“แพง-จน-เครียด”โชคร้ายเศรษฐกิจไทย
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_308926/
“แพงทั้งแผ่นดิน” คือ “ช็อตเด็ดเศรษฐกิจไทย” ที่ใครต่อใคร เดินไปไหน ก็พูดถึง “ของแพง”
แน่นอนว่า
“ของแพง”ครั้งนี้ ย่อมสะเทือนเศรษฐกิจและฐานที่มั่นคะแนนนิยมของรัฐบาล เพราะคนไม่เชื่อมั่นกับการจัดการแก้ปัญหา โดยนาย
สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขียนข้อความผ่านเฟสบุ๊ก เรื่อง
“ประเทศที่เคราะห์ซํ้ากรรมซัดมายาวนาน” เนื้อหาบางช่วง ระบุว่า อีก 2 เดือนเศษก็จะครบ 8 ปีของการบริหารประเทศของผู้นําที่ชื่อ พลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องไปถามใครหรอกครับว่า ประชาชนได้มีชีวิตประจําวันหรือความเป็นอยู่ดีขึ้นหรือไม่ อย่างไร
เชื่อได้ว่า คนไทยกว่า 90 % เขาต่างหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตกันหมดแล้ว ขอให้อยู่รอดในช่วง พระอาทิตย์ขึ้นไปวันๆ ก็พอ ส่วนฝ่ายผู้บริหารประเทศทุกหมู่เหล่าก็ง่วนอยู่กับการรวบรวมสมัครพรรคพวก ไปเสริมพรรคตนเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในอนาคต
อยากรู้ว่า คนไทยยากจนแค่ไหน ก็ขอให้ดูที่หนี้ครัวเรือนที่มีแต่เพิ่มขึ้นทุกเดือน ล่าสุด หนี้ครัวเรือนในสิ้นไตรมาสสามของปี 2564 สูงถึง 89.3 % ของ GDP ซึ่งนับว่าสูงมากสําหรับประเทศที่รายได้ต่อหัวตํ่าอย่างประเทศไทย นี่ยังไม่นับหนี้นอกระบบอีก จํานวนมาก
“นายสมหมาย” ระบุด้วยว่า สิ่งเลวร้ายต่อเศรษฐกิจยังจะมีต่อไปเรื่อยๆ ราคานํ้ามันอาจจะหยุดขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตามจะยังสูงระดับ 100 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรลไปอีกนาน บอกได้เลยว่า ราคานํ้ามัน ขายปลีกของประเทศที่ถูกตรึงไว้ขณะนี้เอาไม่อยู่
นี่คือภาพของเศรษฐกิจบางช่วงที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสะท้อนมา
ขณะที่นาย
สมชัย จิตสุชน คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ของแพงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจยังฟื้นไม่เต็มที่ ค่าแรงก็ยังไม่ได้ขึ้น ปัญหาหนี้สินของประชาชนก็ยังมีอยู่
ดังนั้นในห้วงจังหวะที่ของแพง คนบ่นทั้งประเทศ การออกมาตรการเพื่อบรรเทาลดผลกระทบ
“นายสมชัย” บอกว่า รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ ให้ของมีราคาถูกลง โดยที่ไม่ไปควบคุมราคา แต่เป็นการดำเนินการผ่าน subsidy เช่น ธงฟ้า เป็นต้น
และเมื่อของแพง การดำเนินชีวิตของประชานควรมีรูปแบบใด นาย
สมชัย บอกว่า ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และที่สำคัญควรดูแลสุขภาพจิตของตัวเองให้ดี เพราะช่วงนี้คนเครียดมาก
ชาวโคราชอ่วมรัฐจ่อขึ้นค่าแก๊สหุงต้ม-ไฟฟ้า
https://www.innnews.co.th/news/local/news_308956/
ชาวโคราชเดือดร้อน หลังรัฐเตรียมปรับราคาค่าแก๊สหุงต้มและไฟฟ้าขึ้น หันมาใช้เตาถ่านแทนเตาไฟฟ้าและเตาแก๊ส เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
จากกรณีเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ระบุ กกพ. มีมติให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจชาวบ้านผู้ใช้ไฟฟ้า และแก๊สหุงต้ม ในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พบว่าชาวบ้านหลายคนต้องปรับตัวเองจากการที่ใช้เตาไฟฟ้าและใช้เตาแก๊สในการหุงต้ม ทำอาหารนั้น
ปัจจุบันได้หันมาใช้เตาฟืน และเตาถ่านแทน เพราะไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่จะปรับเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยนางดารา อาจทอง อายุ 53 ปี ชาวบ้านในตำบลเสมาใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา รายหนึ่งบอกว่า หลังจากที่ตนเองทราบว่า จะมีการปรับค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นอีกทำให้ตนเองต้องหันมาใช้เตาฟืน แทนการใช้เตาไฟฟ้า เพราะกลัวว่าค่าไฟจะพุ่งสูงขึ้นเพราะในแต่ละเดือนก็เสียค่าไฟเดือนละ 1,600-2,000 บาท อยู่แล้ว
หากปรับขึ้นอีกจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในครอบครัว เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อนเพราะมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ค่าแรงวันละ 300 บาท ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในบ้าน เพราะตนเองต้องมีภาระค่าใช้จ่ายสูง มากในแต่ละเดือน
ต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งทำราคาของตลาดสดขึ้นตาม
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_308967/
อาหารสัตว์ต้นทุนพุ่ง ส่งผลราคาของตลาดสดขึ้นตาม ไข่ไก่ขึ้น 20 สต.
จากการสำรวจบรรยากาศการจำหน่ายสินค้าภายในตลาดสดบางเขน พบว่า ผู้ประกอบการค้าไข่ไก่ได้มีการปรับราคาขายปลีกไข่ไก่ เพิ่มขึ้น 20 สตางค์ เมื่อวานนี้ ส่งผลทำให้ราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 0 อยู่ที่ฟองละ 4.70 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 4.40 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 4.25 บาท และเบอร์ 3 อยู่ที่ฟองละ 4.50 บาท
ซึ่งจากการสอบถาม ทราบว่า พ่อค้าได้มีการปรับราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นครั้งนี้ 20 สตางค์ เนื่องจากทางสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ได้มีการประกาศปรับราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ฟองละ 3.20 บาท มีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประกาศปรับราคารอบที่ 2 ในปีนี้ แต่ราคาขายปลีกของทางร้านยังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ครั้งก่อน ในครั้งนี้จึงจำเป็นต้องมีการปรับราคาขายปลีกขึ้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้
พท.จี้บิ๊กตู่ พิจารณา ‘หนองคายแซนด์บ็อกซ์’ หวังเปิดด่านไทย-ลาว กระตุ้นเศรษฐกิจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3241627
‘ส.ส.ชนก’ จี้นายกฯพิจารณา ‘หนองคายแซนด์บ็อกซ์’ หวังเปิดด่านชายแดนทางบกแบบลดเงื่อนไขช่วยกระตุ้น ศก.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.
ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรค พท. แถลงกรณีการขอเปิดชายแดนทางบกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนของ
“หนองคายแซนด์บ็อกซ์” “วันเดย์ทริป” และ
“3 วัน 2 คืน” ว่า
เนื่องจาก จ.หนองคาย เป็นจังหวัดเดียวในประไทยที่มีชายแดนติดกับเมืองหลวงของต่างประเทศ คือ นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว และมีมูลค่าเศรษฐกิจการค้าชายแดนสูงเป็นอันดับ 2 สร้างรายได้ให้ประเทศปีละเกือบ 6 หมื่นล้านบาท พี่น้องชาวหนองคายและจังหวัดใกล้เคียงจึงพึ่งพาการค้าชายแดนเป็นหลัก แต่จากสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลตื่นตระหนกสั่งปิดประเทศทั้งหมด ส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซา ประชาชนขาดรายได้ แม้ว่าภายหลังรัฐบาลจะประกาศเปิดประเทศลักษณะ
“เทสต์แอนด์โก” แต่เงื่อนไขก็ไม่ตรงกับบริบทของ จ.หนองคาย และนครหลวงเวียงจันทน์ ที่ปกติประชาชนจะใช้บัตรผ่านแดนเช้าไปเย็นกลับ แต่เมื่อมีการเปิดประเทศแบบ
“เทสต์แอนด์โก” ทำให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายสูง และเสียเวลา ทาง จ.หนองคาย จึงเตรียมความพร้อมในการเป็นจังหวัดแซนด์บ็อกซ์ วันเดย์ทริป และ 3 วัน 2 คืน โดยให้ประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวต้องได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว และเมื่อถึงด่านจะมีการตรวจเอทีเค ซึ่งจะผ่อนคลายเงื่อนไขเทสต์แอนด์โก เราเตรียมตัวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยมีความพร้อมมาก แต่ ศบค.ไม่อนุมัติ จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. พิจารณา
“หนองคายแซนด์บ็อกซ์” ให้เป็นโมเดลเปิดด่านทางบก เนื่องจากบริบทของ จ.หนองคาย ไม่เหมือนจังหวัดอื่นๆ
JJNY : 5in1 “แพง-จน-เครียด”│ชาวโคราชอ่วม│อาหารสัตว์พุ่งทำตลาดสดขึ้นตาม│พท.จี้พิจารณา‘หนองคายแซนด์บ็อกซ์’│ปูตินระแวงหนัก
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_308926/
“แพงทั้งแผ่นดิน” คือ “ช็อตเด็ดเศรษฐกิจไทย” ที่ใครต่อใคร เดินไปไหน ก็พูดถึง “ของแพง”
แน่นอนว่า “ของแพง”ครั้งนี้ ย่อมสะเทือนเศรษฐกิจและฐานที่มั่นคะแนนนิยมของรัฐบาล เพราะคนไม่เชื่อมั่นกับการจัดการแก้ปัญหา โดยนายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขียนข้อความผ่านเฟสบุ๊ก เรื่อง “ประเทศที่เคราะห์ซํ้ากรรมซัดมายาวนาน” เนื้อหาบางช่วง ระบุว่า อีก 2 เดือนเศษก็จะครบ 8 ปีของการบริหารประเทศของผู้นําที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องไปถามใครหรอกครับว่า ประชาชนได้มีชีวิตประจําวันหรือความเป็นอยู่ดีขึ้นหรือไม่ อย่างไร
เชื่อได้ว่า คนไทยกว่า 90 % เขาต่างหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตกันหมดแล้ว ขอให้อยู่รอดในช่วง พระอาทิตย์ขึ้นไปวันๆ ก็พอ ส่วนฝ่ายผู้บริหารประเทศทุกหมู่เหล่าก็ง่วนอยู่กับการรวบรวมสมัครพรรคพวก ไปเสริมพรรคตนเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในอนาคต
อยากรู้ว่า คนไทยยากจนแค่ไหน ก็ขอให้ดูที่หนี้ครัวเรือนที่มีแต่เพิ่มขึ้นทุกเดือน ล่าสุด หนี้ครัวเรือนในสิ้นไตรมาสสามของปี 2564 สูงถึง 89.3 % ของ GDP ซึ่งนับว่าสูงมากสําหรับประเทศที่รายได้ต่อหัวตํ่าอย่างประเทศไทย นี่ยังไม่นับหนี้นอกระบบอีก จํานวนมาก
“นายสมหมาย” ระบุด้วยว่า สิ่งเลวร้ายต่อเศรษฐกิจยังจะมีต่อไปเรื่อยๆ ราคานํ้ามันอาจจะหยุดขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตามจะยังสูงระดับ 100 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรลไปอีกนาน บอกได้เลยว่า ราคานํ้ามัน ขายปลีกของประเทศที่ถูกตรึงไว้ขณะนี้เอาไม่อยู่
นี่คือภาพของเศรษฐกิจบางช่วงที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสะท้อนมา
ขณะที่นายสมชัย จิตสุชน คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ของแพงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจยังฟื้นไม่เต็มที่ ค่าแรงก็ยังไม่ได้ขึ้น ปัญหาหนี้สินของประชาชนก็ยังมีอยู่
ดังนั้นในห้วงจังหวะที่ของแพง คนบ่นทั้งประเทศ การออกมาตรการเพื่อบรรเทาลดผลกระทบ “นายสมชัย” บอกว่า รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ ให้ของมีราคาถูกลง โดยที่ไม่ไปควบคุมราคา แต่เป็นการดำเนินการผ่าน subsidy เช่น ธงฟ้า เป็นต้น
และเมื่อของแพง การดำเนินชีวิตของประชานควรมีรูปแบบใด นายสมชัย บอกว่า ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และที่สำคัญควรดูแลสุขภาพจิตของตัวเองให้ดี เพราะช่วงนี้คนเครียดมาก
ชาวโคราชอ่วมรัฐจ่อขึ้นค่าแก๊สหุงต้ม-ไฟฟ้า
https://www.innnews.co.th/news/local/news_308956/
ชาวโคราชเดือดร้อน หลังรัฐเตรียมปรับราคาค่าแก๊สหุงต้มและไฟฟ้าขึ้น หันมาใช้เตาถ่านแทนเตาไฟฟ้าและเตาแก๊ส เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
จากกรณีเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ระบุ กกพ. มีมติให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจชาวบ้านผู้ใช้ไฟฟ้า และแก๊สหุงต้ม ในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พบว่าชาวบ้านหลายคนต้องปรับตัวเองจากการที่ใช้เตาไฟฟ้าและใช้เตาแก๊สในการหุงต้ม ทำอาหารนั้น
ปัจจุบันได้หันมาใช้เตาฟืน และเตาถ่านแทน เพราะไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่จะปรับเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยนางดารา อาจทอง อายุ 53 ปี ชาวบ้านในตำบลเสมาใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา รายหนึ่งบอกว่า หลังจากที่ตนเองทราบว่า จะมีการปรับค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นอีกทำให้ตนเองต้องหันมาใช้เตาฟืน แทนการใช้เตาไฟฟ้า เพราะกลัวว่าค่าไฟจะพุ่งสูงขึ้นเพราะในแต่ละเดือนก็เสียค่าไฟเดือนละ 1,600-2,000 บาท อยู่แล้ว
หากปรับขึ้นอีกจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในครอบครัว เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อนเพราะมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ค่าแรงวันละ 300 บาท ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในบ้าน เพราะตนเองต้องมีภาระค่าใช้จ่ายสูง มากในแต่ละเดือน
ต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งทำราคาของตลาดสดขึ้นตาม
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_308967/
อาหารสัตว์ต้นทุนพุ่ง ส่งผลราคาของตลาดสดขึ้นตาม ไข่ไก่ขึ้น 20 สต.
จากการสำรวจบรรยากาศการจำหน่ายสินค้าภายในตลาดสดบางเขน พบว่า ผู้ประกอบการค้าไข่ไก่ได้มีการปรับราคาขายปลีกไข่ไก่ เพิ่มขึ้น 20 สตางค์ เมื่อวานนี้ ส่งผลทำให้ราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 0 อยู่ที่ฟองละ 4.70 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 4.40 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 4.25 บาท และเบอร์ 3 อยู่ที่ฟองละ 4.50 บาท
ซึ่งจากการสอบถาม ทราบว่า พ่อค้าได้มีการปรับราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นครั้งนี้ 20 สตางค์ เนื่องจากทางสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ได้มีการประกาศปรับราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ฟองละ 3.20 บาท มีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประกาศปรับราคารอบที่ 2 ในปีนี้ แต่ราคาขายปลีกของทางร้านยังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ครั้งก่อน ในครั้งนี้จึงจำเป็นต้องมีการปรับราคาขายปลีกขึ้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้
พท.จี้บิ๊กตู่ พิจารณา ‘หนองคายแซนด์บ็อกซ์’ หวังเปิดด่านไทย-ลาว กระตุ้นเศรษฐกิจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3241627
‘ส.ส.ชนก’ จี้นายกฯพิจารณา ‘หนองคายแซนด์บ็อกซ์’ หวังเปิดด่านชายแดนทางบกแบบลดเงื่อนไขช่วยกระตุ้น ศก.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรค พท. แถลงกรณีการขอเปิดชายแดนทางบกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนของ “หนองคายแซนด์บ็อกซ์” “วันเดย์ทริป” และ “3 วัน 2 คืน” ว่า
เนื่องจาก จ.หนองคาย เป็นจังหวัดเดียวในประไทยที่มีชายแดนติดกับเมืองหลวงของต่างประเทศ คือ นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว และมีมูลค่าเศรษฐกิจการค้าชายแดนสูงเป็นอันดับ 2 สร้างรายได้ให้ประเทศปีละเกือบ 6 หมื่นล้านบาท พี่น้องชาวหนองคายและจังหวัดใกล้เคียงจึงพึ่งพาการค้าชายแดนเป็นหลัก แต่จากสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลตื่นตระหนกสั่งปิดประเทศทั้งหมด ส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซา ประชาชนขาดรายได้ แม้ว่าภายหลังรัฐบาลจะประกาศเปิดประเทศลักษณะ “เทสต์แอนด์โก” แต่เงื่อนไขก็ไม่ตรงกับบริบทของ จ.หนองคาย และนครหลวงเวียงจันทน์ ที่ปกติประชาชนจะใช้บัตรผ่านแดนเช้าไปเย็นกลับ แต่เมื่อมีการเปิดประเทศแบบ “เทสต์แอนด์โก” ทำให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายสูง และเสียเวลา ทาง จ.หนองคาย จึงเตรียมความพร้อมในการเป็นจังหวัดแซนด์บ็อกซ์ วันเดย์ทริป และ 3 วัน 2 คืน โดยให้ประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวต้องได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว และเมื่อถึงด่านจะมีการตรวจเอทีเค ซึ่งจะผ่อนคลายเงื่อนไขเทสต์แอนด์โก เราเตรียมตัวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยมีความพร้อมมาก แต่ ศบค.ไม่อนุมัติ จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. พิจารณา “หนองคายแซนด์บ็อกซ์” ให้เป็นโมเดลเปิดด่านทางบก เนื่องจากบริบทของ จ.หนองคาย ไม่เหมือนจังหวัดอื่นๆ