ประสบการณ์โรค Pied หรือโรคติดหนังโป๊ ของผม(อาการ,การรักษา,ความรู้สึกตอนทำสำเร็จ)

  แนะนำตัว
      สวัสดีครับทุกคนวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ของโรค pied หรือ โรคตายด้านทางอารมณ์จากหนังโป๊
คร่าวๆครับโรคนี้เกิดจากการที่เราดูหนัง 18+ มากเกินไปจนทำให้ระบบหลั่งโดพามีนในสมองเรานั้นมันลวนไปหมดครับ (เพราะการแข็งตัวของน้องชายเราต้องมีโดพามีนในการแข็งตัว)ง่ายๆก็คือ sex ของจริงมันไม่เหมือนกับหนังโป๊ที่คุณดูเพราะโดพามีนมันต่างกันมาก ทำให้น้องชายของเราแข็งตัวได้ไม่เต็มที่หรือไม่แข็งตัวกับ sex ของจริง จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ใครหลายๆคนกำลังประสบปัญหาอยู่ครับ แต่ทุกคนไม่ต้องกลัวหรือกังวลครับโรคนี้หายได้ 100% แล้วแต่สมองของแต่ละคนว่าจะฟื้นฟูได้ดีแค่ไหน ยิ่งเริ่มรักษาตั้งแต่อายุน้อยหายง่ายกว่าผู้ใหญ่ครับ  เริ่มเลยครับ

  อาการ
      ผมพบเจอโรคนี้ตอนอายุ 18 ผมมีแฟนคนแรก(ผมยังซิงนะครับ)ซึ่งเธอก็คือแฟนปัจจุบันของผม ตอนนี้ผมอายุ 19 ซึ่งอาการดีขึ้นมากและสามารถมี sex ได้สำเร็จ ครั้งแรกที่ผมพบเจอนั้นคืออวัยวะเพศมันแข็งตัวแปปเดียวประมาณ 1-2 นาทีในขณะที่เล้าโลมนั้น พอจะใส่ถุงยางแล้วจะสอดใส่มันก็หดลง และปลุกไม่ขึ้นอีกเลย ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์นี้ผมสันนิษฐานว่ามาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่แฟนผมก็พูดเกี่ยวกับโรคติดหนังโป๊ขึ้นมาแต่ผมไม่เชื่อและมองว่าไม่มีจริงหรอก เลยปรับเวลานอนแล้วลองมี sex อีกครั้งก็เป็นแบบเดิมครับ คราวนี้คิดว่ามาจากถุงยางครับเลยไม่ได้คิดอะไรมากครับ อาจจะแพ้ถุงยาง จากนั้นแฟนผมจึงเสนอว่าจะกินยาคุมแบบรายเดือนแล้ว มีsex กันแบบไม่ใส่ถุงยางครับ ผมจึงรอเวลาถึงวันที่ยาคุมออกฤทธิ์ แล้วลองมี sex ครับ ก็เป็นแบบเดิม กระตุ้นเท่าไรก็ไม่ขึ้น แถมมีความกังวลเพิ่มไปอีกจนผมมีอาการperformance anxietyอย่างมากเลยครับ จากนั้นผมจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการที่ผมพบเจอ แล้วก็ได้มาเจอกระทู้ของคนที่ชื่อว่า Reboot Army พี่เขาทำหนังสือเกี่ยวกับโรคนี้ด้วยครับลองไปอ่านดูครับ ผมซื้อเหมือนกัน(ไม่ได้ขายของนะผมซื้อของแกจริงๆ) พี่เขาทำเพจในเฟซบุ๊คด้วยครับ ชื่อ Reboot Army เลยไปปรึกษาพี่เขากันได้ 

  การรักษา
     มาต่อตอนการรักษา สิ่งที่ต้องทำก็คือการหยุด ชตอ. และดูหนังโป๊ จะเรียกการรักษาว่า reboot หรือ nofap ที่หลายๆคนคุ้นหูครับ เขาเฉลี่ยมาว่าควรหยุดประมาณ 30-180วัน แต่จริงๆแล้วแต่คนนะครับเพราะสมองเราไม่เหมือนกัน ของผมเริ่มวันที่ 4 เมษายน 2564 แต่สามารถมี sex ได้วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ร่วม 7 เดือน ประมาณ210 วัน+++ ของผมที่ reboot มาหลุดดูหนังไป 1ครั้ง เลยครับแต่มีหลุดช่วยตัวเองบ้าง และให้แฟน oral sex ให้บ้างครับ และเวลาที่ผมไม่ได้หลั่งและดูหนังเลยก็คือ 90 วันเต็มๆครับ

  ต้องบอกก่อนว่าตัวกระผมนั้นได้มีการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ในวันที่ 25 มกราคม 2564

 
  การเดินทาง210วันของผม
      จริงๆตอนที่ผมเริ่มศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้ผมไม่เชื่อเลยครับไม่มีความเชื่อเลยและคิดว่าทำไปแล้วจะหายหรอวะ แต่มันไม่มีทางอื่นแล้วเพราะเราก็คิดว่าสุขภาพเราก็ปกติดี เลยลองทำดู เชื่อไหมครับ 7 วันแรกที่เริ่มทำ nofap ผมเครียดมากและกังวลมากกลัวจะไม่หายนอนไม่ค่อยหลับเลย คือโดยส่วนตัวผมเป็นคนหลับยากมากๆเลยครับ พอเจอเรื่องแบบนี้ยิ่งยากกว่าเดิมอีก พอผมทำได้ไป 7 วันก็ได้เจอกับแฟนแล้วเธอก็ทำ oral sex ให้ผมจนหลั่ง จากนั้นผมก็มีอาการ flatline
      ผมจะอธิบายอาการ flatline ให้ฟังครับ มันเป็นอาการที่สมองของเรามันดื้อยาครับง่ายๆก็คือมันต้องการหนังโป๊เพื่อหลั่งโดพามีนมากๆและพอมันไม่ได้หนังโป๊มันทำให้เรามีอาการ ซึมเศร้า ไม่มีอารมณ์ทางเพศ รู้สึกเบื่อหน่ายผู้หญิง อารมณ์แปรปรวน และนอนไม่หลับ มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเรา reboot ไปซักระยะหนึ่งแล้วระดับโดพามีนลดลงจากที่เราเคยได้รับจากหนังโป๊ก็จะมีอาการอย่างที่กล่าวมา คล้ายกับอาการอยากยา แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาการ flatline นะครับ ถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ให้ถามพี่ Reboot Army เลยครับเพราะความรู้ส่วนใหญ่ผมก็อ่านมาจากหนังสือแก
      ต่อจากเรื่องผมนะครับ จากนั้นอาการ flatline มันก็เริ่มดีขึ้นหลังจากที่ผม reboot ได้ประมาณ 1 เดือน และการแข็งตัวของผมก็ดีขึ้นจริงๆ ผมก็เริ่มมีกำลังใจมากครับ แต่แล้วผมก็ได้เจอกับ อาการ flatline อีกครั้งซึ่งหนักมาก flatline มันกินเวลา ประมาณ 4-5 เดือนได้ ซึ่งใน 4-5 เดือนนี้ ผมเลิกกับแฟนไปสองครั้งเพราะรู้สึกหมดกำลังใจและรู้สึกซึมเศร้าและรู้สึกอยากอยู่คนเดียวแต่จากนั้นผมก็กลับไปง้อเธอและเธอก็เข้าใจ ระหว่าง ที่เป็น flatline นั้นผมต้องประสบกับความกังวล ความซึมเศร้าจนแทบจะไปหาหมอกินยาเลยครับ เพราะส่วนตัวผมเป็นคนขี้กังวลและชอบย้ำคิดย้ำทำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอาการมันหนักมากๆแต่ก็พยายามออกกำลังกายและให้กำลังใจตัวเอง ช่วงที่เป็น flatline เครียดจนหลุดfapไปและหลั่งทำให้รู้สึกผิดมากๆและจิตตกเลยแต่แฟนผมก็ให้กำลังใจมาตลอด เคยกังวลมาจากการที่เราขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะด้วยครับ และคิดว่าเราเป็นโรคนู้นโรคนี้ ต่างๆนาๆเลยครับ
      และเวลาผมอยู่กับแฟนผมจะชอบสัมผัสทางร่างกายกันและเล้าโลมกันโดนไม่ได้มี sex มันเป็นยาดีเลยครับทำให้อาการผมดีขึ้นมันเป็นการปรับให้สมองเราได้รับโดพามีนที่ปกติแบบที่เราควรได้รับและให้สมองได้พัฒนาในด้านการมีสัมผัสกับคนจริงๆไม่ใช่หนังโป๊ พออาการflatline มันดีขึ้นผมจึงคิดว่าถึงเวลาที่เราจะได้ลองมี sex ของจริงได้แล้ว ตามจริงๆผมคิดว่าอาการผมดีขึ้นและสามารถมี sex ตั้งแต่ 2 เดือนแรกแล้วครับแต่ด้วยความที่ผมมีอาการ performance anxiety มันมีผลมากๆครับที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะเริ่มมี sex ครับ 
     วันที่ผมสามารถมี sex ได้สำเร็จเอาจริงๆวันนั้นไม่ได้ตั้งใจจะมี sex แต่ผมกับแฟนก็เล้าโลมกันตามปกติผมจึงพูดเล่นว่าลองมีsexกันไหม ก็เลยลองแล้วก็สำเร็จจริงๆครับ ผมดีใจมากแต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้ใส่ถุงยางนะครับแฟนผมกินยาคุม และก็ใช้ท่าที่แฟนผมทำให้อย่างเดียว ต้องใช้เวลาซักพักถึงจะสามารถทำท่าอื่นได้และใส่ถุงยางโดยที่ยังแข็งตัวอยู่ได้ ของผมใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะใส่ถุงยางได้ครับ

   
  สิ่งผมคิดว่าได้รับจากการ reboot
1.  ผมรู้สึกว่าอวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้นมากๆและพอหลั่งเสร็จก็ยังแข็งตัวได้ต่อประมาณนึง
2.  ผมรู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ไม่หลอกตัวเอง
3.  รู้สึกมีสมาธิมากขึ้น
4.  มีความมั่นใจเรื่อง sex มากขึ้น
5.  มีเวลามากทำสิ่งอื่นๆมากขึ้น
6.  อาการกังวลกับย้ำยิดย้ำทำลดลง
7.  อาการนอนไม่หลับลดลงไปมาก
8.  รู้สึกภูมิใจที่ตัวเองหาย
9.  ไม่มีความรู้สึกที่จะอยากกลับไปดูหนังโป๊แต่ยังพอมีแรงเสพอยู่บ้าง

  สิ่งช่วยให้อาการดีขึ้น
1.ฝึกการสัมผัสทางกายกับคนจริงๆหรือเล้าโลมบ่อยๆ
2.ถ้าคิดว่าตัวเองอาการดีขึ้นแล้วให้ลองพยายามมีsexดูถ้าหากไม่สำเร็จก็อย่าไปคิดมากครับให้คิดว่ามันดีขึ้นกว่าตอนก่อนที่เราจะเริ่มอีกครับ
3.ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ(เน้นพวกเวทเทรนนิ่งจะช่วยเพิ่มฮอร์โมณเพศชาย)
4.กินอาหารให้ดีขึ้นกินผักผลไม้ ผมเน้นกินพวก แตงโม อโวคาโด ถั่ว
5. ถ้ามี partner ในการ reboot จะดีกว่าการ reboot คนเดียวไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนเสมอไปขอแค่เป็นคนที่เข้าใจปัญหาที่เราเจออยู่และสามารถให้กำลังใจเราและให้เราผ่านเรื่องนี้ไปได้

   
    สุดท้ายนี้ผมหวังว่าทุกคนจะได้รับความรู้จากกระทู้ของผมและเจอแสงสว่างแบบที่ผมเจอนะครับ ส่วนคนที่กำลัง reboot อยู่อย่าพึ่งท้อนะครับโรคนี้หายได้จริงๆอยู่ที่คุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่