สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ของตัวเอง เผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้างว่าอย่าทำแบบเรา เรียกว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีก็ได้ค่ะ
เราเป็นผู้หญิงคนนึงที่อ้วนมาตลอดชีวิต ตอนเด็กๆก็ไม่คิดอะไร เอ็นจอยอีทติ้ง กินแล้วมีความสุขก็กินเข้าไป ที่บ้านก็ไม่เคยว่าเรื่องอ้วนเลย เห็นเรากินแล้วแฮปปี้ ก็ยิ่งเอาใจอยากให้กิน ตอนเป็นเด็กอ้วนใครๆก็มองว่าน่ารัก ตะมุตะมิไปหมด แต่พอโตเป็นวัยรุ่นอ้วนๆก็เริ่มมีฟีดแบคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งชื่อเล่นที่ไม่มีใครเรียกชื่อเล่นจริงๆของเรา ส่วนใหญ่จะเรียก “อ้วน” บ้าง “หมูหวาน” บ้าง “หมูนุ่ม” บ้าง เปลี่ยนเมนูไปเรื่อยแต่ไม่พ้นหมูๆ แซวเรื่องรูปร่างตลอด เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะอ้วนจริง แหะๆ แต่ก็นะ ไม่ถือสาแต่ว่ารู้สึกค่ะ แต่ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้รู้สึกฮึด ว่าต้องลดอะไรจริงจัง ก็เข้าใจว่าเพื่อนแซวขำๆ แม้บางทีเราจะไม่ขำ แต่ก็ปล่อยผ่านไป เพราะใจเราก็คิดว่า ก็ตัวเราเป็นแบบนี้ เราเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ใครจะไม่ชอบไม่รักก็เรื่องของเค้า ใครจะว่ายังไงก็เรื่องของเค้า ก็เลยคีพความเป็นคนอ้วนของตัวเองต่อไป
จนเมื่อ 3 เดือนที่แล้วเป็นวันเกิดเรา อายุครบ 38 ปี อยู่ดีๆเราก็รู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นมา ใช่ค่ะ คนเราพออยากจะเปลี่ยนอยากจะทำ มันไม่ต้องมีใครมาผลักดันอะไรเลย ตอนนั้นก็แบบงงตัวเองหน่อยๆ โดนบุลลี่มาตั้งนาน อกหักมาก็หลายรอบ ไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ใครพอใจเลย ตอนนี้แค่มาคิดว่า อีก 2 ปีก็จะขึ้นเลข 4 แล้ว อยากดูแลตัวเองมากกว่านี้ อย่างน้อยก็จะได้สุขภาพดีขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ไม่อืดอาดแบบที่เป็นอยู่ พูดง่ายๆว่าอยากแก่ไปแบบคล่องตัวกว่านี้ เริ่มคิดว่า เดี๋ยวแก่กว่านี้ลดยากแล้วนะ ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ละ
พอคิดได้ก็เริ่มเลยค่ะ
ตอนแรกเราหนักอยู่ที่ 80 ปลายๆค่ะ ด้วยความที่พื้นฐานเป็นคนใจร้อนอยู่แล้วด้วย เลยเลือกวิธีที่น่าจะเห็นผลเร็วที่สุด ตามที่คิดเอาเอง ตอนแรกคือลองไปวิ่งก่อนครั้งนึงค่ะ แต่วิ่งได้ไม่ถึง 5 นาที เหนื่อยมาก! เลยคิดว่า อ่อ คงยังตัวใหญ่อยู่ วิ่งไม่น่าไหว งั้นลองลดด้วยวิธีคุมอาหารก่อน ให้ตัวเบากว่านี้ค่อยมาวิ่งใหม่ ก็เลยใช้วิธีงดแป้ง งดน้ำตาลก่อน งดที่แปลว่า ไม่กินเลยค่ะ ยอมในความฮึดของตัวเองมาก อะไรที่ชอบเราไม่กินเลย ข้าวไม่กิน กินแต่กับข้าว เน้นหมูไก่ปลาผัก ดื่มน้ำเยอะๆ ทำแบบนั้นอยู่ 2 เดือนกว่า โดยไม่ออกกำลังกายเลย น้ำหนักเราลงไปเกือบ 10 กิโล ซึ่งเยอะมากกกก ถึงจะผอมลงแต่ยังอยู่ในเขตของคำว่าอ้วนอยู่ค่ะ และเราก็ใจร้อนอยากลดให้มากกว่าเดิม เลยตัดสินใจกลับมาวิ่งอีกครั้ง
คราวนี้แหละ งานเข้าเลย
อย่างที่บอกว่าตัวเรายังใหญ่อยู่ พอเราเริ่มวิ่งโดยไม่หาข้อมูลก่อนว่าคนอ้วนวิ่งได้มั้ย หรือควรออกกำลังกายยังไง เริ่มต้นยังไง มันเลยเกิดการบาดเจ็บขึ้นมาค่ะ เราวิ่งแค่ในหมู่บ้านเป็นพื้นคอนกรีตทั่วไปเลย วันแรกวิ่งได้ 10 นาทีแบบเหยาะๆ เออมันนานกว่าครั้งที่แล้วนะ ก็เลยมีกำลังใจ แต่วันนั้นพอวิ่งตอนใกล้เสร็จเรารู้สึกเจ็บแปลบๆที่หัวเข่า แต่พอหยุดวิ่งก็หาย เลยคิดว่าไม่เป็นอะไร ก็วิ่งแบบนั้นอยู่อีกสองสามวัน เจ็บทุกวันนะ แต่ทน ทายาและเอาผ้ายืดพันไว้ จนเริ่มเจ็บมากขึ้น ทั้งตอนวิ่งและไม่วิ่ง เจ็บแบบแปลบๆ ขัดๆ เวลาเดินเริ่มเจ็บมากขึ้น จนกลายเป็นเจ็บตลอดเวลา สุดท้ายต้องไปหาหมอจนได้
สรุป หมอบอกว่า เข่าอักเสบ เพราะรับแรงกระแทกมากเกินไป ให้หยุดวิ่ง จนกว่าจะหายดี และต่อให้หายดีแล้วก็ยังไม่แนะนำให้วิ่ง ให้ออกกำลังกายแบบอื่นไปก่อน จนกว่าน้ำหนักตัวจะเบากว่านี้ เพราะหัวเข่ามันรับไม่ไหว
ตอนนั้นคือเศร้าเลยค่ะ นี่เราอ้วนขนาดนี้จริงๆสินะ ขอโทษนะเจ้าหัวเข่า ที่ผ่านมาแกคงรับน้ำหนักชั้นอย่างอดทนมาตลอดสินะ
วันนั้นก็ได้ยามา 3 ตัวนี้กลับบ้านมาค่ะ
Mobic Meloxicam 7.5 mg แก้อักเสบ ปวด ตึงไขข้อต่างๆจากพวกข้อเสื่อม ข้ออักเสบ กินครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหารเช้า-เย็น
ULtraCET อันนี้เป็นยาแก้ปวดที่ผสมทั้ง Tramadol และ Paracetamol ช่วยแก้ปวดได้ดีมากค่ะ กินครั้งละครึ่งเม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
Viartril-S Glucosamine ช่วยเติมกลูโคซามีนให้ร่างกาย เอาไปสร้างกระดูกอ่อนให้ข้อต่อแข็งแรงขึ้น ช่วยให้หายปวด หายอักเสบเร็วขึ้นอีกแรง ตัวนี้เป็นแบบชงดื่มก่อนอาหารเช้าค่ะ
นอกจากกินยาที่หมอจ่ายมาให้แล้วก็ต้องงดการวิ่ง กับเดินกดน้ำหนักลงเข่าให้น้อยลง แบบต้องมีสติมากขึ้นทุกย่างก้าวเลยค่ะ จากที่น้ำหนักตัวเยอะอยู่แล้วมาเป็นแบบนี้อีกยิ่งรู้สึกอืดอาดเข้าไปใหญ่ คือนอยมากๆ อยากหายไวๆ เลยมีทำกายภาพเองแบบง่ายๆที่บ้านด้วยค่ะ คราวนี้ไม่ใจร้อนแล้ว ลองเปิด YouTube ดู แล้วเลือกท่าที่ง่ายๆทำตามเองแบบเบาๆค่ะ เลือกท่าที่เป็นแบบนั่งทำ กับนอนทำนะคะ อันนี้เป็นคลิปที่เราทำตามค่ะ ใครมีปัญหาเข่าอักเสบ เข่าเสื่อม ลองทำตามดูได้เลย
แล้วหลังจากนี้ ถ้าเข่าหายดีแล้ว อยากออกกำลังกายลดความอ้วนเหมือนเดิมก็ทำได้ และควรทำด้วย เพราะถ้าเราปล่อยตัวอ้วนแบบนี้ไปเรื่อยๆเข่าก็จะยิ่งทำงานหนักต่อไปแล้วก็จะเข้าภาวะเข่าเสื่อมอย่างเป็นทางการแน่นอน แต่ต้องปรับการออกกำลังกายให้เหมาะกับคนอ้วน เช่น เริ่มจากทำกายบริหารง่ายๆ เล่นโยคะท่าที่เหมาะกับคนอ้วน ว่ายน้ำ เดิน ปั่นจักรยาน แล้วพอกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น น้ำหนักลดลงแล้ว ค่อยขยับมาเป็น เดินเร็ว และค่อยตามด้วยการวิ่งจริงๆจังๆ หรือจะลองดูข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความพวกนี้ก็ได้ค่ะ เราก็กำลังศึกษาอยู่ระหว่างรอเข่าหาย
https://health.kapook.com/view175669.html
https://www.sanook.com/health/30537/
https://www.ladyissue.com/194668
เนี่ย เค้าเรียกวัวหายล้อมคอกที่แท้จริงค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยหาข้อมูลเลยยยย พอได้เจ็บตัวเท่านั้นแหละ นั่งหาข้อมูลรัวๆค่ะ เพราะเราจะไม่เจ็บซ้ำซ้อนอีกแล้ว
ตอนนี้อาการก็เริ่มดีขึ้นมากแล้ว คาดว่าอีกไม่นานน่าจะเริ่มกลับมาออกกำลังกายเบาๆได้แล้ว จากเป้าหมายลดความอ้วนเพื่อสุขภาพ ตอนนี้เลยยิ่งรักร่างกายตัวเองมากขึ้น ดูแลร่างกายตัวเองดีขึ้นเลย ถือว่าเป็นประสบการณ์ความเจ็บปวดที่เป็นบทเรียนชั้นดี ดีที่ไม่เป็นอะไรมากกว่านี้นะตัวเรา
ก็หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับคนอ้วนที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายทุกคนนะคะ ใครมีอะไรอยากแนะนำหรือแชร์เพิ่มเติมมาพูดคุยกันได้เลยนะคะ
เริ่มต้นด้วยออกกำลังกายลดความอ้วน จบที่กินยาทำกายภาพรักษาเข่าวนไป
เราเป็นผู้หญิงคนนึงที่อ้วนมาตลอดชีวิต ตอนเด็กๆก็ไม่คิดอะไร เอ็นจอยอีทติ้ง กินแล้วมีความสุขก็กินเข้าไป ที่บ้านก็ไม่เคยว่าเรื่องอ้วนเลย เห็นเรากินแล้วแฮปปี้ ก็ยิ่งเอาใจอยากให้กิน ตอนเป็นเด็กอ้วนใครๆก็มองว่าน่ารัก ตะมุตะมิไปหมด แต่พอโตเป็นวัยรุ่นอ้วนๆก็เริ่มมีฟีดแบคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งชื่อเล่นที่ไม่มีใครเรียกชื่อเล่นจริงๆของเรา ส่วนใหญ่จะเรียก “อ้วน” บ้าง “หมูหวาน” บ้าง “หมูนุ่ม” บ้าง เปลี่ยนเมนูไปเรื่อยแต่ไม่พ้นหมูๆ แซวเรื่องรูปร่างตลอด เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะอ้วนจริง แหะๆ แต่ก็นะ ไม่ถือสาแต่ว่ารู้สึกค่ะ แต่ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้รู้สึกฮึด ว่าต้องลดอะไรจริงจัง ก็เข้าใจว่าเพื่อนแซวขำๆ แม้บางทีเราจะไม่ขำ แต่ก็ปล่อยผ่านไป เพราะใจเราก็คิดว่า ก็ตัวเราเป็นแบบนี้ เราเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ใครจะไม่ชอบไม่รักก็เรื่องของเค้า ใครจะว่ายังไงก็เรื่องของเค้า ก็เลยคีพความเป็นคนอ้วนของตัวเองต่อไป
จนเมื่อ 3 เดือนที่แล้วเป็นวันเกิดเรา อายุครบ 38 ปี อยู่ดีๆเราก็รู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นมา ใช่ค่ะ คนเราพออยากจะเปลี่ยนอยากจะทำ มันไม่ต้องมีใครมาผลักดันอะไรเลย ตอนนั้นก็แบบงงตัวเองหน่อยๆ โดนบุลลี่มาตั้งนาน อกหักมาก็หลายรอบ ไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ใครพอใจเลย ตอนนี้แค่มาคิดว่า อีก 2 ปีก็จะขึ้นเลข 4 แล้ว อยากดูแลตัวเองมากกว่านี้ อย่างน้อยก็จะได้สุขภาพดีขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ไม่อืดอาดแบบที่เป็นอยู่ พูดง่ายๆว่าอยากแก่ไปแบบคล่องตัวกว่านี้ เริ่มคิดว่า เดี๋ยวแก่กว่านี้ลดยากแล้วนะ ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ละ
พอคิดได้ก็เริ่มเลยค่ะ
ตอนแรกเราหนักอยู่ที่ 80 ปลายๆค่ะ ด้วยความที่พื้นฐานเป็นคนใจร้อนอยู่แล้วด้วย เลยเลือกวิธีที่น่าจะเห็นผลเร็วที่สุด ตามที่คิดเอาเอง ตอนแรกคือลองไปวิ่งก่อนครั้งนึงค่ะ แต่วิ่งได้ไม่ถึง 5 นาที เหนื่อยมาก! เลยคิดว่า อ่อ คงยังตัวใหญ่อยู่ วิ่งไม่น่าไหว งั้นลองลดด้วยวิธีคุมอาหารก่อน ให้ตัวเบากว่านี้ค่อยมาวิ่งใหม่ ก็เลยใช้วิธีงดแป้ง งดน้ำตาลก่อน งดที่แปลว่า ไม่กินเลยค่ะ ยอมในความฮึดของตัวเองมาก อะไรที่ชอบเราไม่กินเลย ข้าวไม่กิน กินแต่กับข้าว เน้นหมูไก่ปลาผัก ดื่มน้ำเยอะๆ ทำแบบนั้นอยู่ 2 เดือนกว่า โดยไม่ออกกำลังกายเลย น้ำหนักเราลงไปเกือบ 10 กิโล ซึ่งเยอะมากกกก ถึงจะผอมลงแต่ยังอยู่ในเขตของคำว่าอ้วนอยู่ค่ะ และเราก็ใจร้อนอยากลดให้มากกว่าเดิม เลยตัดสินใจกลับมาวิ่งอีกครั้ง
คราวนี้แหละ งานเข้าเลย
อย่างที่บอกว่าตัวเรายังใหญ่อยู่ พอเราเริ่มวิ่งโดยไม่หาข้อมูลก่อนว่าคนอ้วนวิ่งได้มั้ย หรือควรออกกำลังกายยังไง เริ่มต้นยังไง มันเลยเกิดการบาดเจ็บขึ้นมาค่ะ เราวิ่งแค่ในหมู่บ้านเป็นพื้นคอนกรีตทั่วไปเลย วันแรกวิ่งได้ 10 นาทีแบบเหยาะๆ เออมันนานกว่าครั้งที่แล้วนะ ก็เลยมีกำลังใจ แต่วันนั้นพอวิ่งตอนใกล้เสร็จเรารู้สึกเจ็บแปลบๆที่หัวเข่า แต่พอหยุดวิ่งก็หาย เลยคิดว่าไม่เป็นอะไร ก็วิ่งแบบนั้นอยู่อีกสองสามวัน เจ็บทุกวันนะ แต่ทน ทายาและเอาผ้ายืดพันไว้ จนเริ่มเจ็บมากขึ้น ทั้งตอนวิ่งและไม่วิ่ง เจ็บแบบแปลบๆ ขัดๆ เวลาเดินเริ่มเจ็บมากขึ้น จนกลายเป็นเจ็บตลอดเวลา สุดท้ายต้องไปหาหมอจนได้
สรุป หมอบอกว่า เข่าอักเสบ เพราะรับแรงกระแทกมากเกินไป ให้หยุดวิ่ง จนกว่าจะหายดี และต่อให้หายดีแล้วก็ยังไม่แนะนำให้วิ่ง ให้ออกกำลังกายแบบอื่นไปก่อน จนกว่าน้ำหนักตัวจะเบากว่านี้ เพราะหัวเข่ามันรับไม่ไหว
ตอนนั้นคือเศร้าเลยค่ะ นี่เราอ้วนขนาดนี้จริงๆสินะ ขอโทษนะเจ้าหัวเข่า ที่ผ่านมาแกคงรับน้ำหนักชั้นอย่างอดทนมาตลอดสินะ
วันนั้นก็ได้ยามา 3 ตัวนี้กลับบ้านมาค่ะ
Mobic Meloxicam 7.5 mg แก้อักเสบ ปวด ตึงไขข้อต่างๆจากพวกข้อเสื่อม ข้ออักเสบ กินครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหารเช้า-เย็น
ULtraCET อันนี้เป็นยาแก้ปวดที่ผสมทั้ง Tramadol และ Paracetamol ช่วยแก้ปวดได้ดีมากค่ะ กินครั้งละครึ่งเม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
Viartril-S Glucosamine ช่วยเติมกลูโคซามีนให้ร่างกาย เอาไปสร้างกระดูกอ่อนให้ข้อต่อแข็งแรงขึ้น ช่วยให้หายปวด หายอักเสบเร็วขึ้นอีกแรง ตัวนี้เป็นแบบชงดื่มก่อนอาหารเช้าค่ะ
นอกจากกินยาที่หมอจ่ายมาให้แล้วก็ต้องงดการวิ่ง กับเดินกดน้ำหนักลงเข่าให้น้อยลง แบบต้องมีสติมากขึ้นทุกย่างก้าวเลยค่ะ จากที่น้ำหนักตัวเยอะอยู่แล้วมาเป็นแบบนี้อีกยิ่งรู้สึกอืดอาดเข้าไปใหญ่ คือนอยมากๆ อยากหายไวๆ เลยมีทำกายภาพเองแบบง่ายๆที่บ้านด้วยค่ะ คราวนี้ไม่ใจร้อนแล้ว ลองเปิด YouTube ดู แล้วเลือกท่าที่ง่ายๆทำตามเองแบบเบาๆค่ะ เลือกท่าที่เป็นแบบนั่งทำ กับนอนทำนะคะ อันนี้เป็นคลิปที่เราทำตามค่ะ ใครมีปัญหาเข่าอักเสบ เข่าเสื่อม ลองทำตามดูได้เลย
แล้วหลังจากนี้ ถ้าเข่าหายดีแล้ว อยากออกกำลังกายลดความอ้วนเหมือนเดิมก็ทำได้ และควรทำด้วย เพราะถ้าเราปล่อยตัวอ้วนแบบนี้ไปเรื่อยๆเข่าก็จะยิ่งทำงานหนักต่อไปแล้วก็จะเข้าภาวะเข่าเสื่อมอย่างเป็นทางการแน่นอน แต่ต้องปรับการออกกำลังกายให้เหมาะกับคนอ้วน เช่น เริ่มจากทำกายบริหารง่ายๆ เล่นโยคะท่าที่เหมาะกับคนอ้วน ว่ายน้ำ เดิน ปั่นจักรยาน แล้วพอกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น น้ำหนักลดลงแล้ว ค่อยขยับมาเป็น เดินเร็ว และค่อยตามด้วยการวิ่งจริงๆจังๆ หรือจะลองดูข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความพวกนี้ก็ได้ค่ะ เราก็กำลังศึกษาอยู่ระหว่างรอเข่าหาย
https://health.kapook.com/view175669.html
https://www.sanook.com/health/30537/
https://www.ladyissue.com/194668
เนี่ย เค้าเรียกวัวหายล้อมคอกที่แท้จริงค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยหาข้อมูลเลยยยย พอได้เจ็บตัวเท่านั้นแหละ นั่งหาข้อมูลรัวๆค่ะ เพราะเราจะไม่เจ็บซ้ำซ้อนอีกแล้ว
ตอนนี้อาการก็เริ่มดีขึ้นมากแล้ว คาดว่าอีกไม่นานน่าจะเริ่มกลับมาออกกำลังกายเบาๆได้แล้ว จากเป้าหมายลดความอ้วนเพื่อสุขภาพ ตอนนี้เลยยิ่งรักร่างกายตัวเองมากขึ้น ดูแลร่างกายตัวเองดีขึ้นเลย ถือว่าเป็นประสบการณ์ความเจ็บปวดที่เป็นบทเรียนชั้นดี ดีที่ไม่เป็นอะไรมากกว่านี้นะตัวเรา
ก็หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับคนอ้วนที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายทุกคนนะคะ ใครมีอะไรอยากแนะนำหรือแชร์เพิ่มเติมมาพูดคุยกันได้เลยนะคะ