[CR] รีวิวจักรยานไฟฟ้า EM3 รถแรงเหลือเฟือ นั่งซ้อน2สบาย สมรรถนะสูง หายห่วงเรื่องซ่อมบำรุง

สวัสดีครับ วันนี้มี รีวิว รถจักรยานไฟฟ้ามาฝากครับ 

เนื่องจากมีความต้องการใช้จักรยานไฟฟ้า ทดแทนการใช้จักรยานแบบเดิม จึงลองหาข้อมูลจักรยานไฟฟ้า 
พบว่าปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อ มีหลายรูปทรงให้เลือกหา โจทย์ในการเลือกของผม มี 2 ข้อ 

1 เลือกว่ารถรุ่นไหนที่มีความแรง มีกำลังสูงหน่อย เพราะการใช้งานจะต้องมีการนั่งซ้อน 2 ด้วย  
2 เรื่องการบริการหลังการขาย รถที่ใช้ต้องมีการรับประกันที่ดีและมีทีมช่างที่สามารถซ่อมบำรุงรถได้ด้วย 
    ถ้ารถที่ราคาถูกมาก แต่ไม่มีการบริการหลังการขาย กลัวว่าพอรถเริ่มมีปัญหาจะกลายเป็นเสียเงินหลายรอบ   
 
พอไปดูรีวิวใน youtube จึงพบว่า มีรุ่นนึง ค่อนข้างตรงตามสเปก นั่นคือ จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อ EM รุ่น EM3  
เพราะตอบโจทย์ทั้งความแรงของตัวรถ และ มีทีมบริการหลังการขายที่ดูไว้วางใจได้ จึงเป็นที่มาของรีวิวครั้งนี้ 


ทำไมรถคันนี้ถึงตรงสเปก ก็เพราะว่า จากที่ดูคนรีวิวใน youtube มีการทดลองซ้อน 2 โดยเป็นผู้ใหญ่ 2 คน ขี่ขึ้นเนินได้สบาย
และหลังจากได้ทดลองเอง ขี่แบบมีคนซ้อนเหมือนกัน รถยังให้กำลังได้ดี ตอนขี่ไม่รู้สึกถึงความอืด
หรือ รถเสียการทรงตัวเลย สามารถขี่ได้ปกติ 
โดยผม ได้ลองขี่ซ้อน 2 ขึ้นสะพาน กำลังรถยังทำได้ดี  
สะพานที่ว่าคือสะพานข้ามคลองสูงๆเลย ก็ขึ้นได้ ฉะนั้น ถ้าขี่คนเดียวยิ่งขึ้นได้สบาย 

และอีกเรื่องที่ตรงสเปกคือ เรื่องการบริการหลังการขาย จักรยาน EM เป็นยี่ห้อที่ระบุการรับประกันชัดเจน 

รับประกันตัวถัง 5 ปี 
รับประกัน motor 3 ปี 
รับประกัน ส่วนคอนโทลเลอร์ และ ระบบไฟฟ้า และ แบตเตอรี่ 1 ปี  

และยังมี call center สำหรับการติดต่อสอบถามปัญหา และดูจากใบรับประกันยังมีบริการซ่อมนอกสถานที่ด้วย 
แต่จุดนี้จะมีค่าบริการ 300 บาท   ซึ่งก็โอเค ถ้ารถมีปัญหา เราไม่ต้องแบกรถไปที่ศูนย์บริการเอง

ราคาของรถคันนี้ ราคาป้ายผมเห็นอยู่ที่ 19,900 บาท   ผมสั่งมาจากร้าน online ก็จะมีลดนิดหน่อย อยู่ที่ราคา 18,900 บาท   
ราคาดูค่อนข้างสูง แต่ก็ตอบโจทย์ของผมได้ครบ ก็เลยลองสั่งมาใช้งาน

เดี๋ยวมาลองไล่ดูดีเทลของตัวรถกันครับ เริ่มกันที่สเปกของตัวรถ 

จักรยานไฟฟ้า EM3 
กำลัง Motor 350 W 
แบตแบบ Lithium ใช้เวลาชาร์จ 5-6 ชั่วโมง   ใช้งานได้ระยะทางสูงสุด 40-50 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 
ความเร็วสูงสุด ประมาณ 25-30 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ก็ถือว่าได้ความเร็วพอสมควร 
และจุดที่สำคัญที่เลือกคันนี้ เพราะ น้ำหนักบรรทุก ที่ 150กิโลกรัม ถือว่าใช้งานได้จริง รองรับการนั่งแบบผู้ใหญ่ 2 คนได้


 
อีกจุดที่ประทับใจคือ ทรงของตัวรถ EM3 จะเห็นว่าแบตเตอรี่ของรถ จะวางแนวตั้ง ด้านหลัง เบาะที่นั่ง 
ทำให้พื้นที่วางขาของรถคันนี้อยู่ในตำแหน่งที่ดี 
ลองไปดูรถหลายๆยีห้อจะวางแบตไว้ตรงที่วางเท้า ทำให้เวลาใช้งาน เข่าจะงอเกินไป 
มีผลต่อการควบคุมรถ ทำให้ควบคุมรถได้ไม่ถนัด  ดูจากรูปนี้จะเห็นว่า EM3 มีพื้นที่วางขาในขนาดกำลังดี



มาดูส่วนประกอบของรถกันครับ เริ่มจากหน้าปัดในการใช้งาน 


จะบอกข้อมูลความจุแบตเตอรี่ เป็นรูปแบตทางด้านซ้าย มี 4 ขีด และมีตัวเลขความเร็วของรถ หน่วยกิโลเมตรต่อชั่วโมง 
ไว้สำหรับควบคุมความเร็วให้ได้ความเร็วที่ต้องการ โดยผมลองบิดหมดปลอก ตัวเลขจะอยู่ที่ 30 



ไฟหน้า จะมีการออกแบบที่สวยงาม และใช้งานได้จริง เมื่อเปิดแล้ว 
ทำให้ทัศนวิสัย ตอนกลางคืนมองถนนได้ชัดเจนขึ้น และทำให้รถคันอื่นเห็นรถของเราด้วย



ไฟหน้าดีไซน์สวยงาม


 
ที่บอกว่าใช้งานได้จริง คือส่องสว่างได้ตามรูปนี้ รูปแรกคือปิดไฟ 


และเทียบกับรูปเปิดไฟ



และรถคันนี้ก็มีไฟท้ายด้วย พร้อมไฟเลี้ยว ช่วยให้คนเห็นรถเราชัดเจน 




เมื่อเปิดไฟเลี้ยว จะมีเสียงค่อนข้างดัง ตอนแรกยังคิดว่าดังไป แต่จริงๆ แล้ว 
ถ้าใช้บนท้องถนนจริงๆ ดังๆไว้ก่อน ก็ทำให้รถที่ใช้ร่วมทางกับเรา ได้ยินเสียงว่ามีรถเรามา 



ตรงไฟท้าย ยังมีไฟส่งป้ายทะเบียนมาให้ด้วย  




การเริ่มใช้งาน ต้องมีการเสียบกุญแจ และบิดไปที่ตำแหน่งใช้งาน


แฮนด์ด้านขวาจะเป็นคันเร่งแบบรถมอเตอร์ไซด์  ด้านล่างแฮนด์มีปุ่ม P สำหรับการเริ่ม หรือตัดการทำงาน motor ไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัย



ส่วนแฮนด์ด้านซ้าย จะมีปุ่มเปิดไฟเลี้ยวซ้ายขวา เวลาเปิดจะมีเสียงเตือนดังสะใจ มั่นใจได้ว่า รถที่ตามมา 
ต้องรับรู้ว่าเราจะไปทางซ้าย หรือทางขวา  เสียดายอย่างคือ ไม่มีไฟเลี้ยว อยู่ตรงด้านหน้ารถ  
ทำให้ก็ยังต้องใช้สัญญาณมือ เพื่อความปลอดภัย   
และจุดนี้จะมีแตร ที่มีเสียงดังเช่นกัน



รถมาพร้อมกับกระจกมองหลัง ที่ใช้งานได้จริง ตัวก้านยกสูงและแข็งแรง


รถมากับล้อขนาด 16 นิ้ว   ล้อหน้าเป็นลาย 5 ก้าน สวยงามมาก  
ตรงจุดนี้ มีแผ่นสะท้อนแสงเพื่อความปลอดภัย 
และมีโชคอัพ คู่หน้ามาให้ด้วย 
เวลาขับผ่านลูกระนาดตามถนน หรือเวลาเจอหลุมเจอบ่อ ก็ไม่กระเทือนมากมาย 




โชคอัพคู่หน้า รองรับการสะเทือนได้ดี



ระบบเบรกคันนี้ใช้เป็นแบบ ดรัมเบรก หน้าหลัง ลองใช้งานแล้ว เบรกได้สนิทมั่นใจ



ตัวรถมีที่วางขาขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่เท่ากับรถมอเตอร์ไซด์ แต่ก็วางเท้าได้ดี 
เวลาใช้งาน จะวางตรงจุดพักเท้ากลางตัวรถก็ได้ หรือจะวางขาไว้ตรงบันไดรถ ก็ได้ 


ให้ดูท่าทางและการวางเท้าของรถคันนี้อีกครั้งรั้ครับ


ถ้าวางเท้าตรงกลางยังตื้นไป ก็ขยับเท้ามาวางตรงบันได แบบในรูปนี้ครับ


มาถึงแบตเตอรี่ ที่บอกว่า วางด้านหลังเบาะนั่ง ตรงส่วนนี้ สามารถถอดแบตออกมาจากตัวรถได้ เพื่อการนำ ไปชาร์จข้างนอก


วิธีการคือเปิดเบาะออกมาตามรูป


การถอดแบตแบบนี้ ทางผู้ผลิตยังใส่ใจ ใส่ระบบล๊อคแบตมาให้ด้วย โดยต้องใช้กุญแจไขปลดล๊อค


 
ก่อนจะเอาแบตออก ก็ต้องถอดปลั๊กไฟ ที่เชื่อมต่อไปที่กล่องควบคุมรถออกก่อน ตามรูปนี้


เมื่อถอดออกมา ก็จะประมาณนี้ ตัวแบตมีน้ำหนักพอประมาณ แต่ก็ยังถือว่ายกหิ้วได้ 
ข้อดีคือ เช่น ถ้าไม่สะดวกชาร์จไฟ ในที่จอดรถ เช่น ในหอพัก หรือ คอนโด 
ที่การยกรถทั้งคันไปที่ห้องก็ไม่สะดวก หรือที่จอดรถก็ไม่มีปลั๊กไฟไว้เสียบชาร์จ ก็แยกแบตออกมา เพื่อมาชาร์จในห้อง   

ตัวแบตเตอรี่เป็นอีกอย่างที่ต้องเลือก โดย EM3 เป็นแบตแบบ lithium ข้อดีคือน้ำหนักเบา 
ทำให้ตัวรถไม่ต้องแบกน้ำหนักมาก ซึ่งบางยี่ห้อจะใช้แบตแบบตะกั่วกรด ที่มีน้ำหนักมากกว่า  

และข้อดีอีกจุดคือ เมื่อใช้ไปนานๆ แน่นอนแบตเตอรี่ย่อมเสื่อม เราสามารถซื้อแบตลูกใหม่ มาเสียบใช้ได้ รถก็ใช้งานได้ต่อไป 
ไม่ยุ่งยากในการเปลี่ยนแบตลูกใหม่ โดยตามสเปก แบตจะรองรับการชาร์จได้ 1000 ครั้ง



ยกแบตมาชาร์จในห้องนอน เราจะได้เห็นสถานะการชาร์จด้วยครับ


ที่ชาร์จแบตดูดี มีมาตรฐาน และระบุชัดเจนว่าใช้ได้กับ EM3 เท่านั้น



เมื่อชาร์จแบต ไฟตรง adaptor จะ ติดว่าเป็นสีแดง คือ กำลังชาร์จ และ เปลี่ยน เป็นสีเขียว เมื่อชาร์จเต็ม




ไปดูกันจุดต่อไป ตัวรถมีบันไดมาให้ โดยขนาดจะเป็นแบบครึ่งนึงของบันไดจักรยานปกติ ทำให้ไม่กินพื้นที่


ตรงจุดนี้ก็ยังมีแผ่นทับทิมสะท้อนแสงเพื่อความปลอดภัย

  
 
หลังจากที่ได้ลองปั่นแล้ว รู้สึกเลยว่า ไม่ได้ใส่มา เพื่อให้ทำการปั่นปกติ เพราะ ด้วยน้ำหนักรถ และอัตราทดของเฟือง รถจะปั่นได้ค่อนข้างช้า   
เหมือนเน้นว่า ถ้าฉุกเฉินแบตหมดกลางคัน ก็ยังแก้ขัดด้วยการปั่นกลับบ้านได้  
เพราะรถจักรยานไฟฟ้าในตลาด หลายๆรุ่น ก็ไม่ได้ใส่บันไดปั่นมาให้ 
ถ้าแบตหมดกลางทาง ทำได้อย่างเดียวคือเข็นกลับบ้าน ค่อนข้างจะเหนื่อยพอควร  

 
 
ด้านล้อหลัง จะมีโชคอัพรองรับแรงสะเทือนแบบสปริง  ซึ่งทำงานร่วมกับโชคอัพคู่หน้าได้ดี


และตรงล้อหลังนี่เอง ที่เป็นที่อยู่ของ ตัว motor กำลังขับ 350W   
  
ด้วยล้อขนาด 16 นิ้ว ทำให้ รถสามารถ ขับรถลุยน้ำได้พอสมควร ตามสเปกคือ ระดับ น้ำ 20cm สามารถขับผ่านได้ 
แต่เพื่อความชัวร์ อย่าลุยน้ำก็น่าจะสบายใจกว่า



 
ด้านท้ายรถ จะมีที่พักเท้าคนซ้อน ตามรูปนี้ วางเท้าได้มั่นคง ตัวมันเองพับเก็บไม่ได้ แต่ก็ไม่ยื่นเกะกะอะไรอยู่แล้ว


ชื่อสินค้า:   จักรยานไฟฟ้า EM3
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่