ส่งเงินให้พ่อแม่ แต่พ่อแม่แอบเอาไปให้พี่สาวที่ไม่เอาไหนใช้ นี่คือราคาของความกตัญญูใช่ไหมครับ?

กระทู้คำถาม
มาทำงาน กทม. ส่งเงินให้พ่อแม่ใช้ทุกเดือน ไม่อยากให้พ่อแม่ลำบาก แต่มาจับได้ว่าพ่อแม่แอบเอาเงินที่ส่งให้ทุกเดือน ไปให้พี่สาวใช้ เพราะพี่สาวลาออกจากงานประจำมาขายของอยู่บ้านหลายเดือนแล้ว แต่ผมไม่รู้ เพราะพี่สาวบอกพ่อแม่ไว้ว่าไม่ให้บอกผม เรื่องเริ่มมาสงสัยตั้งแต่ตอนพี่สาวยืมเงินผมไปจ่ายค่า กยศ. แล้วบอกจะจ่ายคืนให้ทุกเดือน ผมก็สงสัยว่าทำงานมาตั้งหลายเดือนไม่มีเงินเก็บเลยหรอ สงสัยมัวแต่เอาเงินไปเที่ยวไปซื้อของนู้นนี่นั่น เพราะพี่สาวเพิ่งซื้อโทรศัพท์ใหม่ ก็เลยให้ยืมไป พี่สาวก็ยังใช้เงินผมทุกเดือน จนครบ ผมก็ไม่สงสัยอะไร พอมาเดือนที่แล้วมายืมผมอีก 20,000 บาท บอกจะไปลงทุนเปิดร้านขายของ ผมก็ถามว่าแล้วมีเวลาไปขายหรอ ต้องทำงานประจำไปด้วย พี่สาวก็บอกว่าเลิกงานก็ไปรับของมาขายตลาดนัด ผมก็ให้ยืมไป เรื่องมาแดงหลังจากที่ผมถามพ่อแม่ว่า วันนี้กินข้าวกับอะไร พ่อแม่มักตอบว่ากินข้าวกับผักลวก ผมเลยบอกว่าส่งเงินให้ไปแล้ว ใช้ซื้ออะไรดีๆกินบ้างก็ได้นะ อย่าเอาแต่เก็บ ล่าสุดที่ผมกลับบ้าน ตจว. ผมเลยขอสมุดบัญชีธนาคารของพ่อแม่และพี่สาวไปปรับดู สรุปว่า พ่อแม่เอาเงินที่ผมโอนให้ทุกเดือนไปให้พี่สาวใช้ทั้งหมด ผมเลยมาถามพ่อแม่ว่า ทำไมทำแบบนี้ พ่อแม่เลยเล่าให้ฟังว่า พี่สาวลาออกจากงานมาหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ขายของที่ตลาดนัดได้เงินวันละ 200 บาท ไม่พอใช้ ไหนจะหลานอีก 2 คน (ลูกของพี่สาว) ผมเลยบอกว่ามันไม่ถูกต้อง พ่อแม่จะช่วยพี่สาวแบบนี้ไปตลอดไม่ได้ ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่พี่สาวจะอยู่ยังไง ผมเลยไปถามพี่สาว คำตอบที่ได้มา ทำเอาไปไม่เป็น "ก็ลูกมันหิว มันอยากกินนู้นนี่นั่นดีๆ แกทนได้หรอที่จะไม่ซื้อให้มันกิน?" "นี่หลานแกนะ แกไม่อยากให้หลานแกมีคุณภาพชีวิตดีๆหรอ?" ตอนนี้ผมไม่อยากคุยกับใครเลยครับ สงสัยนี่คงจะเป็นราคาของความกตัญญูครับ ผมเคยแนะนำพี่สาวไปแล้วว่าไม่มาหางานทำที่ กทม บ้างละ จะได้พอมีเงินเก็บกับเขาบ้าง บ้านก็มีไม่ต้องเช่า ผมให้ช่วยค่าน้ำค่าไฟนิดๆหน่อย ส่วนค่าผ่อนบ้านผมจ่ายเองอยู่แล้ว พี่สาวบอกไม่อยากมาทำ กลัวทนคิดถึงลูกไม่ไหว เฮ้อ เบิ่ดคำสิเว่า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
เราเห็นต่างจากคอมเม้นอื่นนะคะ ที่บอกว่าให้เงินท่านไปแล้ว ท่านจะไปใช้อะไรก็เรื่องของเค้า

ถ้าในกรณีที่พ่อแม่เอาไปใช้เพื่อตัวเอง เราเห็นด้วยค่ะ แต่การเอาเงินนั้นไปให้ลูกอีกคนมันไม่ถูกต้อง

มันจะกลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานผิดๆให้กับครอบครัว มันจะกลายเป็นว่า จขกท. จะเป็นคนที่ส่งเสียเลี้ยงดูทั้งครอบครัว (พ่อแม่+พี่สาว+หลาน2คน) เพียงคนเดียว

เชื่อสิ มันจะวนเป็นลูปนรก เมื่อพี่สาวเงินไม่พอ > เอาหลานมาอ้างกับพ่อแม่ > พ่อแม่ก็สงสาร > แล้วต้องไปขอให้จขกท.ช่วยเหลือ > เพราะสงสารพ่อแม่สุดท้ายก็ต้องช่วยเหลือ

เป็นแบบนี้ต่อไป พี่สาวจขกท. จะเป็นกาฝากที่ดูดกลืนครอบครัว

ทั้งหมดนี่ยังไม่รวมเงินค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ยามเจ็บป่วยอีก ซึ่งขอขีดเส้นใต้ตัวโตๆว่า ในอนาคตมันต้องได้ใช้แน่ๆค่ะ ก้อนใหญ่ด้วย

วิธีแก้ปัญหาที่เราแนะนำได้คือ ให้จขกท.ลดเงินที่ส่งให้พ่อแม่ลง แล้วเก็บเงินส่วนที่หักออกไปฝากใส่บัญชีออมทรัพย์ชื่อตัวเองไว้ เผื่อเวลาพ่อแม่ล้มป่วย จะได้มีเงินก้อนนี้เอาไว้ช่วยซัพพอร์ตบ้าง

ส่วนพวกของกินดีๆ คงยากหน่อย ถ้าไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ถึงจะซื้อข้าวสารอาหารแห้งไป มันคงไปตกอยู่กับพี่สาวอยู่ดีแหละค่ะ พ่อแม่ก็ยอมกินประหยัดๆเพื่อให้ลูกกับหลานๆกินดีอยู่ดี

ค่อยๆหาทางแก้ไปนะคะ เราหัวอกเดียวกัน เคยเจอเรื่องทำนองนี้มาเหมือนกันค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
ต้องแยกเป็นส่วนๆไปคับ

1) คุนส่งเงินให้พ่อแม่ไปแล้ว พ่อแม่จะใช้อย่างไร มันเป็นสิทธิของเค้า (รวมทั้งเอาไปให้คนอื่นได้ด้วย)
คุนจะมาให้เงินด้วย บังคับว่าต้องใช้อย่างไรด้วย ไม่ได้

2) ถ้าคุนต้องการให้พ่อแม่คุนกินข้าวดีๆ แล้วคุนจะส่งเงินทำไม คุนก็ต้องซื้อข้าวดีๆให้พ่อแม่คุนกินสิคับ

ส่งเงินให้ใช้ = ให้เงิน เท่านี้เองคับ
ความคิดเห็นที่ 6
บ้านผมก็เป็นแบบนี้ ให้เท่าไรก็ไม่เคยพอเพราะเอาเงินไปช่วยน้องชายผ่อนบ้านที่กำลังจะโดนยึด ไหนจะคดีอาญา / แพ่ง อีก จนผมให้เท่าที่ให้ได้ เพิ่มกว่านี้ไม่มีให้แล้ว ล่าสุดประกันตัวน้องชายโดนหมายจับคดีเช๊ค 12,000 บอกจะคืน แต่ผมทำใจแล้วไม่มีคืนแน่ๆ และจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะช่วยแล้ว  

ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ชื่อแม่ ๆ ก็แอบเอาไปให้น้องชายจดจำนองเอาเงินมาหมุนบริษัท สุดท้ายเจ๊งกำลังจะโดนยึด ทั้งที่ทั้งผมทั้งญาติๆ เคยบอก เคยเตือนแล้วว่าอย่าเอาบ้านไปทำอะไร เพราะรู้ว่าน้องเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ แถมแม่มีการมาบอกให้ผมกู้แบงค์เพื่อเอาทาวน์เฮ้าส์ชื่อแม่ออกมาอยู่ดีๆ จะให้ผมเป็นหนี้มรดกตัวเอง นี้คือสิ่งที่ผมเจ็บปวดกับการกระทำของแม่มากๆ

น้องชายมีคดีอาญาแม่แอบมาหาแม่ยายผมมาขอยืมเงิน 9 พัน แต่คนที่ต้องใช้หนี้คือผมต้องกดเงินสดไปคืนแม่ยาย แม่ไม่เคยไว้หน้าผมเลยว่าผมอยู่บ้านภรรยาเค้าจะคิดยังไงกับผม บ้านน้องชายมีอะไรอีกมากมายที่สร้างแต่ปัญหา มีแต่เรื่องปวดหัวมาให้ จนทุกวันนี้ผมบล๊อคเบอร์แม่และน้องชายหมด ให้ใช้จ่ายแม่รายเดือนส่วนเค้าจะเอาไปทำอะไรปล่อยล่ะ เรื่องของแม่

ทุกวันนี้ถือว่าแม่กับน้องชายคงเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่ผมอาจจะทำกันมาแต่ชาติปางก่อน ขออโหสิกรรมกันในชาติ
ความคิดเห็นที่ 13
เคยเจอพ่อแม่ทำแบบนี้เหมือนกัน    เราวีนบ้านแตกค่ะ    ไม่พอใจเราพูดตรงๆ     เราให้เงินพ่อแม่ก็จริง   แต่ในเงื่อนไขที่ว่าให้พ่อแม่ไว้ใช้    พ่อแม่ไม่มีสิทธิ์เอาไปให้คนอื่นต่อ    ถ้าพ่อแม่เอาไปให้คนอื่นต่อ    มันผิดวัตถุประสงค์เราค่ะ     เราไม่ยอม      หลังๆเราแก้ปัญหาโดยการซื้อเป็นของกินให้แทนค่ะ     เงินไม่รั่วไหลไปถึงคนอื่นแน่   ขนาดให้เป็นของกิน  บางทีเรายังรำคาญเลยค่ะ   อุตส่าห์ซื้อมาฝาก   แต่พ่อแม่ไม่ยอมกินจะเก็บไว้ให้คนนั้นคนนี้    ห่วงคนอื่นจัง    ต้องย้ำอ่ะว่าอันนี้ซื้อให้พ่อแม่นะ  ถ้าไม่ชอบกินก็บอก   วันหลังจะได้ไม่ซื้อมาให้   ไม่ใช่รับไปแล้วเอาไปให้คนอื่นกินต่อ   คนซื้อมันเสียความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 2
ปัญหาโลกแตก  เรื่องประเภทนี้ จะเรียกว่าเป็นหัวข้อยอดฮิตก็ว่าได้  และคำตอบที่เข้ามาพิมพ์ ก็จะคล้าย ๆ กัน
เราเดาว่า คุณคงแค่อยากระบาย เพราะทางแก้น่ะ มันก็เหมือน ๆ กันไปหมด ไม่ว่าจะกี่กระทู้ กี่รายละเอียด

ที่บ้านสามีเราก็คล้าย ๆ กัน จะมีลูกคนหนึ่งที่ทำตัวเป็นลูกแหง่ เอาตัวไม่รอด พ่อแม่ก็จะห่วงแต่ลูกคนนี้ จนไม่นึกถึงจิตใจลูกคนอื่น ๆ
เราให้เงินไป ซื้อข้าวของอุปโภคบริโภคใส่บ้านไว้ให้ ก็ผ่องถ่ายไปให้ "ลูกรัก" แล้วมา "รีดไถ" กับลูกคนอื่นอีกที

ก็อยู่ที่ว่า คนที่ถูกรีดไถ จะทนให้รีดไถไปได้อีกนานแค่ไหน แล้วจะหยุดวงจรนี้ ด้วยวิธีไหน
(พ่อแม่น่ะ เขาทนอด ทนลำบากได้แบบไม่มีกำหนดอยู่แล้ว เพื่อลูกรักของเขา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่