เรียน สอบถามทุกท่าน
เรื่อง การออกสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์และแจ้งข้อมูลที่ผิดพลาด (ตั้งใจหรือเปล่า) และการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคารฯ ที่ได้แจ้งไว้ต่อลูกค้าทั้งทางภาพ (สื่อประชาสัมพันธ์ฯ) และข้อความเสียง (พนักงาน Call Center)
เนื่องด้วยกระผมฯ เป็นลูกค้าบัตรเครดิต – SCB JCB PLATINUM และได้รับแจ้งโปรโมชั่น "โปรเด็ด (เฉพาะคุณ) ยิ่งรูด ยิ่งรับเพิ่ม" เป็นการรับคืนเงิน 5 % จากการใช้จ่ายผ่านบัตรดังกล่าวผ่าน Line SCB Connect และ มีลิ้ง URL ที่อ้างอิงถึงโปรโมชั่น ตามภาพแจ้งแล้วนั้น
ทั้งนี้ ด้วยข้อความยกเว้น ที่จะไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขาย ไม่ได้ยกเว้นประกันชีวิต และทองคำ ไว้ ซึ่งปกติ พวก กดเงินสด รูดกองทุน ประกันชีวิต รูดน้ำมัน และซื้อธนบัตรต่างประเทศ จะไม่เข้าร่วม อยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้ โปรโมชั่นนี้ ให้รูดได้ (ยกเว้นเฉพาะ ประกันภัย และประกันควบคู่การลงทุน "UnitLink") กระผมก็สงสัยเขึ้นมาทันที ว่าโปรโมชั่นน่าสนใจ รูดประกันชีวิตสามัญทั่วไป หรือแบบสะสมทรัพย์ได้ใช่ไหม รูดทองก็ได้ด้วย (ได้แคชแบคตามโปรโมชั่นที่ถูกเรียนเชิญ) จึงได้ติดต่อกลับไปยังคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร เพื่อสอบถามเงื่อนไขอย่างละเอียด เนื่องจากรายละเอียดที่แจ้งผ่านสื่อโฆษณามีความดึงดูดใจที่อยากจะให้เข้าร่วมเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ติดต่อกลับไป 2 ครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจในการประกอบการตัดสินใจใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งคำตอบที่ได้รับทั้งสองครั้งก็ถูกต้องตรงกันหมดว่าในเงื่อนไขไม่ได้ระบุข้อยกเว้นไว้ว่า ประกันชีวิตและทองคำไม่เข้าร่วม ดังนั้น แปลว่า "ประกันชีวิตและทองคำ" เข้าร่วมได้ แต่ที่ยก เว้นคือ ประกันภัย (วินาศภัย) กับประกันที่ควบคู่การลงทุน
กระผมยังย้ำกับเจ้าหน้าที่กลับไปด้วยว่า "จริงเนาะ ถ้าประกันชีวิตทุกชนิดจะไม่ร่วม ก็ต้องพิมพ์มาเลยว่า ไม่รวมประกันชีวิตทุหชนิดและประกันภัยทุกชนิด แบบนี้ง่าย ๆ ได้ใจความ และเข้าใจกระจ่างเลย"
และเหตุการณ์ก็ได้ดำเนินการต่อไป ก็ไผรูดสิครับ เทศกาลรูดประกัน เพื่อลดหย่อนภาษี
และอันนี้ขอแทรกข้อมูลเพิ่มเติมจากทางธนาคาร ที่ได้ส่งโปรใหม่มาอีกรอบ แต่เป็นคนละโปรโมชั่นกัน (ส่งมา วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564) แต่กระผมไม่สนใจ เพราะคิดว่า เป็นโปรเดียวกัน บัตรก็ประเภทเดิม โปรเดิม ๆ มั้ง และอีกอย่าง เป็นหนี้เยอะแล้ว เดี๋ยวจะไม่มีมีปีญญาจ่ายคืนธนาคาร (ประเด็นนี้ จะบอกว่า ธนาคารขยันส่งโปรมาดึงดูดใจซะเหลือเกิน)
เมื่อระยะเวลาโปรโมชั่นสิ้นสุดลง ก็ได้ติดตามแคชแบค (มีแต่ธนาคารทวงหนี้เราเสมอ ๆ ครั้งนี้เราเป็นฝ่ายทวงสิทธิ์ของเราบ้าง) ........ขอย่อนะครับ
กระผม : .....สอบถามเงินคืนตามโปรฯ ......
จนท. : จากการตรวจสอบ ไม่ได้รับเงินคืน เนื่องจากประกันชีวิตไม่เข้าร่วม (สตั้นไป 10 วิ ถ้านานกว่านี้เดี๋ยวพนักงานคิดว่าสายหลุด)
กระผม : ไม่เข้าร่วมไง ศึกษาสื่อ ปชส. แล้ว และก็ได้โทรมาถามเน้นย้ำแล้วว่า “ ปกติส่วนใหญ่การรูดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตไม่เข้าร่วมนะ เงื่อนไขโปรโมชั่นนี้แสดงว่ารูดได้ใช่ไหม และพนักงานยังพักสายไปค้นข้อมูลเพื่อมาตอบลูกค้า คำตอบคือ "เข้าร่วมได้" ผมถามไว้แล้ว ถามก่อนรูดด้วยนะครับ
ในเงื่อนไขไม่ได้ระบุห้ามซะหน่อย แล้วอย่างนี้ลูกค้าจะไม่เชื่อมั่นได้อย่างไร ลูกค้าก็ทุ่มเทแรงใจใช้จ่ายผ่านบัตรถึงแม้จะมีบัตรอื่นที่ให้โปรโมชั้นเหมือนกัน ธ. อื่น ผ่อน 0% นาน 6 เดือน แถมมีเงินคืน1-2% แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แต่ SCB ให้มากกว่าเลยต้องยอมหยิบบัตร SCB มาใช้เพื่อการนี้ เพื่อให้ได้เข้าเงื่อนไขดังกล่าว
จนท. : ประกันชีวิต ไม้ได้ระบุเป็นข้อยกเว้น แต่ "ประกันภัย กับประกันชีวิต" ทางธนาคารถือว่า อยู่ในหมวดเดียวกัน
กระผม : ถ้าธนาคารจะเหมารวมมันก็ใช่ แต่การสื่อสาร มันชัดเจนมากเลยนะ ถ้าจะรวมหมวด ก็เขียนภาษาให้คนอ่านแล้วเข้าใจไปเลย "ประกันชีวิตและประกันภัยทุกประเภท" ไปเลย เข้าใจง่ายกว่าเยอะ และชัดเจน จบ
จนท. : เดี๋ยวส่งเรื่องเสนอแนะให้
กระผม : มันไม่ใช่การเสนอแนะครับ ลูกค้าเสียหาย รูดไปแล้ว เป็นหนี้ไปแล้ว เป็นหนี้เพราะหลงเชื่อโปรโมชั่นลวงโลก (เหตุการณ์ตอนนั้นคือ พนักงานบอกจะไม่ได้เงินคืน) เลยคิดว่า ตัวเองถูกหลอก และเจ็บใจมาก
เลยเรียกร้องให้ธนาคารดำเนินการพิจารณา
▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎จบการสนทนา▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
ประเด็นข้อหารือ และข้อร้องเรียน คือ
1. ทำไมส่วนงานฯ ออกโปรโมชั่นไม่บอกให้ละเอียดในแผ่นพับตั้งแต่แรก ว่าต้องใช้จ่ายที่ไหนอย่างไร ให้ละเอียด แบบเข้าใจง่าย หรือระบุสถานที่ที่ร่วมรายการ หรือการใช้จ่ายที่ใดบ้างที่ไม่เข้าเงื่อนไข เพื่อที่ลูกค้าและพนักงานคอลเซ็นเตอร์จะได้เข้าใจในโปรโมชั่น และจะได้ไม่เกิดความเสียหายต่อภาระค่าใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งลูกค้าก็เป็นลูกค้าประวัติดี ชำระตรงกำหนดมาโดยตลอด และหากไม่เข้าเงื่อนไขจริง ๆ ต้องแจ้งก่อนที่ลูกค้าจะรูดใช้จ่าย ซึ่งพนักงานตัวเป็น ๆ เป็นผู้ยืนยันกับลูกค้าด้วยตัวเอง (เป็นท่านเชื่อมั่นข้อมูลที่ได้รับไหม) เพราะถ้าถามแล้ว ไม่เข้าเงื่อนไขลูกค้าคงไม่เลือกที่จะใช้จ่ายผ่านบัตร SCB และคงเลือกบัตรค่ายอื่น ๆ ที่ถืออยู่ ในรอบเดือนนั้นโปรโมชั่นรูดประกันออกมาเยอะเลยทีเดียว
อนึ่ง จากประวัติการใช้จ่ายเดือนก่อน ๆ ก็น่าจะทราบว่าลูกค้าเคยทำผ่อนรายเดือนด้วย คงไม่จำเป็นที่ต้องรูดเต็มจำนวนแล้วชำระเต็มคราวละมาก ๆ ในเมื่อธนาคารมีช่องทางการแบ่งจ่ายรายเดือนให้ลูกค้าอยู่แล้ว เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย อีกกรณีหนึ่ง ลูกค้าก็มีสิทธิใช้บัตรธนาคารอื่นได้ที่มีโปรโมชั่นโดนใจ ทำไมต้องเลือกบัตร SCB
2. ลูกค้าในฐานะผู้บริโภคที่รับข้อมูลจากธนาคาร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ได้ออกโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้า แต่ไม่ได้รับผิดชอบต่อข้อมูลจากข้อความประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งพนักงานบริการทางโทรศัพท์ก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาในธนาคาร แต่เมื่อลูกค้าได้ตัดสินใจปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยได้รับข้อมูลและคำแนะนำที่คิดว่าเชื่อถือได้แล้ว กลับมาแจ้งภายหลังว่า ไม่เข้าเงื่อนไข การปฏิบัติไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด นั่นหมายความว่าอย่างไร สถาบันการเงินแห่งนี้เล่นขายของหรืออย่างไร หลอกล่อลูกค้าให้มาใช้จ่ายผ่านบัตรเยอะ ๆ เพื่อผลประโยชน์ธนาคารแต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อลูกค้าที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเงินของเจ้าของบัตรหรือ ? ลูกค้าต้องเกิดภาระค่าใช้จ่ายในรอบเดือนนั้น ๆ สูงกว่าปกติ ซึ่งแน่นอนว่า ภาระหนี้ก็สูงตามไปด้วย หากลูกค้าไม่ได้เงิรคืนตามโปร แล้วทำไมลูกค้าจะต้องยอมแบกภาระหนี้และอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นระยะเวลานาน ลูกค้าไปเลือกรูดแบบผ่อนรายเดือนได้ ไม่ดีกว่าหรือ ? แลัวถ้ากรณีที่ลูกค้าต้องกู้ยืมเงินที่อื่นเพื่อมาชำระหนี้เต็มวงเงินที่เรียกเก็บ การเสียเปรียบของลูกค้า แต่ผลประโยชน์เข้าธนาคารเต็ม ๆ
3. การที่ลูกค้าเสียผลประโยชน์อื่นใดที่พึงมีพึงได้ จากการได้รับข้อเสนอจากสถาบันการเงินอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน (การใช้จ่ายผ่านบัตรกับสถาบันการเงินอื่นที่ลูกค้าเป็นสมาชิกในขณะนั้น เช่น คะแนน 3 เท่า , เงินคืน 0.5% - 3 % หรือของกำนัลอื่นที่เทียบเท่าการใช้จ่ายตามยอดที่กำหนด เช่น บัตรกำนัลบัตรของขวัญแทนเงินสด , กระเป๋าเดินทาง , เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น) แต่ลูกค้าก็ไม่เลือก แต่กลับเลือก SCB เพราะการเสนอโปรโมชั่นเด็ด ที่เหนือกว่า แต่ไม่ได้ให้จริง
สุดท้ายนี้ ธนาคารได้ติดต่อกลับมายังลูกค้า โดยปฏิเสธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกค้า ทั้งที่สมควรอย่างยิ่ง ถึงแม้มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะคิดเป็นตัวเงินในจำนวนไม่เท่าไหร่ แต่มูลค่าทางจิตใจ ทั้งความเชื่อมั่น ความศรัทธาและความน่าเชื่อถือ ไม่สามารถคิดเป็นมูลค่าได้ ซึ่งธนาคารในฐานะสถาบันการเงินที่มีรูปแบบการบริหารจัดการองค์กรที่ดี มีคุณธรรมและใส่ใจกับลูกค้า อยู่หรือไม่ ? ธนาคารจะรับผิดชอบอย่างไร หรือว่าปล่อยผ่านเลยไปโดยไม่คิดวิธีการเยียวยาลูกค้าเลยแม้แต่น้อยนิด กับคำว่า ขออภัย เพียงพอแล้วเหรอกับเหตุการณ์นี้
ล่าสุด ได้โทรไปตามเรื่อง วันนี้ (29 มกราคม 2565 ) ก็ยังรอการตรวจสอบ แล้วผลจะออกตอนไหนไม่รู้ แล้วถ้าผลออกมาเหมือนเดิมล่ะ (คือ ไม่ได้) จะต้องส่งเรื่องถึง BOT เลยใช่ไหม ? เพราะส่งเรื่องร้องเรียนกับธนาคารไปแล้ว ผลการพิจารณา ก็ถูกปฏิเสธทุกรอบ
รูดบัตร SCB จ่ายประกันชีวิต แต่ไม่ได้รับเงินคืน (ตามโปรโมชั่น) เพียงเพราะพนักงานแยก "ประกันชีวิต กับ ประกันภัย " ไม่ออก
เรื่อง การออกสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์และแจ้งข้อมูลที่ผิดพลาด (ตั้งใจหรือเปล่า) และการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคารฯ ที่ได้แจ้งไว้ต่อลูกค้าทั้งทางภาพ (สื่อประชาสัมพันธ์ฯ) และข้อความเสียง (พนักงาน Call Center)
เนื่องด้วยกระผมฯ เป็นลูกค้าบัตรเครดิต – SCB JCB PLATINUM และได้รับแจ้งโปรโมชั่น "โปรเด็ด (เฉพาะคุณ) ยิ่งรูด ยิ่งรับเพิ่ม" เป็นการรับคืนเงิน 5 % จากการใช้จ่ายผ่านบัตรดังกล่าวผ่าน Line SCB Connect และ มีลิ้ง URL ที่อ้างอิงถึงโปรโมชั่น ตามภาพแจ้งแล้วนั้น
ทั้งนี้ ด้วยข้อความยกเว้น ที่จะไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขาย ไม่ได้ยกเว้นประกันชีวิต และทองคำ ไว้ ซึ่งปกติ พวก กดเงินสด รูดกองทุน ประกันชีวิต รูดน้ำมัน และซื้อธนบัตรต่างประเทศ จะไม่เข้าร่วม อยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้ โปรโมชั่นนี้ ให้รูดได้ (ยกเว้นเฉพาะ ประกันภัย และประกันควบคู่การลงทุน "UnitLink") กระผมก็สงสัยเขึ้นมาทันที ว่าโปรโมชั่นน่าสนใจ รูดประกันชีวิตสามัญทั่วไป หรือแบบสะสมทรัพย์ได้ใช่ไหม รูดทองก็ได้ด้วย (ได้แคชแบคตามโปรโมชั่นที่ถูกเรียนเชิญ) จึงได้ติดต่อกลับไปยังคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร เพื่อสอบถามเงื่อนไขอย่างละเอียด เนื่องจากรายละเอียดที่แจ้งผ่านสื่อโฆษณามีความดึงดูดใจที่อยากจะให้เข้าร่วมเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ติดต่อกลับไป 2 ครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจในการประกอบการตัดสินใจใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งคำตอบที่ได้รับทั้งสองครั้งก็ถูกต้องตรงกันหมดว่าในเงื่อนไขไม่ได้ระบุข้อยกเว้นไว้ว่า ประกันชีวิตและทองคำไม่เข้าร่วม ดังนั้น แปลว่า "ประกันชีวิตและทองคำ" เข้าร่วมได้ แต่ที่ยก เว้นคือ ประกันภัย (วินาศภัย) กับประกันที่ควบคู่การลงทุน
กระผมยังย้ำกับเจ้าหน้าที่กลับไปด้วยว่า "จริงเนาะ ถ้าประกันชีวิตทุกชนิดจะไม่ร่วม ก็ต้องพิมพ์มาเลยว่า ไม่รวมประกันชีวิตทุหชนิดและประกันภัยทุกชนิด แบบนี้ง่าย ๆ ได้ใจความ และเข้าใจกระจ่างเลย"
และเหตุการณ์ก็ได้ดำเนินการต่อไป ก็ไผรูดสิครับ เทศกาลรูดประกัน เพื่อลดหย่อนภาษี
และอันนี้ขอแทรกข้อมูลเพิ่มเติมจากทางธนาคาร ที่ได้ส่งโปรใหม่มาอีกรอบ แต่เป็นคนละโปรโมชั่นกัน (ส่งมา วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564) แต่กระผมไม่สนใจ เพราะคิดว่า เป็นโปรเดียวกัน บัตรก็ประเภทเดิม โปรเดิม ๆ มั้ง และอีกอย่าง เป็นหนี้เยอะแล้ว เดี๋ยวจะไม่มีมีปีญญาจ่ายคืนธนาคาร (ประเด็นนี้ จะบอกว่า ธนาคารขยันส่งโปรมาดึงดูดใจซะเหลือเกิน)
เมื่อระยะเวลาโปรโมชั่นสิ้นสุดลง ก็ได้ติดตามแคชแบค (มีแต่ธนาคารทวงหนี้เราเสมอ ๆ ครั้งนี้เราเป็นฝ่ายทวงสิทธิ์ของเราบ้าง) ........ขอย่อนะครับ
กระผม : .....สอบถามเงินคืนตามโปรฯ ......
จนท. : จากการตรวจสอบ ไม่ได้รับเงินคืน เนื่องจากประกันชีวิตไม่เข้าร่วม (สตั้นไป 10 วิ ถ้านานกว่านี้เดี๋ยวพนักงานคิดว่าสายหลุด)
กระผม : ไม่เข้าร่วมไง ศึกษาสื่อ ปชส. แล้ว และก็ได้โทรมาถามเน้นย้ำแล้วว่า “ ปกติส่วนใหญ่การรูดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตไม่เข้าร่วมนะ เงื่อนไขโปรโมชั่นนี้แสดงว่ารูดได้ใช่ไหม และพนักงานยังพักสายไปค้นข้อมูลเพื่อมาตอบลูกค้า คำตอบคือ "เข้าร่วมได้" ผมถามไว้แล้ว ถามก่อนรูดด้วยนะครับ
ในเงื่อนไขไม่ได้ระบุห้ามซะหน่อย แล้วอย่างนี้ลูกค้าจะไม่เชื่อมั่นได้อย่างไร ลูกค้าก็ทุ่มเทแรงใจใช้จ่ายผ่านบัตรถึงแม้จะมีบัตรอื่นที่ให้โปรโมชั้นเหมือนกัน ธ. อื่น ผ่อน 0% นาน 6 เดือน แถมมีเงินคืน1-2% แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แต่ SCB ให้มากกว่าเลยต้องยอมหยิบบัตร SCB มาใช้เพื่อการนี้ เพื่อให้ได้เข้าเงื่อนไขดังกล่าว
จนท. : ประกันชีวิต ไม้ได้ระบุเป็นข้อยกเว้น แต่ "ประกันภัย กับประกันชีวิต" ทางธนาคารถือว่า อยู่ในหมวดเดียวกัน
กระผม : ถ้าธนาคารจะเหมารวมมันก็ใช่ แต่การสื่อสาร มันชัดเจนมากเลยนะ ถ้าจะรวมหมวด ก็เขียนภาษาให้คนอ่านแล้วเข้าใจไปเลย "ประกันชีวิตและประกันภัยทุกประเภท" ไปเลย เข้าใจง่ายกว่าเยอะ และชัดเจน จบ
จนท. : เดี๋ยวส่งเรื่องเสนอแนะให้
กระผม : มันไม่ใช่การเสนอแนะครับ ลูกค้าเสียหาย รูดไปแล้ว เป็นหนี้ไปแล้ว เป็นหนี้เพราะหลงเชื่อโปรโมชั่นลวงโลก (เหตุการณ์ตอนนั้นคือ พนักงานบอกจะไม่ได้เงินคืน) เลยคิดว่า ตัวเองถูกหลอก และเจ็บใจมาก
เลยเรียกร้องให้ธนาคารดำเนินการพิจารณา
▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎จบการสนทนา▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
ประเด็นข้อหารือ และข้อร้องเรียน คือ
1. ทำไมส่วนงานฯ ออกโปรโมชั่นไม่บอกให้ละเอียดในแผ่นพับตั้งแต่แรก ว่าต้องใช้จ่ายที่ไหนอย่างไร ให้ละเอียด แบบเข้าใจง่าย หรือระบุสถานที่ที่ร่วมรายการ หรือการใช้จ่ายที่ใดบ้างที่ไม่เข้าเงื่อนไข เพื่อที่ลูกค้าและพนักงานคอลเซ็นเตอร์จะได้เข้าใจในโปรโมชั่น และจะได้ไม่เกิดความเสียหายต่อภาระค่าใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งลูกค้าก็เป็นลูกค้าประวัติดี ชำระตรงกำหนดมาโดยตลอด และหากไม่เข้าเงื่อนไขจริง ๆ ต้องแจ้งก่อนที่ลูกค้าจะรูดใช้จ่าย ซึ่งพนักงานตัวเป็น ๆ เป็นผู้ยืนยันกับลูกค้าด้วยตัวเอง (เป็นท่านเชื่อมั่นข้อมูลที่ได้รับไหม) เพราะถ้าถามแล้ว ไม่เข้าเงื่อนไขลูกค้าคงไม่เลือกที่จะใช้จ่ายผ่านบัตร SCB และคงเลือกบัตรค่ายอื่น ๆ ที่ถืออยู่ ในรอบเดือนนั้นโปรโมชั่นรูดประกันออกมาเยอะเลยทีเดียว
อนึ่ง จากประวัติการใช้จ่ายเดือนก่อน ๆ ก็น่าจะทราบว่าลูกค้าเคยทำผ่อนรายเดือนด้วย คงไม่จำเป็นที่ต้องรูดเต็มจำนวนแล้วชำระเต็มคราวละมาก ๆ ในเมื่อธนาคารมีช่องทางการแบ่งจ่ายรายเดือนให้ลูกค้าอยู่แล้ว เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย อีกกรณีหนึ่ง ลูกค้าก็มีสิทธิใช้บัตรธนาคารอื่นได้ที่มีโปรโมชั่นโดนใจ ทำไมต้องเลือกบัตร SCB
2. ลูกค้าในฐานะผู้บริโภคที่รับข้อมูลจากธนาคาร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ได้ออกโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้า แต่ไม่ได้รับผิดชอบต่อข้อมูลจากข้อความประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งพนักงานบริการทางโทรศัพท์ก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาในธนาคาร แต่เมื่อลูกค้าได้ตัดสินใจปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยได้รับข้อมูลและคำแนะนำที่คิดว่าเชื่อถือได้แล้ว กลับมาแจ้งภายหลังว่า ไม่เข้าเงื่อนไข การปฏิบัติไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด นั่นหมายความว่าอย่างไร สถาบันการเงินแห่งนี้เล่นขายของหรืออย่างไร หลอกล่อลูกค้าให้มาใช้จ่ายผ่านบัตรเยอะ ๆ เพื่อผลประโยชน์ธนาคารแต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อลูกค้าที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเงินของเจ้าของบัตรหรือ ? ลูกค้าต้องเกิดภาระค่าใช้จ่ายในรอบเดือนนั้น ๆ สูงกว่าปกติ ซึ่งแน่นอนว่า ภาระหนี้ก็สูงตามไปด้วย หากลูกค้าไม่ได้เงิรคืนตามโปร แล้วทำไมลูกค้าจะต้องยอมแบกภาระหนี้และอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นระยะเวลานาน ลูกค้าไปเลือกรูดแบบผ่อนรายเดือนได้ ไม่ดีกว่าหรือ ? แลัวถ้ากรณีที่ลูกค้าต้องกู้ยืมเงินที่อื่นเพื่อมาชำระหนี้เต็มวงเงินที่เรียกเก็บ การเสียเปรียบของลูกค้า แต่ผลประโยชน์เข้าธนาคารเต็ม ๆ
3. การที่ลูกค้าเสียผลประโยชน์อื่นใดที่พึงมีพึงได้ จากการได้รับข้อเสนอจากสถาบันการเงินอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน (การใช้จ่ายผ่านบัตรกับสถาบันการเงินอื่นที่ลูกค้าเป็นสมาชิกในขณะนั้น เช่น คะแนน 3 เท่า , เงินคืน 0.5% - 3 % หรือของกำนัลอื่นที่เทียบเท่าการใช้จ่ายตามยอดที่กำหนด เช่น บัตรกำนัลบัตรของขวัญแทนเงินสด , กระเป๋าเดินทาง , เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น) แต่ลูกค้าก็ไม่เลือก แต่กลับเลือก SCB เพราะการเสนอโปรโมชั่นเด็ด ที่เหนือกว่า แต่ไม่ได้ให้จริง
สุดท้ายนี้ ธนาคารได้ติดต่อกลับมายังลูกค้า โดยปฏิเสธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกค้า ทั้งที่สมควรอย่างยิ่ง ถึงแม้มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะคิดเป็นตัวเงินในจำนวนไม่เท่าไหร่ แต่มูลค่าทางจิตใจ ทั้งความเชื่อมั่น ความศรัทธาและความน่าเชื่อถือ ไม่สามารถคิดเป็นมูลค่าได้ ซึ่งธนาคารในฐานะสถาบันการเงินที่มีรูปแบบการบริหารจัดการองค์กรที่ดี มีคุณธรรมและใส่ใจกับลูกค้า อยู่หรือไม่ ? ธนาคารจะรับผิดชอบอย่างไร หรือว่าปล่อยผ่านเลยไปโดยไม่คิดวิธีการเยียวยาลูกค้าเลยแม้แต่น้อยนิด กับคำว่า ขออภัย เพียงพอแล้วเหรอกับเหตุการณ์นี้
ล่าสุด ได้โทรไปตามเรื่อง วันนี้ (29 มกราคม 2565 ) ก็ยังรอการตรวจสอบ แล้วผลจะออกตอนไหนไม่รู้ แล้วถ้าผลออกมาเหมือนเดิมล่ะ (คือ ไม่ได้) จะต้องส่งเรื่องถึง BOT เลยใช่ไหม ? เพราะส่งเรื่องร้องเรียนกับธนาคารไปแล้ว ผลการพิจารณา ก็ถูกปฏิเสธทุกรอบ