หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว "MunJom.A" (มันจอมเอ) ร้านอาหารเกาหลีสตรีทฟู้ดปิ้งย่างเปิดใหม่ อยู่ใน Coco Walk บีทีเอสราชเทวี
กระทู้รีวิว
อาหารเกาหลี
ร้านอาหาร
อาหารปิ้งย่าง
ร้านอาหารย่านราชเทวี
อาหารคาว
วันนี้ผมมีนัดกับแฟนออกมาทานข้าวมื้อเย็นด้วยกันที่ "MunJom.A" (มันจอมเอ) เป็นร้านอาหารเกาหลีเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานอยู่ในโครงการ Coco Walk ซึ่งเราตามมาจากโฆษณาเห็นว่ากำลัง Soft Opening อยู่และให้ส่วนลดพิเศษพร้อมเครื่องเคียงจัดเต็มขอเติมได้ไม่อั้น ด้วยความอยากทานอาหารเกาหลีอันแรงกล้าของแฟนผมเลยจัดการโทรจองให้เสร็จสรรพนัดหมายเข้ามาที่ร้านรอบเวลา 17.00 น. วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดมาตามแผนที่มีลานขนาดใหญ่จอดรถฟรี 4 ชั่วโมง (เมื่อประทับตราร้าน) หากเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะใช้ BTS ลงสถานีราชเทวีประตูทางออก 2 ตรงข้ามกับโรงแรมเอเชีย เข้ามาในสุดของโครงการ Coco Walk จะพบกับหน้าร้านที่โดดเด่นด้วยแผ่นสังกะสีขนาดใหญ่เป็นทางยาวสะท้อนแดดด้วยแสงสีเงินประกายสะดุดตา ป้ายไฟพื้นหลังสีแดงสดตัวอักษรเกาหลีพร้อมรูปหน้าอาจุมม่าวาดด้วยสีขาวกับชื่อร้านภาษาอังกฤษสีเหลืองขนาดใหญ่เต็มตาสุดๆ ส่วนเมนูอาหารเกาหลีของที่ร้านนี้จะมีอะไรเด็ดและรสชาติอร่อยโดนใจเราสักแค่ไหนเข้าไปดูด้านในกันเลยครับ
บรรยากาศและการตกแต่งภายในเน้นสไตล์สตรีทผสมกับ Loft เริ่มจากพื้นปูนเปลือยฝ้าด้านบนเป็นโครงเหล็กสีดำเปิดให้เห็นท่อดูดอากาศขนาดใหญ่กระจายทั่วบริเวณ ส่วนโต๊ะเก้าอี้ที่ให้บริการถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่นั่นก็คือ 1. โต๊ะสเตนเลสทำจากถังน้ำมันเก่าทาสีเหลืองล้อมด้วยเก้าอี้กลมบุหนังนั่งสบายสไตล์ Street Food ข้างถนนเกาหลีที่เราคุ้นเคยในซีรีส์ชื่อดัง 2. โต๊ะไม้มีฉากกั้นตกแต่งสไตล์วิทเทจย้อนยุคแบบเกาหลีโบราณนั่งได้ประมาณ 2-4 คน (แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมีของวางเป็นกองสูงดูไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่) 3. โต๊ะไม้ยาวกลางพิเศษร้านไม่มีฉากกั้นนั่งได้ 8 คนสำหรับมาฉลองกันเป็นกลุ่มใหญ่หรือจะต่อโต๊ะยาวรองรับลูกค้าได้สูงสุด 20 คน 4. ห้องส่วนตัวสำหรับจัดเลี้ยงแบ่งเป็น 2 ห้องจุได้แค่ 5 คน แต่สามารถเปิดฉากกั้นออกรวมกันเป็นห้องใหญ่พิเศษรองรับได้สูงสุดถึง 10 คน ด้านในมีทีวีสำหรับไว้จัดปาร์ตี้ร้องคาราโอเกะด้วย ส่วนเล่มเมนูอาหารทางร้านให้มาเป็นแผ่น 2 หน้าแบบนี้รายการต่างๆมีทั้ง จานเรียกน้ำย่อย/บาร์บีคิวจานหลัก/ซุปหม้อร้อน/เครื่องดื่ม/ไอศครีมรวมกว่า 44 เมนูราคาเริ่มต้นที่ 59-320 บาท และเมนูชุดสุดคุ้มสำหรับ 2-4 คน ราคาเริ่มต้นที่ 890-1,590 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม - Vat. และ Service Charge) ถือว่าเป็นระดับราคาตามมาตรฐานทั่วไปต้องมารอดูรสชาติกับปริมาณที่เสิร์ฟกันก่อนครับ
มาถึงเลือกนั่งกันที่โต๊ะกลมติดริมหน้าต่างสักพักน้องพนักงานก็ยกทั้งถ้วย/ตะเกียบ/จานและกระดาษทิชชู่ออกมาให้เป็นสีเงิน-สีทองแวววับจับใจ เครื่องเคียงต่างๆเสิร์ฟให้ก่อนและขอเติมได้ไม่อั้นรวม 7 รายการคือ 1. กิมจิดองเองรสเปรี้ยวเค็มซ่าลิ้นนิดๆแบบเกาหลีแท้ 2. ถั่วงอกหัวโตลวกคลุกน้ำมันงาเค็มหอมมันเคี้ยวกรุบกรอบ 3. ผักปวยเล้งลวกคลุกกับกระเทียมและน้ำมันงาหอมเค็มกลมกล่อม 4. ลูกชิ้นปลาผสมผักสไตล์เกาหลีหั่นเป็นเส้นๆให้คีบทานง่ายๆ 5. หัวไชเท้าดองสีชมพูสวยงามราวกับกลีบดอกไม้รสเปรี้ยวหวานเคี้ยวกรุบกรอบสดชื่นลงตัว 6. มันฝรั่งและแครอทต้มคลุกด้วยมายองเนสและหัวหอมโรยงาดำเป็นสลัดมันฝรั่ง 7. ยำผักกาดเกาหลีทำจากใบผักกาดหอม/ต้นหอมซอยราดด้วยน้ำสลัดรสเปรี้ยวหวานหอมน้ำมันงาผสมพริกป่น-กระเทียมและงาขาวคลุกให้เข้ากันเป็นยำไว้ทานแก้เลี่ยน ส่วนน้ำจิ้มบาร์บีคิวก็มีให้ทั้งหมด 4 สูตร (เดี๋ยวเราค่อยมากินคู่กับหมูย่าง) สุดท้ายแม้แต่แก้วน้ำยังเป็นของเกาหลีสีเงินและสีทองทรงสั้นเก็บกักความเย็นได้เป็นอย่างดี (ใครเคยแวะไปเที่ยวโซลหรือปูซานน่าจะคุ้นกับแก้วทรงนี้แน่นอน) มาครั้งแรกไม่รู้ว่าร้านนี้มีเมนูอะไรเด็ดๆบ้างเลยให้น้องพนักงานช่วยแนะนำหน่อยที่เหลือก็แค่รอเสิร์ฟครับ
จานแรกที่มาเสิร์ฟก่อนเป็น "แซลมอนดองซีอิ๊วเกาหลี" ราคา 290 บาท โดยร้านนี้เขาใช้ซีอิ๊วเกาหลีแท้ซึ่งมีกลิ่นคล้ายกับโชยุผสมซอสฝาสีเขียวรสเค็มนำตัดหวานนิดๆลงตัวดองมาเข้าเนื้อโรยหน้ามาด้วยพริกและกระเทียมสไลด์บางๆ ส่วนแซลมอนที่ใช้ก็มีลายไขมันสวยงามแทรกละเอียดเนียนนุ่มลื่นไหลลงคอไปอย่างง่ายดาย เพิ่มความแซ่บจี๊ดสไตล์ไทยด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเปรี้ยวหวานตัดกับแซลมอนที่ดองมาเค็มนำนิดๆได้อย่างลงตัวสมกับเป็นเมนูแนะนำของทางร้านเลยครับ เมนูต่อมาก็ยังคงเป็นซีรีส์ดองคือ "กุ้งดองซีอิ๊วเกาหลี" ราคา 239 บาท รสชาติจะคล้ายๆกับจานที่แล้วก็คือเค็มนำตัดหวานแต่ดองมาเข้าเนื้อยิ่งกว่า (สังเกตได้ที่สีสัน) โรยหน้ามาด้วยพริก/กระเทียมสไลด์เหมือนเดิม โดยทางร้านแกะเปลือกให้เหลือส่วนหัวกับหางไว้เอาไว้ดูดมันและหยิบทานง่าย ทั้ง 2 จานเสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายโนริแผ่นและข้าวสวยญี่ปุ่นโรยสาหร่ายเส้นและงาขาว ประกอบร่างด้วยการตักข้าวสวยวางบนสาหร่ายกับของดองปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดก่อนเอาเข้าปาก บอกเลยว่าอร่อยเกลี้ยงทั้งน้ำดอง/น้ำจิ้มทุกหยดทานไม่มีเหลือเลยครับ
จานต่อไปเราตั้งใจมาทานโดยเฉพาะคือ "หมูสามชั้น Wet Aged" ราคา 290 บาท เป็นหมูสามชั้น 3 ชิ้นใหญ่-หนาพร้อมตัดแต่งโดยการลอกหนังแข็งออกให้เรียบร้อยก่อนนำไปผ่านกระบวนการ Wet Aged ก็คือการบรรจุเนื้อหมูลงในถุงสุญญากาศก่อนจะนำไปแช่น้ำเย็นตามอุณหภูมิที่กำหนดช่วยเพิ่มความนุ่มและกลิ่นสาบเฉพาะตัวของหมูเบาลง ตามมาด้วย "สันคอหมูหมักซอสดำ" ราคา 290 บาท เป็นสันคอหมูหั่นหนาชิ้นใหญ่เอาไปหมักกับซีอิ๊วเกาหลีปรุงรสพิเศษสูตรของทางร้านจนเข้าเนื้อฟังแล้วก็เหมือนกับร้านอื่นๆ แต่ถ้าลองสังเกตดีๆแล้วจะมีสีสันค่อนข้างอ่อนและไม่มีน้ำไหลนองเต็มจานส่วนรสชาตินั้นเดี๋ยวค่อยมาชิมกันครับ เมนูบาร์บีคิวจานสุดท้ายคือ "สันคอหมูหมักซอสแดง" ราคา 290 บาท เป็นสันคอหมูชิ้นหนาแบบเดียวกับจานก่อนเอาไปหมักซอสโคชูจังสีแดงสดสุดเข้มข้น เคลือบชิ้นจนไม่เห็นสีที่แท้จริงของหมูเล็ดลอดออกมา โดยเนื้อทั้ง 3 จานมาพร้อมกับหอมหัวใหญ่หั่นชิ้นยักษ์และเห็ดออเร็นจิประทับตราสัญลักษณ์ร้านจากนั้นน้องพนักงานก็จะเริ่มลงเตาและตะแกรงพักให้ทันที ซึ่งระบบเตาย่างที่ทางร้านใช้เป็นแบบไฟฟ้านำเข้าจากประเทศเกาหลี ด้านล่างหล่อด้วยน้ำสำหรับรองรับไขมันร้อนเร็วทันใจและน้องพนักงานเป็นคนย่างให้จนกว่าจะพร้อมทาน เริ่มต้นด้วยการเปิดเตา/ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ 200 องศาก็พร้อมย่างแล้วครับ
เริ่มต้นด้วยการลงหมูสามชั้นลงไปในเตาอุณหภูมิ 200 องศาเสียงดังซู่ซ่าพร้อมดึงท่อดูดควันลงมาแทบจะแนบชิดกับเนื้อหมู ซึ่งเทคนิคการย่างของร้านนี้ก็ไม่ธรรมดาก็คือมีการตะแคงแนบส่วนหนังลงไปให้สัมผัสกับหน้าเตาจนมีสีเหลืองทองก่อนจะหั่นเป็นชิ้นพอดีคำด้วยกรรไกร จากนั้นก็พลิกนำส่วนที่โดนตัดลงไปย่างให้สุกกรอบทั่วทั้งชิ้นแบบ 360 องศาแล้วพักเอาไว้บนตะแกรงให้คีบกินเมื่อไหร่ก็ได้ พนักงานถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการย่างหมูที่ดีเลยครับ
ต่อกันด้วยการลงสันคอหมูซอสดำลงไปต่อซึ่งชิ้นนี้ก็ย่างตามปกติไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษอะไร แต่ก่อนจะลงสันคอหมูหมักซอสแดงสังเกตว่าพนักงานใช้แค่กระดาษทิชชู่เช็ดเตาเบาๆคราบดำจากซอสก็หลุดออกง่ายจนสะอาดเหมือนใหม่พร้อมลงหมูจานถัดไปได้ทันที เมื่อย่างเสร็จแล้วหั่นให้พอดีคำด้วยกรรไกรเรียงวางบนตะแกรงสวยงามพร้อมกินกับน้ำจิ้มทั้ง 4 สูตรของทางร้านและตะกร้าผักสดเสิร์ฟไม่อั้นทั้ง ผักกาดหอมใบใหญ่สดกรอบไม่ขม/พริกชี้ฟ้าเกาหลีสีเขียวเม็ดใหญ่หวานกรอบแต่ไม่เผ็ด/ใบงาเกาหลีขนาดใหญ่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวฟุ้งขึ้นจมูกคุณภาพดี/หอมหัวใหญ่หั่นเป็นซีกเอาไว้ทานสดแก้เลี่ยนหมูรสหวานกรอบเผ็ดฉุนนิดๆ และสุดท้ายแตงกวาสายพันธุ์ญี่ปุ่นเนื้อกรอบฉ่ำน้ำรสหวานสำหรับทานเปล่าๆหรือจิ้มกับซอสซัมจังทานเพลินๆ ตอนนี้บาร์บีคิวทุกจานพร้อมแล้วมาเริ่มทานกันเลยครับผม
เริ่มด้วยน้ำจิ้มสูตรแรก "ซอสดำสูตรพิเศษของทางร้าน" เป็นซีอิ๊วเกาหลีปรุงรสให้หวาน-เปรี้ยวหอมน้ำมันงาใส่กระเทียมสับสัมผัสเหนียวข้นนิดๆคล้ายกับซอยการ์ลิก แต่เอามาปรับสูตรให้เข้ากับเมนูปิ้ง/ย่างอร่อยครบรสถูกปากคนไทยแน่นอนครับ น้ำจิ้มสูตรต่อไปเป็นเกาหลีแท้อย่าง "น้ำมันงาเกลือพริกไทย" รสชาติก็ตามชื่อเค็มหอมพริกไทยผสมน้ำมันงาชวนเลี่ยนแต่คนเกาหลีทานแบบนี้จริงๆครับ น้ำจิ้มต่อไปเป็น "โคจูจัง" ปรุงรสพิเศษใส่พริกป่นเกาหลี-น้ำเชื่อมให้สัมผัสเหนียวข้นเค็มตัดหวานลงตัวเอาไว้ทานเปล่าๆโดยการแตะเพียงน้อยนิดหรือห่อกับผักสดก็อร่อยดีครับ สุดท้ายคือ "ซัมจัง" อันนี้ทางร้านก็ปรุงรสมาใหม่ไม่เค็มจัดแบบที่ขายในกระปุกสีเขียวตามซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นเต้าเจี้ยวปรุงรสเค็มนำอมหวานเข้มข้นแตะนิดเดียวก็ได้รสชาติสำหรับห่อผัก/จิ้มแตงกวากับพริกคืออร่อยเพลินมาก
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
ชื่อสินค้า:
MunJom.A (มันจอมเอ)
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
Do is on BNP Cuisine @ คลองสามวา [บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดน้องใหม่ล่าสุดของย่านคู้บอน กุ้งย่าง ปูนึ่ง ปลาทอด ต้องมา]
สวัสดีครับ ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดน้องใหม่ล่าสุด อายุเพียง 3 เดือนกับร้าน BNP Cuisine อยู่ในกลุ่ม บริษัท บุญนำพา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเป็นร้
DO is On The WAY
นี่คือปริมาณมาตรฐานของชาตรามือหรอคะ?
ก่อนโควิดเคยถามไปทางเพจแล้ว นางถามสาขาไป แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบถึงปริมาณมาตรฐานของเครื่องดื่ม และยังได้ไม่เต็มแก้วอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้มันเกินไปมั้ย? ถ้าจะให้แค่นี้ก็ลดขนาดแก้วนะคะ น้ำแข็งยังให้ไม่เต็มเล
สมาชิกหมายเลข 2091112
ตั้งใจย่าง ร้านอร่อยที่เสิร์ฟความตั้งใจใส่การย่าง
เขาว่ากันว่า ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่ชอบ จะทำออกมาได้ดีและมีความสุข แล้วความสุขนั้นได้แบ่งมาให้เจ็กด้วยอาหารมื้อนี้นี่เอง “ตั้งใจย่าง Fork Roasting” ตั้งใ
fantastic_biggy
บุฟเฟต์สวนอาหารราคาถูกที่สุด 399.- คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม🔥🔥✨
เห้ยย เจื้อนๆ ครส. เราไปเจอบุฟเฟต์สวนอาหารร้านนึงมาอะ อยู่ฝั่งธน เราขอยกให้เป็น #บุฟเฟต์สวนอาหารที่ถูกที่สุดในฝั่งธน ณ ตอนนี้เลยนะ / อาหารทุกจาน
รีวิวเพื่อ
สุกี้ตี๋ใหญ่ บางปู :: อาหารสด สะอาด บริการดี นั่งยาวไป 2 ชั่วโมง
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆคนเลยนะค่ะ หลังจากที่ห่างหายจากการรีวิวในพันทิปไปนานกว่า 1 ปี วันนี้ จขกท. กลับมาแล้วค่ะ จะมารีวิวร้านบุฟเฟ่ต์สุกี้ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันค่ะ พร้อมแล้วไปกันเล่ยยยย.... ร้า
บันทึกรักฟลามิงโก้
ทำไมอาหาไทยสมัยนี้ปรุงรสหวานจัดกันเยอะมาก
ขอบ่นหน่อยนะคะ อะไรที่ไม่ควรทำหวานก็หวาน ความรู้สึกนี้เป็นมาหลายปีแล้วค่ะ รู้สึกหดหู่มาก มีใครเป็นเหมือนกันบ้างคะ เจอร้านที่ปรุงรสหวานๆ บ่อยมาก แทบทุกร้านเลย อะไร ที่ไม่ควรหวานก็ปรุงหวาน ส่วนตัวไม่ได้
เจ้าหญิงแห่งทราย
ร้านลุงเลียง ป้ามาลี อาหารป่า อาหารพื้นบ้าน ชลบุรี แขกตามดอย
วันนี้จะมาป้ายยาร้านเด็ดที่ไปโดนมาที่ชลบุรี "ร้านลุงเลียง ป้ามาลี อาหารป่า อาหารพื้นบ้าน" บอกเลยว่าเด็ดจริง ไม่รู้จะใช้คำไหนบรรยายเลยนอกจาก "ต้องกลับไปซ้ำ!" คือมันอร่อยมากกก แถมราค
สมาชิกหมายเลข 5822800
10 เมนูสุดประหยัด ไอเดียอาหารง่าย ๆ ที่ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น การทำอาหารเองที่บ้านเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องเสียสละเรื่องรสชาติเลย วันนี้เรามี 10 เมนูสุดประหยัดที่ทำง่าย ใช้วัตถุดิบน้อยชิ้น แต่รั
สมาชิกหมายเลข 5462727
แกงฮังเล
แกงฮังเล วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568 แนะนำอาหารวันเสาร์นี้ แกงฮังเล (Kaeng Hang Lay) หรือ แกงฮินเล่ เป็นแกงหมูรสเปรี้ยวเค็มมัน มีกำเนิดมาจากพม่า คำว่า “ฮี่น” (hi
สมาชิกหมายเลข 2148931
หมอพูมพากิน: โปรเด็ด Bonchon ปีกไก่ 15 ชิ้น 299 บาท! ซอส 3 แบบในจานเดียว + เติมไม่อั้นอีกแค่ 99 บาท 🍗🔥
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคน วันนี้ หมอพูมพากิน ขออนุญาตพามาเปิดวอร์ความกรอบ ที่ Bonchon ร้านไก่ทอดเกาหลีในตำนาน ที่กำลังจัดโปรเดือดมาก ๆ จนต้องรีบเอามาเล่าก่อนหมดโปร! 📌 โปรโมชั่นเด็ด (27 ม
SarinPoom
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารเกาหลี
ร้านอาหาร
อาหารปิ้งย่าง
ร้านอาหารย่านราชเทวี
อาหารคาว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 22
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว "MunJom.A" (มันจอมเอ) ร้านอาหารเกาหลีสตรีทฟู้ดปิ้งย่างเปิดใหม่ อยู่ใน Coco Walk บีทีเอสราชเทวี
บรรยากาศและการตกแต่งภายในเน้นสไตล์สตรีทผสมกับ Loft เริ่มจากพื้นปูนเปลือยฝ้าด้านบนเป็นโครงเหล็กสีดำเปิดให้เห็นท่อดูดอากาศขนาดใหญ่กระจายทั่วบริเวณ ส่วนโต๊ะเก้าอี้ที่ให้บริการถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่นั่นก็คือ 1. โต๊ะสเตนเลสทำจากถังน้ำมันเก่าทาสีเหลืองล้อมด้วยเก้าอี้กลมบุหนังนั่งสบายสไตล์ Street Food ข้างถนนเกาหลีที่เราคุ้นเคยในซีรีส์ชื่อดัง 2. โต๊ะไม้มีฉากกั้นตกแต่งสไตล์วิทเทจย้อนยุคแบบเกาหลีโบราณนั่งได้ประมาณ 2-4 คน (แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมีของวางเป็นกองสูงดูไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่) 3. โต๊ะไม้ยาวกลางพิเศษร้านไม่มีฉากกั้นนั่งได้ 8 คนสำหรับมาฉลองกันเป็นกลุ่มใหญ่หรือจะต่อโต๊ะยาวรองรับลูกค้าได้สูงสุด 20 คน 4. ห้องส่วนตัวสำหรับจัดเลี้ยงแบ่งเป็น 2 ห้องจุได้แค่ 5 คน แต่สามารถเปิดฉากกั้นออกรวมกันเป็นห้องใหญ่พิเศษรองรับได้สูงสุดถึง 10 คน ด้านในมีทีวีสำหรับไว้จัดปาร์ตี้ร้องคาราโอเกะด้วย ส่วนเล่มเมนูอาหารทางร้านให้มาเป็นแผ่น 2 หน้าแบบนี้รายการต่างๆมีทั้ง จานเรียกน้ำย่อย/บาร์บีคิวจานหลัก/ซุปหม้อร้อน/เครื่องดื่ม/ไอศครีมรวมกว่า 44 เมนูราคาเริ่มต้นที่ 59-320 บาท และเมนูชุดสุดคุ้มสำหรับ 2-4 คน ราคาเริ่มต้นที่ 890-1,590 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม - Vat. และ Service Charge) ถือว่าเป็นระดับราคาตามมาตรฐานทั่วไปต้องมารอดูรสชาติกับปริมาณที่เสิร์ฟกันก่อนครับ
มาถึงเลือกนั่งกันที่โต๊ะกลมติดริมหน้าต่างสักพักน้องพนักงานก็ยกทั้งถ้วย/ตะเกียบ/จานและกระดาษทิชชู่ออกมาให้เป็นสีเงิน-สีทองแวววับจับใจ เครื่องเคียงต่างๆเสิร์ฟให้ก่อนและขอเติมได้ไม่อั้นรวม 7 รายการคือ 1. กิมจิดองเองรสเปรี้ยวเค็มซ่าลิ้นนิดๆแบบเกาหลีแท้ 2. ถั่วงอกหัวโตลวกคลุกน้ำมันงาเค็มหอมมันเคี้ยวกรุบกรอบ 3. ผักปวยเล้งลวกคลุกกับกระเทียมและน้ำมันงาหอมเค็มกลมกล่อม 4. ลูกชิ้นปลาผสมผักสไตล์เกาหลีหั่นเป็นเส้นๆให้คีบทานง่ายๆ 5. หัวไชเท้าดองสีชมพูสวยงามราวกับกลีบดอกไม้รสเปรี้ยวหวานเคี้ยวกรุบกรอบสดชื่นลงตัว 6. มันฝรั่งและแครอทต้มคลุกด้วยมายองเนสและหัวหอมโรยงาดำเป็นสลัดมันฝรั่ง 7. ยำผักกาดเกาหลีทำจากใบผักกาดหอม/ต้นหอมซอยราดด้วยน้ำสลัดรสเปรี้ยวหวานหอมน้ำมันงาผสมพริกป่น-กระเทียมและงาขาวคลุกให้เข้ากันเป็นยำไว้ทานแก้เลี่ยน ส่วนน้ำจิ้มบาร์บีคิวก็มีให้ทั้งหมด 4 สูตร (เดี๋ยวเราค่อยมากินคู่กับหมูย่าง) สุดท้ายแม้แต่แก้วน้ำยังเป็นของเกาหลีสีเงินและสีทองทรงสั้นเก็บกักความเย็นได้เป็นอย่างดี (ใครเคยแวะไปเที่ยวโซลหรือปูซานน่าจะคุ้นกับแก้วทรงนี้แน่นอน) มาครั้งแรกไม่รู้ว่าร้านนี้มีเมนูอะไรเด็ดๆบ้างเลยให้น้องพนักงานช่วยแนะนำหน่อยที่เหลือก็แค่รอเสิร์ฟครับ
จานแรกที่มาเสิร์ฟก่อนเป็น "แซลมอนดองซีอิ๊วเกาหลี" ราคา 290 บาท โดยร้านนี้เขาใช้ซีอิ๊วเกาหลีแท้ซึ่งมีกลิ่นคล้ายกับโชยุผสมซอสฝาสีเขียวรสเค็มนำตัดหวานนิดๆลงตัวดองมาเข้าเนื้อโรยหน้ามาด้วยพริกและกระเทียมสไลด์บางๆ ส่วนแซลมอนที่ใช้ก็มีลายไขมันสวยงามแทรกละเอียดเนียนนุ่มลื่นไหลลงคอไปอย่างง่ายดาย เพิ่มความแซ่บจี๊ดสไตล์ไทยด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเปรี้ยวหวานตัดกับแซลมอนที่ดองมาเค็มนำนิดๆได้อย่างลงตัวสมกับเป็นเมนูแนะนำของทางร้านเลยครับ เมนูต่อมาก็ยังคงเป็นซีรีส์ดองคือ "กุ้งดองซีอิ๊วเกาหลี" ราคา 239 บาท รสชาติจะคล้ายๆกับจานที่แล้วก็คือเค็มนำตัดหวานแต่ดองมาเข้าเนื้อยิ่งกว่า (สังเกตได้ที่สีสัน) โรยหน้ามาด้วยพริก/กระเทียมสไลด์เหมือนเดิม โดยทางร้านแกะเปลือกให้เหลือส่วนหัวกับหางไว้เอาไว้ดูดมันและหยิบทานง่าย ทั้ง 2 จานเสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายโนริแผ่นและข้าวสวยญี่ปุ่นโรยสาหร่ายเส้นและงาขาว ประกอบร่างด้วยการตักข้าวสวยวางบนสาหร่ายกับของดองปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดก่อนเอาเข้าปาก บอกเลยว่าอร่อยเกลี้ยงทั้งน้ำดอง/น้ำจิ้มทุกหยดทานไม่มีเหลือเลยครับ
จานต่อไปเราตั้งใจมาทานโดยเฉพาะคือ "หมูสามชั้น Wet Aged" ราคา 290 บาท เป็นหมูสามชั้น 3 ชิ้นใหญ่-หนาพร้อมตัดแต่งโดยการลอกหนังแข็งออกให้เรียบร้อยก่อนนำไปผ่านกระบวนการ Wet Aged ก็คือการบรรจุเนื้อหมูลงในถุงสุญญากาศก่อนจะนำไปแช่น้ำเย็นตามอุณหภูมิที่กำหนดช่วยเพิ่มความนุ่มและกลิ่นสาบเฉพาะตัวของหมูเบาลง ตามมาด้วย "สันคอหมูหมักซอสดำ" ราคา 290 บาท เป็นสันคอหมูหั่นหนาชิ้นใหญ่เอาไปหมักกับซีอิ๊วเกาหลีปรุงรสพิเศษสูตรของทางร้านจนเข้าเนื้อฟังแล้วก็เหมือนกับร้านอื่นๆ แต่ถ้าลองสังเกตดีๆแล้วจะมีสีสันค่อนข้างอ่อนและไม่มีน้ำไหลนองเต็มจานส่วนรสชาตินั้นเดี๋ยวค่อยมาชิมกันครับ เมนูบาร์บีคิวจานสุดท้ายคือ "สันคอหมูหมักซอสแดง" ราคา 290 บาท เป็นสันคอหมูชิ้นหนาแบบเดียวกับจานก่อนเอาไปหมักซอสโคชูจังสีแดงสดสุดเข้มข้น เคลือบชิ้นจนไม่เห็นสีที่แท้จริงของหมูเล็ดลอดออกมา โดยเนื้อทั้ง 3 จานมาพร้อมกับหอมหัวใหญ่หั่นชิ้นยักษ์และเห็ดออเร็นจิประทับตราสัญลักษณ์ร้านจากนั้นน้องพนักงานก็จะเริ่มลงเตาและตะแกรงพักให้ทันที ซึ่งระบบเตาย่างที่ทางร้านใช้เป็นแบบไฟฟ้านำเข้าจากประเทศเกาหลี ด้านล่างหล่อด้วยน้ำสำหรับรองรับไขมันร้อนเร็วทันใจและน้องพนักงานเป็นคนย่างให้จนกว่าจะพร้อมทาน เริ่มต้นด้วยการเปิดเตา/ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ 200 องศาก็พร้อมย่างแล้วครับ
เริ่มต้นด้วยการลงหมูสามชั้นลงไปในเตาอุณหภูมิ 200 องศาเสียงดังซู่ซ่าพร้อมดึงท่อดูดควันลงมาแทบจะแนบชิดกับเนื้อหมู ซึ่งเทคนิคการย่างของร้านนี้ก็ไม่ธรรมดาก็คือมีการตะแคงแนบส่วนหนังลงไปให้สัมผัสกับหน้าเตาจนมีสีเหลืองทองก่อนจะหั่นเป็นชิ้นพอดีคำด้วยกรรไกร จากนั้นก็พลิกนำส่วนที่โดนตัดลงไปย่างให้สุกกรอบทั่วทั้งชิ้นแบบ 360 องศาแล้วพักเอาไว้บนตะแกรงให้คีบกินเมื่อไหร่ก็ได้ พนักงานถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการย่างหมูที่ดีเลยครับ
ต่อกันด้วยการลงสันคอหมูซอสดำลงไปต่อซึ่งชิ้นนี้ก็ย่างตามปกติไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษอะไร แต่ก่อนจะลงสันคอหมูหมักซอสแดงสังเกตว่าพนักงานใช้แค่กระดาษทิชชู่เช็ดเตาเบาๆคราบดำจากซอสก็หลุดออกง่ายจนสะอาดเหมือนใหม่พร้อมลงหมูจานถัดไปได้ทันที เมื่อย่างเสร็จแล้วหั่นให้พอดีคำด้วยกรรไกรเรียงวางบนตะแกรงสวยงามพร้อมกินกับน้ำจิ้มทั้ง 4 สูตรของทางร้านและตะกร้าผักสดเสิร์ฟไม่อั้นทั้ง ผักกาดหอมใบใหญ่สดกรอบไม่ขม/พริกชี้ฟ้าเกาหลีสีเขียวเม็ดใหญ่หวานกรอบแต่ไม่เผ็ด/ใบงาเกาหลีขนาดใหญ่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวฟุ้งขึ้นจมูกคุณภาพดี/หอมหัวใหญ่หั่นเป็นซีกเอาไว้ทานสดแก้เลี่ยนหมูรสหวานกรอบเผ็ดฉุนนิดๆ และสุดท้ายแตงกวาสายพันธุ์ญี่ปุ่นเนื้อกรอบฉ่ำน้ำรสหวานสำหรับทานเปล่าๆหรือจิ้มกับซอสซัมจังทานเพลินๆ ตอนนี้บาร์บีคิวทุกจานพร้อมแล้วมาเริ่มทานกันเลยครับผม
เริ่มด้วยน้ำจิ้มสูตรแรก "ซอสดำสูตรพิเศษของทางร้าน" เป็นซีอิ๊วเกาหลีปรุงรสให้หวาน-เปรี้ยวหอมน้ำมันงาใส่กระเทียมสับสัมผัสเหนียวข้นนิดๆคล้ายกับซอยการ์ลิก แต่เอามาปรับสูตรให้เข้ากับเมนูปิ้ง/ย่างอร่อยครบรสถูกปากคนไทยแน่นอนครับ น้ำจิ้มสูตรต่อไปเป็นเกาหลีแท้อย่าง "น้ำมันงาเกลือพริกไทย" รสชาติก็ตามชื่อเค็มหอมพริกไทยผสมน้ำมันงาชวนเลี่ยนแต่คนเกาหลีทานแบบนี้จริงๆครับ น้ำจิ้มต่อไปเป็น "โคจูจัง" ปรุงรสพิเศษใส่พริกป่นเกาหลี-น้ำเชื่อมให้สัมผัสเหนียวข้นเค็มตัดหวานลงตัวเอาไว้ทานเปล่าๆโดยการแตะเพียงน้อยนิดหรือห่อกับผักสดก็อร่อยดีครับ สุดท้ายคือ "ซัมจัง" อันนี้ทางร้านก็ปรุงรสมาใหม่ไม่เค็มจัดแบบที่ขายในกระปุกสีเขียวตามซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นเต้าเจี้ยวปรุงรสเค็มนำอมหวานเข้มข้นแตะนิดเดียวก็ได้รสชาติสำหรับห่อผัก/จิ้มแตงกวากับพริกคืออร่อยเพลินมาก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น