“ต๊ะต่อนยอน แม่ฮ่องสอน” 4วัน 3คืน พิชิตพันโค้ง by โตแล้วเที่ยวเองได้ (4-7 ก.พ. 2565)

[CR] “ต๊ะต่อนยอน แม่ฮ่องสอน” 4วัน 3คืน พิชิตพันโค้ง by โตแล้วเที่ยวเองได้ (4-7 ก.พ. 2565)

กระทู้รีวิว

แอดมินคนดีคนเดิม is back!!!!

😂😂😂

ห่างหายจากการรีวิวท่องเที่ยวเกือบสองปี ช่วงโควิดไม่ได้ไปต่างประเทศ

แต่ไม่ได้หยุดเที่ยวนะ เที่ยวไทยรัวๆ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เราได้รู้จักเมืองไทยมากขึ้น

เราออกเดินทาง ทำให้เราพบเจอสถานที่แปลกใหม่ ผู้คนหลากหลาย เป็นการเปิดประสบการณ์ทั้งดีและร้าย

เรื่องดี เราก็เก็บไว้เป็นความทรงจำ

ส่วนเรื่องร้าย เราได้จดจำไว้เป็นบทเรียน

กระทู้ก่อนเจอโควิด (Dolomites Italy, Oct 2019) ก็ยังเขียนไม่จบนะ

ทำใจเขียนต่อบ่าไหว เห็นรูปแล้วคิดถึงยุโรป

เลยมาตั้งกระทู้นี้ตัดหน้าซะงั้น

...

แสดงว่า แม่ฮ่องสอน ต้องมีอะไรดีแน่ๆๆ

สายเที่ยวธรรมชาติ ต้องมาโดนสักครั้ง

📌 ย้ำ! ต้องเก็บเข้า bucket list !!

..........................

แม่ฮ่องสอน 4วัน 3คืน

ช่วงเดินทาง 4-7 ก.พ. 2565

บินไป-กลับ สนามบิน ดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน

..........................

Day 1 : กทม. - แม่ฮ่องสอน

วัดพระธาตุดอยกองมู - วัดจองคำ - ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน

ช่วงที่เดินทาง มีสายการบินนกแอร์ only!! ที่เปิดบริการเส้นทางนี้ มีบินวันละไฟล์ทและไม่ได้มีบินทุกวัน

เพราะงั้นค่าตั๋วก็แพงกว่าเส้นทางอื่นแบบไม่ต้องสงสัยนะคะ เราจองก่อนเดินทางหนึ่งเดือน ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่ละ 5,416฿

เราใช้บริการเส้นทางนี้ครั้งแรก คิดว่าสะดวกดีค่ะสำหรับคนมีเวลาเที่ยวไม่มาก บินตรงมาลงที่แม่ฮ่องสอนแล้วขับรถเที่ยวเจาะไปเลย ประหยัดเวลากว่าบินไปลงเชียงใหม่ ขาไปบินตรงเวลา แต่ขากลับเจอ delayed ไป 40นาที ทางสายการบินเค้ามีส่ง E-voucher มูลค่า 200บ. ตามมาปลอบใจให้ในเมลด้วย ก็โออ่ะ

ก่อนไปมีติดต่อเช่ารถยนต์ขับเอง กับ รถเช่าแม่ฮ่องสอน by PR Motor เป็นรถ Honda Jazz เกียร์ออโต้ เครื่องยนต์1500cc ป้ายแดง ค่าเช่าวันละ 1,600฿

ใช่ค่ะ วันละ 1,600฿ 😅 เป็นการเช่ารถเที่ยวในประเทศที่แพงสุด แพงกว่าภูเก็ต เชียงใหม่ ที่เคยเช่าขับเลย แต่ยอมจ่ายแพงหน่อยเพราะอย่างที่รู้ๆกัน เส้นทางแม่ฮ่องสอน ทั้งโค้งทั้งชัน เราเลยยอมจ่ายแลกกับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นละกัน ทริปนี้กรุ้ป 4คน นั่งสบาย ขับขึ้นดอยขึ้นเขารถแรงเหลือๆ ถ้ารถดี เข้าโค้งหนึบ เราเป็นคนขับทั้งทริปรู้สึกอุ่นใจและมั่นใจในการขับขึ้นเยอะนะ

วันแรกมาถึงก็เกือบจะเย็นแล้ว เลยเลือกพักในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ที่ B2 Mae hong son premier hotel

แต่ก่อนเข้ารร. เราก็ไปแวะวัดพระธาตุดอยกองมู ด้านหลังพระธาตุมีจุดชมวิวเมืองมุมสูงแบบพาโนรามา เห็นเป็นแนวเทือกเขาสลับไปมา นั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิวตรงนี้.. ดีย์~~

หลังจากสักการะพระธาตุดอยกองมู แวะวัดจองคำ แต่ชมอยู่ด้านนอกวัดนะเพราะเย็นแล้วจะรีบไปเช็คอินรร. ที่นี่แอบผิดหวังเพราะหนองจองคำ น้ำแห้งมากๆๆ กะว่าจะมาเดินเล่นรอบๆหนองน้ำ แต่แล้งเกิ๊น เลยได้ภาพเงาสะท้อนของวัดมาแค่นี้แหละ 😅 เงาสะท้อนครึ่งเดียวเพราะน้ำในหนองมีจำกัด5555

เที่ยวในตัวเมืองที่นี่รู้สึกว่าสะดวกดีนะ แต่ละสถานที่อยู่ใกล้ๆกัน เป็นเมืองเล็กๆ รถไม่เยอะ ชาวบ้านชาวเมืองก็ชิลๆ ต๊ะต่อนยอน ฟิลใช้ชีวิตเหมือนทุกวันคือวันอาทิตย์ ไม่รีบไม่ร้อนดีแท้ 🥰

หลังจากเก็บสัมภาระ ก็ขับรถออกมาทานมื้อเย็นกันที่ร้านใบเฟิร์น

ลองสั่งอาหารพื้นบ้าน แกงฮังเล ข้าวตังหน้าตั้ง ไก่ห่อใบเตย ไก่คั่วเกลือ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

เอิ่มมม งงเหมือนกันตอนอาหารมาเสิร์ฟ ทำไมเราสั่งแต่ไก่ ไก่ ไก่ 😆

สรุปรวมๆรสชาติจัดว่าดีเลย อร่อย รสชาติพื้นบ้าน ร้านนี้แนะนำค่ะ

อิ่มหนำจนเกือบตีปีกขันได้ เราก็ไปเดินย่อยกันต่อที่ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน

ช่วงที่ไป ร้านค้ามีไม่เยอะ คนก็ไม่เยอะ มีขายของกิน ได้ชุดพื้นเมืองมาชุดนึง มารู้ทีหลังว่าแพง55555

ใครอยากได้ชุดม้ง ชุดกาสะลอง ชุดกระโปรงยาวแบบจีนๆ แนะนำให้ไปแวะซื้อที่จุดชมวิวบ้านลุกข้าวหลาม ทางผ่านไปปางมะผ้า บ้านจ่าโบ่ นะจ๊ะ มีขายเพียบบบบ ถูกมากกกกกก จนต้องซื้อเพิ่มมาถัวกับชุดแรก 🤣🤣

ร้านค้าข้างทางตรงจุดชมวิวบ้านลุกข้าวหลาม (ทริปนี้เราขับผ่านจุดนี้สองรอบ)

Day 2 : สะพานไม้ซูตองเป้ - ร้านกาแฟช้างไทย - ถ้ำน้ำลอด - Resort Kanlaya's Eyrie

6.00น. Check out ออกจากรร. มาเที่ยวเราต้องตื่นเช้ากว่าไปทำงานค่ะทุกคน!!

ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปใส่บาตรยามเช้า สอบถามน้องพนง.ที่รร. เค้าว่าที่สะพานซูตองเป้มีพระเดินบิณฑบาตประมาณ 6.30-7.00น.

อาหารสำหรับใส่บาตรก็แวะซื้อได้ก่อนออกจากตัวเมือง แถวหน้า ธ.กรุงไทย แต่ความจริงตรงจุดจอดรถแถวสะพานไม้ก็มีชาวบ้านจัดชุดอาหารสำหรับใส่บาตรไว้ขายนะ อันนี้เพิ่งรู้ตอนมาถึงเลย

จากตัวเมืองใช้เวลาขับมาไม่เกินครึ่งชั่วโมง ถนนดี ขับง่าย ไม่ค่อยมีรถ เปิดกระจกรับลมเย็นๆได้ตลอดทาง

มาถึงเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น มีคนรอใส่บาตรอยู่ไม่ถึง5คนเลยค่ะ ดี๊ดี

ประมาณ 7โมงเช้า ก็มีพระเดินเรียงแถวมาจากวัดภูสมะ สองข้างสะพานเป็นท้องนา มองออกไปไกลๆก็เป็นแนวเทือกเขา มีหมอกบางๆยามเช้า

สวยสุดตอนพระอาทิตย์ขึ้น สาดแสงกระทบท้องนากลายเป็นสีทองเลย อากาศก็ดี๊ดี ประมาณ 20องศา เดินไปเดินมาฟิลแบบเดินบนรันเวย์

ไม่มีคนเลยจ้า ฟินนนนน 😍

ลืมบอก.. ทริปนี้พาคุมแม่มาลุยด้วย ครบทีมสี่สาว blackpink พอดีเลย555 ถ้าใครอยากพาพ่อแม่มาเที่ยว พักผ่อน สัมผัสธรรมชาติ สามารถนำแพลนนี้ไปปรับใช้ตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ เราสนับสนุนให้พาพ่อแม่ออกเดินทาง ☺️

กลับมาสู่เส้นทางพิชิตพันโค้งของเราต่อค่ะ หลังจากแวะสะพานซูตองเป้ เราก็ปักหมุดไปที่ ถ้ำน้ำลอด อ.ปางมะผ้า

แต่ แต่ แต่

เรามันคอกาแฟ มาแอ่วเหนือ ต้องเสพกาแฟเช้าบ่ายค่ะ

เลยหาแวะร้านกาแฟที่เป็นทางผ่านไปถ้ำน้ำลอด แล้วก็มาเจอร้านนี้..

ร้านกาแฟช้างไทย

เป็นร้านกาแฟข้างทางธรรมดา ที่มีวิวไม่ธรรมดา อยู่กลางหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนา

จุดนี้ขอใช้คำว่า ว้าววววว

ตอนไปถึงประมาณ 9.00น. ร้านเพิ่งเปิด ต้องรอบาริสต้าวอมเครื่องชงสักพัก แต่เป็นการรอที่ชอบมากๆ ถ่ายรูปสวยทุกมุม อากาศก็เย็นสบายยย

**ทริปนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาเขียนรีวิวตั้งแต่แรกนะ รูปที่มีก็จะถ่ายคนเยอะหน่อย รูปวิวอย่างเดียวไม่ค่อยจะมี เมมโทรศัพท์เต็ม ทนดูไปหน่อยเนอะ -.-"

จากร้านช้างไทย ขับรถไปถ้ำน้ำลอด ปางมะผ้า ประมาณ 1.30 ชม. อย่างที่เกริ่นไว้ด้านบนว่าเราจะต้องผ่านจุดพักรถบนเขา นั่นก็คือ จุดชมวิวบ้านลุกข้าวหลาม จุดนี้ต้องจอดหน่อยเพราะคนนั่งด้านหลังเริ่มวิงเวียนจากโค้งไปโค้งมา

โอเค.. จุดนี้เรามีกิจกรรมแนะนำระหว่างรอพักรถ พักคน คือ ชิมแชะช้อป ค่าาา

" ชิม "

ถั่วลายเสือ , มันม่วงญี่ปุ่นเผาร้อนๆ