ความผิดของลูกค้าหรือธนาคาร

เราได้ทำการกู้ซื้อบ้านกับธนคารแห่งหนึ่งและมีการหักค่าบ้านจากบัญชีทุกเดือนพอปลายเดือนมกราคม 65 ได้มีหนังสือแจ้งมาว่ายังมีการค้างชำระค่าอยู่ 11, 700 คือเราก็ งง ว่าทำไมมียอดค้างจากไหนในเมื่อเงินก็หักจาก บช. ทุกเดือน เราเลยโทรไปสอบถามที่ธนาคารว่ายอดค้างนี่คือค่าอะไร ทางธนาคารแจ้งว่าเรามียอดค้างจากการชำระค่างวดบ้านมาประมาณ 10 เดือนๆละ1000 เราก็ถามว่าทำไมค้างในเมื่อหักจาก บช. ทางธนาคารบอกว่ามีการปรับยอดค่างวดในเดือนตั้งแต่ เม.ย.64 ทำให้ค่างวดที่ชำระมามันยังไม่ครบทำให้ยังมียอดคงค้าง เราเลยเข้าไปติดต่อธนาคารว่าทำไมไม่มีเอกสารหรือโทรแจ้งให้ลูกค้าทราบว่ามีการปรับยอดค่างวด ทำไมมาแจ้งตอนมียอดค้างเป็นหมื่นทั้งที่ลูกค้าก็ไม่จ่ายตรงตลอด ธนาคารบอกว่าลูกค้าต้องดำเนินการนำเอกสารไปให้ทางการเงินของลูกค้าว่ามีการปรับยอดชำระค่างวด ซึ่งลูกค้าจะรู้ไหมค่ะว่าจะปรับยอดค่างวดวันไหนเดือนไหนถ้าธนาคารไม่แจ้งมา หรือไม่ธนาคารก็น่าส่งเอกสารไปทางการเงินของลูกค้าก็ได้เพื่อให้ปรับยอดเพราะมันต้องใช้เอกสารจากธนาคารอยู่แล้ว  แต่ที่ติดใจคือทำไมธนาคารไม่แจ้งลูกค้าว่ามีการปรับยอดชำระตั้งแต่วันที่เริ่มปรับยอดใหม่หรือโทรแจ้งให้ไปดำเนินการขอเอกสารจากธนาคารก่อนก็ได้นี่รอให้ยอดมันเยอะแล้วค่อยแจ้งหรอค่ะ แล้วเครดิตลูกค้าก็เสียไปโดยที่ไม่ใช่ความผิดของลูกค้าหรอค่ะ ของผู้รู้หรือประสบปัญหาเดียวกันช่วยตอบหน่อยค่ะว่าควรทำยังไง (คือจากที่ถามเพื่อนที่ทำงานเด้านสินเชื่อถึงจ่ายยอดที่ค้างไปหมดเราก็ยังติดเครดิตบูโรอยู่ดีซึ่งทำให้เราเครดิตเสียธนาคารจะแก้ไขให้ได้ไหมหรือเราต้องทำยังไงค่ะเพื่อที่รักษาเครดิตเรา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่