
🪓🪓🪓
ตำนานอัศวินโต๊ะกลมส่วนใหญ่เราจะเจอแต่ตำนานของ คิงอาเธอร์ เป็นหลักๆ อาจจะมีเรื่องของ เมอร์ลิน หรือ เซอร์แลนด์สล็อต ออกมาบ้าง แต่ส่วนมากก็จะประมาณแค่ไม่กี่คนหลักๆ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องราวใหม่ ของคนใหม่ที่แทบจะไม่เคยได้ยินชื่อของเขาคนนี้ในหนังของ คิงอาเธอร์ เลย แต่แล้ว David Lowery จาก A Ghost Story ก็นำเรื่องราวนี้มาตีแผ่เป็นเรื่องราวของตัวเองได้แบบติสท์มากๆ

🪓🪓🪓
“The Green Knight” กับการตีความใหม่ครั้งล่าสุดของ “ตำนานอัศวินโต๊ะกลม” เมื่อ “เซอร์กาเวน”(เดฟ พาเทล) หนุ่มเสเพลหลานชายแห่งกษัตริย์อาเธอร์ ผู้เดียวที่หาญกล้าอาสารับคำท้าบั่นคอของอัศวินลึกลับผู้น่าเกรงขามอย่าง “อัศวินมรกต” แม้เขาจะต้องใช้ความตายของตัวเองเป็นเดิมพันตามสัจจะที่ให้ไว้ การเดินทางผจญภัยในดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตรายและอุปสรรคต่างๆ ที่เขาจะต้องเผชิญทั้งโจร, วิญญาณอาฆาต และยักษ์ ไปยังวิหารมรกต กับบททดสอบเพื่อค้นหาตัวตน พิสูจน์เกียรติและศักดิ์ศรีแห่งอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ และเผด็จศึกสำคัญให้จงได้

🪓🪓🪓
บอกตามตรงตอนแรกผมนึกว่าหนังเรื่องนี้จะเป็น Action Fantasy นะ ซึ่งผมคิดผิดแบบคนละเรื่องเลย หนังมาแนว Drama Adventure Fantasy ที่หนังเดินเรื่องแบบค่อนข้างติสท์พอสมควรตามแบบฉบับของผู้กำกับ David Lowery การเล่าเรื่องแบบเป็นองก์แต่ละองก์ที่จะค่อยๆ เล่าเรื่องเป็นช่วงๆ ช่วงหนึ่งก็จะมีเรื่องราวและจบในตัวมันเอง เหมือนเรากำลังอ่านหนังสือนิยายเป็นตอนๆ อยู่ยังไงอย่างงั้น ผสมผสานกับการเล่าเรื่องแบบมีชั้นเชิง เหมือนบทกวีที่ฟังแล้วอินไปกับความไพเราะ และยังแฝงมาด้วยปรัชญาให้ตีความอยู่ตลอด

🪓🪓🪓
งานภาพ งานแสงสีเสียง หนังทำได้ดีเลิศมาก ภาพที่ออกจะคุมโทนดาร์คๆ แต่กลับมีแทรกด้วยสีนวลดูสบายตา แต่เดินเรื่องแบบ contrast ด้วยเนื้อหาที่แฝงปรัชญาแบบดาร์ค ถือว่าเป็นความท้าทายของหนังที่จะทำให้คนติดตามได้โดยไม่หลับ ซึ่งหนังก็ทำได้จริงๆ ตลอดความยาวหนังสองชั่วโมงเศษๆ ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อหรือน่าง่วงนอนแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นหนังเนิบที่ดูแล้วน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา

🪓🪓🪓
หนังไม่ได้เข้าถึงคนดูทุกกลุ่ม ดังนั้นก็อาจจะมีคนดูที่บ้างก็จะบอกว่าสนุก หรือบางคนก็จะบอกไม่สนุก เพราะด้วยหน้าหน้าหนังที่มันออกมาเป็นหนัง Adventure Fantasy ยังไงกตามเราต้องคาดหวังความสนุกสนานจากการผจญภัยอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้กลับไปมาเป็นข้อคิดและปรัชญาล้ำลึกที่ให้คนดูไปตีความกันต่อเอง ซึ่งถ้าเราตัดความคาดหวังในหนังผจญภัยทั่วไป มันก็จะได้ความสนุกอีกรสชาติหนึ่ง

🪓🪓🪓
Dev Patel เล่นหนังทีไรแบกหนังไว้บนบ่าทุกที เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถือว่าแบกหนักสุดๆ และก็ทำได้ดี หนังที่อยู่บนบ่าถูกพาไปถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย ถึงจะตะกุกตะกักบ้าง แต่ก็ต้องชมตัวช่วยชั้นดีอย่าง Alicia Vikander ที่แสดงเป็นสองตัวละคร จนแทบจำไม่ได้ แต่ก็มีเค้าอยู่ เพราะโดนเมกอัพกลบซะเกือบจะเป็นคนละคน และยังช่วยประคอง Dave Patel ไว้เหมือนเป็นอีก 1 ตัวช่วยแบกที่พาให้หนังไปถึงจุดที่ควร

🪓🪓🪓
The Green Knight คงไม่ใช่หนังที่ทุกคนดูแล้วจะบอกว่าสนุก เพราะมันคือหนังที่ค่อนข้างติสท์พอสมควร แต่ถ้าลองตั้งใจดูตั้งต่ต้นเรื่อง จะโดนความน่าติดตามของหนังบังคับให้ดูต่อจนถึงตอนจบได้อย่างแน่นอน
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] The Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ - ตำนานบทใหม่ของอัศวินคนหนึ่งในโต๊ะกลม ที่ตีแผ่ได้ติสท์มาก
🪓🪓🪓
ตำนานอัศวินโต๊ะกลมส่วนใหญ่เราจะเจอแต่ตำนานของ คิงอาเธอร์ เป็นหลักๆ อาจจะมีเรื่องของ เมอร์ลิน หรือ เซอร์แลนด์สล็อต ออกมาบ้าง แต่ส่วนมากก็จะประมาณแค่ไม่กี่คนหลักๆ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องราวใหม่ ของคนใหม่ที่แทบจะไม่เคยได้ยินชื่อของเขาคนนี้ในหนังของ คิงอาเธอร์ เลย แต่แล้ว David Lowery จาก A Ghost Story ก็นำเรื่องราวนี้มาตีแผ่เป็นเรื่องราวของตัวเองได้แบบติสท์มากๆ
🪓🪓🪓
“The Green Knight” กับการตีความใหม่ครั้งล่าสุดของ “ตำนานอัศวินโต๊ะกลม” เมื่อ “เซอร์กาเวน”(เดฟ พาเทล) หนุ่มเสเพลหลานชายแห่งกษัตริย์อาเธอร์ ผู้เดียวที่หาญกล้าอาสารับคำท้าบั่นคอของอัศวินลึกลับผู้น่าเกรงขามอย่าง “อัศวินมรกต” แม้เขาจะต้องใช้ความตายของตัวเองเป็นเดิมพันตามสัจจะที่ให้ไว้ การเดินทางผจญภัยในดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตรายและอุปสรรคต่างๆ ที่เขาจะต้องเผชิญทั้งโจร, วิญญาณอาฆาต และยักษ์ ไปยังวิหารมรกต กับบททดสอบเพื่อค้นหาตัวตน พิสูจน์เกียรติและศักดิ์ศรีแห่งอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ และเผด็จศึกสำคัญให้จงได้
🪓🪓🪓
บอกตามตรงตอนแรกผมนึกว่าหนังเรื่องนี้จะเป็น Action Fantasy นะ ซึ่งผมคิดผิดแบบคนละเรื่องเลย หนังมาแนว Drama Adventure Fantasy ที่หนังเดินเรื่องแบบค่อนข้างติสท์พอสมควรตามแบบฉบับของผู้กำกับ David Lowery การเล่าเรื่องแบบเป็นองก์แต่ละองก์ที่จะค่อยๆ เล่าเรื่องเป็นช่วงๆ ช่วงหนึ่งก็จะมีเรื่องราวและจบในตัวมันเอง เหมือนเรากำลังอ่านหนังสือนิยายเป็นตอนๆ อยู่ยังไงอย่างงั้น ผสมผสานกับการเล่าเรื่องแบบมีชั้นเชิง เหมือนบทกวีที่ฟังแล้วอินไปกับความไพเราะ และยังแฝงมาด้วยปรัชญาให้ตีความอยู่ตลอด
🪓🪓🪓
งานภาพ งานแสงสีเสียง หนังทำได้ดีเลิศมาก ภาพที่ออกจะคุมโทนดาร์คๆ แต่กลับมีแทรกด้วยสีนวลดูสบายตา แต่เดินเรื่องแบบ contrast ด้วยเนื้อหาที่แฝงปรัชญาแบบดาร์ค ถือว่าเป็นความท้าทายของหนังที่จะทำให้คนติดตามได้โดยไม่หลับ ซึ่งหนังก็ทำได้จริงๆ ตลอดความยาวหนังสองชั่วโมงเศษๆ ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อหรือน่าง่วงนอนแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นหนังเนิบที่ดูแล้วน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา
🪓🪓🪓
หนังไม่ได้เข้าถึงคนดูทุกกลุ่ม ดังนั้นก็อาจจะมีคนดูที่บ้างก็จะบอกว่าสนุก หรือบางคนก็จะบอกไม่สนุก เพราะด้วยหน้าหน้าหนังที่มันออกมาเป็นหนัง Adventure Fantasy ยังไงกตามเราต้องคาดหวังความสนุกสนานจากการผจญภัยอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้กลับไปมาเป็นข้อคิดและปรัชญาล้ำลึกที่ให้คนดูไปตีความกันต่อเอง ซึ่งถ้าเราตัดความคาดหวังในหนังผจญภัยทั่วไป มันก็จะได้ความสนุกอีกรสชาติหนึ่ง
🪓🪓🪓
Dev Patel เล่นหนังทีไรแบกหนังไว้บนบ่าทุกที เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถือว่าแบกหนักสุดๆ และก็ทำได้ดี หนังที่อยู่บนบ่าถูกพาไปถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย ถึงจะตะกุกตะกักบ้าง แต่ก็ต้องชมตัวช่วยชั้นดีอย่าง Alicia Vikander ที่แสดงเป็นสองตัวละคร จนแทบจำไม่ได้ แต่ก็มีเค้าอยู่ เพราะโดนเมกอัพกลบซะเกือบจะเป็นคนละคน และยังช่วยประคอง Dave Patel ไว้เหมือนเป็นอีก 1 ตัวช่วยแบกที่พาให้หนังไปถึงจุดที่ควร
🪓🪓🪓
The Green Knight คงไม่ใช่หนังที่ทุกคนดูแล้วจะบอกว่าสนุก เพราะมันคือหนังที่ค่อนข้างติสท์พอสมควร แต่ถ้าลองตั้งใจดูตั้งต่ต้นเรื่อง จะโดนความน่าติดตามของหนังบังคับให้ดูต่อจนถึงตอนจบได้อย่างแน่นอน
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้