สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าถามผม ถ้ารู้ว่าแฟนเคยอยู่ก่อนแต่งกับชายอื่นมาแล้ว ผมไม่ยอมนะครับถ้าแฟนจะไม่ยอมให้ผมอยู่ก่อนแต่งด้วย คือมาหวงตัวตอนนี้มันก็ช้าไปแล้ว
— เราบอกก่อนว่าเราไม่ได้เชียร์ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง(แต่งก่อนอยู่หรืออยู่ก่อนแต่ง) แต่เราไม่เข้าใจว่าในเมื่อจขกท.มีทัศนคติไม่ดีกับผู้หญิงที่อยู่ก่อนแต่ง แล้วสมมติว่าถ้ารู้ว่าแฟนตัวเองเคยอยู่ก่อนแต่งมาแล้ว ทำไมคุณไม่บอกเลิกเธอ ทำไมถึงเรียกร้องจะอยู่ก่อนแต่งเหมือนกันให้ได้(ในเมื่อก็ด้อยค่าผู้หญิงที่ทำแบบนั้น แต่ตัวคุณดันเรียกร้องจะเอาด้วยเหมือนกัน)
คำพูดที่คุณบอกว่า “หวงตัวตอนนี้มันก็ช้าไปแล้ว” แสดงถึงความเหยียดผู้หญิงชัดเจนมาก ผู้หญิงอาจจะรู้สึกว่าเคยผิดพลาดมาและไม่อยากอยู่ก่อนแต่งซ้ำอีกครั้งก็ได้ค่ะ หรือเขาอาจจะเลือกคนที่อยากอยู่ก่อนแต่งด้วยก็ได้ เขาจะหวงตัวตอนนี้หรือตอนไหน หรือจะหวงตัวกับใคร ไม่หวงตัวกับใคร ก็เป็นสิทธิของเขาค่ะ
ลองมองในมุมกลับกัน ถ้าผู้หญิงมาเรียกร้องผู้ชายที่เคยแต่งงานมาแล้วว่า ผู้หญิงคนแรกได้สินสอด 1 ล้านบาท ทอง 20 บาท แหวนเพชร 1 กะรัตพร้อมจัดงานแต่งงานแขก 500 คน ฉันก็ต้องได้ทุกอย่างตามนี้เหมือนกัน คุณว่าผู้ชายจะยอมไหม ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำหรอกค่ะ แล้วผู้หญิงควรพูดว่า “จะมางกอะไรตอนนี้” ไหมคะ เรายกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจว่าความคิดและทัศนคติของคนเรามันเปลี่ยนได้ตลอดเวลาค่ะ ไม่ใช่ว่าในอดีตเคยตัดสินใจยังไง ปัจจุบันก็ต้องตัดสินใจอย่างนั้น
แล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะคิดเหมือนคุณค่ะ คนที่รับผู้หญิงที่เคยอยู่ก่อนแต่งได้ก็มีเยอะแยะ อย่างเราเองรับผู้ชายที่เคยมีลูกไม่ได้แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่รับผู้ชายมีลูกได้ค่ะ อย่าเหมารวมว่าผู้ชายจะเป็นเหมือนกันหมดและอย่าด้อยค่าผู้หญิงที่อยู่ก่อนแต่งเลยค่ะ
— เราบอกก่อนว่าเราไม่ได้เชียร์ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง(แต่งก่อนอยู่หรืออยู่ก่อนแต่ง) แต่เราไม่เข้าใจว่าในเมื่อจขกท.มีทัศนคติไม่ดีกับผู้หญิงที่อยู่ก่อนแต่ง แล้วสมมติว่าถ้ารู้ว่าแฟนตัวเองเคยอยู่ก่อนแต่งมาแล้ว ทำไมคุณไม่บอกเลิกเธอ ทำไมถึงเรียกร้องจะอยู่ก่อนแต่งเหมือนกันให้ได้(ในเมื่อก็ด้อยค่าผู้หญิงที่ทำแบบนั้น แต่ตัวคุณดันเรียกร้องจะเอาด้วยเหมือนกัน)
คำพูดที่คุณบอกว่า “หวงตัวตอนนี้มันก็ช้าไปแล้ว” แสดงถึงความเหยียดผู้หญิงชัดเจนมาก ผู้หญิงอาจจะรู้สึกว่าเคยผิดพลาดมาและไม่อยากอยู่ก่อนแต่งซ้ำอีกครั้งก็ได้ค่ะ หรือเขาอาจจะเลือกคนที่อยากอยู่ก่อนแต่งด้วยก็ได้ เขาจะหวงตัวตอนนี้หรือตอนไหน หรือจะหวงตัวกับใคร ไม่หวงตัวกับใคร ก็เป็นสิทธิของเขาค่ะ
ลองมองในมุมกลับกัน ถ้าผู้หญิงมาเรียกร้องผู้ชายที่เคยแต่งงานมาแล้วว่า ผู้หญิงคนแรกได้สินสอด 1 ล้านบาท ทอง 20 บาท แหวนเพชร 1 กะรัตพร้อมจัดงานแต่งงานแขก 500 คน ฉันก็ต้องได้ทุกอย่างตามนี้เหมือนกัน คุณว่าผู้ชายจะยอมไหม ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำหรอกค่ะ แล้วผู้หญิงควรพูดว่า “จะมางกอะไรตอนนี้” ไหมคะ เรายกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจว่าความคิดและทัศนคติของคนเรามันเปลี่ยนได้ตลอดเวลาค่ะ ไม่ใช่ว่าในอดีตเคยตัดสินใจยังไง ปัจจุบันก็ต้องตัดสินใจอย่างนั้น
แล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะคิดเหมือนคุณค่ะ คนที่รับผู้หญิงที่เคยอยู่ก่อนแต่งได้ก็มีเยอะแยะ อย่างเราเองรับผู้ชายที่เคยมีลูกไม่ได้แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่รับผู้ชายมีลูกได้ค่ะ อย่าเหมารวมว่าผู้ชายจะเป็นเหมือนกันหมดและอย่าด้อยค่าผู้หญิงที่อยู่ก่อนแต่งเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ถามผู้หญิงที่เชียร์การอยู่ก่อนแต่ง ทำไมถึงกังวลกับสถานะ "ม่าย" ครับ ?
ผู้ชายที่ไม่ยอมรับผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาแล้ว ก็จะไม่ยอมรับผู้หญิงที่เคยอยู่ก่อนแต่งเหมือนกัน คือคุณจะได้รับการปฏิบัติเหมือนผู้หญิงที่มีสามีแล้วเลย เพราะเรื่องจริงก็คือมีสามีทางพฤตินัยมาแล้ว
และถ้าถามผม ถ้ารู้ว่าแฟนเคยอยู่ก่อนแต่งกับชายอื่นมาแล้ว ผมไม่ยอมนะครับถ้าแฟนจะไม่ยอมให้ผมอยู่ก่อนแต่งด้วย คือมาหวงตัวตอนนี้มันก็ช้าไปแล้ว ผู้ชายเขาก็คิดน่ะ ซึ่งอาจนำไปสู่การอยู่ก่อนแต่งซ้ำแล้วซ้ำอีก 3-4 รอบ ซึ่งพอถึงจำนวนประมาณนี้ผู้ชายทั่วๆไปเขาก็จะเริ่มเหวอแล้วครับ ผู้หญิงเคยอยู่กินฉันท์สามี-ภรรยากับชายมา 3-4 คน
แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่ผ่านการหย่ามาแล้ว หากเธอจะไม่ยอมมีอะไรกับผมก่อนแต่ง โดยให้เหตุผลว่า "เธอจะมีอะไรกับสามีที่ทำตามประเพณีเท่านั้น" ผมก็ได้แต่ยอมรับครับ เถียงไม่ออก ต่อให้มีสามีมาแล้วแต่ก็แย้งไม่ได้
ตกลงว่าการอยู่ก่อนแต่ง ก่อนจดทะเบียน มันช่วยอะไรเหรอครับ ??
หรือว่าจะโกหกกับชายคนใหม่ว่า โสดซิงไม่เคยมีอะไรกับใคร ทั้งๆที่เคยอยู่กับชายมาหลายคนแล้ว ? คือถ้ามันไปได้ตลอดรอดฝั่งก็คงดีนะครับ แต่ถ้าผู้ชายเกิดรู้เข้าหลังแต่ง รับรองว่า "บ้านแตก" ครับ มีลูกอาจยอมอยู่เพื่อลูก แต่รับรองว่าความสัมพันธ์ไม่เหมือนเดิม เราจะสนับสนุนวัฒนธรรมการโกหกแบบนี้หรือ ??
ไม่รู้สิ ผมว่าประเพณีการใช้ชีวิตคู่ในไทยตอนนี้มันย้อนแย้งหลายอย่าง ไม่ว่าจะการอยู่ก่อนแต่ง แต่ยังมีเรื่องสินสอด พิธีแต่งงาน อยู่ ทั้งๆที่อยู่ก่อนแต่งมันก็คือ "แต่งงานทางพฤตินัย" นั่นแหละ พาให้เกิดคนที่ใช้ช่องโหว่ เช่น ในเมื่ออยู่ก่อนแต่งมันก็คือการปฏิบัติเหมือนแต่งแล้ว ก็จะแต่งไปเพื่ออะไร อยู่กันไปเรื่อยๆนี่แหละจนกว่าจะเบื่อหรือเจอคนใหม่ (ถ้าแต่งแล้วคู่แต่งงานมีคนใหม่ คุณฟ้องข้อหาคบชู้ได้นะครับ แต่ถ้าอยู่ก่อนแต่งแล้วเขาไปจดทะเบียนกับคนอื่น คุณนั่นแหละจะเป็นชู้)
ชายไทยที่ไม่โสดแต่ยังไม่แต่งอย่างผม ก็พาลคิดว่าเมืองไทยสมัยนี้มันอยู่ยากจังครับ...