- ปวดตึงที่คอ บ่า ไหล่
- ปวดหลัง
- ปวดขา และตึงที่ขา
- ปวดศีรษะ ไมเกรน
เป็นอาการที่คนทำงานออฟฟิศมักบ่นกันเป็นประจำ เพราะต้องใช้เวลาในการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเมื่อยล้า และอักเสบตามมาได้ หรือที่เรียกว่า
“ออฟฟิศซินโดรม” และหลายคนมักแก้ปัญหาด้วยตนเอง ไม่มาพบแพทย์ ปล่อยไว้จนเรื้อรัง หรือมีอาการรุนแรงมาก ท้ายที่สุดอาจทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เคลื่อน หรือเกิดทับเส้นประสาทได้
ดังนั้น ควรพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินอาการ และพิจารณารักษาโดยอาจจะเริ่มต้นจากการรับประทานยา และกายภาพบำบัด ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งหากตัวโรคของผู้ป่วยยังไม่อยู่ในระยะที่รุนแรง การรักษาตามดังกล่าวนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อกลับคืนสู่สภาพปกติได้
แต่อาการปวดหลัง อาจไม่ใช่แค่ "ออฟฟิศซินโดรม"
หนุ่มสาวชาวออฟฟิศคงคุ้นหูกับ
“ออฟฟิศซินโดรม” กันเป็นอย่างดี และคงจะรู้กันดีด้วยว่าอาการปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ที่เกิดจากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันเป็นจุดเริ่มต้นของโรคนี้ แต่ถึงจะรู้สาเหตุหลายคนก็ยังเลือกที่จะปล่อยไว้ คิดว่ากินยาเดี๋ยวก็ดีขึ้น ไปนวดเดี๋ยวก็หาย แต่จริงๆ แล้วการปวดเรื้อรังอาจนำไปสู่โรคที่ร้ายแรง เช่น โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แพทย์จึงอยากให้สังเกตอาการอื่น ๆ ด้วย ดังนี้
- มีอาการปวดหลังเรื้อรังนานกว่า 2-4 สัปดาห์
- หากมีการกดทับเส้นประสาทบริเวณเอว จะมีอาการปวดหลังร้าวลงขา อาจเป็นข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง หากปล่อยทิ้งไว้จนเป็นหนักขึ้นกล้ามเนื้อขาจะอ่อนแรง ควบคุมการเดินไม่ได้
- หากมีการกดทับเส้นประสาทบริเวณต้นคอ คนไข้จะมีอาการปวดคอร้าวลงแขน แขนอ่อนแรงหรือชา ไปจนถึงไม่สามารถควบคุมการใช้มือได้
- เวลาไอ จาม หรือเบ่งจะรู้สึกปวดลึกๆ หรือมีอาการปวดร้าวไปแขนหรือขาได้ เนื่องจากเกิดแรงดันในไขสันหลัง
ดังนั้น ต้องหมั่นสังเกตหากพบว่ามีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางก่อนที่อาการจะหนักขึ้น
ปัจจุบันโรคดังกล่าวสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำและปลอดภัย
ข้อมูลโดย
นพ. ภัทร โฆสานันท์ ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ โรคกระดูกสันหลัง
ปวดหลัง ปวดบ่า อาการยอดฮิตมนุษย์หน้าคอม
- ปวดหลัง
- ปวดขา และตึงที่ขา
- ปวดศีรษะ ไมเกรน
เป็นอาการที่คนทำงานออฟฟิศมักบ่นกันเป็นประจำ เพราะต้องใช้เวลาในการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเมื่อยล้า และอักเสบตามมาได้ หรือที่เรียกว่า “ออฟฟิศซินโดรม” และหลายคนมักแก้ปัญหาด้วยตนเอง ไม่มาพบแพทย์ ปล่อยไว้จนเรื้อรัง หรือมีอาการรุนแรงมาก ท้ายที่สุดอาจทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เคลื่อน หรือเกิดทับเส้นประสาทได้
ดังนั้น ควรพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินอาการ และพิจารณารักษาโดยอาจจะเริ่มต้นจากการรับประทานยา และกายภาพบำบัด ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งหากตัวโรคของผู้ป่วยยังไม่อยู่ในระยะที่รุนแรง การรักษาตามดังกล่าวนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อกลับคืนสู่สภาพปกติได้
- มีอาการปวดหลังเรื้อรังนานกว่า 2-4 สัปดาห์
- หากมีการกดทับเส้นประสาทบริเวณเอว จะมีอาการปวดหลังร้าวลงขา อาจเป็นข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง หากปล่อยทิ้งไว้จนเป็นหนักขึ้นกล้ามเนื้อขาจะอ่อนแรง ควบคุมการเดินไม่ได้
- หากมีการกดทับเส้นประสาทบริเวณต้นคอ คนไข้จะมีอาการปวดคอร้าวลงแขน แขนอ่อนแรงหรือชา ไปจนถึงไม่สามารถควบคุมการใช้มือได้
- เวลาไอ จาม หรือเบ่งจะรู้สึกปวดลึกๆ หรือมีอาการปวดร้าวไปแขนหรือขาได้ เนื่องจากเกิดแรงดันในไขสันหลัง
ดังนั้น ต้องหมั่นสังเกตหากพบว่ามีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางก่อนที่อาการจะหนักขึ้น
ปัจจุบันโรคดังกล่าวสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำและปลอดภัย
ข้อมูลโดย นพ. ภัทร โฆสานันท์ ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ โรคกระดูกสันหลัง