JJNY : 4in1 ท่องเที่ยวพัทยาโอด│สาวร้องสามี ฉีดไขว้เสียชีวิตไม่ได้เยียวยา│สภาหวิดล่ม!│‘พิธา’ ยันพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ

ท่องเที่ยวพัทยา โอดรัฐปิดระบบ Test & Go ทำยอดจองลดฮวบ กระทบเศรษฐกิจประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6798960
 
 
ท่องเที่ยวพัทยา โอดรัฐปิดระบบ Test & Go ทำยอดจองลดฮวบ กระทบเศรษฐกิจประเทศ วอนกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนเข้ามาหลังปีใหม่
  
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2564 นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับในช่วงปีใหม่เมืองพัทยา มีการจัดงานเคานท์ดาวน์ โดยมีมาตรการที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเมืองพัทยาจัดอีเว้นท์มากมาย แต่ไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากเมืองพัทยามีมาตรการในการรับนักท่องเที่ยว ภาคธุรกิจจึงมีความมั่นใจในการจัดอีเว้นท์ต่างๆ ของเมืองพัทยา 
 
นายบุญอนันต์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่รัฐบาลปิดระบบ Test & Go เปลี่ยนเป็นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ทำให้ยอดจองห้องพักลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ลงละเบียนTest & Go จะเดินทางเข้ามาช่วงหน้าไฮซีซัน ในเดือน ม.ค. และเดือน ก.พ. หากปิดระบบ เทสTest & Go จะส่งผลกระทบต่อเมืองพัทยาอย่างแน่นอน
 
นายบุญอนันต์  กล่าวอีกว่า ภาคธุรกิจจึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐ เปิดระบบ Test & Go เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ยื่นเอกสาร เพื่อขอเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงหลังปีใหม่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีความสับสนในการเปิด-ปิดประเทศ ส่วนเรื่องอนุมัติให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามา หากภาครัฐพร้อมอนุมัติ ทางพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวไม่ต่างจากภูเก็ต ชาวต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี มีความพร้อมในด้านอาหาร ที่พัก โรงแรม แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
 
นายบุญอนันต์ กล่าวต่อว่า โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามีหลายเงื่อนไข เช่น นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทำธุรกิจ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามารักษาตัว ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ซึ่งถ้าภาครัฐเปิดแค่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะทำให้ระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศลดลงอย่างเห็นได้ชัด
 


สาวร้องสามี ฉีดวัคซีนสูตรไขว้เสียชีวิตไม่ได้รับเยียวยา
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/163134
   
หญิงอายุ 36 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ร้องให้ทนายช่วย สามีเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนไขว้ ยื่นขอรับเงินเยียวยา 3 เดือน แต่เรื่องยังไม่คืบ เจ้าหน้าที่แจ้งให้รออย่างเดียว
 
น.ส.สุภาวดี พุทธบุรี  นำคลิปหลักฐานเข้าร้องทุกข์ต่อ ทนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ซึ่งผู้ชายในคลิป ที่ล้มลง คือ นายมโนสิทธิ์ จันทรา สามี เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเธอเชื่อว่า สาเหตุเกิดจากที่สามีฉีดวัคซีนโควิด - 19 
 
น.ส.สุภาวดี เล่าว่า สามี ฉีดวัคซีนเข็มแรกวันที่ 27 ส.ค. 2564 เป็นวัคซีนซิโนแวค ถัดมาเข็มที่ 2 คือแอสตร้าเซนเนก้า วันที่ 24 ก.ย.2564 หลังจากฉีดสามีป่วย และมีอาการหนาวสั่น ผื่นขึ้นหน้าอก ปวดตามข้อและขา แต่ก็ไม่ได้เอะใจเพราะสามีเป็นคนทำงานหนักอยู่แล้ว แต่ทานข้าวได้ตามปกติ
 
วันที่สามีจะล้มลงสามีโทรมาบอกว่าปวดขา ขาชา ก้าวขาไม่ออก และแน่นหน้าอก ร่วมด้วยกับการปวดท้องแต่ถ่ายไม่ออก หลังจากนั้นสายก็ตัดไป จากนั้นเพื่อนของสามีก็โทรมาให้มาที่โรงพยายาบาล ตนจึงรีบไปพบว่าหมอกำลังปั๊มหัวใจอยู่ และมีเลือดกระเด็นเต็มหน้า ตนจึงรีบเข้าไปกอดแต่ตัวสามีแข็งและเย็นหมดแล้ว และหมอก็ช่วยไม่ได้แล้วหลังจากนั้นจึงนำร่างของสามีไปทำพิธีศพต่อที่จ.สงขลา
 
หลังจากนั้นทาง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ติดต่อมาให้ไปยื่นเรื่องเพื่อรับเงินเยียวยาจึงยื่นเรื่องหลังจากสามีเสียไปประมาณ 2 อาทิตย์ แต่เรื่องกลับเงียบหายไป แต่ทาง สปสช.ก็ติดต่อมาอีกทีบอกให้รออย่างเดียวจน 3 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้เงินเยียวยา ติดต่อประกันสังคมเจ้าหน้าที่ก็แจ้งให้รออีก แถมตอบกลับว่าให้รอเพราะไม่ได้มีคนตายแค่คนเดียว คนอื่นก็ตายกันเยอะให้รอเป็นเดือน
 
เมื่อ ไปศูนย์ดำรงธรรมเพื่อแจ้งเรื่อง แต่ศูนย์ดำรงธรรมก็บอกว่าส่งเอกสารให้แล้วรู้สึกเหนื่อยและท้อจึงอยากได้ความช่วยเหลือจากทนายเพื่อยื่นเรื่องขอเงินเยียวยา เพราะตัวเองยังมีลูกอายุ 7 ขวบ ที่ต้องดูแล
 
ทนายโป้ง กล่าวว่า จะพาผู้เสียหายไปที่ สปสช. และไปยื่นเรื่องที่ สสจ.นนทบุรี เพื่อรับเงินที่ สสจ.กำหนดไว้ ถ้าหากเอกสารยังไม่เข้าสู่ระบบตนจะนำเรื่องไปยื่นใหม่ทั้งหมดเพื่อรับเงินเยียวยาต่อไป
 
ส่วนกรณีช่างภาพหญิงของบริษัทแห่งหนึ่ง ได้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีตาบอด หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ล่าสุด นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลและอาการที่ปรากฎหลังรับวัคซีน ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นความเสียหายที่เป็นเหตุสุดวิสัยจากการรับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเข้าตามเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือ เป็นความเสียหายประเภทสูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต จึงวินิจฉัยให้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 240,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราสูงสุด
  
โดยก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการฯ เขต 13 กรุงเทพมหานคร ได้มีมติจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้วจำนวน 30,000 บาท จึงให้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเพิ่มเติมอีกจำนวน 210,000 บาท โดยจะมีการโอนจ่ายเงินช่วยเหลือภายใน 5 วัน
 

 
สภาหวิดล่ม! พท.โวยมัดมือชกผ่านรายงานกองทุนประชารัฐ-เสนอนับองค์ ‘ครูแก้ว’ ชิงสั่งปิด
https://www.dailynews.co.th/news/600786/
 
"เพื่อไทย" โวยมัดมือชกผ่านรายงานกองทุนประชารัฐ-เสนอนับองค์ "ครูแก้ว" ชิงสั่งปิด สภาหวิดล่ม!
 
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งพิจารณารับทราบรายงานประจำปีกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมประจำปีงบประมาณ 2562 และ 2563 ในช่วงเย็น
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบการซักถาม นายศุภชัย ประธานการประชุมได้กล่าวปิดการอภิปราย แต่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หารือต่อพร้อมโต้แย้งว่า แม้จะปิดการอภิปรายแล้วแต่ตนไม่เห็นด้วยกับ 2 ญัตตินี้ จึงขอให้มีการลงคะแนน แต่นายศุภชัย กล่าวว่า ญัตติดังกล่าวเป็นญัตติรับทราบจึงไม่ต้องมีการลงคะแนน การรายงานต่อสสภามีข้องบังคับเพียงแค่การอภิปราย ซักถามชี้แจงเท่านั้น ทำให้นายพิเชษฐ์ โต้แย้งว่า รายงานดังกล่าวมีความไม่โปร่งใส ประธานจะมัดมือชกให้สมาชิกรับทราบรายงานฉบับนี้หรือ
 
จากนั้นนายศุภชัย พยายามตัดบทเข้าสู่วาระต่อไป โดยยืนยันว่าให้สิทธิสมาชิกอภิปรายครบทุกคนแล้วและหน่วยงานได้ชี้แจงครบถ้วนแล้ว ทำให้ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พยายามโต้แย้งว่า ปีที่แล้วได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวซึ่งในครั้งนั้นมีเสียงท้วงติงและได้นำกลับไปพิจารณาใหม่ พร้อมเสนอญัตติให้ที่ประชุมมีการลงมติในเรื่องดังกล่าว
 
ขณะที่ นายพิเชษฐ์ ยังยืนยันที่จะให้มีการลงมติรายงานฉบับดังกล่าวก่อนเสนอให้ที่ประชุมมีการนับองค์ประชุม
 
แต่นายศุภชัย ยังยืนยันว่าได้สั่งปิดการอภิปรายไปแล้ว พร้อมชิงตัดบทในการสั่งปิดประชุมในเวลา 18.50 น. โดยบรรยากาศในที่ประชุมมีสมาชิกร่วมประชุมอย่างบางตา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่