สวัสดีค่ะ...เพื่อนสมาชิก
กระทู้แนวแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ
วันนี้อยากจะเล่าความประทับใจจากการไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ และกลับวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์
ในขั้นตอนการวางแผน เราติดต่อไปทางอุทยานแห่งชาติเพื่อสอบถามวิธีปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับการท่องเที่ยวแนวใหม่ จริง ๆ แล้ว เราลงทะเบียนในแอป Queue ไว้แล้ว แต่เอาเข้าจริง ในแอปแทบไม่ได้ใช้อ้างอิง เพราะเมื่อไปถึง จนท. ขอให้แสดงผลการฉีดวัคซีน และทำการเทสต์ ATK ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เมื่อทราบผลเรียบร้อยแล้ว ก็ลงทะเบียนเพื่อแจ้งจุดประสงค์ว่าต้องการมาเที่ยวแล้วกลับหรือพัก พักแบบไหน มีทั้งแบบบ้านพัก หรือกางเต้นท์
หลังจากนั้น เราติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน เพื่อแจ้งความประสงค์อีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จะให้บัตรระบุว่าเราจะจองอะไรบ้าง (เต็นท์ เบาะรอง หมอน-ผ้าห่ม) เพื่อนำไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตามจุดตั้งเต็นท์
จุดที่กางเต้นท์มีทั้งหมดสามจุด คือ 1. ทุ่งกิ๊ก 2. น้ำตกก้อหลวง 3. แก่งก้อ มีห้องน้ำห้องอาบน้ำให้พร้อม เลือกได้ตามใจ เราเลือกพักคืนแรก เป็นกางเต็นท์ที่แก่งก้อ ค่าเต็นท์และแผ่นปูรองรวม 210 บาทต่อคืน (แต่ถ้าจะเอาหมอนและผ้าห่มด้วย รวม 270 บาท) และคืนที่สองพักที่ทุ่งกิ๊ก
เราเริ่มออกเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ตอน 7 โมงเช้า เส้นทางไปยังอำเภอลี้เป็นถนนลาดยาง วิ่งสวนเลนปกติ และไม่น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ ไปถึงอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ประมาณ 9 โมงกว่า ๆ ใครที่เป็นสายรับประทาน ควรเผื่อใจไว้บ้างเพราะหาของอร่อยถูกปากทานยากมากเหลือเกิน คนแถวนี้ทำทุกอย่างติดหวานค่ะ ซึ่งเป็นรสชาติที่เราไม่ชอบ เลยไม่ค่อยประทับใจกับอาหารเท่าไร
ตลอดเส้นทางก่อนเข้าอุทยาน จะมีร้านอาหารตามสั่งสไตล์บ้านบ้าน อยู่สักสองสามร้าน (ตลอดระยะเกือบ 20 กิโลก่อนเข้าอุทยาน) เมื่อเข้ามาในบริเวณอุทยาน ร้านอาหารส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณแก่งก้อ (ร้านอาหารอยู่บนแพนะคะ) และในบริเวณหมู่บ้านก้อทุ่ง ดังนั้นถ้าจะกางเต็นท์ที่แก่งก้อ อาหารไม่ใช่ปัญหาซื้อทานได้ แต่ถ้าจะกางเต็นท์ที่ทุ่งกิ๊กหรือน้ำตกก้อหลวง ต้องซื้อไปตุนหรือทำทานเองนะคะ
เพราะเราไปถึงเร็ว จนท. แนะนำว่าควรไปเที่ยวน้ำตกก้อหลวงก่อน เย็น ๆ ถึงไปแก่งก้อ (แนะนำว่าควรไปถึงแก่งก้อประมาณ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป) เส้นทางไปน้ำตกรับรองเพื่อน ๆ ไม่หลงเพราะมีป้ายบอกทางชัดเจน ด้วยว่าไปถึงวันศุกร์ ทั้งพื้นที่นอกจาก จนท. มีเรากับแฟนแค่นั้น จะเลือกชมธรรมชาติหรือเล่นน้ำตกก็ได้ (แต่จะมีค่าเช่าเสื้อชูชีพนะคะ) และน้ำตกในบริเวณนี้จะมีสองจุดแต่ไหลมาบรรจบกัน
น้ำตกใหญ่คือ น้ำตกก้อหลวงที่อยู่ห่างจากลานจอดรถ 500 เมตร แต่ก่อนถึงน้ำตกก้อหลวง เพื่อน ๆ จะเจอน้ำตกตาดสะดอก่อน สวยงาม สงบ น้ำเป็นสีเขียวมรกต ที่นี่มีเสื้อชูชีพให้เช่าเล่นน้ำนะคะ



เดินเลยน้ำตกตาดสะดอขึ้นไปอีก 300 เมตร เราก็จะเจอน้ำตกก้อหลวงที่ดูงดงาม อลังการ และ...ที่สำคัญในความรู้สึกของเราคือน่ากลัวค่ะ คือน้ำสีเขียวเข้ม ลึกลับ วังเวง (อาจเพราะว่ามีเรากับแฟนแค่สองคน) ตรงป้ายมีคำเตือนด้วยว่า น้ำลึก 8 เมตร คือมองลงไปนี่จะเห็นน้ำเป็นสีเขียวเข้ม ตรงลานด้านซ้ายจะมีป้ายเตือนก่อนลงเล่นน้ำ
ตอนขาลงมา ถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกว่า ตอนนี้งดเล่นน้ำที่น้ำตกก้อหลวงแล้วนะคะ แต่ยังอนุญาตให้เล่นน้ำที่น้ำตกตาดสะดอ



หลังจากนั้น เราก็ออกเดินทางต่อไปยังแก่งก้อ ไปถึงแก่งก้อเพื่อกางเต็นท์ตอนประมาณ 4 โมงเย็น ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อหาจุดกางเต้นท์ เราพักที่นี่คืนหนึ่งค่ะ เพราะตอนเช้าวางแผนจะไปล่องเรือเพื่อไปยังโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาเรือนแพ สถานที่ถ่ายทำเรื่องคิดถึงวิทยา
ณ แก่งก้อ ตอนที่ไปถึง แดดยังแรงอยู่มาก ดีที่มีร่มไม้ มีลมพัด จึงไม่รู้สึกว่าร้อนเกินไป ทางอุทยานเตรียมลานเต็นท์ไว้ให้แล้ว เพียงแต่เราจะเลือกเองว่าจะไปตั้งตรงจุดไหน วันศุกร์ที่เราไป มีเรากับเพื่อนเดินทางอีกคณะ ทั้งลานจึงมีแค่สองเต็นท์เท่านั้น สวรรค์มาก


จัดแจงเก็บของเข้าเต็นท์ ก็ได้เวลาหาอะไรรับประทาน เราถามเจ้าหน้าที่ซึ่งแนะนำว่า ร้านเรือนแพ มีสองเจ้า ณ ตอนนี้ (เห็นมีอีกสองสามรายที่กำลังเร่งก่อสร้างนะคะ) สังเกตจากหลังคาเป็นหลัก สีแดงกับสีฟ้า หลังคาสีน้ำเงินนี่อยู่มานานแล้ว ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ราคาย่อมเยา ส่วนหลังคาแดง จะดูหรูหรา ราคาจะอัพขึ้นนิด
เราเลือกหลังคาสีน้ำเงินค่ะ แต่อย่างที่บอกไว้แต่แรกว่า ที่นี่ อาหารส่วนใหญ่จะติดหวาน ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ชอบ แนะนำให้บอกไปตั้งแต่สั่งอาหารเลยว่า ไม่หวานนะคะ ทางร้านยังมีบริการให้เช่าเรือด้วย เราไปสองคนกับแฟน เลยเหมาเรือเล็ก 1,000 บาท นัดแนะกันเช้าวันเสาร์ 8 โมงที่ร้าน
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง...ความงามบนเส้นทางที่ไม่โหดเลยค่ะ
กระทู้แนวแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ
วันนี้อยากจะเล่าความประทับใจจากการไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ และกลับวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์
ในขั้นตอนการวางแผน เราติดต่อไปทางอุทยานแห่งชาติเพื่อสอบถามวิธีปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับการท่องเที่ยวแนวใหม่ จริง ๆ แล้ว เราลงทะเบียนในแอป Queue ไว้แล้ว แต่เอาเข้าจริง ในแอปแทบไม่ได้ใช้อ้างอิง เพราะเมื่อไปถึง จนท. ขอให้แสดงผลการฉีดวัคซีน และทำการเทสต์ ATK ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เมื่อทราบผลเรียบร้อยแล้ว ก็ลงทะเบียนเพื่อแจ้งจุดประสงค์ว่าต้องการมาเที่ยวแล้วกลับหรือพัก พักแบบไหน มีทั้งแบบบ้านพัก หรือกางเต้นท์
หลังจากนั้น เราติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน เพื่อแจ้งความประสงค์อีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จะให้บัตรระบุว่าเราจะจองอะไรบ้าง (เต็นท์ เบาะรอง หมอน-ผ้าห่ม) เพื่อนำไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตามจุดตั้งเต็นท์
จุดที่กางเต้นท์มีทั้งหมดสามจุด คือ 1. ทุ่งกิ๊ก 2. น้ำตกก้อหลวง 3. แก่งก้อ มีห้องน้ำห้องอาบน้ำให้พร้อม เลือกได้ตามใจ เราเลือกพักคืนแรก เป็นกางเต็นท์ที่แก่งก้อ ค่าเต็นท์และแผ่นปูรองรวม 210 บาทต่อคืน (แต่ถ้าจะเอาหมอนและผ้าห่มด้วย รวม 270 บาท) และคืนที่สองพักที่ทุ่งกิ๊ก
เราเริ่มออกเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ตอน 7 โมงเช้า เส้นทางไปยังอำเภอลี้เป็นถนนลาดยาง วิ่งสวนเลนปกติ และไม่น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ ไปถึงอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ประมาณ 9 โมงกว่า ๆ ใครที่เป็นสายรับประทาน ควรเผื่อใจไว้บ้างเพราะหาของอร่อยถูกปากทานยากมากเหลือเกิน คนแถวนี้ทำทุกอย่างติดหวานค่ะ ซึ่งเป็นรสชาติที่เราไม่ชอบ เลยไม่ค่อยประทับใจกับอาหารเท่าไร
ตลอดเส้นทางก่อนเข้าอุทยาน จะมีร้านอาหารตามสั่งสไตล์บ้านบ้าน อยู่สักสองสามร้าน (ตลอดระยะเกือบ 20 กิโลก่อนเข้าอุทยาน) เมื่อเข้ามาในบริเวณอุทยาน ร้านอาหารส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณแก่งก้อ (ร้านอาหารอยู่บนแพนะคะ) และในบริเวณหมู่บ้านก้อทุ่ง ดังนั้นถ้าจะกางเต็นท์ที่แก่งก้อ อาหารไม่ใช่ปัญหาซื้อทานได้ แต่ถ้าจะกางเต็นท์ที่ทุ่งกิ๊กหรือน้ำตกก้อหลวง ต้องซื้อไปตุนหรือทำทานเองนะคะ
เพราะเราไปถึงเร็ว จนท. แนะนำว่าควรไปเที่ยวน้ำตกก้อหลวงก่อน เย็น ๆ ถึงไปแก่งก้อ (แนะนำว่าควรไปถึงแก่งก้อประมาณ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป) เส้นทางไปน้ำตกรับรองเพื่อน ๆ ไม่หลงเพราะมีป้ายบอกทางชัดเจน ด้วยว่าไปถึงวันศุกร์ ทั้งพื้นที่นอกจาก จนท. มีเรากับแฟนแค่นั้น จะเลือกชมธรรมชาติหรือเล่นน้ำตกก็ได้ (แต่จะมีค่าเช่าเสื้อชูชีพนะคะ) และน้ำตกในบริเวณนี้จะมีสองจุดแต่ไหลมาบรรจบกัน
น้ำตกใหญ่คือ น้ำตกก้อหลวงที่อยู่ห่างจากลานจอดรถ 500 เมตร แต่ก่อนถึงน้ำตกก้อหลวง เพื่อน ๆ จะเจอน้ำตกตาดสะดอก่อน สวยงาม สงบ น้ำเป็นสีเขียวมรกต ที่นี่มีเสื้อชูชีพให้เช่าเล่นน้ำนะคะ
เดินเลยน้ำตกตาดสะดอขึ้นไปอีก 300 เมตร เราก็จะเจอน้ำตกก้อหลวงที่ดูงดงาม อลังการ และ...ที่สำคัญในความรู้สึกของเราคือน่ากลัวค่ะ คือน้ำสีเขียวเข้ม ลึกลับ วังเวง (อาจเพราะว่ามีเรากับแฟนแค่สองคน) ตรงป้ายมีคำเตือนด้วยว่า น้ำลึก 8 เมตร คือมองลงไปนี่จะเห็นน้ำเป็นสีเขียวเข้ม ตรงลานด้านซ้ายจะมีป้ายเตือนก่อนลงเล่นน้ำ
ตอนขาลงมา ถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกว่า ตอนนี้งดเล่นน้ำที่น้ำตกก้อหลวงแล้วนะคะ แต่ยังอนุญาตให้เล่นน้ำที่น้ำตกตาดสะดอ
หลังจากนั้น เราก็ออกเดินทางต่อไปยังแก่งก้อ ไปถึงแก่งก้อเพื่อกางเต็นท์ตอนประมาณ 4 โมงเย็น ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อหาจุดกางเต้นท์ เราพักที่นี่คืนหนึ่งค่ะ เพราะตอนเช้าวางแผนจะไปล่องเรือเพื่อไปยังโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาเรือนแพ สถานที่ถ่ายทำเรื่องคิดถึงวิทยา
ณ แก่งก้อ ตอนที่ไปถึง แดดยังแรงอยู่มาก ดีที่มีร่มไม้ มีลมพัด จึงไม่รู้สึกว่าร้อนเกินไป ทางอุทยานเตรียมลานเต็นท์ไว้ให้แล้ว เพียงแต่เราจะเลือกเองว่าจะไปตั้งตรงจุดไหน วันศุกร์ที่เราไป มีเรากับเพื่อนเดินทางอีกคณะ ทั้งลานจึงมีแค่สองเต็นท์เท่านั้น สวรรค์มาก
จัดแจงเก็บของเข้าเต็นท์ ก็ได้เวลาหาอะไรรับประทาน เราถามเจ้าหน้าที่ซึ่งแนะนำว่า ร้านเรือนแพ มีสองเจ้า ณ ตอนนี้ (เห็นมีอีกสองสามรายที่กำลังเร่งก่อสร้างนะคะ) สังเกตจากหลังคาเป็นหลัก สีแดงกับสีฟ้า หลังคาสีน้ำเงินนี่อยู่มานานแล้ว ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ราคาย่อมเยา ส่วนหลังคาแดง จะดูหรูหรา ราคาจะอัพขึ้นนิด
เราเลือกหลังคาสีน้ำเงินค่ะ แต่อย่างที่บอกไว้แต่แรกว่า ที่นี่ อาหารส่วนใหญ่จะติดหวาน ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ชอบ แนะนำให้บอกไปตั้งแต่สั่งอาหารเลยว่า ไม่หวานนะคะ ทางร้านยังมีบริการให้เช่าเรือด้วย เราไปสองคนกับแฟน เลยเหมาเรือเล็ก 1,000 บาท นัดแนะกันเช้าวันเสาร์ 8 โมงที่ร้าน