแผงก็จะมีการใช้พัดลม ใช้ความเย็น ก็จะคิดรวมแผงละ 100 กว่าบาท หรือหากเป็นแผงจำหน่ายปลา ก็อาจจะสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละแผง แต่ส่วนใหญ่ทางตลาดก็จะลดราคาให้ไม่ได้เก็บเต็ม เช่น จาก 120 บาท เก็บเพียง 100 บาท หรือจาก 100 บาทเก็บเพียง 80 บาท หรือจาก 80 บาท เก็บเพียง 60 บาท เป็นต้น หรือหากฝนตกไม่มีคนก็ต้องลดให้อีก หรือไม่เก็บในบางแผง หากเขาไม่มีลูกค้าเข้า เช่น ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ดูตามสภาพจริง เพราะสงสารพ่อค้าแม่ค้า แต่อย่างไรก็ตาม ทางตลาดจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละกว่า 20,000 บาท ซึ่งหากรัฐมีการปรับอัตราค่ากระแสไฟฟ้าใหม่เป็น 4 บาทต่อหน่วย เชื่อว่าจะทำให้เดือดร้อนมากยิ่งขึ้น แต่จะไปปรับขึ้นค่าเช่าแผงหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์การใช้ไฟในเดือนนั้นก่อน แต่ทำให้ทางตลาดนัดเอกชนต้องแบกรับภาระได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ได้พยายามขอความร่วมมือจากผู้เช่าแผงตลอดเวลา ในการประหยัดไฟ แต่ก็คงจะยาก เพราะแต่ละแผงก็จะใช้ตามที่ตัวเองมี หรือหากฝนตกจะยิ่งเปิดใช้มาก เพื่อเพิ่มแสงสว่าง
 


ยังหาคนที่ดีกว่าไม่ได้! เพื่อไทย แจงไม่ส่งชิงผู้ว่าฯกทม. ลั่น ชัชชาติ ครบเครื่อง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6957428

เพื่อไทย เคารพ ชัชชาติ ตัดสินใจลงผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ ชลน่าน ยันไม่ทาบทามลงชิงเก้าอี้ในนามพรรค แจงยังหาคนที่ดีกว่าไม่ได้ จึงยังไม่ประกาศส่งใครลง
 
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 มี.ค.2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีหลายพรรคการเมืองเริ่มเปิดตัวผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม.แล้ว พรรคเพื่อไทยจะไปทาบทาม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ที่ประกาศลงสมัครในนามอิสระ มาลงในนามพรรคหรือไม่ว่า  ทั้งหมดนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรค เพราะเดิมนายชัชชาติ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเขามีจุดยืนว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา

เมื่อเขาเลือกแล้วเราก็เคารพการตัดสินใจ เพราะนายชัชชาติ อาจต้องการเป็นผู้ว่าฯ ของทุกฝ่าย แต่หากลงสมัครในนามของพรรคเพื่อไทย อาจจะถูกมองว่าเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ นี่เป็นเจตนารมณ์ของนายชัชชาติ

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะหาใครมาเป็นแคนดิเดตลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคคิดมาตลอดว่าจะหาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่นิยมมากกว่านายชัชชาติ ได้หรือไม่ หากหาได้ก็จะส่งลงสมัคร แต่ตอนนี้ยังไม่เจอ จึงยังไม่สามารถประกาศได้ว่าจะส่งใคร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่