ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.1 (อุทยานแห่งชาติแม่ปิง)

สวัสดีครับ วันนี้เรากลับมาอีกแล้ว และทริปนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่เหมือนทริปก่อนๆ ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน รอบนี้เราพาขึ้นเหนือไปแอ่วจังหวัดลำพูนกันจ้าวววว

จังหวัดลำพูนก็เป็นจังหวัดทางผ่านที่เราไปเที่ยวเหนือมาหลายๆ ครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้แวะเที่ยวสักที รอบนี้เลยตั้งใจว่าจะนอนที่ลำพูนสัก 3 คืน และตั้งใจว่าจะเอาเต็นท์ไปกางนอนเองด้วย ต้องบอกก่อนเลยว่าทริปนี้จะฉุกละหุกนิดหน่อย เพราะว่าเรามีความคิดที่จะไปเที่ยวก่อนเดินทางเพียง 10 วันเท่านั้น (ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กรุงเทพฯ อากาศเย็นพอดี มันเลยทำให้เราอยากขึ้นเหนือ) และเราก็ไม่เคยนอนเต็นท์มาก่อนเลย แถมยังไม่มีอุปกรณ์อะไรสักอย่าง เมื่อเราตกลงกันได้ก็ทำการเข้า App Shoping online ทันที เพื่อหาซื้ออุปกรณ์ในการแคมป์ปิ้งต่างๆ หลังจากนั้นก็รอรับของอย่างใจจดใจจ่อ เพราะลุ้นว่าของแต่ละอย่างที่สั่งไปจะมาทันหรือไม่ และเราก็ได้ของครบก่อนออกเดินทางเพียง 1 วันพอดี

และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึงเช้าวันที่ 26/12/2565 เวลา 04.30 น. ได้เวลาออกเดินทาง (ว้าวววว แค่การออกเดินทางแต่เช้าก็ต่างจากทุกทริปแล้ว) ที่เรารีบออกแต่เช้าเพราะว่ากลัวจะไปถึงเย็น แล้วใช้เวลากางเต็นท์นาน เพราะเราไม่เคยทำมาก่อน เพียงแค่เปิดดูคู่มือคร่าวๆ ตอนรับของมาเท่านั้น
ในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายเรา นั่นก็คือ “อุทยานแห่งชาติ แม่ปิง จ.ลำพูน” เวลาประมาณ 13.30 น. ทำการชำระค่าเข้า ส่วนค่านอนเราได้จองออนไลน์มาก่อนแล้ว (กลัวเต็ม 555+ บอกแล้วว่าครั้งแรก) พี่เจ้าหน้าที่ก็แนะนำจุดกางเต็นท์ต่างๆ และสถานที่เที่ยวข้างใน  หลังจากฟังคำแนะนำแล้วเราก็เปลี่ยนใจจากที่คิดว่าจะไปนอนทุ่งกิ๊ก เปลี่ยนไปที่แก่งก้อดีกว่า พี่เค้าบอกว่าสวยกว่า ขับรถต่อไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นสถานที่กางเต็นท์ริมน้ำ วิวดี แต่เราคิดว่าไม่ค่อยสงบเท่าไร เพราะจะมีแพที่เป็นร้านอาหาร และเรือชาวบ้าน วิ่งกันไปมาด้วย เราเลยตัดสินใจลองย้อนกลับมาดูที่ทุ่งกิ๊กก่อน เมื่อขับรถเลี้ยวเข้ามาตรงทางเข้าลานทุ่งกิ๊กก็ต้องบอกว่ามันใช่เลย และคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นที่นอนของเราในคืนนี้ ขับมาเรื่อยๆ ประมาณ 10 กม. ก็ถึงลานกางเต็นท์แล้ว ทางเข้าจะเป็นถนนเล็กๆ รถยน์พอสวนกันได้แต่ลำบากหน่อย เราเข้ามาถึงลานกางเต็นท์ประมาณ 15.00 น. ซึ่งตอนนั้นทั้งลานไม่มีใครเลย มีเพียงเรา 2 คน  เลยเลือกสถานที่ได้สบายตามใจชอบเลย เมื่อเล็งที่ได้แล้ว เราก็เริ่มขนของลงจากรถ เตรียมกางเต็นท์ได้ (ครั้งแรก ตื่นเต้นหน่อยๆ กลัวกางไม่ได้)


เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดเราก็กางกันเสร็จ เย้!!! คืนนี้มีที่นอนแล้ว ระหว่างนั้นเราก็มีเพื่อนบ้านอีกประมาณ 4-5 หลัง ซึ่งเค้าใช้เวลากันไม่น่าถึงครึ่งชั่วโมง จากนั้นเราก็เริ่มจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ และเตรียมอาหารสำหรับเย็นนี้ และเมนูที่เตรียมมาในวันนี้ก็คือ หมูกระทะนั่นเอง (ช่วงตอนที่ผ่านในเมืองเราแวะซื้อหมูใสถังนำ้แข็งมาก่อน) หลังจากเสียพลังงานในการกางเต็นท์และจัดของต่างๆ อยู่นานก็ได้เวลาที่รอคอยแล้ว บรรยากาศยามเย็น กับอากาศเย็นๆ แบบนี้ นั่งกินหมูกระทะ เปิดเพลงคลอเบาๆ มันฟินสุดๆ แต่เริ่มกินได้ประมาณ 10 นาที ปัญหาใหญก็ตามมา อยู่ดีๆ เตาที่เราซื้อมาใหม่พึ่งใช้ครั้งแรกก็ดับลง และจุดยังไงก็ไม่ติด ลองเปิดปิด ใส่แก๊สใหม่อยู่หลายรอบ ในที่สุดก็ติด แต่ไฟไม่ค่อยแรงเท่าที่ควร ด้วยความที่เราไม่เคยใช้มาก่อน เลยคิดว่ามันคงแรงได้แค่นี้ ถึงจะไม่แรงมากแต่ก็พอทำให้เรารอดจากมื้อนี้ไปได้ 


คืนนี้บรรยากาศดี ดาวเต็มท้องฟ้าเลย แต่เนื่องจากเป็นคืนแรกที่ทุกอย่างยังไม่ค่อยลงตัว และเหนื่อยจากการเดินทางมาด้วย อีกทั้งมีภาระกิจที่ยังต้องจัดการอีกนิดหน่อย วันนี้เลยต้องเข้านอนเร็วหน่อย (ที่นี่สัญญานมือถือไม่ค่อยดี แต่ก็ยังพอใช้ได้) 

เช้านี้เราตื่นมา 6 โมงกว่าๆ ซึ่งก็ถือว่าตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะแสงที่ทะลุเต็นท์เข้ามาส่องตา พอลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกได้เลยว่าหลังคาเต็นท์ด้านนอกเปียกมาก คิดว่าฝนตก แต่พอออกมาข้างนอกถึงได้รู้ว่ามันเป็นน้ำค้าง ที่นี่น้ำค้างแรงมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องตกใจเมื่อเปิดเต็นท์ออกมาคือ ลานกว้างหน้าเต็นท์เรา เต็มไปด้วยหมอก และอากาศค่อนข้างเย็น แต่ว่ามันสวยมากกกก นี่แหละมั้งที่เค้าเรียกว่าที่พักหลักสิบแต่วิวหลักล้าน มันคุ้มค่ามากจริงๆ

จากนั้นเราก็เริ่มไปถ่ายรูปเล่นกันเรื่อยๆ และก็กลับมาชงโอวัลติน ทำอาหารเช้าง่ายๆ กิน  (เตาก็ไม่ร้อนเหมือนเดิม เลยคิดว่าคงเพราะอากาศเย็นมั้ง) นั่งจิบชีวิตมองหมอกในลานกว้างเบื้องหน้าให้คุ้มค่า ก่อนจะต้องกลับไปนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน 
เมื่อทำธุระต่างๆ เรียบร้อยแล้วเราก็เตรียมตัวออกเดินทางโดยคิดว่าจะไปน้ำตกแก่งก้อ แต่ก่อนไปเราแวะเข้าไปศูนย์บริการนักเที่ยวเที่ยวเพื่อเอาไฟไปขอฝากชาร์จแบตไว้หน่อย จากนั้นเราก็ออกเดินทาง ระหว่างทางเราก็แวะถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ 

ขับรถมาสักพักก็ถึงน้ำตกแก่งก้อ เมื่อจอดรถแล้วก็เดินขึ้นไปอีก 500 เมตร ก็ถึงแล้ว ต้องบอกว่ามันว้าวมากกก จริงๆ น้ำใสจนเกือบดูคล้ายๆ เป็นสระมรกตเลย 

อยู่ที่นี่ได้สักพัก เราก็เริ่มหิว เลยคิดว่าจะไปหาอะไรกินกันที่แก่งก้อ ที่เราเข้าไปเมื่อวานนี้ เพราะที่นั่นมีแพที่เป็นร้านอาหารอยู่

บรรยากาศถ่ายจากแพที่เราเข้าไปทานอาหารครับ
เราเลือกกินที่ร้านแพพี่สร้อย เมนูทั้งหมดของที่นี่จะเป็นปลาทั้งหมด เลยเลือกสั่งอาหารมา 2-3 อย่าง ไม่แน่ใจว่าชื่อเมนูอะไรบ้าง แต่บอกเลยว่าอร่อยทุกเมนู ปลาสดมากๆ อร่อยมากจริงๆ แนะนำเลยครับร้านนี้ บรรยากก็จะเป็นแพ ที่อยู่บนน้ำ นั่งกินไปดูวิวไปชิวๆ เรื่อยๆ พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เลยนอนเล่นอยู่ตรงนั้นสักพัก(พอดีตอนนั้นทั้งร้านมีแค่เรา 2 คน) รู้สึกเหมือนจะหลับ เลยตัดสินใจกับที่พัก

พอกลับมาก็เห็นว่ามีเต็นท์มากางอยู่บ้างแล้วอีก 3-4 หลัง ส่วนเต็นท์เมื่อวานเค้ากลับกันไปหมดแล้ว เมื่อกลับมาถึงเต็นท์จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับพี่ๆ เต็นท์ข้างๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันไปต่างๆ นาๆ โดยเฉพาะพี่ผู้ชายกับผู้หญิงที่อยู่เต็นท็ติดกับเรา เหมือนจะคุยกันถูกคอเป็นพิเศษ เลยคุยกันยาวจนถึงดึก เพราะเหมือนเราจะชอบเที่ยว ชอบเดินทางเหมือนกัน แต่พี่เค้าทั้ง 2 ท่านก็อายุ 60++ แล้ว แต่ก็ยังสนุกกับการเดินทางท่องเที่ยวอยู่ เราก็ได้แต่มองพี่เค้าแล้วก็คิดว่าอนาคตเรา 2 คนคงเป็นแบบนี้แหละ 555+

พัดกระเพราะ แต่ว่าใสใบโหระพา 555+
คืนนี้เราทำอาหารง่ายๆ กินจากหมูที่เหลืออยู่เมื่อวาน การประกอบอาหารวันนี้เป็นไปด้วยดี เพราะได้พี่เต็นท์ข้างๆ มาช่วยดูและแนะนำวิธีแก้ไขเจ้าเตาแก๊สเจ้าปัญหาให้ ขอบคุณมากจริงๆ ครับ ถ้าไม่ได้พี่เราคงคิดว่ามันแรงแค่นี้เป็นเรื่องปกติ 
จากนั้นก็เข้านอน เช้านี้ตื่นสายนิดหน่อยประมาณ 7 โมง หลังจากออกมาทานอาหารเช้า และคิดว่าวันนี้จะไปไหนต่อ เลยถามพี่เต็นท์ข้างๆ ว่าเค้าจะไปไหนก็ต่อ สรุปว่าพี่เค้ากลับแล้ว เราเลยคิดว่าวันนี้จะไปนอนที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตามที่พี่เค้าแนะนำเมื่อคืน เลยลองชวนพี่เค้าไปนอนด้วยกันอีกวัน สรุปว่าพี่เค้าตกลงไปกับเรา 555+ เรามีเพื่อนร่วมทางแล้ว

ขออภัยรอบนี้ไม่ค่อยมีรูปถ่ายรีวิวสถานที่โดยรวมให้ดูครับ

แล้วพบกันที่แจ้ซ้อนครับ

ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.2 (อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.3 (อุทยานแห่งชาติแม่วะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่