JJNY : 4in1 ราคาสินค้าสวนทางรายได้│ต้นทุนผลิตอาหารสัตว์พุ่งต่อเนื่อง│รถบรรทุกจับตาครม.พรุ่งนี้│จับตา "รัสเซีย-ยูเครน"

ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นสวนทางรายได้ ปชช.นำเงินออมออกมาใช้
https://www.nationtv.tv/new s/378863821
 
 
ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กดดันดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) เดือน ม.ค.65 ให้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนลดต่ำลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อยู่ที่ 30.9 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ครัวเรือนมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกือบในทุกองค์ประกอบของดัชนี
 
โดยเฉพาะมุมมองเกี่ยวกับ “ระดับราคาสินค้า” ในหมวดของอาหารและเครื่องดื่มและราคาพลังงานที่ระดับดัชนีปรับลดลงจากเดือนก่อนถึง 39.9% และ 26.3% (ดัชนีลดลงหมายถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้น) สอดคล้องกับระดับเงินเฟ้อในเดือนม.ค. 65 ที่พุ่งสูงขึ้นอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ 3.23% โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นทั่วโลก และราคาอาหารสดที่เพิ่มขึ้น
  
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำการสำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง มุมมองต่อระยะเวลาที่ระดับราคาสินค้าสูงขึ้นกับวิธีการรับมือของภาคครัวเรือน
 
ผลสำรวจระบุว่า หากครัวเรือนมีมุมมองว่าระดับราคาสินค้าจะอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะเวลาสั้นๆ เช่น 1 เดือน วิธีการรับมือที่ถูกนำมาใช้จะเป็นการนำเงินออมออกมาใช้เพื่อชดเชยระดับราคาสินค้าที่สูงขึ้น
 
แต่ถ้ามีมุมมองว่าระดับราคาสินค้าจะปรับสูงขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น ครัวเรือนจะลดค่าใช้จ่ายรายการที่ไม่จำเป็นออก ซึ่งในภาพรวมครัวเรือน 41.4% มีมุมมองว่าระดับราคาสินค้าที่สูงขึ้นจะยาวนานมากกว่า 5 เดือนขึ้นไปสะท้อนว่าครัวเรือนจะระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น การจับจ่ายใช้จ่ายสอยจะยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้เต็มที่ ขณะที่กำลังซื้อของภาคครัวเรือนจะยังมีแนวโน้มเปราะบางต่อเนื่องในระยะข้างหน้า
 
สถานการณ์ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นจึงเหมือนเข้ามาซ้ำเติมกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่เดิมมีความเปราะบางอยู่แล้ว แม้ว่าล่าสุดภาครัฐจะมีมาตรการบางส่วนออกมาเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น การขยายเวลาตรึงราคาแก๊สหุงต้ม (LPG) จากเดิมที่จะสิ้นสุด 15 ม.ค.65 รวมถึงเลื่อนเวลาการใช้มาตรการคนละครึ่งเฟส 4 เข้ามาเร็วขึ้นในเดือนก.พ. 65 แต่มาตรการต่าง ๆ สามารถเข้ามาประคับประคองได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากราคาสินค้าปรับขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
  
ในระยะข้างหน้าระดับราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูงจะยังเป็นปัจจัยกดดันภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนต่อเนื่องไปอีกสักระยะ หรือจนกว่าราคาพลังงานในตลาดโลกจะเริ่มปรับเข้าสู่จุดสมดุล (ปัจจุบันภาวะอุปสงค์มากขึ้นจากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจซึ่งเพิ่มขึ้นเร็วกว่าฝั่งอุปทาน รวมถึงมีปัญหาเรื่องความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์) ซึ่งคาดว่าอย่างน้อยจนกว่าจะถึงช่วงไตรมาสแรกของปี
 
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 1 ก.พ. 65 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวในระบบ Test & GO อีกครั้ง รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ทยอยกลับมาฟื้นตัวซึ่งจะช่วยให้ฝั่งรายได้ของครัวเรือนกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นได้บางส่วน 
 
ภาครัฐควรมีมาตรการมาตรการบรรเทาค่าครองชีพอย่างตรงจุด เช่น ตั้งแต่ช่วงต้นปี 65 มีการปรับขึ้นราคาค่าไฟฟ้าขึ้น (ค่า FT) ในช่วงแรกที่ปรับเพิ่มขึ้นแต่รายได้ครัวเรือนยังไม่กลับมา อาจต้องมีมาตรการเยียวยาออกมาควบคู่ด้วย
 
ตัวอย่างในสหราชอาณาจักรที่กำลังจะมีการปรับขึ้นค่าไฟครั้งใหญ่พร้อมเตรียมมาตรการเพื่อเยียวยาผลกระทบ นอกจากการตรึงราคาสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของครัวเรือนจึงมีความจำเป็นอย่างมากในช่วงที่รายได้และการจ้างงานอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว
 


ต้นทุนผลิตอาหารสัตว์พุ่งต่อเนื่อง แนะรัฐเร่งแก้ไขก่อนเกิดวิกฤตขาดแคลน
https://www.prachachat.net/economy/news-865187

สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเผยตัวเลขราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งสัญญาณเตือนรัฐ เพื่อเตรียมการแก้ไข แต่ไม่คืบ หวั่นกระทบหนักส่งผลขาดแคลนอาหารสัตว์ เหตุสมาชิกหลายรายแบกรับต้นทุนไม่ไหวทยอยลดกำลังการผลิตลง 
 
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวถึง สถานการณ์ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งกำลังพุ่งสูงขึ้นอีก ในขณะที่อาหารสัตว์และสินค้าหลายรายการถูกตรึงราคา ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ วันนี้อยู่ที่ 11 บาท/กิโลกรัม และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะสูงไปจนถึงเดือนเมษายน 2565 ซึ่งจะมีผลผลิตข้าวโพดหลังนาออกสู่ตลาด หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ราคาข้าวโพดจะสูงถึง 12 บาทในเร็วๆนี้
ในขณะที่ข้าวสาลีก็มีราคาทะยานพุ่งสูงถึง 12 บาท/กิโลกรัม จาก 8.91 บาท/กิโลกรัม เป็นผลจากการเกิดสงครามในรัสเซีย กากถั่วเหลืองนำเข้าราคาขยับตัวสูงแตะ 20 บาท/กิโลกรัม จาก 16.51 บาท/กิโลกรัม ส่วนกากถั่วเหลืองที่ซื้อจากโรงสกัดน้ำมันในประเทศอยู่ที่ 21 บาท/กิโลกรัม นอกจากนี้วัตถุดิบตัวอื่นไม่ว่าจะเป็น มันสำปะหลัง ข้าวสาลี แป้งสาลี ข้าวบาร์เลย์ DDGS หรือ น้ำมันปาลม์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบในวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ ก็พร้อมใจกันปรับราคาสูงขึ้นอย่างมาก แม้แต่ถ่านหินซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตอาหารสัตว์ก็ปรับราคาสูงขึ้นเป็น 2 เท่า
 
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ประกอบด้วยกัน 2 ส่วน ได้แก่ 
 
1. สถานการณ์ราคาวัตถุดิบในตลาดโลก รวมถึงค่าบริหารและขนส่ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้  
 
2. นโยบายภาครัฐที่ต้องการดูแลราคาพืชอาหารสัตว์ในประเทศ โดยมีการใช้มาตรการที่บิดเบือนกลไกตลาด อาทิ มาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวสาลีโดยจะต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ 3 ส่วนก่อนนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน การจำกัดช่วงเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงมาตรการด้านภาษี อาทิ ภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง 2% ซึ่งมาตรการเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นแล้ว เพราะมาตรการประกันรายได้เกษตรกรช่วยดูแลเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
 
สมาคมฯได้นำเสนอข้อมูลแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น ให้กระทรวงพาณิชย์รับทราบแล้ว พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขที่กระทรวงทำได้ เช่น การยกเลิกมาตรการในหลายด้าน อาทิ ขอให้พิจารณายกเลิกภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง 2%, มาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวสาลี 3 : 1 ส่วน และเปิดให้นำเข้าข้าวโพดภายใต้กรอบ WTO, AFTA ยกเลิกโควต้าภาษีและค่าธรรมเนียมให้สามารถนำเข้ามาได้ในปริมาณขาดแคลน ในปี 2565 เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีความคืบหน้าใด” นายพรศิลป์กล่าว
 
เมื่อปี 2552  ราคากากถั่วเหลืองและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงวัตถุดิบตัวอื่นๆ ไม่สูงเท่าวันนี้ แต่รัฐบาลในขณะนั้นได้พิจารณาปรับลดอัตราภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 4% เหลือ 2% ซึ่งช่วยบรรเทาต้นทุนได้ส่วนหนึ่ง ดังนั้น ในวันที่ราคาวัตถุดิบสูงมากเช่นขณะนี้  สมาคมฯ จึงขอวอนรัฐพิจารณามาตรการดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนของผู้ผลิตอาหารสัตว์ เพราะมีสมาชิกหลายรายทนแบกรับต้นทุนต่อไม่ไหว และบางรายมีการปรับลดกำลังการผลิตลงแล้วเพื่อลดภาวะขายขาดทุน สถานการณ์นี้ตอกย้ำว่า ไม่มีใครอยู่รอดได้หากถูกตรึงราคาขายปลายทาง แต่ปล่อยให้ราคาวัตถุดิบต้นทางขึ้นโดยไม่มีการกำกับดูแล และหากไม่มีทางออกในเร็ววันนี้ ไทยอาจจะพบกับวิกฤตขาดแคลนอาหารสัตว์ก็เป็นได้
 

 
รถบรรทุกยังไม่ขึ้นค่าขนส่งจับตาครม. พรุ่งนี้
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_291729/

รถบรรทุกยังไม่ขึ้นค่าขนส่ง จับตาครม.พิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานพรุ่งนี้
 
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น. ว่า ตามที่ผู้ประกอบการรับจ้างขนส่งที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ จำนวน 4 แสนคัน จะปรับขึ้นค่าขนส่ง 20% พร้อมกันทั่วประเทศในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) ทางสมาพันธ์ได้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการว่าจะชะลอการปรับขึ้นค่าขนส่งออกไปก่อน เพื่อรอดูท่าทีของคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ที่จะพิจารณาแพ็กเกจมาตรการดูแลค่าครองชีพในหมวดพลังงานและมาตรการภาษีสรรพสามิตน้ำมันรวมอยู่ในแพ็กเกจด้วย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรถขนส่งส่วนใหญ่ที่เป็นสมาชิกสหพันธ์ฯ ที่จะปรับขึ้นค่าขนส่ง ส่วนใหญ่จะให้บริการสินค้าจำเป็นเกือบทุกชนิด เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค พืชไร่ รวมทั้งวัสดุก่อสร้าง ครั้งนี้เราจะไม่หยุดวิ่ง แต่จะปรับขึ้นค่าขนส่งแทน และหากปรับขึ้นค่าขนส่งแน่นอนว่า ราคาสินค้าจะต้องปรับขึ้นตามไปด้วยและคนที่จะได้รับผลกระทบต้องเป็นประชาชนอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่